เมื่อรู้ซึ้งถึงการมีอยู่ขององครักษ์จื่ออวี้นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกหนักใจยิ่งนักเดิมทีนางคิดไปเองว่าฮ่องเต้จักส่งคนมาคอยคุ้มครองนาง สอดส่องนาง ผู้ใดจักไปคิดเล่า ว่าพระองค์จักส่งยอดฝีมือเช่นนี้มา“หากเจ้าเกิดพบเจอเหตุการณ์อันตรายขึ้นมา เช่นนี้ก็สามารถเรียกองครักษ์จื่ออวี้ออกมาได้” ตงฟางหลีเอ่ยปลอบ
“หากเจ้าเป็นอันดับสอง ผู้ใดเป็นผู้จัดอันดับนี้กัน แล้วใช้เกณฑ์อันใดเป็นตัวตัดสิน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกสนใจขึ้นมาบ้างความบันเทิงในยุคโบราณนั้น ดูจะน่าสนุกกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้เสียอีก“เป็นหอหมิงเย่ว์พ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าว “อันดับจักถูกจัดขึ้นปีละครั้ง ทว่า ท่านอ๋องรั้งอยู่อันดับหนึ่งเป็นเวลาสามปีติ
“กระหม่อมสัมผัสได้นานแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าวออกมาด้วยท่าทีไม่เดือดไม่ร้อน “ตามพวกเรามานานแล้ว” “เจ้ารู้?”“ทราบพ่ะย่ะค่ะ หากรวมคนขับรถม้าแล้วมีทั้งหมดสี่คนพ่ะย่ะค่ะ บนรถม้ามีสตรีนั่งอยู่สามคน รูปร่างผอมหนึ่งคนอ้วนหนึ่งคนเป็นสตรีวัยกลางคน ยังมีสตรีอีกหนึ่งคน เกรงว่าน่าจะเป็นคุณหนูกระมัง”“แม้แต่
เนื่องจากหอหมิงเย่ว์เป็นหอคอยเจดีย์ทรงชั้น ๆ ยิ่งสูงมากเท่าใด พื้นที่ยิ่งเล็กลงเท่านั้น อีกทั้งสินค้ายิ่งมีความประณีตมากขึ้นไปอีกฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเดินวนไปรอบๆ พร้อมทั้งสะดุดตาเข้ากับสร้อยคอพลอยรัตนชาติสีมูลนกการเวกขึ้นมาพลอยเม็ดเล็ก ๆ ที่ถูกแกะสลักภาพทิวทัศน์เอาไว้ ใต้แสงจันทราที่ส่องสว่าง สตรีเด
“เจ้าพูดถูก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม “เป็นเจ้าที่ได้หยิบไปก่อนจริง ๆ ทว่า หากว่ากันตามจริงแล้ว ในเมื่อสินค้าเป็นของหอหมิงเย่ว์ หากยังมิได้จ่ายเงินสินค้าอย่างไรก็ต้องเป็นของร้านค้าอยู่ดี ผู้ใดจ่ายเงินก่อนย่อมเป็นผู้นั้นที่ได้ไป”“ทุกท่านว่าแบบนี้จักเหมาะสมกว่าหรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย
“ไร้ยางอาย”บรรยากาศที่เพิ่งสงบลงเมื่อครู่เริ่มตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้คนมากมายรวมตัวกันโวยวาย ทันทีที่หัวข้อเกี่ยวกับประมุขหอเริ่มต้นขึ้น เหล่าแฟนคลับสมองน้อยก็ร่วมมือกันมุ่งเป้ามาที่นางพวกนางผสมอารมณ์ของตนอย่างไร้ความปรานีอยู่ตรงหน้า เจ้าหนึ่งคำพูดข้าหนึ่งคำพูด ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็โจมต
หลังจากที่เสียงอันไพเราะดังขึ้น เหล่าสตรีที่ปิดล้อมซูเตี่ยนซวงก็หยุดมือในฉับพลันช่วงเวลาที่มีเสียงเอะอะมะเทิ่งก็เงียบลงทันใดเวลาและสถานที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง บนชั้นสองทั้งหมดนั้นได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นระรัวเท่านั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์เงยหน้าขึ้นมองแหล่งที่มาของเสียงที่ราวบันไดสีแดงชาด มีบุรุษผู้ห
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้ว พลางเงยหน้าขึ้นมองรูปลักษณ์ของเขาครั้งนี้ไม่มีความรู้สึกของการถูกพรากวิญญาณบุรุษที่อยู่ตรงหน้าหล่อเหลา ทว่าเมื่อเทียบกับตงฟางหลีแล้วยังดูห่างกว่าเล็กน้อย เมื่อนางไม่ได้ถูกพรากวิญญาณและถูกควบคุมจิตใจ อีกทั้งหัวใจของนางก็สงบไร้คลื่น น้ำเสียงก็แผ่วเบาเช่นกัน “ขอโทษ ข้ารีบน่ะ ไ
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู