หลังจากหญิงสาวคนนั้นร่วงตกไปแล้ว กลับมิได้ตกลงไปในน้ำทันที หากแต่ใช้มือเกาะเกี่ยวก้อนหินบนสะพานไว้แน่นเพียงแต่ ร่างกายนางเดิมทีก็ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงมากอยู่แล้ว อาจจะตกลงไปได้ทุกเมื่อ“ช่วยด้วย ท่านอ๋องเจ็ด ช่วยด้วย”“หม่อมฉันไม่อยากตาย”“ช่วยด้วย…”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับเลิกคิ้วมาเร็วขนาดนี้เชียวหรื
หลังจากฮ่องเต้ชูแก้วขึ้น กลุ่มขุนนางทั้งหลายก็ชูแก้วขึ้นตามบรรยากาศจึงพอนับได้ว่าราบรื่นหลังจากฉินเหยี่ยนเย่ว์กินอาหารเข้าไปไม่น้อย ในที่สุดก็อิ่มท้อง อารมณ์จึงดีขึ้นมาก“ข้าไม่มีทางช่วยเหลือผู้ใดเป็นอันขาด“ ตงฟางหลีนิ่งเงียบชั่วอึดใจใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา ”พวกเขาดูหมิ่นข้าเกินไปแล้ว”
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่” ตงฟางซวี่กล่าว “เสียงของพวกนางเบามาก และข้าก็อยู่ไกลด้วย จึงได้ยินไม่ชัดนัก ตอนที่ข้าเดินไป พวกนางก็แยกย้ายกันไปแล้ว ได้ยินเพียงบางอย่างที่คลุมเครือ”“อย่างไรก็ตามท่านต้องระวังตัวหน่อย ระวังไฟไหม้ ระวังโจรกรรม ระวังผู้หญิงแพศยา”“ได้ ข้าจะเพิ่มการระวังให้มา
ในขณะเดียวกันในบรรดาทูตของราชวงศ์จงลู่ มีคนผู้หนึ่งลูบเครา พยักหน้าบ่อย ๆ พลางเอ่ยกับคนรอบข้าง “ฮ่องเต้แห่งตงลู่สามารถสารภาพความผิดพลาดของตนในโอกาสเช่นนี้ได้ อีกทั้งยังกล้าเสนอตัวสละราชบัลลังก์เพื่อชดใช้ความผิดพลาดอีก เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมนัก”“ฮ่องเต้ที่กล้าทำและกล้ารับผิดเช่นนี้จะประสบความสำเร็จอย
ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้นำอาวุธเข้าไปในพระราชวัง ย่อมไม่สามารถตัดผมได้เช่นกันพวกเขาทำได้เพียงต้องทำความเคารพเต็มพิธีการ และเอ่ยเสียงดัง “ทรงพระเจริญหมื่นปี”ฮ่องเต้มองทุกคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง“เรามีคุณธรรมและความสามารถมากเพียงใดกัน ถึงได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขั
ทำผิดแล้วก็ต้องชดใช้“เสด็จพ่อ ผู้ล่วงลับก็จากไปแล้ว หากยังคงจมอยู่กับความเจ็บปวดในอดีต วันข้างหน้าก็จะทุกข์เช่นกัน ไม่ว่าจะเพื่อเส้นทางการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนอันยาวไกลของพระสนมหลาน หรือเจ้าเก้าที่เพิ่งกลับสู่ตระกูลตงฟาง รวมถึงผู้คนในใต้หล้านี้ หวังว่าเสด็จพ่อจะทรงไตร่ตรองอีกครั้งเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่