Share

บทที่ 4

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
คุณทั้งหลายเคยรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นหรือเปล่า? ฉันกำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่เมื่อมองพวกเขา ราวกับมีใครเดินเข้ามากระชากดวงใจออกจากอกก็มิปาน

หากฉันเป็นคนกระชากก้อนเนื้อไร้ค่านี้และปาทิ้งไปให้พ้นตาเองได้สาบานว่าจะทำเสียตอนนี้ เพราะมันช่างเจ็บจนไร้คำบรรยายใด ๆ มาเปรียบได้

ฉันต้องการหนีไปให้พ้นแต่กลับทำไม่ได้ สายตาของฉันจับจ้องทั้งสอง ไม่ว่าสมองจะสั่งให้หลีกหนีจากภาพตรงหน้าเท่าใด แต่ฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากฉากรักหวานชื่นเสียดแทงนัยน์ตานี้ได้

ฉันเฝ้ามองทั้งสองผละอ้อมกอดจากกัน โรแวนแววตาอ่อนโยนเมื่อมองหญิงในดวงใจ ฉันมองฝ่ามือที่กำลังบรรจงประคองแก้มของเอมม่า ชายหนุ่มดึงร่างของหญิงผู้เป็นที่รักเข้าใกล้เล็กน้อย เขาไม่ได้จูบเธอเพียงแต่เอาหน้าผากแนบชิดกัน

เขาดูสงบสุขราวกับเดินทางมาเจอที่พักผ่อนของตนเสียที ในที่สุดเขาก็รู้สึกเติมเต็ม

‘ผมคิดถึงคุณ’ ฉันอ่านการขยับปากเรียวบางนั้นออก

ฉันไม่อยากคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นตอนนี้หากทั้งสองไม่ได้พบกันในสถานการณ์เช่นนี้ หากทั้งสองพบกันตอนที่ฉันและเขาแต่งงานกันอยู่ โรแวนจะนอกใจไปหาเอมม่าเลยหรือเปล่า?

ส่วนศีลธรรมของฉันรีบโต้แย้งว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่แต่กลับไม่แน่ใจนัก เพราะยังไงเสียนี่ก็คือเอมม่า หญิงที่เพียงดีดนิ้วโรแวนก็ล้วนยอมเป็นยอมตายเพื่อเธอ

ฉันรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงผุดลุกขึ้นและรีบปลีกตัวออกไป

วินาทีที่ก้าวออกมาด้านนอก น้ำตาจึงเริ่มไหลพรูออกมา ฉันไม่ว่ารู้ว่ามันจะเจ็บปวดได้เพียงนี้ และไม่รู้ว่าจะต้องรับมือหรือลบความรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้ไปได้อย่างไร ฉันจะไปโทษใครได้? ฉันผิดเองที่ไปหลงรักชายที่ไม่ใช่ของตน

“ขอทีเถอะ ความเจ็บปวดนี้ช่วยหยุดสักที” ฉันอ้อนวอนต่อเทพยดาองค์ใดก็ตามที่ฟังคำวิงวอนอยู่

ไม่มีคำตอบใด ความเจ็บปวดยังไร้การบรรเทา

ฉันยกมือกุมหน้าอกเอาไว้แน่นเสียจนสัมผัสได้ว่าหัวใจกำลังบีบรัดตัว ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด ฉันก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี ราวกับว่ากำลังจะตายลงอย่างช้า ๆ สติเริ่มเลือนลาง

“นี่แหละนะ อยากได้ของที่ไม่ใช่ของตัวเองแต่แรกก็ต้องเจออะไรแบบนี้” น้ำเสียงแสนถากถางขัดขึ้นมา

“ต้องการอะไรไม่ทราบ ทราวิส… ถ้าจะมากวนประสาทหรือมาบอกให้ฉันไปให้พ้นทางพี่สาวแสนรักของนายล่ะก็ รบกวนไสหัวกลับเข้าไปในโรงพยาบาล แล้วไปอยู่กับครอบครัวนายเสียเถอะ ตรงนี้ไม่มีอะไรให้นายหรอก” ฉันรีบปาดน้ำตาออกจากดวงตาอันแดงก่ำและสวมหน้ากากไร้อารมณ์กลับดังเดิม

ฉันไม่มีวันปล่อยให้เขาเห็นน้ำตาหรือแม้แต่ความปวดร้าวของฉันได้

ผู้เป็นพี่ชายตะลึงกับคำพูดของฉันไม่น้อย ความตระหนกปรากฎบนใบหน้าชัดเจน เขาคงคาดไม่ถึงว่าฉันจะตอกหน้ากลับไปเช่นนี้

“ฉันก็แค่มาบอกให้คนอย่างเธอเข้าใจว่าโรแวนจะเป็นของเอมม่าตลอดไป ครั้งหนึ่งเธอเคยเห็นแก่ตัวแย่งเขามา แต่ตอนนี้พวกเขาก็กลับมาคู่กันอยู่ดี ฉันแค่ไม่อยากให้เธอมาขวางทางรักของพวกเขาก็เท่านั้น พวกเขาคู่กันมาตั้งนานแล้ว

ฉันหัวเราะเย้ยหยันออกมา

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะไม่เข้าขวางทางใครอีก แล้วต่อจากนี้พวกนายทุกคนก็จะไม่เจอหรืออดทนเปลืองเวลาชีวิตกับฉันอีก” คำพูดแสนขมขื่นเปล่งออกมา

พี่ชายจ้องมองฉัน คิ้วผูกกันเป็นปมแสดงถึงความงุนงง “หมายความว่าไง?”

ฉันเหนื่อยมากและสิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คือนอนหลับแล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไปให้หมด ฉันต้องการร้องไห้จนหลับไป ก่อนตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใสพร้อมรับวันใหม่ที่กำลังจะเดินเข้ามา

“ไปบอกแม่ด้วยนะว่าฉันจะมาช่วยเรื่องการเตรียมงานศพพ่อถ้าแม่อยากให้ช่วย แล้วก็ฝากทักทายพี่สาวนายด้วยแล้วกัน”

เมื่อจบประโยค ฉันรีบผละออกมาจากตรงนั้นและมุ่งตรงไปขึ้นรถยนต์ ทราวิสตะโกนเรียกชื่อฉันแต่ฉันไม่ใส่ใจจะหันกลับไป ฉันต้องการกลับบ้านไปพักหัวใจเสียที

ฉันเข้าไปในรถและขับกลับบ้าน โรแวนบอกว่าฝากให้แม่ของเขาดูแลโนอาอยู่ ตอนนี้ฉันไม่อยากไปต่อกรกับอีกคนที่ชังชิงฉันเต็มที ในเมื่อตอนนี้โนอาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ฉันตั้งใจว่าจะไปรับลูกในวันพรุ่งนี้แทน

ฉันมุ่งตรงมาถึงบ้านโดยไว การอยู่เปล่าเปลี่ยวยิ่งตอกย้ำว่าฉันนั้นเดียวดายเพียงใด ไม่มีใครคอยเฝ้าปลอบประโลมหรือคอยดูแล ไม่มีใครรักฉันเลย เว้นเสียแต่โนอาลูกรักเพียงคนเดียว

ฉันร่ำไห้น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

ฉันเบื่อหน่ายกับการร้องไห้คร่ำครวญแต่ก็ดูเหมือนว่าจะหยุดไม่ได้ หากย้อนกลับไปตอนนั้นและเปลี่ยนทุกสิ่งใด ไม่แน่นะตอนนี้ฉันอาจได้ครองคู่กับชายที่รักฉันอย่างแท้จริง

กระนั้นอดีตก็เป็นอดีต คุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งใดที่เคยเกิดขึ้นได้

วันนี้เป็นวันที่สามนับตั้งแต่พ่อเสียไป ความรู้สึกของทุกคนยังคงเคว้งคว้าง ทุกคนต่างก็ตกใจมาก พ่อเป็นที่รู้จักและเป็นที่รัก แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้สึกเศร้าโศกกับการสูญเสียครั้งนี้

ฉันไม่เจอโรแวนอีกตั้งแต่วันนั้น แม้ว่าเขาจะโทรมาหาหลายสายแต่ฉันไม่มีใจจะกดรับแต่อย่างใด เขาอาจกำลังอยู่ในห้วงรักและอยู่ในอ้อมกอดของเอมม่า ตอนนี้ทั้งสองอาจย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นได้ ฉันไม่ต้องการให้เขาเอาเรื่องนี้มาเย้ยใส่ฉัน

ฉันสลัดความคิดขมขื่นทิ้งไปแล้วหันมาสาละวนกับการรูดซิปด้านหลังชุดเดรส

“แม่ครับ?” เสียงของเด็กน้อยโนอาดังขึ้นจากด้านหลัง

เมื่อหันไปสบกับดวงตาอันแดงก่ำเพราะร้องไห้ ฉันจึงคุกเข่าลงมาในระดับสายตาของเด็กน้อย

“เป็นอะไรหรือเปล่า ลูกรัก?” ฉันเอ่ยถามโนอา

“ผมคิดถึงคุณตามาก ๆ เลย เราสัญญากันว่าวันเสาร์นี้จะไปตกปลากัน” น้ำเสียงของลูกรักทำให้ใจฉันเจ็บปวด

แม้เจมส์ ชาร์พจะเป็นพ่อแสนห่วยสำหรับฉัน แต่กลับเป็นคุณตาแสนดีสำหรับโนอา

ฉันดึงโนอาเข้ามากอดและปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยที่กำลังร้องไห้ซบอกอยู่

“แม่รู้ว่าลูกคิดถึงคุณตามากจ้ะแต่ตอนนี้คุณตาไปอยู่กับเทวดาบนท้องฟ้าแล้วนะ ท่านคงจะมองดูลูกจากสวรรค์แน่ ๆ จำไว้นะลูกคุณตาไม่ได้หายไปไหน ท่านยังอยู่ตรงนี้เสมอ…” ฉันยกมือแตะหน้าอกเขา “และตรงนี้ด้วยจ้ะ” ฉันยกมือขึ้นมาแตะศีรษะลูก

“อีกอย่างนะลูก คุณตาคงไม่อยากเห็นลูกร้องไห้นะ ลูกไม่อยากให้คุณตาเสียใจใช่ไหม?” ฉันถามเขาอย่างอ่อนโยนซึ่งโนอาส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ

“ดีจ้ะ เราจะทำแบบนี้กันนะ แทนที่จะมัวมาเศร้าเสียใจ เราจะจดจำเวลาดี ๆ ที่มีร่วมกับคุณตา โอเคไหม?”

ฉันมีความทรงจำดี ๆ กับพ่อไม่มากแต่โนอานั้นกลับมีมากมาย ฉันจะช่วยลูกชายเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้ให้ตราตรึง

“ได้ครับ”

ฉันเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของเด็กน้อยและลุกขึ้นยืน มือหนึ่งคว้ากระเป๋าข้างกาย และอีกข้างหนึ่งกุมมือน้อยข้างนั้นไว้ ลูกชายจับมือฉันเอาไว้พลางเงยหน้าขึ้นมอง

“ไปจ้ะ เราไปส่งคุณตาเป็นครั้งสุดท้ายกันนะ”

รอยยิ้มน้อย ๆ ส่งมาหาฉัน จากนั้นเราทั้งสองจึงออกไป คงถึงเวลาบอกลาเสียที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 539

    ฉันหยุดหายใจเเพราะความตกใจ และผละออกจากเขา ในขณะที่ร่างเล็ก ๆ กระโดดขึ้นมาบนตัวเรา"สุขสันต์วันคริสต์มาส!" เขาตะโกนอย่างมีความสุขด้วยเสียงร้องเพลง“หัวจะปวด” ทั้งกาเบรียลและฉันครางอย่างหงุดหงิดจะมาช้ากว่านี้สักชั่วโมงไม่ได้หรืออย่างไร? ถ้ามีใครสักคนในครอบครัวนี้ที่ชอบขัดจังหวะเรา มันก็ต้องเป็นลูกคนที่สอง แอนดรูว์ คนนี้แน่นอน เราเรียกเขาว่าดรูว์เขาอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นตัวขัดจังหวะแค่ไหน แต่ก็ไม่สำคัญยังไงเขาก็ทำอยู่ดี"ตื่นครับ! ตื่น!" เขาตะโกนเสียงดัง จนชั่วขณะหนึ่งฉันไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงก้องของเจ้าลูกชาย"ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ดรูว์" เกเบรียลบ่น "พ่อแม่ได้ยินชัดเจนโดยที่หนูไม่ต้องทำให้แก้วหูพ่อแม่แตกก็ได้"ดูเหมือนดรูว์จะไม่ฟังเลย เขาเด้งขึ้นเด้งลงบนเตียง มีความสุขแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาเกเบรียลขยับตัวใต้ผ้าห่ม คงพยายามขยับทุกอย่างให้เข้าที ฉันขยับร่างกายขึ้นและพิงหัวเตียง ก่อนจะคว้าลูกชายที่กระตือรือร้นและอยู่ไม่นิ่งมา สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการคือเขาทำร้ายพ่อของเขาด้วยการเผลอเหยียบเข้ากลางตัวเขาหรืออะไรทำนองนั้น"หนูพยายามห้ามเลียมแล้วนะคะ แต่แม่ก็รู้ว่าเขาเป็นยังไงเวลาต

  • ธุลีใจ   บทที่ 538

    ฮาร์เปอร์ฉันกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆสีขาวนุ่มฟูแห่งการนอนหลับ ฉันรู้สึกอบอุ่น รู้สึกสงบ และรู้สึกได้รับความรักฉันเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทีละน้อย เกเบรียลนอนอยู่ข้างหลังฉัน แขนโอบกอดฉันไว้ เขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่เรานอนหลับด้วยกัน เขากอดฉันไว้แน่นในอ้อมแขน ราวกับว่าเขากลัวว่าฉันจะหายไปหากไม่ทำเช่นนี้ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลุดออกจากอ้อมแขนของสามี ทว่าแทนที่จะปล่อยฉันไป เขากลับกระชับมือแน่นขึ้น ซึ่งดันฉันเข้าไปแนบชิดมากขึ้นฉันหยุดขยับเมื่อรู้สึกถึงเขา ฉันรู้สึกถึง น้องน้อยที่ตื่นมาเคารพธงชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ฮอร์โมนของฉันพลุ่งพล่าน และฉันก็ต้องการเขาขึ้นมาทันที ฉันอยากให้เขาสอดแทรกเข้ามาในร่างนี้เรื่องบนเตียงของเราสองช่างสมบูรณ์ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องการมากกว่านี้ อาจเพราะมีลูกด้วยกันถึงสามคนแล้ว บางเวลามันก็ยากที่จะมีเวลาส่วนตัวที่ไม่ถูกรบกวนได้"อืม" เกเบรียลร้องครางเมื่อฉันถูบั้นท้ายกับเป้าของเขาเสียงนั้นเดินทางลงไปจนถึงจุดนั้นของฉัน ฉันถูอีกครั้ง กระตุ้นเสียงครางแสนเร้าอารมณ์จากเขาอีกเกเบรียลเริ่มประทับจูบตามหลัง ไหล่ และคอ มันผ่านมาสองสามวันแล้ว และฉันก็โหยหาเขา

  • ธุลีใจ   บทที่ 537

    "ใช่เลยครับ" เขาตอบรับรอยยิ้มของฉัน ขณะที่คิลเลียนเดินเข้ามาหาเรา"ผมมาขโมยภรรยาแสนสวยของผมคืนแล้วครับ" เสียงเขาแหบพร่า และฉันอดไม่ได้ที่จะละลายไปกับโทนเสียงนั้น มันเซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย“เธอเป็นของคุณแล้วนะ” คาลวินปล่อยมือจากฉันและหลีกทาง ก่อนจะเดินจากไปคิลเลียนดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างเรา "เป็นยังไงบ้าง? ปวดหลังหรือเปล่า? ขาเป็นยังไง?"เห็นไหม ฉันบอกแล้วไง เขาเป็นเสือร้ายในคราบทนายความ แต่ดูแลเอาใจใส่และรักใคร่ในฐานะคู่ครอง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันมีสเปคแบบไหน จนกระทั่งฉันได้พบเขา"สบายดีค่ะ ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้" ฉันหัวเราะเบา ๆ ดันตัวเองเข้าไปใกล้เขามากขึ้น"ผมเคยบอกว่าผมรักคุณแล้วหรือยัง?" เขาถามฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่เขย่งปลายเท้าและกระซิบชิดริมฝีปากของเขา "ประมาณพันครั้งแล้วค่ะวันนี้ แต่ฉันไม่ได้บ่นอะไรนะ""คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยนะครับ เอมม่า ผมนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตผมจะเป็นยังไงหากไม่มีคุณ ผมรู้ว่าเราได้กล่าวคำสาบานกันไปแล้ว แต่ผมสัญญาว่าจะรักและทะนุถนอมคุณเสมอ เพราะคุณคือของขวัญที่เบื้องบนประทานมา ผมสัญญา

  • ธุลีใจ   บทที่ 536

    มอลลี่เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว เช่นเดียวกับเอวา คอนนี่ เล็ตตี้ ฮาร์เปอร์ และคินลีย์ พวกเธอเป็นเพื่อนสาวกันมาสี่ปีแล้วตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุวันนั้น แน่นอนว่าฉันไม่มีวันหาใครมาแทนมอลลี่ได้ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุด แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่มีพวกเธออยู่เช่นกันอีกอย่างเมื่อวานนี้มอลลี่บอกฉันว่าเธอกำลังคิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันตื่นเต้นมาก ฉันรักเธอ แต่เรายอมรับว่าเป็นเพื่อนระยะไกลกันมันรักษาความสัมพันธ์กันได้ยาก ฉันมีความสุขมากที่เธอจะย้ายมาอยู่ใกล้ ๆเสียงเพลงช้าลง และกันเนอร์ก็เดินเข้ามา ตัดบทสนทนาทั้งหมด“เต้นรำกันหน่อยไหมครับ แม่?”มีเสียง ว้าว ดังขึ้นเป็นระลอก และฉันสาบานได้ว่าหัวใจฉันละลายไปตรงนั้นเลย"แน่นอนสิจ๊ะ สุดหล่อของแม่" ฉันตอบก่อนจะจับมือเขาตอนนี้กันเนอร์อายุสิบสี่ เป็นวัยรุ่นแล้วเชื่อไหมล่ะ? เขาสูงเท่าฉันแล้ว และฉันมั่นใจว่าอีกไม่กี่ปีเขาจะสูงกว่าฉัน ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เขาก็จะเป็นลูกชายตัวน้อยของฉันเสมอคาลวินและฉันตัดสินใจส่งเขาไปเข้ารับการบำบัดทันทีที่ฉันออกจากโรงพยาบาล เราเข้าร่วมการบำบัดร่วมกันบ้าง และพูดคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา และเกี่ยวกับวันที่เกิดอุบัติเหตุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 535

    เอมม่าฉันเต้นรำกับมอลลี่ ปล่อยให้เสียงเพลงโอบล้อมตัวไว้ ฉันรู้สึกปวดหลังเล็กน้อยแต่ก็ไม่สำคัญอะไรเลยเมื่อฉันมีความสุขสุด ๆ แบบนี้ชุดเดรสสะบัดไปมาขณะที่เราตะโกนเนื้อเพลง หน้าร้อนแสนสาหัส ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ออกมาสุดเสียง เอวาที่กำลังตั้งครรภ์ท้องแก่ก็เข้าร่วมกับเราด้วย ฉันหัวเราะเพราะเธอคิดว่าเธอกำลังเต้นอยู่เลยแต่เปล่าเลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเรียกสิ่งที่เธอกำลังทำว่าอะไรดีจำนวนครั้งที่ฉันเรียกว่าตนเองมีความสุขนั้นสามารถนับนิ้วได้เลย หนึ่งคือตอนที่ฉันสอบเนติบัณฑิตได้ สองคือตอนที่กันเนอร์เรียกฉันว่าแม่เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน และสามคือวันนี้ งานแต่งของฉันคุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันแต่งงานแล้วและฉันมีความสุขอย่างที่สุดจำทนายหนุ่มน่ารักที่ฉันเล่าให้เอวาฟังในวันเกิดของเจมส์ได้ไหมคะ? จะว่าอย่างไรดี เขาไม่เคยละความพยายามเลยค่ะ ไม่ว่าฉันจะปฏิเสธเขากี่ครั้งก็ตาม เขาขอฉันคบหาอยู่เรื่อย ๆ และที่ฉันบอกว่าเรื่อย ๆ ก็คือเขาขอเกือบทุกวัน ฉันเบื่อที่จะได้ยินคำถามเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันหนึ่งฉันก็ตอบตกลง ปรากฏว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตนี้เลยฉันชะลอฝีเท้าลง ดวงตามองหาเจ้าบ

  • ธุลีใจ   บทที่ 534

    กันเนอร์มีน้องชายแล้ว งงกันอยู่ใช่ไหมคะ? เพราะเมื่อกี้ฉันกับเอวากำลังคุยเรื่องแฟนกันอยู่เลย เชสไม่ใช่ลูกชายของฉันค่ะ เขาเป็นลูกชายตัวน้อยของคาลวินและคินลีย์ พวกเขาแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้วแล้วมีเชสตัวน้อยน่ารักคนนี้เป็นลูกน้อยคาลวินและฉันสนิทกันมากขึ้นตั้งแต่อุบัติเหตุ เหมือนกับกันเนอร์ เขายกโทษให้ฉัน และพวกเราก็สามารถสร้างมิตรภาพที่สวยงามได้คินลีย์เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เธอเข้ากับพวกเราทุกคนได้ เธอใจดีและน่ารัก และที่สำคัญที่สุด เธอทำให้คาลวินมีความสุขและปฏิบัติต่อกันเนอร์เหมือนลูกชายของเธอเอง"ไม่จ้ะ ไม่เคยเกินจริงเลย" เอวาแก้ตัว "น้าแค่อยากให้แม่หนูเล่าเรื่องทนายความน่ารักที่ที่ทำงานให้ฟังมากกว่านี้""ผมขอจบตรงนี้นะครับ ไปดีกว่า" เขาพูด ดูเหมือนจะขยะแขยงเล็กน้อย "แม่ดูน้องได้ใช่ไหมครับ หรือผมควรจะพาน้องไปด้วย?"“แม่สบายมากจ้ะ…ไปเล่นกับเพื่อน ๆ เถอะ”เขาพยักหน้าก่อนที่จะวิ่งไปหาโนอาและคนอื่น ๆ คาลวินใจดีพอที่จะแก้ไขข้อตกลงเรื่องการดูแลบุตร ตอนนี้พวกเราดูแลกันเนอร์ร่วมกัน ลูกอยู่กับคาลวินวันธรรมดาและใช้วันหยุดสุดสัปดาห์กับฉัน"เอาล่ะ กลับมาเรื่องผู้ชายน่ารักคนนั้นก่อนนะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status