LOGINเงินที่วางกองตรงหน้าไม่ใช่น้อย แม้จะพยายามเร่งมือแล้ว แต่ก็ยังไม่ลดลง เงินแสนแรกหมดไปในช่วงหกโมงเย็น แสนที่สอง กำลังค่อยลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่มือที่หยิบจับแทบจะตลอดเวลาก็แอบเมื่อยมือ
" เหนื่อยก็พัก จะเร่งอะไร " คนที่กำลังอ่านแผนการธุรกิจ บอกเสียงเรียบ
คนที่นั่งใส่เงินเงยหน้าขึ้นมา อยากจะบอกว่า แล้วตะกี้ใครเร่ง แต่ก็ไม่กล้า
" จะเถียงหรอไง ทำปากแบบนั้น " เค้ายังดุต่อเนื่อง แล้วเงยหน้าขึ้นมา มองออกไปข้างนอก ฟ้ามืดแล้ว
" พนักงานที่นี่มีสามร้อยกว่าคน ถ้าเธอนับไม่ครบคน คนที่ไม่ได้ก็จะผิดหวัง คนที่ได้ก็ดีใจไป "
เค้าบอกแล้วแอบกดดัน คนทำงานเห็นๆ
" ถ้าหมดเวลาโอทีแล้วยังไม่ครบ พรุ่งนี้ดิฉันจะรีบทำให้นะคะ "
วิมลินบอกกับเจ้านาย เข้าใจหัวอกคนทำงานเช่นกัน
" แล้ว ทำไมไม่คิดจะอยู่ต่อให้เสร็จ "
" ไม่สะดวกเลยค่ะ แม่รออยู่บ้าน คงเป็นห่วง ถ้ากลับผิดเวลา "
เธอบอกกับเค้า แล้วก้มหน้าลง รู้สึกผิดว่า บอสจะหาว่าเธอ เรื่องมากไหม หรือ ไม่ทุ่มเทกับงาน
บอสที่มองนาฬิกาบนโต๊ะ แล้วเก็บแฟ้มลง เดินมาที่โซฟา ก่อนจะนั่งลงใกล้ๆ
" เหลืออีก1ชั่วโมงมาทำให้ได้เยอะที่สุดนะ "
บอสหนุ่มวัยสามสิบกว่ามองเงินสด และซองสีขาวที่วางอยู่ แล้วจัดการลงมือทันที วิมลินยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย เค้าไม่ใช่คนแบบที่จับต้องไม่ได้สักนิด คุณคีตะ เป็นคนดี ในแบบของเค้านี่แหละ
" บ้านอยู่แถวไหน " คนที่อยากรู้ถามออกมา
" ลงสถานีรถไฟฟ้า ไปนิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ " วิมลินบอกจุดที่บ้านพัก แล้วมองเค้า ที่ตั้งใจทำงานเต็มที่
" อยู่กับแม่สองคนหรอ "
" ค่ะ พ่อเสียตั้งแต่เด็กแล้ว " เธอบอกกับเค้า
" เสียใจด้วยนะ " เจ้านายบอกอย่างเห็นใจ เข้าใจว่าคนตรงหน้าลำบากไม่น้อย
" ขอบคุณนะคะบอส "
หญิงสาวยิ้มให้กับเค้า แล้วบรรยากาศก็กลับมาเงียบ กริบดังเดิม มีแต่เสียงกระดาษ เสียงเงินที่ถูกนับ และเหมือนจะได้ยิน เสียงหัวใจที่เต้นแรง แข่งกัน หรือเปล่า
เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกโอทีดังขึ้น เงินที่กองอยู่ตรงนั้น หมดลงไปแล้วเรียบร้อย วิมลินยิ้มกว้าง กับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง พรุ่งนี้ พนักงานที่ได้รับค่าขนม คงดีใจมากแน่ๆ
" เก็บเอาไว้ในเซฟก่อน " บอสเดินไปที่เซฟ แล้วหยิบซองเงินยัดลงไปในนั้น ก่อนจะกดรหัส
" พรุ่งนี้เช้า มาทำงานแล้ว ก็ขึ้นมา นับเป็นปึกละร้อย แล้วเอาลงไปแจกได้เลย " คนใจดีบอกอีกครั้ง
" ขอบคุณมากนะคะ บอส บอสใจดีมากๆเลยค่ะ พี่ๆพนักงานคงต้องขอบคุณบอสกันใหญ่ ที่ได้ค่าขนม "
คนที่รับรู้แผนการ ในครั้งนี้เอ่ยชมออกมา คุณคีตะ ไม่ต้องเสียเงินหลายแสนก็ได้ ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ แต่คุณคีตะก็ทำ
" ต้องขอบคุณเธอสิ ไม่ใช่ฉัน " เค้าย้อนกลับไป
" ขอบคุณดิฉันทำไมละคะ ไม่ใช่เงินดิฉันสักหน่อย " วิมลิน ย้อนกลับ
คนที่พูดออกไปตามใจคิด ส่ายหน้า
" ก็เธอทำงานหนักเลย " เค้าเฉไฉ
" ไปล้างมือ กลับบ้านได้แล้ว " บอสตัดบท แล้วออกไปยืนรอข้างนอกห้อง
ชั้นผู้บริหารเงียบกริบ ไร้ผู้คน หญิงสาวเดินตัวลีบออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายใหญ่ แล้วมองคนที่ยืนรออยู่ที่หน้าลิฟต์ แล้ว
ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับที่เค้า ให้เธอเดินเข้าไปก่อน หญิงสาวมองภาพในลิฟต์ที่ตัวเองยืนเคียงข้างกับเค้า แล้วแอบก้มหน้ายิ้ม
ประตูเปิดที่แผนกบัญชีที่ไฟยังเปิด พนักงานนั่งอยู่สองสามคนมองคนที่เดินเข้ามา แล้วยิ้มให้
" โอทีหรอ มาลิน " เค้าปล่อยให้เธอเดินออกมาคนเดียว แล้วตัวลงก็กดลิฟต์ ลงไปข้างล่าง
" ค่ะ " เจ้าตัวเดินเร็วๆ แล้วมองเห็นหัวหน้าที่นั่งอยู่ด้านใน จึงเดินไปหา รายงานความเรียบร้อย
" เรียบร้อยแล้วค่ะพี่เจน พรุ่งนี้บอสบอกให้ไปเอามาแจกได้เลย " หัวหน้างานยิ้มรับ
" เหนื่อยเลยสิเรา รีบกลับเถอะ จะดึกไปมากกว่านี้ "
" งั้นมาลินขอตัวนะคะ " น้องใหม่เดินกลับมาที่โต๊ะเก็บของส่วนตัว แล้วเก็บกระเป๋า เพื่อจะกลับบ้าน หมดงานไปอีกหนึ่งวัน
ประตูหน้าบ้านเปิดออกในช่วงดึกกว่าปกติ คนที่รออยู่ ยิ้มกว้าง เมื่อเห็นหน้าลูกสาว ที่บอกแต่ว่า วันนี้หนูมีข่าวดีจะเล่าให้แม่ฟัง ก่อนจะวางสายไป ระหว่างทางกลับบ้าน
" หิวไหมลูก " คำแรกที่แม่ถามเมื่อเห็นหน้า ทำเอาคนที่ลืมหิว รู้สึกตัวทันที
" มากๆเลยค่ะ " คนที่ทำงานมาทั้งวันบอกเสียงอ้อน แล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ภายในครัว
" หนูไปนับเงินล้านมา นะแม่ " ลูกสาวบอกยิ้มๆ แล้วตักอาหารมื้อดึก เข้าปาก
" บอส เค้าจะแจกค่าขนม คนละสองพัน เค้าเลย ให้หนูเอาเงินใส่ซอง " ลูกสาวขยายความ แล้วยิ้มสายตาเป็นประกาย
" พรุ่งนี้ได้เงินพิเศษสองพัน เรากินอะไรกันดี "
ลูกสาวตักไข่เจียวหมูสับใส่ปาก ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ จะเป็นเจ๊มาลิน ซื้อกุ้งมาให้แม่กินให้ได้เลย
คนเป็นแม่ส่ายหน้าแต่ยิ้มกว้าง ที่มาลินมีความสุขมาก เพียงแค่ได้ทำอะไรๆให้คนอื่น
" พี่ๆเค้าชวนไปกินข้าวข้างนอกบ้างไหมลูก " คนเป็นแม่ ถามเพราะอยากให้ลูกสาว ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นบ้าง มาลินผูกติดอยู่กับแม่ เพียงคนเดียวมาตลอด หากวันใด นางเกิดไม่อยู่แล้ว มาลินของแม่จะเป็นอย่างไร
" สิ้นเดือนน่าจะไปกินปิ้งย่าง แต่ว่า " ลูกสาวที่ห่วงแต่แม่ เงยหน้ามอง แล้วพูดต่อ
" เดี๋ยวหนูโทรบอกอีกที ถ้ากลับดึก "
คนฟังยิ้มแล้วพยักหน้ารับรู้ ลูกสาวก็พยายามเข้าสังคมเช่นกัน ถ้าทำงานแล้วกลับบ้าน ไม่สนใจใคร ก็ทำได้ แต่ก็ไม่ดีนัก แม้จะไม่สนิทสนมกันมากนัก แต่ก็น่าจะรู้จักรู้ใจกันเอาไว้บ้าง แม่สอนลูกสาวคนเดียว อย่างนั้น เสมอมา
" น้องมาลิน บอสมาแล้วนะ " ทีมเลขาโทรลงมาบอกให้รู้ หญิงสาวยิ้มกว้าง แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานของหัวหน้าแผนกทันที
" มาลินขึ้นไปเอาเงินก่อนนะคะ "
ประตูหน้าห้องเคาะเบาๆ ก่อนจะได้รับคำอนุญาตให้เข้าไป ชายหนุ่มนั่งอยู่แล้ว เงยหน้าขึ้นมา พนักงานสาวตัวเล็ก ที่ยิ้มกว้างเดินเข้ามา
เซฟที่อยู่ในห้องถูกไขออกแล้วเค้าก็หยิบซองเงินออกมา ก่อนจะวางเอาไว้ให้ที่โซฟา
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับที่แม่บ้าน เดินถือถาดกาแฟ มาเสิร์ฟเจ้านาย
ชายหนุ่มหยิบซองเงินมา2ซอง แล้วเดินไปหาแม่บ้านวัยกลางคน
" อันนี้ให้ป้าเอาไว้ซื้อขนม ส่วนซองนี้ ให้ค่าขนมลูกชาย "
วิมลินน้ำตาคลอเบ้า เธอจะเป็นแฟนคลับคุณคีตะ คนดีคนนี้ แน่นอน
ร้านอาหารในช่วงค่ำ มีแขกเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ที่จอดรถแน่นขนัดเต็มพื้นที่ พนักงานรับรถ ละล้าละลัง ที่เห็นว่า รถคนสำคัญ ขับเข้ามา แต่ไม่มีที่จอด" ไม่เป็นไร เดี๋ยวนิ้งไปจอดทางโน้นเอง "หลานสาวที่พ่วงตำแหน่งสะใภ้ บอกกับพนักงานแล้วขับรถเลยไปจอดรถของตัวเองตรงที่ไกลจากร้านออกไป เกือบร้อยเมตรนักศึกษาแพทย์เดินมาจากอีกทางในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะยิ้มทักทาย กับพนักงานที่ร้าน" คุณหมอครับ คุณนิ้ง ไปจอดรถทางโน้นครับ " คนที่บอกด้วยความเป็นห่วง บอกกับคนที่เพิ่งมาถึง แล้วชี้ไปที่มีรถจอดยาวเหยียด" ขอบคุณมากครับ " คนที่เป็นห่วงอยู่แล้ว เดินไปตามทางทันทีรถยุโรปคันสวยจอดเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวจะลง คนที่เดินตามมา ก็เคาะกระจกทันทีกระเป๋าถือใบสวย ถูกหยิบลงมา พร้อมกับกุญแจรถและโทรศัพท์ คนที่ยืนรออยู่แล้ว คว้ากระเป๋ามาถือ แล้วโอบไหล่คนข้างตัวให้เดินข้างใน เรื่องเล็กน้อย แต่มันมีค่า เหลือเกิน" นิ้งไม่ต้องขับรถเองแล้วมั้ง เหนื่อยแย่ " แดนไทพูดเพราะห่วงมาก ไม่อยากให้วนหาที่จอดรถแบบนี้" ถ้าไทอยากให้นิ้ง ทำแบบนั้น นิ้งก็จะตามใจ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นก่อนจะสว่าง คนที่เพิ่งหลับไปได้ไม่นาน ลืมตาขึ้นมา แล้วมองคนที่หลับอยู่ข้างๆ ผมยาวสยายที่อยู่บนอก ทำให้ต้องค่อยๆ ระวังมืออ่อนโยนรวบผมอย่างเบามือ แล้วขยับตัวคนที่นอนบนอกของตัวเองให้กลับไปหนุนหมอน ห่มผ้า แล้ว จูบเบาๆอีกครั้งไฟในห้องอ่านหนังสือเปิดขึ้นให้ความสว่าง ข้างนอกยังมืดอยู่ แต่คนที่ต้องตื่นแต่เช้า กลับไม่ง่วงเลย เพราะเมื่อคืน ยอมแลกเวลานอน เวลาอ่านหนังสือ แล้วไปใช้เวลาด้วยกันใบหน้าสุขสมแดงก่ำ ยามถูกขยับโยกบนร่างกายเปลือยเปล่า เป็นความสุข เป็นกำลังใจ ให้คนที่ต้องเรียนหนัก อ่านหนังสือโหดมีแรงขึ้นสู้ เสียงเรียกชื่อที่ดังออกมาจากปาก อ่อนหวานกว่าอะไรทั้งนั้น จนคนที่กำลังจะยั้งใจ ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วนักศึกษาแพทย์ยิ้มกว้างแล้วเปิดตำรา ตั้งสมาธิโฟกัสกับหนังสือตรงหน้า ก่อนที่จะไม่ทันไปมากกว่านี้เสียงนาฬิกาที่ปลุกตามเวลาของตัวเอง ทำให้คนที่รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาก่อน แล้วพลิกตัวนอนหงายเลื่อนมือไปข้างๆ หมอนอีกใบเย็นเฉียบ เพราะคนข้างตัว คงจะตื่นนา
แฟ้มเอกสารปิดลง พร้อมเสียงปรบมือ ดีล ลงทุนครั้งแรก ของคุณนิ้ง เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว คู่ค้า ยิ้มให้กับ ท่านรอง ก่อนจะยื่นมือออกไป สัมผัสเบาๆ แล้วถ่ายรูปด้วยกัน เป็นที่ระลึก" ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ที่ไว้ใจเคทีกรุ้ปของเรา นิ้งจะทำให้เต็มที่ "ดีลแรกมูลค่าเกือบเก้าหลัก ทำให้พนักงานที่ทำงานด้วยกัน เห็นฝีมือ คุณนิ้ง ไม่ใช่เด็กเส้น อย่างเดียว แต่เป็นเด็กเส้น ที่มีฝีมือพนักงานในห้องประชุมทยอยเดินออกกันไปหมดแล้ว มีเพียงเลขาสาว และ คู่ค้า ที่ยังนั่งคุยกันอยู่" ไม่เจอกันนาน นิ้งดู มีความสุขมากๆ " ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ มองรุ่นน้องที่ตัวเองเคยสนใจ แล้วบอกออกมา" นิ้ง หมั้นแล้วค่ะ พี่คอป แต่ไม่ได้บอกใครเลย เพราะว่า ไทเค้ายังเรียนไม่จบ " คนที่พอรู้ข่าวมาบ้าง พยักหน้า รับรู้" ยินดีด้วยนะครับ วันไหนว่างๆ นัดมาเจอกันหน่อย พี่จะเลี้ยงข้าว แสดงความยินดี " 
" ไท ไปแล้วนะครับ ค่ำนี้เจอกันนะ " คนที่ต้องไปเรียนแต่เช้า ดึงภรรยามากอด แล้วมองถุงกระดาษสีชมพูหวาน ที่อยู่ในมือ" ขอบคุณสำหรับอาหารเช้านะครับ " เค้าบอกอีกที ทำเอาคนทำอาหารเช้า ยิ้มแก้มปริ" ไปได้แล้ว พูดเยอะจัง " คนเขินจัด แก้เขินด้วยการไล่ให้เค้าออกไป แต่มือยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอว" อ้าว ไหนจะให้ไป ทำไมไม่ปล่อยมือ "" ไท อะ ล้อหรอ "" ไม่ได้ล้อซักหน่อย ก็นิ้งของไท น่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้ จะให้ไท ทำยังไงได้ " แดนไท กอดแล้วหอมแก้มบางอีกครั้ง" ไปจริงๆแล้วครับ พี่ปีสี่ต้องไปแล้ว " พี่ปีสี่บอกเสียงเข้ม แล้วเปิดประตูห้อง เดินออกไปอย่างรวดเร็วคนที่อยู่ในห้อง ยิ้มเต็มหน้า มองมือของตัวเอง ที่สวมแหวนหมั้นเอาไว้ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวเสื้อผ้าชุดทำงานที่ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อย ถูกหยิบนำมา สวมใส่เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ร่างกายบอบบา
คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่เป็นเรือนหอ ตกแต่งอย่างสวยงาม สมบูรณ์แบบ ผู้เป็นแม่ มองลูกสาว ที่กำลังจะย้ายออกจากบ้าน ด้วยความรู้สึกที่บอกออกมาไม่ได้ ตลอดเวลาที่ตกแต่งคอนโด ช่วยลูกย้ายของเข้ามา ก็พยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก เพราะรู้และเข้าใจในธรรมชาติ แต่พอถึงคราว จะต้องมาส่งจริงๆ" ทำไม ทำหน้าแบบนี้ละ "คนข้างตัว มองภรรยา ที่ทำหน้าเศร้าสร้อย พิธีการวันนี้ เสร็จเรียบร้อย อบอุ่น และสวยงามอย่างดี แต่พอมาส่งลูกที่คอนโด ผู้เป็นแม่ กลับทำหน้าตาไม่สู้ดีนัก" พี่คีธ มาลินห่วงลูก " ผู้เป็นสามีโอบเอวภรรยา มาแนบชิดกับตัวเอง แล้วจูบที่หน้าผากเบาๆ" ไหนบอกพี่ว่า นิ้งโตแล้ว " คนเป็นสามีย้อนคำพูด" ก็ห่วง จะกินจะอยู่ยังไง " ลูกสาวที่มีแต่คนฟูมฟักเอาใจ ตลอดมา ต้องมาเป็นแม่บ้าน ให้สามีแล้ว" บ้านโน้นเค้าไม่ปล่อยให้ลูกสะใภ้เค้าลำบากหรอก ในตู้เย็น ของกิน คาวหวาน แน่นไปหมด แม่บ้าน
บ้านหลังใหญ่ของว่าที่เจ้าสาวมีรถวิ่งเข้าวิ่งออก ตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน ทีมงานเว็ดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพ มองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า ด้วยความตื่นเต้น งานหมั้นที่เป็นงานภายในของครอบครัว ถูกวางแผนจัดงาน เพื่อความเป็นส่วนตัวของทั้งสองบ้าน เนื่องจากฝ่ายชาย ยังเป็นเพียงนักศึกษาแพทย์ ทำให้การหมั้นหมายในวันนี้ เป็นเรื่องภายใน เท่านั้นช่างแต่งหน้ามือทองระดับประเทศ และช่างทำผมมองหญิงสาวตรงหน้า ที่แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่าง น้อยแต่มาก ที่แท้ทรู บ้านหลังใหญ่ ราคาหลายสิบล้าน และ ตำแหน่งบุตรสาวคนโตของเคทีกรุ้ป ไม่ได้ทำให้ เว่อร์วังอลังการเลย แต่ทุกอย่าง เหมาะสม และลงตัว แต่สง่างามมาก จริงๆ" ขอบคุณมากนะคะ ที่หาคิวให้นิ้ง " ว่าที่เจ้าสาว ยกมือไหว้ทีมช่าง ที่มางานด่วนให้ในวันนี้" เป็นเกียรติและยินดีมากกว่าค่ะ ที่ได้มาดูแล วันสำคัญให้น้องๆทั้งสองคน







