อีกด้านหนึ่งในจวนสกุลซูซูเตี่ยนฉิงกำลังลองชุดแต่งงานสีแดงสดของนางหมุนไปมาชุดแต่งงานยังตัดเย็บไม่เสร็จสมบูรณ์ กองรวมกันอยู่ที่จุดเดียว ทำให้ดูไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไรนางไล้นิ้วไปตามลายปักหงส์ทองที่เย็บไม่เสร็จบนชุดแต่งงาน ราวกับพึมพำกับตัวเอง “ข้าเพิ่งได้ข่าวว่าองค์หญิงชิงอินตายไปแล้ว เหอะเหอะ ถู
เรื่องโผงผางขนาดนั้นนางยังพูดได้ แค่พูดเรื่องลามกจะไปแปลกอะไรล่ะ!“หม่อมฉันก็แค่ถามเรื่องพี่รองกับหลินเฟยจิ้ง พวกเขาร่วมหอกันแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คล้องแขนไว้ที่คอของเขา “พี่รองได้หลับนอนกับหลินเฟยจิ้ง นางอาจจะอาย เลยหนีไปแล้ว”“หนีไป? ทำไม?”“หม่อมฉันก็งุนงงเช่นกัน เรื่องทั้งหมดมาถึงขั้นนี้แล้ว ทำไม
ทั้งสองกลับเข้ามาในห้องพร้อมอาหารหนึ่งคนตัวใหญ่ หนึ่งคนตัวเล็ก ยืนตรงปล่อยแขนแนบลำตัวหลิวซิงแอบมองตงฟางเจวี๋ยกินอาหารเขาเห็นใบหน้าอันไร้วิญญาณของตงฟางเจวี๋ยหายไปแล้ว ยิ่งงุนงงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนอดที่จะถามไม่ได้ “ท่านอ๋อง พระชายาอัป... เอ่อ พระชายาอ๋องเจ็ดพูดอะไรกับท่านหรือ?”หลิวอวิ๋นดึงเขา “กินไม
ซูจิ้นยื่นฎีกาไปหลายฉบับ ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อวิงวอนขอร้องต่อฮ่องเต้ด้วยฐานะของสกุลซู บุตรสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายย่อมมีคุณสมบัติเกินกว่าจะเป็นอนุชายา ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องเล่าลือของซูเตี่ยนฉิงและตงฟางหลียังแพร่สะพัดไปทั่วยุทธภพ ในสายตาของคนส่วนใหญ่ พวกเขาเปรียบดั่งคู่แท้ที่สวรรค์สรรค์สร้างจากมุ
ตงฟางเจวี๋ยเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นอย่างผ่อนคลาย “เจ้าพูดจาเหลวไหลเช่นนี้ หากเจ้าเจ็ดได้ยินเข้าจะเป็นอย่างไร?”“เขาได้ยินก็ยิ่งดีสิ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มเผล่ “หากได้ยินก็จะได้ระวังภาพลักษณ์ของตนอย่างไรเล่า”แก้มของตงฟางเจวี๋ยแดงก่ำ “ข้าอิจฉาเจ้ากับเจ้าเจ็ดจริง ๆ ”“พวกเราก็รู้จักกันเพราะทะเลาะก
“ท่านก็เลยนอนกับนางแล้ว?” ดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันเป็นประกายไปในทันที ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ “พี่รอง ท่าน ใช้ได้เลยนะ”ใบหน้าของตงฟางเจวี๋ยถึงกับแดงก่ำไปในทันที “ตอนนั้นสมองข้ารู้สึกว่าว่างเปล่า ราวกับหวนกลับไปในวันนั้นอีกครั้ง ข้าคล้ายกับควบคุมตนเองไม่ได้ ยามที่ได้สติขึ้นมานั้น ใบหน้าของนางพลันมี