"เรียกทุกคนมาพบฉันที่ห้องประชุม" มาถึงเขาก็สั่งทุกคนที่อยู่ชั้นผู้บริหารให้เข้ามาในห้องประชุม และยังมีคำสั่งอีกอย่างก็คือทุกคนวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างนอก แม้แต่กระเป๋าตังค์ก็ห้ามนำเข้ามา
"เกิดอะไรขึ้น"
"นั่นสิมันเกิดอะไรขึ้น" เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าท่านรองจะเรียกคือเรียกแค่แผนก อย่างเช่นแผนกเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขา แต่นี่เล่นเรียกทั้งหมดแม้แต่แม่บ้านยังเรียก
"มาครบทุกคนหรือยัง"
"ยังไม่ครบค่ะพนักงานใหม่ยังไม่มา"
"มันเกิดอะไรขึ้นครับท่านรอง" ธันวาสงสัยเพราะเหมือนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
"ใช่ค่ะมันเกิดอะไรขึ้น" อีกคนที่สงสัยก็คืออัญญาที่อยู่ในห้องประชุมด้วย
"พนักงานใหม่มาแล้วค่ะ"
"มีอะไรคะ" ไอรีสถามสิธาแต่เธอก็คิดไว้แล้วแหละว่ามันต้องเกี่ยวกับเรื่องที่เขารับโทรศัพท์เมื่อเช้านี้แน่เลย
ก๊อกแก๊ก~ ขณะเดียวกันด้านนอกก็กำลังมีคนค้นหาหลักฐาน ไอรีสที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดมองผ่านช่องประตูออกไปดู ก็เห็นว่าแผนกไอทีและแผนกรักษาความปลอดภัยกำลังเดินกันให้วุ่น
ก๊อกๆ ผ่านไปไม่นานก็มีคนมาเคาะประตู
"เจอหลักฐานแล้วครับ"
"หลักฐานอะไร!?" พอได้ยินคำพูดประโยคเมื่อครู่ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ มันต้องเกี่ยวกับที่ท่านรองเรียกพวกเธอเข้ามาในห้องนี้
นรสิงห์รับ Flash Drive ที่แผนกไอทียื่นมาให้ดู
"ข้อมูลอยู่ใน Flash Drive ครับ และมันก็อยู่ในกระเป๋าถือใบนี้ครับ"
เห็นกระเป๋าหลายคนก็หันมองมาที่อิ่มเอม
"มันไม่ใช่ของอิ่มนะคะ" อิ่มเอมรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น คงเป็นคนที่เธอให้แก้ไขไฟล์แอบขโมยข้อมูลในไฟล์ไปแน่เลย
"มันเรื่องอะไรกันคะ" อัญญายังคงถามคำเดิมเพราะคำถามก่อนหน้ายังไม่ได้รับคำตอบ
"ต้องเป็นพนักงานใหม่แน่เลยค่ะ ที่ใส่ร้ายอิ่ม" อิ่มเอมชี้มาที่ไอรีส
และเป้าหมายการมองใหม่ก็คือไอรีส
"ทุกคนออกไปก่อน ยกเว้นเธอสองคน"
"อัญญาขออยู่ด้วยค่ะ" คนอื่นออกไปแล้วอัญญาไม่ยอมออกไปเพราะอยากรู้เรื่อง และมันก็เกี่ยวกับตำแหน่งของเธอด้วยเพราะเธอเป็นผู้จัดการทั่วไป
"ตำรวจมาหรือยัง" ก่อนที่จะคุยอะไร เขาถามหน่วยรักษาความปลอดภัยที่รอสแตนด์บายอยู่
"มาแล้วครับ ให้เข้ามาเลยไหมครับ"
"มันเรื่องอะไร คุณจะไม่พูดออกมาหน่อยเหรอ" เธอก็อยากรู้ว่ามันเรื่องอะไรทำไมแม่เลขาถึงได้โยนความผิดมาให้เธอ
"เอกสารการประชุมผู้ถือหุ้นหลุดรอดออกไป"
"อิ่มคิดไว้แล้วเชียวต้องเป็นเรื่องนั้นแน่เลย เมื่อวานนี้อิ่มให้พนักงานใหม่แก้ไฟล์ให้ค่ะ"
จากทีแรกเขาไม่ได้คิดว่าเป็นเธอ พอได้ยินอิ่มเอมพูดเขาถึงได้หันมองไปที่ไอรีส
"อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าเป็นฉัน ช่วยใช้สมองหน่อยได้ไหมคะ"
คนที่อยู่ในห้องตกใจกับคำพูดประโยคนั้นของไอรีส เพราะเธอเป็นแค่พนักงานใหม่ทำไมกล้าใช้ถ้อยคำแบบนี้กับท่านรองประธาน
ขณะที่ทุกคนมองเธอเขาก็มองเช่นกัน ที่มองเพราะเพิ่งรู้ว่าเธอพูดประโยคยาวๆ ก็ได้ด้วย แถมในประโยคนั้นยังมีแอบแซะเขาด้วย
"ผู้จัดการคะ ช่วยอิ่มด้วยนะคะ ต้องเป็นฝีมือพนักงานใหม่คนนี้แน่เลยค่ะ"
"ไหนลองเล่ามาให้ฉันฟังซิ"
"เมื่อวานนี้ไฟล์การประชุมผู้ถือหุ้นเสียหายค่ะ อิ่มลองแก้แล้วแต่แก้ไม่ได้เลยให้พนักงานใหม่แก้ให้"
นรสิงห์หันไปมองหน้าเธออีกครั้ง อย่าบอกนะว่าไฟล์ที่แก้ได้เมื่อวานเป็นฝีมือของเธอ
"แสดงว่าเธอคัดลอกไฟล์ของบริษัทไปขายให้บุคคลภายนอกใช่ไหม" เป็นคำพูดของอัญญา
"คุณด่วนตัดสินไปไหมคะ ฉันขอถามหน่อยว่าไฟล์ไหนที่หลุดออกไป" ไอรีสพอเดาได้แล้ว "ยังไม่ตอบฉันก็ได้นะคะฉันขอทายก่อนได้ไหม"
"ฉันคิดว่าเธอกำลังถ่วงเวลานะ" เป็นผู้จัดการทั่วไปอีกนั่นแหละที่พูด เพราะนอกจากจะช่วยเลขาแล้ว อาจจะทำให้พนักงานคนใหม่คนนี้กระเด็นออกจากงานก็ได้
"ไฟล์ที่สองใช่ไหมล่ะคะที่หลุดรอดออกไป"
"ใช่"
"ฉันจะเล่านิทานอะไรให้ฟัง"
"เธอจะมาเล่านิทานอะไรตอนนี้"
"กาลครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้เอง มีเลขาคนหนึ่งทำไฟล์งานเสียหาย แต่ดันแก้เองไม่ได้ เลยต้องให้พนักงานที่เข้าใหม่แก้ให้ พอพนักงานคนนั้นแก้ไฟล์แรกให้แล้ว ก็ใช้แผนเพื่อให้เธอแก้ไฟล์ที่สองให้ด้วย แต่เธอดันไม่แก้ให้ เลขาหน้าห้องคนนั้นเลยต้องก๊อปไฟล์ออกไปให้บุคคลภายนอกแก้ให้"
"เธอหมายถึงฉันเหรอ!"
"ใช่ค่ะฉันหมายถึงคุณนั่นแหละ.. และอีกอย่างนะ ตอนนี้บริษัทของคุณอาจจะมีหนอนบ่อนไส้ เพราะหลังจากพวกคุณประชุมผู้ถือหุ้นเสร็จไฟล์ก็ไวรัสเข้า" ประโยคหลังเธอหันไปพูดกับผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในห้องประชุมนี้
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 116 ตอนจบทันน์"ทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ ชอบนอนโซฟาไม่ใช่เหรอก็ไปนอนที่เดิมสิ" อลิสรู้สึกตัวตอนที่ทันน์ขยับตัวเข้ามานอนใกล้ๆทันน์ไม่ได้ตอบแต่เขาขยับมือต่ำลงไปสำรวจดูว่าทางโล่งหรือเปล่า เพราะเมื่อวานได้ยินว่าเธอใกล้จะเป็นประจำเดือน"คุณ!" อลิสดึงมือนั้นออกไป ทันน์ยอมเอามือออกมาแต่ที่เอาออกมาเพราะจะถอดเสื้อผ้า "ไปนอนโซฟาเลยนะถ้าไม่งั้นก็กลับไปนอนที่คอนโด"ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ทำเฉย แถมยังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกก่อนจะโน้มตัวไปจับเธอคว่ำลงโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว"โอ๊ยฉันเจ็บนะ" หลังจากที่จับเธอคว่ำลงแล้วเขาก็ดึงกางเกงชุดนอนที่เธอใส่อยู่ขยับออกจนเลยสะโพกลงมา "คุณทันน์!"ผ่านไปครู่หนึ่งจากเสียงต่อว่าเมื่อครู่กลายเป็นเสียงคราง เพราะเขาสอดใส่ผ่านทางด้านหลังเข้ามาแล้วก็กระแทก ตัวแค่นี้หรือจะมาสู้ได้ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนชอบใช้กำลังไม่ชอบพูดจากท่าคว่ำทันน์ก็เปลี่ยนเป็นท่าตะแคงข้างโดยที่เขายังคงสอดใส่ผ่านทางด้านหลังอยู่เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้หยุดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดแบบหมดเรี่ยวแรง"อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง" เห็นว่าเธอไม่โวยวายเหมือนตอนแรกแล้ว"ยังจะมาพูดอีก!" นี่
Set มาเฟียร้ายรัก Ep 115 ตอนจบตุนท์อัคคีมองตามสาวเอ็นเตอร์เทรน อยู่ดีๆ เธอก็ลุกเดินออกจากห้องไปเลย ที่จริงมันทำได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ บางทียังเห็นแขกคนอื่นล้วงอยู่เลยแต่เขาทำแค่จูบเองนะข้าวปุ้นพยายามอดกลั้นอารมณ์ตัวเองมาก ถ้าไม่ใช่เพื่อนของเสี่ยป่านนี้ถูกฝ่ามือเธอไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็มาขโมยจูบไป"นั่นใช่คุณข้าวปุ้นไหม" ระย้ามองเห็นตอนเดินผ่านห้องทำงานแค่แว๊บเดียว"ใช่.. แล้วทำไมออกมาแล้วล่ะ" อลิสเลยรีบไปดูแขกที่ห้องพิเศษ พอไปถึงก็เห็นว่ามีเด็กใหม่เข้ามาเอ็นเตอร์เทนเสี่ยอัคคีแล้ว หรือว่าข้าวปุ้นงอนเรื่องนี้ ต้องใช่แน่ๆ เลยใครปล่อยให้เด็กเข้ามาเนี่ย ..ค่อยหาโอกาสใหม่แล้วกัน อุตส่าห์ได้โอกาสดีๆ แล้วเชียวดึกๆ ของคืนเดียวกัน..นเรศวรแวะเข้ามาดูงานได้ครู่หนึ่งพอรู้ว่าอัคคียังไม่ออกไปเลยแวะมาที่ห้องพิเศษ"เป็นยังไงบ้างครับคุณอัคคี" ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากมายรู้จักกันผ่านทางเพื่อน เวลาพูดคุยเลยใช้คำเหมือนที่พูดกับเพื่อนสนิทไม่ได้"นึกว่าคุณจะไม่เข้า""ภรรยาผมใกล้คลอดเลยไม่อยากปล่อยไว้คอนโดตามลำพังครับ""อ้าว ใกล้คลอดแล้วเหรอครับ"ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน ก็เห็นว่าทันน์ที่ยืนรอรับใช้อยู่เหมื
ช่วงเที่ยงคืนของคืนนั้น.."ไปทานข้าวด้วยกันค่ะ" ระย้าถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของข้าวปุ้นเพื่อชวนออกไปทานข้าวด้วยกัน"ชวนข้าวเหรอคะ" นอกจากคุณทรงอัปสรแล้วคนอื่นไม่ค่อยมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยหรอก อาจเพราะเธอทำงานอยู่คนละโซนกัน และส่วนมากข้าวปุ้นก็จะสั่งอาหารที่นี่เข้ามาทานในห้อง"หรือว่าคุณข้าวจะทานข้าวในห้องคะ""ข้าวไปได้ค่ะ" ข้าวปุ้นเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วก็เดินตามระย้าออกมาทีแรกคิดว่าจะมากันแค่สามคน แต่ที่ไหนได้พอออกมาถึงด้านหน้าแฟนของทั้งสองก็รออยู่ แสดงว่าเราเป็นส่วนเกินหรือเปล่าเนี่ย"คุณข้าวชอบทานอะไรคะ""ทานเหมือนกันนั่นแหละค่ะ""ถ้างั้นสั่งทีเดียวเลยนะคะ"เข้ามาผู้ชายก็เดินไปเตรียมน้ำมาให้ ทีแรกข้าวปุ้นจะไปเตรียมน้ำของตัวเองแล้ว แต่อลิสบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวมีคนเตรียมมาให้ไม่นานอาหารก็ถูกนำมาวางบริการ ข้าวปุ้นเพิ่งรู้สึกว่าส่วนเกินมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะคนรักเขาเทคแคร์กันแบบไม่สนใจคนโสดเลยที่อลิสและระย้าทำแบบนี้อยากให้ข้าวปุ้นมีความกล้าขึ้นมาหน่อยหลังทานข้าวเสร็จพวกเธอก็กลับเข้ามาที่ทำงาน ส่วนทันน์และตุนท์ก็ต้องแบ่งงานกันทำเหมือนเคยจนถึงช่วงเลิกงานอลิสเดินกลับมาที่
"เท้าไม่เป็นอะไรแล้วเหรอทำไมใส่ส้นสูง" หลังจากส่งเจ้านายห้องทำงานเสร็จแล้วตุนท์ก็รีบออกมาดูระย้า เห็นตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับข้าวปุ้นพอดี"โอ๊ย.." ทีแรกก็ยืนดีๆ อยู่นี่แหละ แต่พอเห็นสามีเดินเข้ามาเริ่มเจ็บเท้าขึ้นมาเลย และข้าวปุ้นที่ยืนอยู่ด้วยกันอดมองลงไปดูเท้าของระย้าไม่ได้ เมื่อสักครู่ยังเห็นเดินปกติอยู่เลย หรือว่าจะเริ่มเจ็บแผลแล้ว"คุณเจ็บแผลเหรอคะ""เปล่าค่ะคุณลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวฉันทำอะไรให้ดู" ระย้ารีบบอกข้าวปุ้นที่กำลังจะก้มลงไปช่วยขยับรองเท้าออกให้ลุกขึ้นมาก่อน "รู้สึกเจ็บนิดหน่อยค่ะ" แต่พอตุนท์เดินเข้ามาใกล้ระย้าก็ทำทีเป็นยืนไม่อยู่ จนฝ่ายชายต้องรีบเข้าไปประคอง"โอ๊ยยังเจ็บอยู่เลยค่ะ" เห็นว่าเธอยังเจ็บอยู่ตุนท์เลยโน้มลำตัวลงไปอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ตอนที่ร่างของเธอลอยขึ้นจากพื้นระย้าก็หันไปขยิบตาใส่ข้าวปุ้น และก็บอกให้ข้าวปุ้นดูไว้ผู้หญิงต้องมีมารยาบ้าง"หึหึหึ" ข้าวปุ้นอดขำในความน่าเอ็นดูของระย้าไม่ได้ คิดว่าพอจะรู้แล้วที่ระย้าทำเมื่อครู่คงอยากให้เธอเรียนรู้เรื่องนี้ไปใช้กับผู้ชายที่ชื่ออัคคีแน่เลย โอ๊ยฉันจะบ้าตาย หวังว่าเรื่องนี้คงจะจบลงแค่นี้นะ"คุณจะพาฉันไปไหน" มัวบอกให้
"ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า" ตุนท์เห็นเธอยิ้มตอนเขาเดินเข้ามาหาเลยรู้สึกเสียวๆ"ฉันจะกลับขึ้นห้องแล้วค่ะ คุณจะทำงานต่อหรือจะกลับด้วยกัน" หลังจากที่รับรู้ว่าข้าวปุ้นไม่ได้สนใจสามีเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา จริงๆ ถ้าเขาจะชอบกับข้าวปุ้นป่านนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงเธอหรอก แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหึง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นแต่เธอก็ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมาสนใจเขา"ผมเคลียร์งานเสร็จแล้ว เดี๋ยวหลังเลิกงานผมค่อยลงมาดูแลเจ้านาย" ทิ้งงานให้ทันน์ทำมาหลายวันแล้ว ถ้าจะทิ้งอีกก็กลัวมันจะโวยวายระย้ายอมให้เขาโอบร่างพาเดินกลับห้องพัก เท้าเธอดีขึ้นมากแล้วแต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่"ฉันขออาบน้ำก่อนค่ะ" เข้ามาถึงตุนท์ก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า แต่ตอนที่เขากำลังจะจูบระย้าก็เบือนหน้าหลบ"ผมเห็นคุณเปลี่ยนชุดแล้วนี่""อาบน้ำตั้งหลายชั่วโมงแล้วค่ะ""หลายชั่วโมงก็ยังหอมอยู่""ไม่ได้ค่ะยังไงฉันก็ต้องไปอาบน้ำก่อน" ยังไงต้องไปล้างให้สะอาดก่อนแล้วกัน เพราะเขาเล่นสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตอนที่น้ำฝักบัวกำลังไหลรินลงมาชโลมร่างกาย ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดเข้ามา"ฉันอาบน้ำยังไม่เสร็จเลย""อาบด้วยกันก็ได้"เข้ามาแทน
กลับไปถึงห้องก็ไม่เห็นเธอ ตุนน์เลยรีบออกไปดูร้านอาหารหน้าสถานบันเทิง ที่เขาไม่ได้โทรไปเพราะเห็นอยู่ว่าโทรศัพท์เธอไม่ได้ถือออกไปด้วย แต่พอเดินดูก็ไม่เห็น ..แม้แต่ร้านที่เธอไม่เคยมาทานเขาก็ยังไปดูเลย"ไปไหนของเธอเนี่ย" หรือว่าบางทีเธออาจจะไปหาอลิส คิดได้แบบนั้นตุนท์เลยลองกดโทรเข้าเครื่องของอลิสดู แต่คำตอบที่ได้ไม่เห็นระย้ามา และอลิสยังถามอีกว่าระย้ากลับมาด้วยเหรอ ตอนนั้นยังนึกเสียใจอยู่เลยว่ายังไม่ได้บอกลากันก๊อกๆ ตอนที่ระย้านั่งเศร้าอยู่ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอเลยเงยหน้าขึ้นมอง"อ้าวคุณระย้า?" คนที่เข้ามาก็คือข้าวปุ้น ข้าวปุ้นว่าจะเข้ามาคุยงานกับอลิสมองเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องหัวหน้าก็คิดว่าเป็นอลิส"ทำไมเห็นฉันแล้วต้องตกใจด้วยล่ะคะ""?" ข้าวปุ้นแปลกใจกับคำถามนี้ แต่ก็ต้องรีบสลัดมันออกไปก่อน"ได้ยินคุณตุนท์บอกว่าคุณอยู่ที่ห้องนี่คะ""เขาบอกแบบนั้นหรือคะ""เอ่อ..ค่ะ..?" ข้าวปุ้นชักจะสงสัยกับท่าทีนี้แล้ว ก่อนหน้าระย้าไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ ทำไมช่วงหลังมาถึงพูดกับเธอแปลกๆ"มาอยู่นี่เองบอกแล้วใช่ไหมว่าให้อยู่ห้อง" ตุนท์เดินตามหาไม่เจอเลยเข้ามาดูในห้องทำงานและก็เป็นแบบที่เขาคิดไว้จริงๆ "อ้