Beranda / โรแมนติก / นที (โปรด) รัก / บทที่ 9 ดาวบริวาร

Share

บทที่ 9 ดาวบริวาร

Penulis: 23.19น.
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-19 02:15:44

ร่างบางของอัจฉราโผล่พรวดเข้ามาในสตูดิโอ จนคนทั้งห้องต้องหันมามองเป็นตาเดียวกัน ลมหายใจของเธอหอบหนักราวกับคนกระหายอากาศ เหงื่อผุดพรายตามกรอบหน้าแสดงให้เห็นว่าหล่อนรีบแค่ไหน ระหว่างที่ต้องเดินทางมาที่นี่ แม้จะโดยสารด้วยรถไฟฟ้าแต่เพราะเป็นวันธรรมดาในเมืองใหญ่ จึงติดขัดไม่ค่อยเป็นดั่งใจนัก ถึงออกจากบ้านตั้งแต่เช้าแต่ก็เกือบข้ามเส้นยาแดงผ่าแปด

หลังจากยืนพักหายใจจนเริ่มจะหายเหนื่อยดีแล้ว ดวงตาคู่สวยก็กวาดมองไปรอบ ๆ สตูดิโอถ่ายงานที่ตอนนี้ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยเกือบทุกอย่างแล้ว และนั่นทำให้อัจฉราเพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ หล่อนชะงักไปเล็กน้อย กะพริบตาพลางส่งยิ้มแก้เก้อ ตระหนักว่าที่นี่ไม่มีใครรู้จักเธอเลยสักคน อัจฉรามาแทนนางแบบตัวจริงที่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุ... ไม่แปลกที่พวกเขาจะมองกัน

ยิ่งเธอแต่งตัวธรรมดา แม้จะมีใบหน้าสวยจัดและผมแดงเด่นมาแต่ไกล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะไม่งง แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้ ร่างที่คุ้นตา เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นคลายความสับสนและตึงเครียดออกไปเสียก่อน ขณะที่เขาปรี่เข้ามาหาหล่อนพร้อมรอยยิ้มอย่างคนรู้จักกันดี แววตาดีใจเปิดเผย คำพูดเป็นกันเอง แต่ก็เป็นมืออาชีพ

“คุณพระคุ้มครอง... มาถึงแล้ว... พี่ใจหายหมดนึกว่าเราจะเทกันอีกคน... ไป ๆ รีบไปแต่งตัว ขึ้นผมก่อน พี่ค่อยหาน้ำให้กิน... ดูหน้าซีดไปหมดแล้ว”

อัจฉรายิ้มแก้เก้อ พร้อมกันนั้นก็ยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่คนหนึ่งทีเดียว ก่อนที่เขาจะเข้ามาจูงแขนและพาเดินนำไปยังห้องที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อ แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวโดยเฉพาะ

“หนูไม่สายใช่ไหมคะ พี่เฟียส?”

อัจฉราถาม สายตามองไปรอบ ๆ อีกครั้งด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่มิด สตูดิโอแอร์เย็นฉ่ำ ทีมงาน ไฟ ฉาก กล้อง อุปกรณ์ถ่ายงานและทุกอย่างดูเป็นสถานที่ของมืออาชีพไปหมด จนทำให้หัวใจเต้นระรัวไม่ยากสำหรับเธอ

“ไม่สาย... แต่ก็เกือบอยู่นะ...”

เฟียสพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก เขานำพาอัจฉราเข้ามาในห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าคอลเลคชั่นสวยแขวนราวผ้า และเครื่องสำอาง อุปกรณ์ระดับโปรที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง กระจกเงาบานใหญ่สะท้อนแสงไฟขาวผ่อง ภาพนั้นปรากฏในดวงตาสียางไม้ที่แวววาวด้วยความสนใจ

“อ๊ะ... นั่งค่ะ...”

เฟียสหันมาหาอัจฉรา พร้อมกันนั้นก็ดันให้เธอไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ไม่รอช้าที่จะสั่งงานช่างแต่งหน้าและทำผม ซึ่งสแตนด์บายรออยู่แล้วด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด

“น้อง ๆ มาคลีนหน้าออกแต่งใหม่ แล้วขึ้นผมพร้อมกันไปเลยนะ”

อัจฉราคลี่ยิ้มให้ผู้มีพระคุณและช่างทั้งสองคนที่เข้ามาประชิดตัวทันทีหลังจากสิ้นคำสั่ง เฟียสไม่ลืมที่จะเก็บกระเป๋าใบเก่งของอีกฝ่ายไปวางบนเก้าอี้ให้พ้นตัวนางแบบของเขา ก่อนที่จะกลับมายืนคุมงานด้วยสายตาที่เฉียบคม แต่แฝงไปด้วยความเอ็นดูในตัวสาวรุ่นน้องอย่างปิดไม่มิด ยิ่งได้ยินคำพูดจากปากหล่อนก็ยิ่งชื่นใจ

“ขอบคุณพี่เฟียสนะคะ ที่คิดถึงเนย... เนยไม่คิดว่าจะได้โอกาสแบบนี้เลยด้วยซ้ำ”

“โอ๊ย ขอบคุณอะไรกัน... ขอบคุณตัวเองเถอะ... นี่ถ้าไม่บังเอิญโผล่หน้ามาให้พี่เห็นก่อนนะ พี่คงไม่ทันคิดถึงเราด้วยซ้ำ... โชคดีที่สวยไม่เปลี่ยนเลยจำได้”

เฟียสตอบกลับเสียงดัง น้ำเสียงแฝงแววขี้เล่นตามปกติ และเปิดเผย สายตาของเขาสำรวจดวงหน้าสวยจัดที่ตอนนี้หลับตาพริ้มอยู่ ขณะที่ช่างแต่งตาให้ ก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย เพราะอัจฉราดูล้ายิ่งกว่าครั้งล่าสุดที่ได้เจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเสียอีก

เขาไม่รู้ว่าระหว่างนั้นอัจฉรามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ภาพสุดท้ายที่จำได้คือดาวคณะที่ใคร ๆ ก็ยอมสยบให้ง่าย ๆ แถมยังเรียนเก่งด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้เหมือนจะ... ลำบากน่าดูเชียว

“เป็นไงกันบ้างคะ ทุกคน? นางแบบพร้อมถ่ายหรือยังเอ่ย?”

เสียงหวานดังขึ้นทะลุโสตประสาท หลังจากไม่กี่นาทีผ่านไป อัจฉราขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ลืมขึ้นแล้วหลังจากถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี เน้นให้ยิ่งมีเสน่ห์น่ามองยิ่งขึ้น นัยน์ตาสียางไม้สะท้อนแสงวูบไหว

เสียงนั้น... หญิงสาวจำได้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของใคร ‘ณดาว’ ไม่ผิดแน่ อัจฉรากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แววตาฉายความตกใจและหวาดหวั่น

“อ้าว คุณณดาวสวัสดีครับ... มาได้จังหวะพอดี นางแบบสำหรับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของคุณณดาว แต่งหน้า ทำผมเสร็จพอดีเลยครับ”

แถมหล่อนไม่รู้มาก่อนด้วยว่าแบรนด์เสื้อผ้าที่ต้องมาเป็นนางแบบให้วันนี้คือของเธอ... อัจฉราเม้มปากเล็กน้อยด้วยความประหม่า หัวใจเต้นแรงขึ้นทุกทีเมื่อเสียงส้นสูงขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ช่างทำผมและช่างแต่งหน้าหลีกทางให้อย่างรู้งาน จนกระทั่งดวงตาของหญิงสาวทั้งสองประสานกันตรง ๆ ผ่านเงาสะท้อนในกระจก เผยให้เห็นใบหน้าคุ้นเคยของณดาวอย่างที่คาดไว้

คิ้วโก่งรับกับใบหน้าของอีกฝ่ายพลันขมวดเข้าหากันทันที แววตาฉายความประหลาดใจอย่างเปิดเผย แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นคล้ายกับความดูแคลนระคนเจ้าเล่ห์ คิ้วที่ขมวดค่อย ๆ คลายออกอย่างเป็นธรรมชาติ ตามมาด้วยริมฝีปากที่แย้มยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย แต่ก็แฝงความเย้ยหยันเล็กน้อย สะท้อนผ่านประโยคแรงของเธออย่างไม่ไว้หน้า

“อ๋อ ก็นึกว่าใคร... ไม่คิดเลยนะว่าคนในครัวบ้านฉันจะกลายมาเป็นนางแบบได้… เอาเถอะ ถือว่าดวงเธอดีละกัน”

อัจฉราเหมือนถูกตบหน้าด้วยคำพูดนั้น ดวงตาไหววูบ บรรยากาศภายในห้องที่เคยผ่อนคลาย ค่อย ๆ สัมผัสได้ถึงความตึงเครียด มือที่วางอยู่บนหน้าตักพลันบีบเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่ยังคงประสานสายตากับเจ้าของดวงตากลมโตคู่นั้น รู้สึกได้ถึงความขมเฝื่อนในปากจนต้องกลืนน้ำลาย... อัจฉราพยายามข่มอารมณ์อยู่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ไว้หน้ากันเลยก็ตาม

“เอ่อ... ยังไงคะคุณดาว? รู้จักกันเหรอคะ?”

เฟียสที่เห็นท่าไม่ดี และสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่น หัวเราะออกมาพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง มองสองสาวสลับกันไปมา พยายามที่จะคลายความอึดอัดลง อัจฉรารับรู้ได้และหล่อนไม่ต้องการที่จะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยยอมเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน

“ค่ะ รู้จักดีเลยค่ะ...”

ณดาวหัวเราะร่วมไปด้วย หล่อนยอมละสายตาจาก ‘นางแบบจำเป็น’ ที่เพิ่งจะรู้เมื่อครู่นี้ไปก่อน พลางหันไปมองเฟียส บรรยากาศจึงเริ่มผ่อนคลายลงจริง ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยแรงกดดันบางอย่างที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเธอหันไปมองอัจฉราอีกครั้ง

“ไม่ทักทายกันหน่อยหรือเนย... ถึงว่าวันนี้ข้าวเช้าไม่อร่อยเลย หนีมาอยู่นี่นี่เอง”

มุมปากอิ่มกระตุกเล็กน้อย มือที่บีบเข้าหากันอยู่แล้วยิ่งบีบแน่นขึ้นไปอีกจนข้อนิ้วพากันขาวซีดไปหมด อัจฉราหายใจเข้าเบา ๆ แต่ลึกพอที่จะข่มความรู้สึกขุ่นมัวในใจเอาไว้ได้ ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พร้อมด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ประดับดวงหน้า แต่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความสุภาพและความสงบได้เป็นอย่างดี

“ขอโทษนะคะ... พอดีกะทันหันค่ะ... แล้วไม่คิดเลยว่าวันจะได้มาร่วมงานกับคุณณดาว ดีใจนะคะ”

ณดาวยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ เห็นว่าอีกคนดูจะควบคุมตัวเองได้ดีก็ยิ่งนึกสนุก แต่คราวนี้เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่พยักหน้าให้สั้น ๆ อย่างรับรู้ หลังจากนั้นก็หันไปพูดสั่งอะไรบางอย่างกับเฟียสด้วยน้ำเสียงที่อัจฉราได้ยินไม่ถนัด เจ้านายสาวและลูกน้องหนุ่มพยักหน้า ยิ้มให้กันอย่างรู้ใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ณดาวจะเป็นฝ่ายเดินออกไปจากห้องแต่งตัวในที่สุด

พ้นสายตาแล้วเฟียสก็หันกลับมาสนใจอัจฉราต่อ แววตาเปล่งประกายด้วยความพึงพอใจในหน้าและผมของเธอดีแล้ว ก็ไม่รอช้าเดินไปฉวยมือหล่อน ดึงให้ลุกขึ้นตามไปเบา ๆ ทางราวแขวนชุดที่ใกล้กันนั้นมีฉากกั้นอยู่สำหรับเป็นพื้นที่เปลี่ยนชุด

“ไป เดี๋ยวพี่พาไปเปลี่ยนชุด จะได้เริ่มถ่ายกันเลย”

อัจฉราส่งยิ้มให้เล็กน้อย พร้อมกันนั้นก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย สายตากวาดมองชุดสวยหลากหลายรูปแบบ ความรู้สึกตื่นเต้นก็เริ่มกลับเข้ามาแทนที่ความขุ่นมัวในใจอีกครั้ง เมื่อพูดถึงเรื่องถ่ายแบบ... มันเป็นหนึ่งอย่างที่อัจฉราเคยฝันถึง แต่ไม่ได้มีโอกาสมาถึงจุดนี้เลย คราวนี้เลยถือโอกาสคว้าเอาไว้ และจะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดด้วยซ้ำ ถึงต่อให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าจะเป็นของณดาว แต่เธอก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ ‘คนธรรมดา’ คนหนึ่งจะทำได้

แชะ แชะ

“ดีครับ... หันข้างหน่อยนะ โชว์ดีเทลหลังนิด ๆ... นั่นแหละดีเลย”

ช่างกล้องเอ่ยคำแนะนำ ผสมกับคำชมไม่หยุดปาก ด้วยความเป็นมืออาชีพ เสียงชัตเตอร์ผสานกับแสงแฟลชรัวเก็บภาพนางแบบสาวคนสวยเอาไว้ทุกช็อต

เบื้องหลังตากล้องคนเดียวกันนั้นณดาวยืนคุมอยู่ไม่ห่างในฐานะเจ้าของเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ และเจ้าของสตูดิโอ รอยยิ้มพึงพอใจที่ประดับดวงหน้าหวานไม่จืดจางลงเลย ทุกภาพถ่ายของอัจฉราต้องยอมรับเลยว่าเหมือนมืออาชีพ เธออาจจะเงอะงะบ้างเล็กน้อยในตอนแรกเพราะความใหม่ แต่พอจับทางได้ก็งานเร็ว

แถมยังออกมาดีด้วยซ้ำ... แบบที่แทบจำไม่ได้ว่านี่คือ ‘คนใช้’ ในบ้านตัวเอง

“อยากรู้จัง... ว่าจะทำหน้ายังไง”

เธอพึมพำกับตัวเองพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างชอบใจ แววตาเป็นประกายวาววับแฝงไปด้วยความซุกซนและคาดหวังอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ทันขาดคำ ประตูสตูดิโอก็เปิดเข้ามาพอดีราวกับรู้ใจ

‘นที เลิศธารินทร์’ ซีเนียร์พาร์ทเนอร์ของ L&T Law ทนายหนุ่มมาดเนี้ยบ และพี่ชายเพียงคนเดียวของณดาว ในวินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในสตูดิโอเย็นฉ่ำ ทุกอย่างรอบตัวราวกับหยุดเคลื่อนไหวไปทันที การมาปรากฏตัวของเขาพร้อมกับภาพลักษณ์สมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้หัวใจของใครหลายคนเต้นแรงไม่เป็นส่ำง่าย ๆ

ชุดสูทสีน้ำเงินเข้มส่งผิวขาวและรูปร่างกำยำได้อย่างลงตัว ผมสีเข้มจัดทรงเรียบ มีสไตล์รับกับใบหน้าคมคาย ทุกอย่างที่เป็นเขาดูสะอาดตา สดชื่น แต่ในก็แฝงไปด้วยไอเย็นบางอย่าง ที่ทำให้ทั้งน่าเข้าหาและยากที่จะหยั่งถึงในเวลาเดียวกัน

ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดอยู่เคียงข้างน้องสาว สีหน้าของเขาไม่ได้เรียบเฉยซะทีเดียว มีรอยยิ้มให้เห็น แต่สายตาคาดเดาไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่ เสียงชัตเตอร์ถี่รัวเป็นจังหวะ พร้อมกันเสียงช่างกล้องทำให้ความสนใจของเขาถูกดึงดูดไปยังภาพตรงหน้าได้เช่นกัน ทว่า... สิ่งที่เห็นนั้นกลับสะกิดใจเขาไปได้วูบหนึ่ง

“ดีมากครับ! ถ่ายทอดดีมากเลย!”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตาคมเฉียบจ้องมองไปยังภาพตรงหน้าไม่วางตา เสี้ยววินาทีหนึ่งเท่านั้นที่เขาเห็นสายตาของอัจฉรามองมาที่เขา ก่อนที่เธอจะหันไปมองกล้อง แต่แววตาที่ฉายแววประหลาดใจปนตื่นตระหนกนั่นไม่อาจรอดพ้นไปจากเขาได้เลย นทีกระตุกยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้... ลางานแต่เช้าเพื่อมาทำอะไรแบบนี้นี่เองสินะ

“เป็นไงคะ พี่ทีมาถึงก็เจอเซอร์ไพรส์เลยปะ… นางแบบฉุกเฉินของณะเอง”

เสียงของณดาวดังขึ้นข้างหู เจือเสียงหัวเราะขำเบา ๆ เธอมองใบหน้าด้านข้างของพี่ชายด้วยสายตาที่เจือความพอใจและขี้เล่น แต่พอเห็นรอยยิ้มมุมปากของพี่ชายกลับกลายเป็นว่าเธอที่ตั้งใจจะแซวหาทางไปไม่ถูกเสียอีก... หล่อนไม่คิดว่าพี่ชายจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ด้วยซ้ำ

“ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี่...”

นทีพูดพึมพำกับตัวเอง สายตากวาดมองหญิงสาวที่อยู่ภายใต้แสงไฟตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นครั้งสุดท้ายอย่างอ่านไม่ออก ก่อนที่เขาจะหันไปเผชิญหน้ากับน้องสาวที่ทำหน้าอึ้งอยู่ พร้อมกับยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่อบอุ่นจนแทบจะละลายหัวใจใครก็ได้... ยกเว้นอีกคนที่ได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ

หัวใจของอัจฉราเต้นระรัวทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น แต่เธอยังต้องรักษาความเป็นมืออาชีพเอาไว้ กลับมาโฟกัสกับสิ่งที่ทำตรงหน้าแทน ไม่อยากทำตัวน่าอายให้มีตำหนิในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งที่หัวใจปรารถนาอยากจะได้รอยยิ้มแบบนั้นเหมือนกับที่เขาให้ณดาวมาที่เธอบ้าง แต่มันคงเป็นได้แค่ฝันไป

“โอเคครับ! เซทนี้ดีมาก เตรียมตัวถ่ายชุดต่อได้เลยครับ”

อัจฉราสะดุ้งเบา ๆ เมื่อของช่างถ่ายภาพดังขึ้น เสียงชัตเตอร์เงียบลง พาให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง อัจฉราคลี่ยิ้มส่งให้ทุกคนก่อนที่ทีมงานจะช่วยมาพาเธอออกจากฉาก ระหว่างที่เดินกลับไปยังห้องแต่งตัว สายตาเจ้ากรรมมันก็ยังมิวายแอบหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้นั่งอยู่กับน้องสาวของเขาบนโซฟาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของสตูดิโอ พร้อมกับเอกสารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้าเขา

ก่อนที่อัจฉราจะละสายตาไปในที่สุด โดยที่ไม่ลืมภาพลักษณ์ของเขาในตอนนั้นเลย ภาพที่ยิ่งย้ำเตือนให้เห็นชัด ว่าโลกของทั้งคู่มันแตกต่างกันมากเพียงใด เขาคือพระอาทิตย์ทั้งดวง ขณะที่เธอคือดาวบริวารที่หมุนรอบตัวเขาอยู่ฝ่ายเดียว.... ที่ในความเป็นจริง ดาวบริวารไม่เคยถูกดวงอาทิตย์เหลียวมองด้วยซ้ำ… มีแต่แรงดึงดูดจากอีกฝ่ายเท่านั้นที่บังคับให้โคจรรอบไปเรื่อย ๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 25 เจ้าของและผู้ถูกครอบครองที่อยากบินหนี [2/2]

    คำถามด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นนั่นร้ายกาจไม่ใช่เล่น คำพูดของเธอในครั้งนี้กระทบใจนทีอย่างจัง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจพูดหรือไม่ก็ตาม รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้า บรรยากาศที่เคยร้อนระอุเย็นเยียบขึ้นถนัดตา“หึ... กล้าถามขนาดนี้ แสดงว่ายังไม่สิ้นฤทธิ์”น้ำเสียงทุ้มกดต่ำลงอย่างอันตราย เรียบเหมือนผิวน้ำที่กำลังโหมคลื่นใหญ่อยู่ก้นบึ้ง ปลายนิ้วโป้งกดลงบนริมฝีปากอิ่มของอัจฉราด้วยแรงที่ทำให้กลีบเนื้ออ่อนนุ่มนั้นเผยอออกและอุทาน ‘โอ๊ย’ ออกมาด้วยความเจ็บก่อนจะพลิกร่างเล็กกลับขึ้นมาและคร่อมเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนว่าทั้งคู่จะเปลือยเปล่า โน้มหน้าลงไปจนปลายจมูกชนกัน ผสานลมหายใจที่ร้อนระอุเข้ากับจังหวะหายใจที่ขาดห้วงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นของอัจฉรา“เธอมองว่าฉันเป็นคนดีมาตลอดเหรอ? หึ... นั่นแหละที่ทำให้เธอไม่แตกต่างจากคนอื่น... มองแค่ผิวเผิน... ใจง่ายไปเอง ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้ด้วยซ้ำ”นัยน์ตาสีนิลแข็งกร้าว แต่ก็มีชั่วแวบหนึ่งที่มันฉายประกายอย่างซับซ้อน คล้ายกับความเจ็บปวดจากบางอย่าง ทว่าก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว นทีกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นความหวาดหวั่

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 25 เจ้าของและผู้ถูกครอบครองที่อยากบินหนี [1/2]

    “อึก... อื้ออ...” สองมือยึดสะโพกเอาไว้มั่น ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาแหงนหน้าขึ้นฟ้า ปล่อยธารรักอุ่นร้อนพุ่งเป็นสายหนาเคลือบแผ่นหลังเนียนที่บัดนี้เต็มไปตราประทับกลีบกุหลาบและรอยขบกัด สะท้านสะเทือนเพราะแรงรักที่เขาปรนเปรอให้ใจจริงนทีอยากที่จะปลดปล่อยเคลือบผนังกำมะหยี่ แต่เขาก็รักษาคำพูดของตัวเองพอที่จะไม่ลดตัวลงไปฝากน้ำรักของเขาในกายของหล่อน... ถ้าเกิดพลาด อัจฉราท้องขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่“อ่าห์... โคตรดี... เธอเป็นของฉันแล้วนะ เนย”เสียงทุ้มพร่ากระซิบชิดกับใบหูที่ร้อนผ่าวของคนใต้ร่าง หลังจากที่ปลดปล่อยจนสุดทางรัก ทรุดตัวลงนอนทับเธอ โดยระวังน้ำหนักไม่ให้ทับคนตัวเล็กกว่าจนร่างแหลกไปเสียก่อนเขายกยิ้มอย่างพึงพอใจ พลางเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นไปตามแนวสีข้างของเธอ จนมาถึงข้างแก้มที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นผมสีแดงบดบังใบหน้าของคนที่เขาอยากเห็นสีหน้าที่สุดจนมองไม่เห็น“พูดอะไรบ้างสิ... หรือว่าโดนของฉันไปเลยจุกพูดไม่ออก”นทีถามเสียงเย้าแหย่ แต่แฝงความเป็นเจ้าของที่เพิ่มพูนขึ้นกว่าเดิม รู้สึกพึงพอใจที่สามารถยึดครองร่างกายเธอมาเป็นของเขาได้ด้วย

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 24 กายพิพากษา NC🔞

    พรึ่บ! นทีไม่สนท่าทีที่กลับมาขัดขืนงอัจฉรา เขากระชากกางเกงยีนและกางเกงในตัวจิ๋วลงไปกองรวมกันอยู่ที่ข้อเท้าเล็กอย่างไม่ปรานี เผยให้เห็นเงาสามเหลี่ยมที่ซ่อนอยู่หว่างขาขาว เท่านั้นยังไม่พอใจ กวาดสายตามองร่างเปลือยเปล่าตั้งแต่หัวจรดเท่าสายตาจวบจ้วงนั่นทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและความอายอย่างถึงที่สุด เธอพยายามถดตัวหนี ปิดบังตัวเองด้วยมือและแขนอย่างน่าสมเพช แต่มันกลับดูยั่วยวน กระตุ้นความอยากของนทีอย่างร้ายกาจคว้าข้อเท้าเล็กทั้งสองข้างเอาไว้มั่น รับรู้ได้ถึงแรงต้านที่พยายามจะหนีบขาเข้าหากัน แต่พละกำลังที่มากกว่าก็สามารถจับเรียวขาสวยของเธอแยกออกจากกันได้ไม่ยาก เผยให้เห็นกลีบเนื้ออวบอูมที่บัดนี้ฉ่ำวาวแล้ว“ไม่นะ! อย่ามอง!”“แฉะแล้ว... อย่าหลอกตัวเองเลยเนย...”.นทีเลียกลืนน้ำลาย สายตาจับจ้องส่วนรับของอัจฉราอย่างกระหาย ความงามของเธอเกือบทำให้ลืมหายใจ นัยน์ตาสีนิลวาวโรจน์ รีบแทรกกายเข้าไประหว่างขาของเธอ รับรู้ถึงความปวดร้าวของตัวเองที่ร้องหาปลดปล่อยใต้เนื้อผ้า“คุณนที... ฮึก...”น้ำตาของเธอ... ร้องไห้อีกแล้ว ความปรารถ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 24 กายพิพากษา NC🔞

    “คุณนทีอย่า!”อัจฉราประท้วงเสียงเครือ ดวงตาคู่ฉ่ำน้ำใส ไหวสั่นระริก ความร้อนซ่านประดับพวงแก้มใสราวกับผลตำลึงสุก ทั้งอายและอัปยศอย่างถึงที่สุด หลังจากที่นทีเปิดเผยร่างกายท่อนบนของเธอ มองเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอน ผิดจากความดื้อรั้นก่อนหน้า“อย่านะคะ... ฮึก... เนยขอร้อง”เธอขอร้องทั้งน้ำตา ปลายจมูกรั้นแดงเรื่อ หายใจติดขัด ภาพตรงหน้าของนทีช่างดูน่าสงสาร เขากำลังทำร้านอัจฉราย่อมรู้ดี แต่ความต้องการของเขามันบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไปหมด สำคัญเขากำลังมองว่าความอ่อนแอของเธอมันน่าขย้ำให้จมเขี้ยว เหมือนสัตว์ตัวน้อย ๆ อ่อนแอ หวาดกลัว... สิ้นหวังแต่ก็ยังดิ้นรนที่จะขอร้อง“อย่าร้องไห้...”เขายื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่อาบหน้าคนใต้ร่างอย่างแผ่วเบา สัมผัสเย็นเยียบไม่ใกล้เคียงกับคำว่าปลอบใจเลยแม้แต่น้อย ซึ่งใช่... นทีไม่ได้กำลังปลอบประโลม“คุณนที... เนยขอร้องนะ... อย่าทำแบบนี้เลย”ร่างเล็กตัวสั่น สัมผัสของปลายนิ้วที่เฉียดผ่านแก้มเนียนยามที่เขาเช็ดน้ำตาให้ แม้รู้ดีว่ามันคือการกระทำเสแสร้งที่สุด ทว่ากลับรู้สึกสะท้านใจอย่างอดไม่ได้ ยิ่งเปิดเปลือ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 23 เจ็บกว่าที่ใจไหว [2/2]

    “น่ารำคาญมากไหมคะ... ฮึก... เนยน่ารำคาญในสายคุณนทีมากไหมคะ?”นทีชะงักจริง ๆ ในครั้งนี้ ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ตอบคำถามแต่กลับจ้องใบหน้าที่เปื้อนหยาดน้ำใสจากตาของเธอ ก่อนที่รอยยิ้มร้ายกาจจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง น้ำตาของเธอ... ทำให้รู้สึกเดือดในใจอย่างประหลาดพร้อมด้วยเสียงหัวเราะต่ำ เขาปล่อยมือออกจากคางของเธอ ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะตอบคำถามของหล่อนด้วยน้ำเสียงเย็นจัดตรงข้ามกับสัมผัส“มาก... จนอยากปิดปากเธอให้เงียบเลยล่ะ”พูดจบก็ก้มลงประกบจูบอัจฉราอย่างแรง แบบไม่ให้เธอทันได้ตั้งตัว ดวงตาชุ่มน้ำเบิกกว้าง หัวใจเต้นแรงด้วยความตกใจท่ามกลางความรู้สึกเจ็บปวด ขณะที่นทีเลื่อนมือมาล็อกกรามของเธอเอาไว้ บังคับให้เงยหน้ารับจูบได้ถนัดมากขึ้น“อืม...”เสียงทุ้มคำรามในลำคออย่างขัดใจเล็กน้อย ที่กลีบปากนุ่มของหญิงสาวเม้มแน่น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เขาบีบกรามเธอแน่นขึ้นจนอัจฉราแย้มริมฝีปากออกด้วยความเจ็บ นทีใช้จังหวะนั้นสอดลิ้นร้อนเข้าไปลิ้มรสความเค็มของน้ำตาผสมกับความหวานหอมของคนใต้ร่างอย่างดุเดือดกวาดต้อนลิ้นเ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 23 เจ็บกว่าที่ใจไหว [1/2]

    อัจฉราหยุดฝีเท้าที่ปลายบันได แผ่นหลังบางตั้งตรงแม้จะสั่นไหวจากการร้องไห้ก็ตาม ดวงตาคู่สวยคมกล้าขึ้นเหนือความบอบบางที่เจ็บลึกสุดใจ “เนยไม่ได้หนี... แต่ถ้าจะหนีแล้วมันเรื่องอะไรของคุณนทีคะ?” เสียงหวานเครือย้อนถามคนข้างหลังโดยไม่หันไปมอง พูดจบหล่อนไม่รอคำตอบรับ หญิงสาวก็เคลื่อนไหวลงบันไดไปอีกครั้ง ทว่าเร็วไม่พอ ไม่ง่ายอย่างที่คิดนทีกล่าวไว้ไม่มีผิด “กล้าดีนี่!” หมับ! มือใหญ่ยื่นออกมาคว้าข้อมือเล็กของอัจฉราได้อย่างแม่นยำ พร้อมกันนั้นก็รวบร่างบางด้วยแขนอีกข้างที่ว่างเข้ามาหา ก่อนจะปล่อยมือออกจากข้อมือของหญิงสาว แล้วยกเธอขึ้นอุ้มทันที โดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามหรือแรงขัดขืน “คุณนที! ปล่อยเนยนะ!” “ปล่อยเหรอ?! จะให้ปล่อยไปไหนล่ะ? ไปเสนอตัวให้ไอ้เจ้าหนี้ของเธอทำเมียหรือไง” น้ำเสียงทุ้มต่ำอันตรายยิ่งกว่าครั้งไหน เขาจับร่างเล็กพาดบ่าอย่างมั่นคง ก่อนจะหันกลับขึ้นบันได ตรงไปยังห้องนอนที่ประตูยังคงเปิดอ้าอยู่จากเมื่อครู่ ดวงตาสีนิลมืดครึ้มลงอย่างน่ากลัว ส

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status