“พระสนมซูอยากให้หม่อมฉันตายหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กอดอกแล้วก้าวไปข้างหน้าสองก้าว“เหยี่ยนเย่ว์” ตงฟางหลีดึงแขนเสื้อของนาง “เจ้าไม่ใช่บอกว่าแส้มีพิษรึ? ระวังไว้ดีกว่า”“สำหรับท่านมันคือพิษ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองเขาด้วยสายตาที่ขอให้เขาวางใจ “พิษนี้ ไม่มีประโยชน์สำหรับหม่อมฉันเพคะ ท่านถอยหลังไปสามเมตรเถอะ
“เจ้าทำอะไรน่ะ?” พระสนมซูเจ็บปวดจากพิษเป็นอย่างมาก นางเกาบาดแผลอย่างแรงเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากพิษเข้าโจมตี “เจ้าคนต่ำทราม”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยัน “สิ่งที่พระสนมซูพูดนี้ตลกยิ่งนัก คนที่นี่ต่างก็เห็นกันอยู่ เป็นท่านเองที่ตวัดแส้ใส่หม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมือเท้ารวดเร็วจึงหลบได้ทัน ท่านออกแรงมากเกินไป แ
ขันทีสองสามคนที่อยู่ด้านหลังถลาขึ้นมา ไม่นานก็ควบคุมตัวพระสนมซูไว้ได้“ปล่อยข้า พวกเจ้าปล่อยข้านะ พวกเจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? กล้าทำเช่นนี้กับข้า ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตายเสีย” พระสนมซูผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง ดิ้นรนอย่างแรงราวกับคนเสียสติเหล่าขันทีควบคุมตัวคนโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าพระสนมซูดิ้นรนไม่หลุด จึงดิ
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น จึงขับไล่ดวงดาวและดวงจันทร์ที่หลงเหลืออยู่ให้เลือนหายไปแสงสีแดงอ่อนโผล่พ้นจาก้อนเมฆ ขับไล่หมอกที่อยู่อย่างเงียบเหงามาตลอดทั้งคืนออกไปฉินเหยี่ยนเย่ว์เปิดม่านมองออกไปภายใต้แสงยามเช้าที่สาดส่อง ตำหนักที่ตั้งอยู่เรียงรายเปล่งประกายแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วน ภายใต้แสงสีแดงจึงดูโอ่อ่าแ
ตงฟางหลีรู้สึกกังวลเล็กน้อยนี่แตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้เสด็จพ่อเรียกพบเหยี่ยนเย่ว์ตามลำพัง เหยี่ยนเย่ว์มีนิสัยแข็งกร้าว จะโชคดีหรือโชคร้ายก็ยากจะคาดเดาได้“ไม่ต้องกังวลเพคะ หม่อมฉันจะไปยอมรับผิดกับเสด็จพ่อก่อน” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบไหล่ของเขานางลดเสียงลง แล้วเอ่ยขึ้น “เสด็จพ่อเรียกพบหม่อมฉันตามลำพัง
“พูด!” ฮ่องเต้เห็นว่านางนิ่งงันไป ก็ตรัสตะคอกเสียงเข้ม“ลูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของราชวงศ์ ลูกไม่ควรลงมือกับท่านอ๋องสาม และยิ่งไม่ควรทำให้เขากลายเป็นขันที” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ทันได้คิดไตรตรอง รีบพูดออกมาทันที“เพล้ง” ฮ่องเต้ยกโถที่บรรจุน้ำตาลขึ้นมา ก่อนจะใช้แรงเท่ากันเขวี้ยงลงบนพื้นโถน้ำตาลทำขึ้นจากเคร
ครั้นได้ดื่มน้ำหวานที่นึกถึงมานาน อารมณ์ของพระองค์ก็แจ่มใสขึ้นมาหลังจากดื่มชานมไปหนึ่งแก้วใหญ่เต็ม ๆ พระองค์ถึงได้หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดที่มุมพระโอษฐ์ ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเงยหน้าขึ้น พลันเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่คุกเข่าที่พื้นอย่างว่านอนสอนง่าย“เราพูดคำไหนคำนั้น และทำตามที่ได้ตกลงกัน
กลับมา” ขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังจะไปทำของหวานที่ห้องเครื่องนั้น ฮ่องเต้พลันตะโกนเรียกนางไว้“ทำที่นี่” ฮ่องเต้ชี้ไปที่ห้องหนึ่ง “เราให้คนจัดห้องว่างไว้ต่างหากแล้ว เรื่องนี้เรารู้เจ้ารู้ ห้ามไม่ให้คนนอกรู้เป็นอันขาด เจ้ารู้ใช่ไหม?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับมุมปากกระตุกสองครั้งเป็นฮ่องเต้ก็ไม่ง่ายเหมือ
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู