เขาชายหนุ่มที่รักอิสระ แต่ต้องมาถูกคลุมถุงชนแบบต้านไม่ได้ เขาจึงทำทุกทางเพื่อให้เธอไม่มีความสุขและยอมหย่าไปเอง ความเจ็บปวดของเธอคือความสุขของเขา เธอหญิงสาวหัวอ่อนยอดกตัญญู ทำตามที่บิดาและมารดาบอกตั้งแต่เด็กจนโต จนเมื่อเธอเจอกับเขาชีวิตเหมือนเธอก็ตกนรกทั้งเป็น เขาคือซาตานที่ทำให้เธอทั้งรักทั้งเกลียด ความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัด เมื่อไหร่ที่มันหมดลงก็คือไม่เอาอะไรเลยแล้วเหมือนกัน....
View More" อื้อ...คุณมาร์ตินขา แรงๆเลยค่ะ มินนี่เสียว "
มินนี่สาวน้อยล่าแต้มที่เขาหิ้วมาในวันนี้จากผับของมาคัสผู้เป็นพี่ชาย ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ชายคลั่งรักเมียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีแรกเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นขนาดนี้ เมียพูดอะไรก็เออออตามไปหมด ทาสเมียดีๆนี่เอง คนอย่างเขาไม่มีทางเป็นอย่างมันแน่นอน " มินนี่ เธอนี่มันร่านดีจริงๆ " เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!! เขาตบไปที่สะโพกของคู่ขาอย่างแรง เพื่อสร้างอารมณ์เสียวซ่านให้กับเธอ หลังจากนั้นก็กระแทกกระทั้นแก่นกายใหญ่โตเข้าสู่ร่องรักที่เขาสอดใส่แค่เพียงครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าเธอผ่านอะไรมาเยอะแค่ไหน เขาไม่มีแม้กระทั่งเสียงครวญครางเสียวซ่าน เพราะคนแบบเขาไม่เคยร้องครางให้กับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น มีแต่ผู้หญิงทั้งเมืองที่มาร้องครวญครางใต้ร่างของเขา " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้ออออ " " คุณมาร์ตินขา นอนลงสิคะ เดี๋ยวมินนี่ขึ้นให้ " มินนี่ที่หมายมั่นจะใช้เสน่ห์ของตัวเองเพื่อมัดใจชายหนุ่ม เผื่อว่าเธอจะได้เป็นคุณนายคนที่สองของตระกูลไมโลเวอร์ เพราะคนแรกที่ได้เป็นนายหญิงของไมโลเวอร์ก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร ซึ่งข้อนี้สาวๆทั้งเมืองรู้ดี " ผมไม่ชอบให้ใครขึ้นมาทับบนตัวผม มินนี่ คุณนอนครางหวานๆให้ผมฟังก็พอ ที่เหลือผมจะจัดการเอง " ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก เสียงตอกอัดเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นลั่นห้องจนทำให้มินนี่เสียวซ่านจนแทบขาดใจ เพราะขนาดแก่นกายของมาร์ตินเป็นที่เล่าลือของสาวๆทั้งเมืองว่าทั้งใหญ่ยาวแค่ไหน แล้วรสรักของเขาก็แสนดิบเถื่อน จนสาวๆทั้งเมืองอยากลิ้มลองกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่เธอที่กำลังยั่วยวนเขาอยู่ในตอนนี้ มาร์ตินทำรักกับสาวน้อยร่างบางที่เขาหิ้วมานานนับชั่วโมง จนสุดท้ายหญิงสาวก็เสร็จสมไปก่อนถึงสองรอบ " ไม่ไหวแล้วค่ะ กรี๊ดดดดด!!! " มินนี่ไปถึงปลายทางสีรุ้งก่อนเขาแล้ว มาร์ตินตอกอัดตัวตนใหญ่โตไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้สนใจ จนเวลาผ่านไปสักพักเขาเองก็เริ่มไม่ไหว " ไกล้แล้วมินนี่ " ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ ! ร่างหนาจับกระแทกมินนี่ในท่าคลานเข่าจนสุดท้ายก็ปลดปล่อยลาวาสีขาวขุ่นออกมาจนหมดใส่ในโพรงสวาทของเธอผ่านเครื่องป้องกันอย่างดีของเขา เขาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่ป้องกันกับผู้หญิงคนไหน พวกเธอเหล่านั้นจะไม่มีทางจับเขาได้เด็ดขาด เขามันผู้ชายรักสนุกแต่ไม่ผูกพันธ์ ผู้หญิงที่เขาหิ้วมารู้ข้อตกลงในเรื่องนี้ดี เขามีความสุขส่วนพวกเธอได้เงินกลับไปใช้อย่างสุขสบาย ร่างหนาถอดถอนตัวตนใหญ่โตออกมาจากร่องรักของมินนี่ จากนั้นก็รีบถอดมันออกแล้วทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี พร้อมกับควานหาผ้าขนหนูมาห่อหุ้มกายเอาไว้ " คุณมาร์ตินขา วันนี้ขอมินนี่ค้างด้วยสักคืนนะคะ มินนี่เหนื่อยคงกลับไม่ไหว ก็คุณเล่นสูบพลังงานจากมินนี่ไปจนหมดแล้ว " เธอออดอ้อนเขาด้วยน้ำเสียงน่ารัก ด้วยหวังว่าเขาคงจะให้เธอนอนด้วยสักคืน แล้วเธอจะทำให้เขามีความสุขมากที่สุดจนอยากเรียกใช้เธออีกซ้ำๆเลยล่ะ " ผมไม่เคยนอนกับใครมินนี่ ผมวางเช็คไว้ให้คุณที่หัวเตียง คุณรับมันไปแล้วออกไปได้เลย ผมหวังว่าผมออกมาจากห้องน้ำแล้วจะไม่เจอคุณอีกนะ " ร่างสูงปฏิเสธสาวสวยตรงหน้าอย่างไม่ใยดีเธอก็เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาแล้วก็ต้องผ่านไป สำหรับเขาเธอไม่ได้พิเศษอะไร เขาเซ็นต์เช็คให้เธอแล้ววางไว้ที่หัวเตียงจากนั้นก็ตรงเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ ส่วนทางมินนี่เองได้แต่ทำหน้าไม่พอใจให้เขา หลังจากที่เขาพ้นสายตาไปแล้ว " ผู้ชายอะไรเย็นชาชะมัด อ่อยขนาดนี้แล้วยังไม่มีความรู้สึกอีก ใครได้เป็นผัวช้ำใจตายผู้ชายแบบนี้ " มินนี่บ่นให้มาร์ตินชุดใหญ่เพราะเธอทำถึงขนาดนี้เขายังไม่มีท่าทีสนใจเธอเลย ทำให้เธอรู้สึกโกรธอยู่ไม่น้อย เธอก็สวยไม่ได้น้อยหน้าใครผู้ชายหลายๆคนก็ต่างหมายปองเธอทั้งนั้น เธอบ่นอยู่แบบนั้นพักใหญ่แล้วต้องรีบคว้าเสื้อผ้าน้อยชิ้นที่เธอสวมใส่มาใส่กลับเข้าไปในตัวเหมือนเดิมพร้อมกับไม่ลืมที่จะหยิบเช็คใบนั้นไปด้วย มาร์ตินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอใครแล้วพร้อมกับเช็คที่หายไป " ไปแล้วสินะ ผู้หญิงก็เหมือนกันทุกคนซื้อได้ด้วยเงินน่าเบื่อชะมัด " เขาเกลียดผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินเพราะนั่นหมายถึงเป็นคนที่ไม่มีความจริงใจ เข้าหาเพราะผลประโยชน์เพียงเท่านั้น หากเขาไม่รวยจะมีสักกี่คนที่รักเขาจริงๆ ในขณะที่กำลังแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปยังผับของผู้เป็นพี่ชายอีกครั้ง เพราะตอนนี้เพื่อนๆของเขาก็คงรออยู่ที่นั่นแล้วตอนนี้ยังไม่ดึกมาก แต่ก็มีเสียงโทรศัพท์ของมารดาดังขึ้นมาเสียก่อน เขาได้แต่ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเพราะปกติมารดาจะไม่โทรมาดึกๆดื่นๆแบบนี้ นอกจากมีเรื่องสำคัญมากจริงๆ " ครับแม่ โทรมาดึกๆดื่นๆแบบนี้มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ " มาร์ตินถามปลายสายแต่ดูปลายสายก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร " คืนนี้กลับมานอนที่บ้านได้ไหมลูก หลังจากที่ไปเที่ยวมาแล้วก็ได้ พรุ่งนี้เช้าพ่อกับแม่มีเรื่องจะคุยกับเรา " คุณหญิงฤทัยที่ช่วงหลังๆมานี้เห็นลูกชายคนเล็กเที่ยวบ่อยจนผิดสังเกต จนเธอกลัวว่าลูกชายจะคว้าเอาผู้หญิงที่ไหนไม่รู้เข้าบ้านเธอจึงมีแผนการในใจที่จะกำราบลูกชายคนนี้ไว้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะเคยบังคับมาคัสผู้เป็นพี่ชายแล้วเลือกคู่ชีวิตให้กับผู้เป็นพี่ชายผิดพลาด แต่กับน้องชายเธอคิดว่าเธอดูสาวน้อยคนนี้ดีแล้ว แล้วคิดว่าเหมาะสมกับลูกชายของตัวเองเป็นที่สุด " ก็ได้ครับ เดี๋ยวคืนนี้ผมเข้าไปนอนที่บ้านเรา แค่นี้ใช่ไหมครับแม่ งั้นผมไปหาเพื่อนก่อนนะครับ " มาร์ตินวางสายจากผู้เป็นมารดา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปสู่ผับของมาคัสเพื่อไปดื่มด่ำรสแอลกอฮอล์กับเพื่อนๆ โดยที่มาคัสเองก็แทบจะไม่ไปเหยียบที่ผับอีกเลย นับตั้งแต่มีลูกมีเมียจนผับนั้นแทบจะกลายเป็นเขาเป็นคนดูแลไปแล้วร่างบอบบางใบหน้าแดงซ่านไปด้วยความเขินอาย ก็เล่นมาถามเธอแบบนี้จะให้เธอตอบไปแบบไหนกันเล่า เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตาบ้านี่แพรวพราวชะมัด " ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอเสียวนะ " " อื้อ... " จบคำพูดของเขาก็ตามมาด้วยเสียงร้องครางระงมของร่างบอบบางเพราะเขาเล่นสอดนิ้วมือเข้าไปถึงสามนิ้วเพื่อเปิดทางให้เขาเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และชักเข้าชักออกแบบนั้นอยู่สักพักร่างบอบบางก็เริ่มกระตุก " เนยไม่ไหวแล้วค่ะ จะเสร็จ " เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตอนนี้มองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้าแล้ว มีแค่เขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอปลดปล่อยได้ " ปล่อยมันออกมาตามความต้องการเลยสาวน้อย แล้วเธอจะมีความสุข " กรี๊ดดด!!!เขารัวนิ้วมือเข้าออกจนเธอต้านทานไม่ไหวกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานอาบนิ้วของเขามากมาย แล้วมาร์ตินแทนที่ผละออก แต่เขากลับก้มลงไปปาดเลียน้ำหวานของเธอดื่มกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ถ้าถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครไหม ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่พอเห็นน้ำหวานของร่างบอบบางตรงหน้านี้แล้วมันทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องลงไปฉกชิมจนหมดทุกอยาดหยดแบบนี้ " อื้อ...อย่
" คุณจะทำอะไรคะ " ร่างบอบบางเอ่ยออกมาอย่างตกใจ เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น จนตอนนี้แผ่นหลังของเธอแนบไปกับอกล่ำๆของเขาไปแล้ว พร้อมกับมือหนาของเขาที่กอดเอวของเธอไว้แน่น " ก็เธอยั่วฉันเองไม่ใช่หรอ ฉันอยากแล้วเธอต้องรับผิดชอบ " เขาพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบบนหัวไหล่ของเธอ พร้อมกับหันหน้าให้หันมาหาเขา ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ไกล้กันแค่คืบ ถึงแม้ว่าเขาจะตัวสูงแล้วเธอจะตัวเล็ก แต่เขาก็ก้มหน้าลงมาหาเธอพร้อมกับใช้มือหนาเชยคางของเธอให้เงยขึ้นไปรับกับจมูกโด่งของเขาที่ก้มลงมาคลอเคลียกับจมูกรั้นน้อยๆของเธอ " เนยไม่ได้ยั่วสักหน่อย คุณคิดไปเองต่างหาก " เธอยังคงปฏิเสธเขาเพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะยั่วเขาเลยจริงๆ " เรียกฉันว่าพี่มาร์ตินเหมือนที่เคยเรียกทำไมต้องเรียกฉันว่าคุณมันห่างเหินไม่รู้หรือไง " ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดไปแบบนั้น ทั้งที่เขาควรจะดีใจที่เธอไม่ทำตัวสนิทสนมกับเขา ในตอนนี้กลับอยากให้เธอเรียกเขาว่าพี่อีกครั้งเหมือนที่เธอเคยเรียกก่อนหน้านี้ " ค่ะ พี่มาร์ตินปล่อยเนยก่อนนะคะ เนยจะไปอาบน้ำ " เธอดิ้นขรุกขรักอยู่ในอ้อมกอดของเขาแต่เมื่อเธอยิ่งดิ้นบางสิ่งบางอย่างที่แนบชิดไปกับเรือนร่างของ
คุณหญิงฤทัยไม่พอใจที่ลูกชายของตัวเองทำแบบนี้อย่างมาก " ครับแม่ เพื่อนของผมแค่มาแสดงความยินดีในวันแต่งงานของผมก็เท่านั้น ไม่เห็นมีอะไรนี่ครับ " มาร์ตินตอบออกไปแบบไม่ทุกข์ร้อน พร้อมกับมองหน้าของเนยหวาน ซึ่งเขาเองก็พอใจผลงานในวันนี้เป็นอย่างมาก หลังจากที่เจอนีน่าในวันนั้นก็ทำให้เขาคิดแผนการบางอย่างขึ้นมา จึงติดต่อเธอไปแล้วเธอก็รับงานนี้แต่โดยดี " ถ้าเป็นเพื่อนแกจริงๆแม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่ถ้าจะมาเพื่อมาป่วนงานแล้วล่ะก็ แม่ไม่ยินดีต้อนรับ " คุณหญิงฤทัยมองนีน่าตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับทำท่าทางหงุดหงิดเพราะสาวเจ้าแต่งชุดมาไม่ให้เกียรติสถานที่เอาซะเลย " สวัสดีค่ะคุณแม่ หนูชื่อนีน่านะคะเป็น... " หญิงสาวร่างอวบอัดเลือกที่จะเว้นคำไว้แค่นั้นเพื่อให้ทุกคนภายในงานคิดกันเอาเอง " ฉันมีลูกชายเพียงแค่สองคน แล้วก็ลูกสะใภ้อีกสองคน ส่วนคนอื่นเรียกฉันว่าคุณหญิงฤทัยเถอะ เพราะคำว่าแม่ใช้กับแค่คนสนิทเท่านั้นซึ่งฉันคิดว่าไม่ได้สนิทอะไรกับเธอสักเท่าไร " คุณหญิงฤทัยตอบกลับจนนีน่ารู้สึกหน้าชาพร้อมกันนั้นก็รีบหันไปจับมือของเนยหวานเอาไว้อย่างเป็นห่วง เธอเข้าใจความรู้สึกของลูกผู้หญิงดี แม้จะแต่งงานโดยปราศ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น ซึ่งตอนนี้เนยหวานแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยชุดเจ้าสาวที่สุดเซ็กซี่ที่ในวันนั้นเธอได้ลองใส่กับเจ๊อ้อย " โห....ยัยเนยแกรู้ตัวไหมว่าแกเซ็กซี่มากเลยนะ พอแกอยู่ในชุดเจ้าสาวแล้วดูโตขึ้นมากเลยอ่ะ ฉันชักจะอยากใส่ชุดเจ้าสาวบ้างแล้วสิ " เป็นแพมที่เอ่ยออกมาอย่างอิจฉาเพื่อนนิดๆ ดูเพื่อนเธอคนนี้สิ ทั้งสวยทั้งดูสง่า แตกต่างจากที่เป็นหญิงสาวที่แสนเรียบร้อยของเพื่อนๆ " แกก็พูดเวอร์ไป "เนยหวานตอบกลับเพื่อนทั้งที่ความเป็นจริงเธอก็แอบตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะช่างแต่งหน้าเนรมิตให้เธอสวยมากจริงๆ " ยัยแพมไม่ได้พูดเวอร์ไปหรอก วันนี้แกเป็นเจ้าสาวที่สวยและเซ็กซี่มากจริงๆ พวกฉันยังอิจฉาแกเลยเนี่ย ว่าแต่ชุดเซ็กซี่ขนาดนี้เจ้าบ่าวแกไม่ว่าหรอ ฉันรับรองได้เลยว่าแกลงไปทุกคนต้องมองแกเป็นตาเป็นมันแน่ " บรีสถามอย่างสงสัย ถึงแม้ว่าเธอจะเคยเจอลุคเจ้าสาวที่ดูเซ็กซี่แบบนี้มาไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะมาแนวนี้คิดว่าจะมาแนวหวานซะมากกว่า " นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ ความจริงชุดที่ฉันต้องใส่เป็นอีกชุดนึง แต่ว่าฉันชอบชุดนี้มันขัดใจเขาดีฉันก็เลยแอบให้เจ้าของร้านเอาชุดนี้มาส่ง " เนยห
หลังจากวันนั้นวันที่เขาพาเธอไปที่คอนโด เขาก็ได้พูดคุยกับเธอเพียงแค่ไม่นานก็ปล่อยให้เธอได้นอนพัก พร้อมกับตอนเช้าไปส่งเธอที่บ้านแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเธออีกเลยจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเดือนกว่า แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่เขาและเธอจะต้องหมั้นและแต่งงานกันแล้ว โดยฤกษ์เป็นแม่ของเขาที่เป็นคนหามา และสิ่งที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือเขาไม่ขัดกับความต้องการของแม่แต่อย่างใด เขายังแปลกใจตัวเองอยู่เลย บรรยากาศภายในโรงแรมหรูที่สุดในประเทศที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานแต่งที่แสนอลังการ คุณหญิงฤทัยเชิญเหล่าบรรดาไฮโซมาร่วมงานมากมาย พร้อมกับกองทัพนักข่าวที่มารอทำข่าวของหนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างเขาและเจ้าสาว " เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีนะมึงมาร์ติน ทีนี้ก็คงเหลือแค่พวกกูสินะ " คริสต์ที่เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางวงสนทนาของเพื่อนๆครบแก๊งค์ที่มาร่วมงานในวันนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอายุสี่สิบกันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมีวี่แววที่จะแต่งงานเลยสักคนจะมีก็แค่ไอ้มาคัสที่แต่งไปแล้ว แล้วก็ไอ้มาร์ตินแฝดน้องที่พึ่งโดนสอยไปวันนี้" ก็แค่งานแต่ง แต่ชีวิตของกูยังอิสระเหมือนเดิม " มาร์ตินพูดอย่างไม่ใยดีเพราะเขาไม่คิดว่าคนแบบเขาจะรักผู้หญิงอย่างเธอได้ เพร
" พี่มาร์ตินพาเนยมาที่นี่ทำไมคะ แล้วที่นี่ที่ไหนกัน " ร่างบอบบางถามเขาออกไปเพราะเธอไม่เคยมาที่นี่ แถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยเธอควรจะกลับถึงบ้านตั้งนานแล้ว" คอนโดฉันเอง " " แล้วพี่พาเนยมาที่นี่ทำไมคะ เนยไม่ได้อยากมาสักหน่อย อีกอย่างตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วยพี่พาเนยไปส่งที่บ้านได้แล้วค่ะ " เขาหันมามองหน้าเธอพร้อมกับทำท่าทางหงุดหงิด" บ้านเธอมันไม่หายไปไหนหรอกเนยหวานแล้วคืนนี้เธอต้องค้างกับฉันที่นี่ โทรไปบอกแม่เธอซะ " เขาออกคำสั่งกับเธอ แต่มีหรือที่เธอจะทำตามเขาง่ายๆ " ไม่ค่ะ เนยจะกลับบ้าน ถ้าพี่ไม่ไปส่ง เนยกลับเองก็ได้ "ร่างบอบบางไม่พูดเปล่าแต่เธอเลือกที่จะเปิดประตูรถแล้วลงไปทันที แต่ยังก้าวไปไม่ถึงไหนก็ต้องล้มลงเพราะตอนนี้ขาของเธอมันเจ็บมาก " โอ้ย! " มาร์ตินที่เห็นเธอล้มลงอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรถเขาก็รีบลงจากรถแล้วเดินมาหาเธอพร้อมกับพยุงตัวเธอลุกขึ้น " ถ้าเธอกลับบ้านสภาพนี้แม่เธอได้เป็นห่วงเธอแน่ ทำตามที่ฉันบอกอย่าดื้อให้มันมากนัก ไม่อย่างนั้นฉันจะปราบพยศเธอเอง " ร่างบอบบางชั่งใจสักพัก จากนั้นก็ยอมจำนนควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบอกกับแม่ของเธอว่าวันนี้คงกลับบ้านไม่ได้ จะนอนค้างที่คอนโ
Comments