เที่ยงวันนั้น..
ก๊อกๆ "ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ" พนักงานที่ทำงานอยู่ชั้นผู้บริหารเห็นกันจนชินตาแล้ว เลยไม่ค่อยสนใจเหตุการณ์นี้มากนัก เหตุการณ์ที่ว่าก็คือผู้จัดการทั่วไปจะมาชวนท่านรองประธานออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน
แต่คนที่ไม่ชินตาก็คือไอรีส เพราะเสียงเคาะประตูและเสียงชวนไปทานข้าวมันดังกึกก้องมาจนถึงโต๊ะทำงานของเธอ ตอนนี้ไอรีสได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยทั่วไป ผู้ช่วยทั่วไปหมายถึงช่วยทุกคนที่ต้องการให้เธอช่วยแม้แต่แม่บ้าน
ทีแรกธันวาผู้จัดการฝ่ายการตลาดขอตัวเธอไปเป็นผู้ช่วยแต่ก็ถูกปฏิเสธโดยนรสิงห์ และเขาก็ได้มอบหมายตำแหน่งนี้ให้เธอทำโดยตรงนั่นคือเป็นผู้ช่วยของทุกคน ที่เขาไม่ปล่อยให้เธอไปกับธันวาถ้าพ่อรู้มีหวังเล่นงานเขาแน่
"วันนี้ผมงานเยอะออกไปไม่ได้ เดี๋ยวผมจะให้.." ขณะเดียวกันนั้นสายตาเขาก็มองไปเห็นคนที่เขาเพิ่งให้ตำแหน่งใหม่ๆ
"จะให้อะไรคะ" อัญญามองตามสายตานรสิงห์ออกไป เพราะตอนที่เธอเข้ามาประตูห้องไม่ได้ปิด
"ให้ผู้ช่วยทั่วไปไปจัดหามาให้"
"ผู้ช่วยทั่วไปหรือคะ?" อัญญายังไม่รู้ว่ามีตำแหน่งนี้ด้วย บนชั้นนี้มีผู้ช่วยหลายตำแหน่ง แต่ยังไม่เคยได้ยินผู้ช่วยทั่วไปเลย
"เธอ" อิ่มเอมที่นั่งอยู่หน้าห้องได้ยินการสนทนาเลยเรียกให้ไอรีสเข้าไปรับงาน
"เดี๋ยวพี่ไปเอง" สิธารู้ว่าถ้าเรียกเวลานี้คือเรียกให้ไปซื้ออาหารมาให้
"ไม่เป็นไรหรอก พี่ยังติดงานอยู่ไม่ใช่เหรอ"
ห้องท่านรองประธาน..
"เธอมีรถใช้งานอยู่ใช่ไหม" คนที่ถามไอรีสก็คืออัญญา
"ถามทำไมคะ"
"ฉันจะให้ไปซื้ออาหารเที่ยงมาให้ท่านรองกับฉันหน่อย"
"มีค่ะ เป็นรถที่บ้านของคู่หมั้นฉันเอง เขาให้คนขับรถประจำตำแหน่ง แต่ฉันไม่แน่ใจว่าจะใช้รถของเขาไปซื้อของได้ไหม" สิ้นคำพูดประโยคนี้ดวงตางามก็ตวัดมองไปดูท่านรองประธาน ประหนึ่งเหมือนบอกเป็นนัยว่าผู้ชายที่เธอพูดถึงคือใคร
"เธอมีคู่หมั้นแล้วเหรอ?"
"ถ้าจะคุยกันออกไปคุยข้างนอก"
หึ.. เห็นเขาไล่ไอรีสก็นึกขำคงกลัวว่าเธอจะพูดเรื่องนี้ล่ะสิ
"เธอออกไปซื้ออาหารร้านคุณปราณี บอกว่าซื้อมาให้ฉัน คุณปราณีรู้ว่าต้องจัดอะไรมาบ้าง" ร้านอาหารชื่อร้านคุณปราณี และร้านนี้ก็อยู่ไม่ไกลบริษัท
"แล้วเงินล่ะคะ" เห็นมีแต่สั่งไม่ส่งเงินมาให้เลย
"ฉันไม่ได้เอากระเป๋าออกมาด้วย" ทุกครั้งไปทานข้าวกับนรสิงห์ อัญญาไม่เคยต้องจ่ายเอง
นรสิงห์ที่นั่งทำงานอยู่ล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาแล้วก็ส่งไปให้กับไอรีส
"คุณสองคนเป็นแฟนกันเหรอ" เธอถามพร้อมกับรับเงินในมือของเขา ถ้าอยากรู้เรื่องนี้ต้องถามกับเจ้าตัว และมันก็เป็นเวลาที่เหมาะเจาะมากเพราะทั้งสองอยู่ต่อหน้าเธอ
แต่พอคำถามนี้ออกจากปากไอรีส อัญญาก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะตอบพนักงานยังไง
"ไปซื้ออาหารและก็ไม่ต้องใช้รถนะให้เดินไป" เขาไม่ได้ตอบคำถามเมื่อครู่ แถมยังสั่งเหมือนแกล้งเธอด้วย
ไอรีสลงลิฟต์มาจนถึงชั้นล่าง แล้วเธอก็ออกมาเรียกแท็กซี่ ..เดินไปก็โง่น่ะสิแดดร้อนก็ร้อน
ถึงแม้ว่าร้านคุณปราณีจะอยู่ไม่ไกลแต่ถ้าให้เดินก็เหนื่อยเลยแหละ
พอได้อาหารเธอก็ไม่ได้รีบที่จะกลับ เพราะถ้ามาถึงเร็วเดี๋ยวเขาจะหาว่าขัดคำสั่ง เธอเลยต้องหาซื้ออะไรกินไปก่อนที่จะขึ้นมาชั้นบน
"ไปซื้อถึงนอกโลกเลยหรือไง ทำไมถึงไปนานจัง" กลับมาก็ถูกคุณเลขาตำหนิยกใหญ่
"ก็ท่านรองประธานของคุณสั่งให้ฉันเดินนี่คะ ถ้าสั่งให้ฉันวิ่งก็คงจะได้เร็วกว่านี้หน่อย"
"ยังจะพูดอยู่อีก เอาอาหารไปจัดใส่ถ้วย เดี๋ยวฉันจะเข้าไปแจ้งท่านรองกับผู้จัดการ" ไอรีสกำลังจะไปทำตามคำสั่ง แต่อิ่มเอมก็เรียกไว้ก่อน "ฉันนั่งรอเธอจนจะบ่ายโมงอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันจะลงไปกินข้าว เธอช่วยมาแก้ไฟล์งานรอหน่อยนะ ฉันเปิดไฟล์งานไว้แล้ว"
แก้ไฟล์งานอีกแล้วเหรอ.. ไอรีสเดินอ้อมมามองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณเลขาที่เปิดไว้ คิดว่าฉันจะโง่ล่ะสิ เดี๋ยวก็หาเรื่องใส่ร้ายฉันอีก
ไอรีสทิ้งไว้แบบนั้นแล้วก็ถืออาหารเข้ามาในห้องเครื่องดื่มเพื่อที่จะเตรียมอาหาร
"อ้าวมาแล้วเหรอ"
"พี่กินข้าวหรือยัง"
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก เรานั่นแหละกินข้าวหรือยังเดี๋ยวพี่จัดการเองเราไปกินข้าวเถอะ"
จนถึงช่วงบ่ายโมง อิ่มเอมกลับมาก็เห็นว่างานยังอยู่เหมือนเดิม
"ฉันบอกให้เธอแก้งานไม่ใช่เหรอ"
"คุณเลขาก็กลับมาแล้วนี่คะทำไมไม่แก้เองล่ะ"
"ยังจะยอกย้อน เธอเป็นผู้ช่วยนะฉันสั่งอะไรก็ต้องทำสิ"
"หรือคุณแก้ไม่ได้.."
"ฉัน.. เธอพูดอะไร"
"ก็ไม่รู้สิคะมันเป็นงานของคุณคุณก็ทำเองสิ"
จะทำยังไงดีท่านรองบอกให้ส่งพรุ่งนี้แล้ว แม่นี่ก็ดันมาฉลาดตอนนี้ ..หรือว่าเราจะจ้างคนนอกแก้ให้
เย็นวันนั้นกลับมาถึงบ้านไอรีสก็ขึ้นนอนเลยเพราะเธอเหนื่อยมาก
ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้วทำไมมันเช้าเร็วจัง เวลายังเดินเท่าเดิมไหมเนี่ย โอ๊ยวันนี้ต้องเจออะไรอีก ..เธอต้องรีบหาหลักฐานเรื่องที่เขาสองคนเป็นแฟนกันให้ได้ จะได้หลุดจากวงจรนี้สักที
หลังจากที่บังคับตัวเองให้ลุกมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเธอก็ลงมาข้างล่าง พอลงมาก็เห็นว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
>>{"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมกำลังจะเข้าบริษัท"}
{"เช็คดูว่างานมันหลุดรอดออกไปได้ยังไง หาคนผิดมารับโทษให้ได้"}
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 116 ตอนจบทันน์"ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ ชอบนอนโซฟาไม่ใช่เหรอก็ไปนอนที่เดิมสิ" อลิสรู้สึกตัวตอนที่ทันน์ขยับตัวเข้ามานอนใกล้ๆทันน์ไม่ได้ตอบแต่เขาขยับมือต่ำลงไปสำรวจดูว่าทางโล่งหรือเปล่า เพราะเมื่อวานได้ยินว่าเธอใกล้จะเป็นประจำเดือน"คุณ!" อลิสดึงมือนั้นออกไป ทันน์ยอมเอามือออกมาแต่ที่เอาออกมาเพราะจะถอดเสื้อผ้า "ไปนอนโซฟาเลยนะถ้าไม่งั้นก็กลับไปนอนที่คอนโด"ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ทำเฉย แถมยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกก่อนจะโน้มตัวไปจับเธอคว่ำลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"โอ๊ยฉันเจ็บนะ" หลังจากที่จับเธอคว่ำลงแล้วเขาก็ดึงกางเกงชุดนอนที่เธอใส่อยู่ขยับออกจนเลยสะโพกลงมา "คุณทันน์!"ผ่านไปครู่หนึ่งจากเสียงต่อว่าเมื่อครู่กลายเป็นเสียงคราง เพราะเขาสอดใส่ผ่านทางด้านหลังเข้ามาแล้วก็กระแทก ตัวแค่นี้หรือจะมาสู้ได้ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนชอบใช้กำลังไม่ชอบพูดจากท่าคว่ำทันน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าตะแคงข้างโดยที่เขายังคงสอดใส่ผ่านทางด้านหลังอยู่เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้หยุดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแบบหมดเรี่ยวแรง"อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง" เห็นว่าเธอไม่โวยวายเหมือนตอนแรกแล้ว"ยังจะมาพูดอีก!" นี่
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 115 ตอนจบตุนท์อัคคีมองตามสาวเอ็นเตอร์เทรน อยู่ดีๆ เธอก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ที่จริงมันทำได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ บางทียังเห็นแขกคนอื่นล้วงอยู่เลยแต่เขาทำแค่จูบเองนะข้าวปุ้นพยายามอดกลั้นอารมณ์ตัวเองมาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเสี่ยป่านนี้ถูกฝ่ามือเธอไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาขโมยจูบไป"นั่นใช่คุณข้าวปุ้นไหม" ระย้ามองเห็นตอนเดินผ่านห้องทำงานแค่แว๊บเดียว"ใช่.. แล้วทำไมออกมาแล้วล่ะ" อลิสเลยรีบไปดูแขกที่ห้องพิเศษ พอไปถึงก็เห็นว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอัคคีแล้ว หรือว่าข้าวปุ้นงอนเรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ เลยใครปล่อยให้เด็กเข้ามาเนี่ย ..ค่อยหาโอกาสใหม่แล้วกัน อุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ แล้วเชียวดึกๆ ของคืนเดียวกัน..นเรศวรแวะเข้ามาดูงานได้ครู่หนึ่งพอรู้ว่าอัคคียังไม่ออกไปเลยแวะมาที่ห้องพิเศษ"เป็นยังไงบ้างครับคุณอัคคี" ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากมายรู้จักกันผ่านทางเพื่อน เวลาพูดคุยเลยใช้คำเหมือนที่พูดกับเพื่อนสนิทไม่ได้"นึกว่าคุณจะไม่เข้า""ภรรยาผมใกล้คลอดเลยไม่อยากปล่อยไว้คอนโดตามลำพังครับ""อ้าว ใกล้คลอดแล้วเหรอครับ"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็เห็นว่าทันน์ที่ยืนรอรับใช้อยู่เหมื
ช่วงเที่ยงคืนของคืนนั้น.."ไปทานข้าวด้วยกันค่ะ" ระย้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของข้าวปุ้นเพื่อชวนออกไปทานข้าวด้วยกัน"ชวนข้าวเหรอคะ" นอกจากคุณทรงอัปสรแล้วคนอื่นไม่ค่อยมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยหรอก อาจเพราะเธอทำงานอยู่คนละโซนกัน และส่วนมากข้าวปุ้นก็จะสั่งอาหารที่นี่เข้ามาทานในห้อง"หรือว่าคุณข้าวจะทานข้าวในห้องคะ""ข้าวไปได้ค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วก็เดินตามระย้าออกมาทีแรกคิดว่าจะมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้พอออกมาถึงด้านหน้าแฟนของทั้งสองก็รออยู่ แสดงว่าเราเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย"คุณข้าวชอบทานอะไรคะ""ทานเหมือนกันนั่นแหละค่ะ""ถ้างั้นสั่งทีเดียวเลยนะคะ"เข้ามาผู้ชายก็เดินไปเตรียมน้ำมาให้ ทีแรกข้าวปุ้นจะไปเตรียมน้ำของตัวเองแล้ว แต่อลิสบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวมีคนเตรียมมาให้ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางบริการ ข้าวปุ้นเพิ่งรู้สึกว่าส่วนเกินมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะคนรักเขาเทคแคร์กันแบบไม่สนใจคนโสดเลยที่อลิสและระย้าทำแบบนี้อยากให้ข้าวปุ้นมีความกล้าขึ้นมาหน่อยหลังทานข้าวเสร็จพวกเธอก็กลับเข้ามาที่ทำงาน ส่วนทันน์และตุนท์ก็ต้องแบ่งงานกันทำเหมือนเคยจนถึงช่วงเลิกงานอลิสเดินกลับมาที่
"เท้าไม่เป็นอะไรแล้วเหรอทำไมใส่ส้นสูง" หลังจากส่งเจ้านายห้องทำงานเสร็จแล้วตุนท์ก็รีบออกมาดูระย้า เห็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับข้าวปุ้นพอดี"โอ๊ย.." ทีแรกก็ยืนดีๆ อยู่นี่แหละ แต่พอเห็นสามีเดินเข้ามาเริ่มเจ็บเท้าขึ้นมาเลย และข้าวปุ้นที่ยืนอยู่ด้วยกันอดมองลงไปดูเท้าของระย้าไม่ได้ เมื่อสักครู่ยังเห็นเดินปกติอยู่เลย หรือว่าจะเริ่มเจ็บแผลแล้ว"คุณเจ็บแผลเหรอคะ""เปล่าค่ะคุณลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ดู" ระย้ารีบบอกข้าวปุ้นที่กำลังจะก้มลงไปช่วยขยับรองเท้าออกให้ลุกขึ้นมาก่อน "รู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ" แต่พอตุนท์เดินเข้ามาใกล้ระย้าก็ทำทีเป็นยืนไม่อยู่ จนฝ่ายชายต้องรีบเข้าไปประคอง"โอ๊ยยังเจ็บอยู่เลยค่ะ" เห็นว่าเธอยังเจ็บอยู่ตุนท์เลยโน้มลำตัวลงไปอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ตอนที่ร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นระย้าก็หันไปขยิบตาใส่ข้าวปุ้น และก็บอกให้ข้าวปุ้นดูไว้ผู้หญิงต้องมีมารยาบ้าง"หึหึหึ" ข้าวปุ้นอดขำในความน่าเอ็นดูของระย้าไม่ได้ คิดว่าพอจะรู้แล้วที่ระย้าทำเมื่อครู่คงอยากให้เธอเรียนรู้เรื่องนี้ไปใช้กับผู้ชายที่ชื่ออัคคีแน่เลย โอ๊ยฉันจะบ้าตาย หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบลงแค่นี้นะ"คุณจะพาฉันไปไหน" มัวบอกให้
"ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า" ตุนท์เห็นเธอยิ้มตอนเขาเดินเข้ามาหาเลยรู้สึกเสียวๆ"ฉันจะกลับขึ้นห้องแล้วค่ะ คุณจะทำงานต่อหรือจะกลับด้วยกัน" หลังจากที่รับรู้ว่าข้าวปุ้นไม่ได้สนใจสามีเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา จริงๆ ถ้าเขาจะชอบกับข้าวปุ้นป่านนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงเธอหรอก แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นแต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาสนใจเขา"ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวหลังเลิกงานผมค่อยลงมาดูแลเจ้านาย" ทิ้งงานให้ทันน์ทำมาหลายวันแล้ว ถ้าจะทิ้งอีกก็กลัวมันจะโวยวายระย้ายอมให้เขาโอบร่างพาเดินกลับห้องพัก เท้าเธอดีขึ้นมากแล้วแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่"ฉันขออาบน้ำก่อนค่ะ" เข้ามาถึงตุนท์ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะจูบระย้าก็เบือนหน้าหลบ"ผมเห็นคุณเปลี่ยนชุดแล้วนี่""อาบน้ำตั้งหลายชั่วโมงแล้วค่ะ""หลายชั่วโมงก็ยังหอมอยู่""ไม่ได้ค่ะยังไงฉันก็ต้องไปอาบน้ำก่อน" ยังไงต้องไปล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน เพราะเขาเล่นสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตอนที่น้ำฝักบัวกำลังไหลรินลงมาชโลมร่างกาย ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเข้ามา"ฉันอาบน้ำยังไม่เสร็จเลย""อาบด้วยกันก็ได้"เข้ามาแทน
กลับไปถึงห้องก็ไม่เห็นเธอ ตุนน์เลยรีบออกไปดูร้านอาหารหน้าสถานบันเทิง ที่เขาไม่ได้โทรไปเพราะเห็นอยู่ว่าโทรศัพท์เธอไม่ได้ถือออกไปด้วย แต่พอเดินดูก็ไม่เห็น ..แม้แต่ร้านที่เธอไม่เคยมาทานเขาก็ยังไปดูเลย"ไปไหนของเธอเนี่ย" หรือว่าบางทีเธออาจจะไปหาอลิส คิดได้แบบนั้นตุนท์เลยลองกดโทรเข้าเครื่องของอลิสดู แต่คำตอบที่ได้ไม่เห็นระย้ามา และอลิสยังถามอีกว่าระย้ากลับมาด้วยเหรอ ตอนนั้นยังนึกเสียใจอยู่เลยว่ายังไม่ได้บอกลากันก๊อกๆ ตอนที่ระย้านั่งเศร้าอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง"อ้าวคุณระย้า?" คนที่เข้ามาก็คือข้าวปุ้น ข้าวปุ้นว่าจะเข้ามาคุยงานกับอลิสมองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องหัวหน้าก็คิดว่าเป็นอลิส"ทำไมเห็นฉันแล้วต้องตกใจด้วยล่ะคะ""?" ข้าวปุ้นแปลกใจกับคำถามนี้ แต่ก็ต้องรีบสลัดมันออกไปก่อน"ได้ยินคุณตุนท์บอกว่าคุณอยู่ที่ห้องนี่คะ""เขาบอกแบบนั้นหรือคะ""เอ่อ..ค่ะ..?" ข้าวปุ้นชักจะสงสัยกับท่าทีนี้แล้ว ก่อนหน้าระย้าไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ ทำไมช่วงหลังมาถึงพูดกับเธอแปลกๆ"มาอยู่นี่เองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่ห้อง" ตุนท์เดินตามหาไม่เจอเลยเข้ามาดูในห้องทำงานและก็เป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆ "อ้