นางนั่งอยู่บนขั้นบันได ยามที่ลมหนาวพัดเข้ามานั้น ทั่วร่างพลันรู้สึกเย็นเยียบราวกับตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็งยามที่พบเจอกับลางสังหรณ์กลายเป็นความจริงเช่นนี้ คล้ายกับว่านางกำลังจมอยู่กับสิ่งต่างๆ มากมาย จนทำเอาแทบจะหายใจไม่ออก“สีหน้าของพี่สะใภ้สามแปลกมาก นางดูแปลก ๆ ตั้งแต่ที่อยู่ตรงภูเขาจำลองแล้ว ดู
เว้นเสียว่า......เดิมทีชีวิตเด็กคนนั้นหาได้รักษาเอาไว้ได้ไม่ ฉินเสวี่ยเย่ว์จึงต้องการหาข้ออ้างและเหตุผลเพื่อมาทำแท้งเด็กอีกทั้งเหตุผลเหล่านี้มิได้ต้องการที่จะใส่ร้ายนางอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ไม่อาจควบคุมนางให้ไปไหนมาไหนได้อยู่แล้วเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่อาจจะกล่าวได้ก็คือ ฉินเสวี่ย
“นี่มันยามใดแล้ว เหยี่ยนเย่ว์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้มิได้ง่ายดายอย่างที่คิด” ตงฟางหลีขมวดคิ้วเป็นปมไปในทันที่เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังพูดคุยหยอกล้อกับเจ้าสิบได้เขามิได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ย่อมมิรู้ว่ามีเรื่องราวอันใดเกิดขึ้นบ้างอีกทั้งเสด็จพ่อให้ความสัมพันธ์กับสายใยพี่น้องยิ่งนัก ดังนั้นเรื่อง
หลังจากเห็นกลุ่มของฉินเหยี่ยนเย่ว์ จึงรีบทำความเคารพ “พระชายาอ๋องเจ็ด พระสนมซูเชิญท่านไปที่ตำหนักเป่าหยวนเพคะ”“เฮอะ มาแล้วสินะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ลุกยืนขึ้นพร้อมใบหน้าเย็นยะเยือกนางพับแขน สอดมือไว้ในเสื้อต่อไปจักเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสนามหนึ่งตงฟางหลีกังวลเล็กน้อย เขาจับมือของนางไว้ “เหยี่ยนเย่ว์
“เสด็จพ่อ” ตงฟางหลีแทบไม่เคยเห็นฮ่องเต้กริ้วเช่นนี้ ลอบบ่นว่าแย่แล้วในใจ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวและคุกเข่าลง “ขอเสด็จพ่อ โปรดทอดพระเนตรให้ชัดเจน เยี่ยนเย่ว์ถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าเจ็ด เจ้าถอยออกไป” ฮ่องเต้เอ่ยอย่างเย็นชา“เสด็จพ่อ...”“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง ดึงแขนเ
เขาและฮ่องเต้เป็นพี่น้องฝาแฝด มีจิตใจเชื่อมถึงกันเขาสามารถรู้สึกได้ว่าเสด็จพี่กำลังพิโรธ และมีเจตนาฆ่าหากเหยี่ยนเย่ว์ผู้นี้ทำให้เขาโกรธอีกครั้ง ผลที่ตามมาจะเลวร้ายจนมิอาจคาดคิด“ทูลเสด็จอา เหยี่ยนเย่ว์ทราบดีเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ตามกฎราชวงศ์ตงลู่หวัง ผู้ที่สังหารพระโอรสจะต้องถูกตัดสินประห
“เราอนุญาต”ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด ฮ่องเต้จึงเอ่ยขึ้นเบา ๆ“ขอบพระทัยเสด็จพ่อเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก้าวแรกนับว่านางชนะเดิมพันนางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วลุกขึ้นยืนครั้นพระสนมซูเห็นว่านางยืนขึ้น ก็ชี้นิ้วไปที่นางด้วยสีหน้าเปลี่ยนไปมาก “ผู้ใดให้เจ้ายืนขึ้น? ฉินเหยี่ยนเย่ว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้ว่าอ๋องอี๋หยางต้องการเตือนและช่วยเหลือนางมาโดยตลอด ดังนั้นจึงเคารพพระชายาอ๋องอี๋หยางมากขึ้นไปหลายส่วน“สิ่งที่เสด็จอาหญิงกล่าวมาเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุด จะแปลกก็แปลกที่ตรงนี้” นางค้อมตัวคำนับทุกคน “ทุกท่าน ข้าขอถาม คำพูดที่พระชายาอ๋องสามเคยทูลพระพันปี มีผู้ใดในพวกท่าน ยังจำได้หรือ
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู