เพล้ง
"ไอ้เพลิง"เสียงตะโกนเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วเหล้าที่แตกละเอียดและหยาดเลือดที่รินไหลออกมา "ไอ้สัสเพลิง มึงทำเหี้ยอะไรวะ"รันเวย์ชักสีหน้าก่อนจะเข้ามาดึงแก้วเหล้าที่แตกออกจากฝ่ามือของเพื่อนสนิท "ไอ้นักรบมึงไปเอาทิชชูมาที" "เออ ๆ "เสียงดังเอะอะของเพื่อนทั้งสองไม่เข้าโซนประสาทหูของพระเพลิงเลยสักนิด สมองของเขาไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไปหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของรันเวย์ "มึงใจเย็น ๆ ดิวะ"รันเวย์บ่นไปตามประสาในขณะที่ทำแผลให้เพื่อน แม้บาดแผลมันจะไม่ลึกมากแต่ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมา สีหน้าของพระเพลิงในตอนนี้เรียบนิ่ง แต่แววตาของเขานั้นมันไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดเอาไว้ได้นอกจากฝ่ามือที่เริ่มมีความรู้สึกเจ็บหัวใจของเขาในตอนนี้ก็เจ็บแปลบไม่ต่างกัน 'กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีในร้านชุดแต่งงาน' 'มึงว่าอะไรนะ'รันเวย์สีหน้าไม่สู้ ดีในใจของเขามีความหนักหน่วงแต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องบอกให้เพื่อนสนิทได้ทราบว่าแฟนสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น 'วันนี้กูพามีนาไปเดินห้างมา กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีพี่ชายของมึงเดินเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน' '...' 'ที่มึงเคยบอกว่าเฮียอัคนีจะแต่งงาน คือจะแต่งกับธารน้ำอย่างนั้นเหรอวะ'สิ่งที่เพื่อนสนิทบอกมาทำเอาชายหนุ่มนั่งนิ่งด้วยความรู้สึกช็อกไป เพราะเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วพี่ชายของเขาได้ต่อสายโทรมาบอกว่ากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งตอนนั้นเองก็ไม่ได้สนใจได้แต่แสดงความยินดีและจะเข้าไปร่วมเป็นสักขีพยานความรักของทั้งคู่ให้ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคนที่พี่ชายของเขาจะแต่งงานด้วยคืออดีตแฟนสาวซึ่งเธอพึ่งจะบอกเลิกราเขาไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว "ไอ้เพลิง"ด้วยความที่พระเพลิงไม่เคยนิ่งเงียบแบบนี้สร้างความเป็นห่วงให้กับเพื่อนสนิททั้งสองอยู่ไม่น้อย สำหรับธารน้ำแล้วเธอเปรียบเสมือนดวงใจของชายหนุ่ม เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ทำให้ผู้ชายอย่างพระเอกได้สัมผัสกับความรักและความเจ็บปวด เธอบอกเลิกเขาเพื่อไปแต่งงานกับพี่ชายของเขาอย่างนั้นเหรอ ที่เธอไม่ยอมกลับมาคืนดีมันเป็นเพราะแบบนี้ใช่ไหม "ไอ้เพลิงมึงอย่าเงียบแบบนี้สิวะ"นักรบเขามาเขย่าแขนดึงสติให้พระเพลิงหันหน้ามามองเพื่อนทั้งสอง "กูอยากอยู่คนเดียว"รันเวย์กับนักรบหันมองหน้ากันด้วยแววตาแสดงถึงความหนักใจ พวกเขาทั้งสองรู้ดีว่าพระเพลิงรักธารน้ำมากกว่าสิ่งใดและทั้งสองคนจะไม่เลิกรากันไปถ้าผู้หญิงอย่างใบหม่อนไม่คิดการใหญ่อยากจะแย่งผู้ชายของเพื่อน ภายในห้องพักสุดหรูของชายหนุ่มเกิดความเงียบทันทีเมื่อเพื่อนสนิททั้งสองคนก้าวขาเดินออกไปตามความต้องการของเจ้าของห้องพัก บรรยากาศที่หนาวเหน็บโอบล้อมกายของชายหนุ่มที่กำลังนั่งพิงผนังโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องราวของความรักในอดีตระหว่างเขาและเธอตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ในตอนนี้ ความรักเขาเธอและเขามันมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น ธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเธอเลือกที่จะยืนด้วยตัวเองมากกว่าการขอร้องให้เขายื่นมือเข้าไปช่วย แม้จะลำบากขนาดไหนเธอไม่เคยคิดจะแบมือขอเงินของเขานอกเสียงจากเธอจะสุดทางตันแล้วจริง ๆ 'เพลิงรู้ไหมว่าผู้หญิงต่อให้ผู้หญิงจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าวันไหนที่ผู้ชายคนนั้นทำให้เธอหมดความอดทนเธอก็เลือกที่จะเดินจากไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ทันที'นี่คือประโยคที่ธารน้ำเคยพูดกับเขาคล้ายกับว่าตั้งใจอยากจะเตือนให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้ความอดทนของเธอนั้นเหลือน้อยเต็มที ซึ่งตอนนี้ความอดทนของเธอนั้นคงหมดลงแล้วถึงได้ปล่อยมือเดินออกไปจากชีวิตของเขาเพื่อเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับผู้ชายอีกคน ซึ่งผู้ชายคนนั้นคือ อัคนี พี่ชายแท้ ๆ ที่คลานตามกันมาจากพ่อแม่เดียวกัน 'เขาจะยอมให้เธอกับพี่ชายแต่งงานกันอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ ทั้งที่หัวใจของเขายังรักเธออยู่แบบนี้' คงไม่ซินะ ใครจะยอมให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักไปแต่งงานใหม่กันล่ะต่อให้เป็นพี่ชายพ่อแม่เดียวกันก็เถอะ เขาไม่มีวันยอม พรึ่บ ร่างสูงใหญ่หยัดกายนั่งหลังตรงก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างรันเวย์ที่พึ่งจะก้าวขาเดินออกไป "ฮัลโหล" "มึงช่วยไปพาตัวใบหม่อนมาเจอกูที่ห้องของธารน้ำหน่อยสิ" "ทำไม มึงคิดจะทำอะไร" "ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไร" "..." "ก็แค่จะจัดการกับต้นเรื่องที่มันทำให้กูกับธารน้ำต้องเลิกกัน" ติ๊ด แววตาคล้ายกับต้องการสังหารคนวาววับเมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องนี้ที่มันบังอาจมาวางยาเขา ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแววตาดุดันยิ่งเพิ่มทำให้ชายหนุ่มนั้นดูน่ากลัวอีกหลายเท่าตัว เขาจะมัวชักช้าในเรื่องนี้ไม่ได้ถ้าไม่อยากสูญเสียหญิงสาวให้กับพี่ชายไปตลอดกาล "ขอบคุณมากนะคะสำหรับอาหารมื้อนี้" "ไม่เป็นอะไรครับ แล้วนี่คุณอยากเดินเที่ยวเล่นช้อปปิ้งต่อหรือเปล่า" "ไม่ล่ะค่ะ บ่ายนี้คุณหมอเข้าเวรไม่ใช่เหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยเตือนในขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาจากร้านอาหาร "จริงด้วยสิ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาทำงาน" กึก เรียวเท้าสวยบนรองเท้าส้นสูงหยุดชะงักทำให้ฝ่าเท้าใหญ่หยุดยืนไปตาม ๆ กัน "มีอะไรหรือเปล่าครับ" "คือว่าเดี๋ยวธารนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองดีกว่าค่ะ ขืนคุณหมอไปรับไปส่งอยู่กันมาแบบนี้เดี๋ยวจะเข้างานสายเอานะคะ"ระยะทางจากบ้านของเธอและโรงพยาบาลของเขามันก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้ ๆ อีกทั้งการสัญจรในเมืองใหญ่แบบนี้ยังคงหนาแน่นติดขัดเป็นทางยาว กว่าเขาจะขับรถไปส่งเธอเสร็จแล้ววนรถกลับมาทำงานต่อก็คงใช่เวลาร่วมชั่วโมงกว่า "มันจะดีเหรอครับ ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านจะดีกว่า" "ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ค่ะ คุณหมอไม่ต้องเป็นห่วงเลย" "แต่ว่า" ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงสแล็คตัวสวยแผดเสียงดังทำการพูดคุยของทั้งสองหยุดชะงัก คิ้วเข้มของอัคนีขมวดเข้าหาเมื่อเห็นว่าเป็นสายจากโรงพยาบาลโทรมา "คุณหมออัคนีคะ มีเคสด่วนค่ะ" "ไม่มีหมอคนอื่นว่าเลยหรือไงตอนนี้" "ไม่มีเลยค่ะ คุณหมอวิสุทธิ์ลงเวรตั้งแต่เช้าส่วนคุณหมอ..." "พอ ๆ คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวผมจะรีบไป"คุณหมอหนุ่มกดวางสายด้วยสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ "คุณหมอไปเถอะค่ะ ธารกลับเองได้ตอนนี้คนไข้กำลังรอคุณหมอไปรักษาพวกเขาอยู่นะคะ"ธารน้ำพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้ดีสำหรับคนที่เป็นหมอหน้าที่การช่วยเหลือคนจะต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก "ขอบคุณนะครับ ถ้าคุณกลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรบอกผมด้วยนะ" "รับทราบค่ะ" "ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ไม่ได้ไปส่ง"ชายหนุ่มบอกเธอด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดจากใจจริง ก่อนจะวิ่งออกไปเพราะตอนนี้มีคนไข้กำลังรอให้คุณหมอหนุ่มไปรักษาพวกเขาอยู่ ธารน้ำยืนมองร่างสูงใหญ่ของว่าที่สามีวิ่งออกไปจนสุดไกลตา ตอนนี้เธอมีความรู้สึกว่ายังไม่อยากกลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้น ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่เธอก้าวขาเข้าไปมันเต็มไปด้วยความอึดอัดไม่มีอิสระแต่ด้วยคำว่ากตัญญูต่อมารดาผู้ให้กำเนิดมันทำให้เธอต้องเข้าไปอาศัยอยู่แม้ว่าเธอจะต้องทนต่อสายตาไม่เป็นมิตรของสองแม่ลูกที่มองมาอยู่ตลอดก็ตาม ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงแจ้งเตือนของข้อความดังเข้ารัว ๆ จนเจ้าของโทรศัพท์อย่างเธอรู้สึกแปลกใจจนต้องรีบล้วงออกมาจากกระเป๋าเพื่อเปิดอ่าน "เบอร์แปลก ใครกัน"ธารน้ำจ้องข้อความจากเบอร์แปลกที่ส่งมาพลางคิ้วขมวดเข้าหา "มิจฉาชีพส่งข้อความมาหลอกดูดเงินหรือเปล่าวะ"แม้ปากจะพูดเช่นนั้นแต่ด้วยความที่ไม่ทันระวังทำให้ปลายนิ้วกดสัมผัสเพื่อเปิดอ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมา 'รับมาหาฉันที่ห้องของเธอ' 'ก่อนที่เพื่อนรักของเธอจะตาย'มีคลิปวิดีโอแนบท้ายข้อความข้างต้น ธารน้ำไม่รอช้ารีบกดเข้าไปดูวิดีโอที่อีกฝ่ายส่งมา 'ธารน้ำช่วยฉันด้วย ฮึก อือ'เสียงร้องไห้ของใบหม่อนซึ่งกำลังถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ภายในห้องพักของเธอดังขึ้น 'ธารน้ำเธออยู่ไหนมาช่วยฉันที พระเพลิงจะฆ่าฉันแล้ว'ชื่อของอดีตแฟนหนุ่มที่ดังออกมาจากในคลิปทำให้หญิงสาวเบิกตากว้างยกมือขึ้นมาปิดปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากจากมุมห้องเดินตรงไปยังร่างของอดีตเพื่อนสาว แววตาของพระเพลิงในตอนนี้คล้ายกับคนโรคจิตไม่ผิดเพี้ยน และสิ่งที่ทำให้ธารน้ำหัวใจตกไปอยู่ตรงตาตุ่มนั้นก็คือการที่พระเพลิงใช้ปลายกระบอกปืนจ่อศีรษะของอดีตเพื่อนสาว 'รีบมาที่ห้องของเธอนะที่รัก รีบมาดูสภาพของคนที่กำลังจะตายอีกในไม่ช้า' ติ๊ด วิดีโอที่ส่งมาตัดจบไปเพียงแค่นั้น ซึ่งมันทำให้หัวใจของธารน้ำเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข การเลิกราระหว่างเธอกับพระเพลิงดูเหมือนว่ามันจะไม่จบสิ้นอยู่แค่นี้ เธอจะทำยังไงดีแม้จะรู้สึกเกลียดทั้งสองที่ทำแบบนั้นแต่จุดจบของเรื่องนี้มันจะไม่ต้องเกิดการฆ่ากันตายแบบนี้สิ"ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป