LOGIN" อะไรนะคะ "
วิมลินถามเพราะไม่แน่ใจว่าฟังผิดไปหรือเปล่า บอสบอกว่า ให้นับเงินหนึ่งล้านบาท ใส่ซองละสองพัน ในห้องนี้
" อืม มันจะแตกตื่นไหม ถ้ามีคนอื่นรู้ ว่าจะได้ค่าขนมกัน "
เจ้านายมีเหตุผลมารองรับ แล้วพยักหน้าไปทางโซฟาตัวใหญ่ ที่อยู่ด้านในของห้อง
" ทำโอทีไปด้วยเลย พรุ่งนี้ได้รับเงินตอนเช้า คงจะดีใจ "
คนทำงาน ที่ได้เงินพิเศษแบบนี้ ดีใจแน่นอน เงินค่าขนมคนละสองพันบาท อาจจะไม่มากมายนัก ทำสำหรับคนรวย แต่สำหรับพนักงานกินเงินเดือน ที่มีรายได้ประจำ แต่รายจ่ายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เงินส่วนนี้คงต่อความสุข ต่อลมหายใจได้อีกหลายวัน สำหรับบางครอบครัว
เงินสดมัดแรก ถูกตัดซีลออกจากพลาสติกช้า ก่อนจะคลี่เงินออก แล้วเริ่มทำการสอดใส่ซองทันที
เสียงเคาะประตูหน้าห้อง ดังขึ้นมา พร้อมประตูเปิดออก ชายหนุ่มมองคนที่นั่งอยู่ แล้วส่งเอกสารให้บอสหนุ่ม ที่เล่นอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ถึงได้ใจดีขึ้นมา
" เอกสารรออนุมัติสุดท้ายครับ วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว บอสจะไปไหนหรือเปล่าครับ "
เลขาแจ้งรายละเอียดวันนี้ครบถ้วน แล้วมองเจ้านายด้วยความสงสัย
" ไม่นะ ว่าจะอ่านเอกสารก่อน ถ้าไม่มีอะไรก็กลับได้เลย "
เจ้านายบอกอย่างใจดี แล้วพยักหน้าย้ำบอกให้ออกไปได้ คนที่อยู่กันมานานหลายปี มองหน้าแล้วยิ้มให้ เหมือนจะอยากถามแต่ก็ไม่แน่ใจ ว่าจะถามดีหรือเปล่า
นาฬิกาข้างผนัง บอกเวลาเลิกงาน คีตะที่อ่านเอกสารในไอแพดเงยหน้าขึ้นมา มองคนที่นั่งอยู่
" ได้เยอะหรือยัง " เจ้านายถามคนที่นั่งนับเงิน มาสักพักแล้ว
" ประมาณ50-60ซองค่ะ "
" ไปเบรคก่อนก็ได้ วันนี้ถ้าไหว ขอสักสามร้อยซอง "
เจ้านายบอกเสียงราบเรียบ แต่มันคือความกดดัน ที่คนนับเงินใส่ซองต้องเจอ
ตอนแรกตั้งใจว่า อยากจะลุกไปหาอะไรกินรองท้องก่อน แต่พอบอสบอกออกมาแบบนี้ คนที่อยากทำได้ดี จริงยิ้มรับ แล้วลงมือ
คีตะแอบอมยิ้มออกมา แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป เสียงคนข้างนอก กดโทรศัพท์เข้ามาสอบถามบอสครั้งสุดท้าย
" บอสคะ มีอะไรที่จะสั่งอีกไหมคะ พอดีข้างนอกจะกลับกันแล้ว ค่ะ "
ทีมเลขาอยู่จนเกือบห้าโมงเย็น โทรเข้ามา หลังจากที่ยังไม่เห็นบอส เดินออกไป
" มีอะไรกินบ้าง จัดมาเยอะหน่อยนะ หิว "
คำสั่งของบอสบอกกลับไป คนที่นั่งอยู่ ท้องร้องขึ้นมาทันที ตั้งแต่เที่ยงจนห้าโมงเย็น อาหารกลางวันย่อยไปหมดแล้ว
คนที่ได้รับคำสั่ง เดินเข้าไปที่มุมกาแฟทันที ก่อนจะเตรียมอาหารว่าง หลายชนิด แล้วเดินเข้ามาเสิร์ฟ
" เอาไว้นี่เลย " เจ้านายบอกแล้วชี้มาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เพราะตรงโซฟา มีใครบางคนนั่งยึดครองอยู่
" ขอบใจมาก กลับได้เลยนะ เดี๋ยวก็จะออกไปแล้วละ รอให้รถน้อยลงหน่อย "
เลขาสาวใหญ่พยักหน้ารับรู้ แล้วมองพนักงานบัญชีที่กำลังเร่งมือ อยู่คนเดียว เซอร์ไพรส์แบบนี้ เคยเกิดขึ้น แม้ไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นไปได้ แต่คราวก่อน ก็เป็นพวกข้างบนนี้ ช่วยกันใส่ซอง ทำไมรอบนี้ ถึงได้ให้พนักงานฝ่ายบัญชีขึ้นมาถึงข้างบน แปลกจริง
เค้กชิ้นเล็กหลายชิ้น วางใส่จานใบสวย น้ำส้ม ในขวด แซนวิชอีกจาน และ น้ำเปล่า วางอยู่ในถาดไม้ขนาดใหญ่
คีตะเปิดฝาน้ำส้มแล้ว เทใส่แก้วที่วางเอาไว้ แล้วมองคนที่อยู่ในห้องด้วยกัน
" วิมลิน " เสียงเรียกชื่อดังออกมา พร้อมกับที่คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้น
" คะ "
" มานี่สิ " บอสเรียกลูกน้องให้เข้าไปหา
" ทานไหม ไปล้างมือสิ " คนที่ไม่ค่อยจะใจดี บอกออกมา แล้วชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ คนที่เป็นลูกน้อง นิ่งไปทันที
" ไปล้างมือ " เจ้านายบอกเสียงดุอีกที แล้วมองคนที่เดินไปที่ห้องน้ำ ส่วนตัวของตัวเอง
กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศหอมละมุนทั่วห้องน้ำสีโทนดำ ภายในสะอาด เรียบร้อย ไม่มีที่ติ มือบางกดน้ำแล้วล้างมือ ก่อนจะเช็ดด้วยกระดาษแล้วเปิดประตูออกมา
" คีธ วันนี้แม่นัดน้องริสา คีธรีบออกมานะลูก " วีดีโอคอลที่โทรมา บอกใจความสำคัญทันที ลูกชายส่ายหน้าแล้วยิ้มกว้าง
" ไม่ว่างครับ ทำงาน " คีตะปฏิเสธออกไป แล้วมองขนมชิ้นเล็กที่วางอยู่ แล้วมองไปที่ห้องน้ำ ก็เห็นว่า เธอ ยืนชะงัก อยู่กับที่
" ไม่ว่างครับ ทำงานจริงๆ แค่นี้นะครับ "
คนที่ไม่ทันจะได้อ้อนลูกถูกกดวางสายไปแล้ว หญิงสาวยืนตัวลีบ เดินออกมาอย่างระมัดระวัง
" เลี้ยงขนมแล้ว ต้องทำให้เสร็จนะ " เจ้านายบอกกับลูกน้อง แล้วชี้ไปที่เก้าอี้ ฝั่งตรงข้ามของตัวเอง
เค้กชิ้นเล็กถูกยื่นไปให้แล้วพยักหน้าบอกให้ชิม มือบางรับจานขนมมา แล้วตักเค้กใส่ปากตัวเองช้าๆ คนที่ชอบของแบบนี้ ยิ้มกับตัวเอง แล้วเคี้ยวขนมก่อนจะมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามที่ยังไม่ทานอะไรเลย
" ไม่ทานเหรอคะ " คำถามที่แม้จะเกร็ง แต่ก็ยังอยากถาม วันนี้คุณคีตะไม่ใช่คนที่อยู่บนเวที อีกแล้ว แต่เค้าเป็นชายหนุ่มรูปหล่อสุภาพ และมีน้ำใจตรงหน้าเธอ วิมลินจึงกล้าถามออกไป
" ทาน " เค้าบอกเพียงเท่านี้ แล้วหยิบแซนวิชชิ้นเล็กเข้าปาก ก่อนจะตามด้วย อีกชิ้น และ อีกชิ้น จนหมดในที่สุด
อาหารว่าง หมดแล้วเรียบร้อย มือบางหยิบถาดออกจากโต๊ะแล้วเดินออกมา ตั้งใจจะไปเก็บถาดด้วยตัวเอง
" รู้หรอ ว่าแคนทีนของชั้นนี้อยู่ตรงไหน "
พนักงานใหม่ ที่เพิ่งขึ้นมาไม่ถึงเดือน หยุดกึกที่หน้าประตู
" ไปสิ จะพาไป "
เจ้านายบอกแล้วลุกขึ้น เดินนำออกไปข้างนอก ผ่านโต๊ะทีมเลขา ผ่านห้องประชุมเล็กใหญ่ ก่อนจะผลักประตูบานเล็ก ที่ถ้าไม่สังเกตเห็นก็จะไม่เห็นเลยว่า มีมุมลับซ่อนอยู่ ชายหนุ่มเปิดประตูค้างเอาไว้ให้คนที่เดินตามมา เดินเข้ามา
วิมลินไม่รู้ว่า ที่ออฟฟิศอื่น แคนทีนเป็นยังไงแต่ที่นี่ คล้ายกับมินิมาร์ทเล็กๆที่มีขนม เครื่องดื่ม และ ผลไม้ จัดวางเอาไว้อย่างสวยงาม
" ขอบคุณนะคะ ที่พามาส่ง " คนที่ตั้งใจจะล้างจานล้างแก้ว เปิดน้ำในซิงค์ล้างจาน แต่คนที่พามา กลับปิดน้ำทันที
" ไม่ใช่หน้าที่ พรุ่งนี้แม่บ้านคงแตกตื่น ถ้าฉันล้างจานเอง ไปได้แล้ว "
เค้าบอกเสียงดุ แล้วเดินออกมา ทิ้งระยะห่าง ให้คนที่เดินตามออกมา
หัวหน้าแผนกบัญชี มองเจ้าของโต๊ะที่ป่านนี้ยังไม่กลับลงมา หลังจากรับคำสั่งสายฟ้าฟาดแบบงงๆในช่วงบ่าย ให้เอาเงินสดขึ้นไปส่งให้ แล้วขอตัวพนักงานใหม่เอาไว้ก่อน คนที่แอบคิดอะไรบางอย่างยิ้มออกมา แต่ก็ไม่กล้าคิด ว่ามันจะจริงหรือไม่จริง
ร้านอาหารในช่วงค่ำ มีแขกเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ที่จอดรถแน่นขนัดเต็มพื้นที่ พนักงานรับรถ ละล้าละลัง ที่เห็นว่า รถคนสำคัญ ขับเข้ามา แต่ไม่มีที่จอด" ไม่เป็นไร เดี๋ยวนิ้งไปจอดทางโน้นเอง "หลานสาวที่พ่วงตำแหน่งสะใภ้ บอกกับพนักงานแล้วขับรถเลยไปจอดรถของตัวเองตรงที่ไกลจากร้านออกไป เกือบร้อยเมตรนักศึกษาแพทย์เดินมาจากอีกทางในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะยิ้มทักทาย กับพนักงานที่ร้าน" คุณหมอครับ คุณนิ้ง ไปจอดรถทางโน้นครับ " คนที่บอกด้วยความเป็นห่วง บอกกับคนที่เพิ่งมาถึง แล้วชี้ไปที่มีรถจอดยาวเหยียด" ขอบคุณมากครับ " คนที่เป็นห่วงอยู่แล้ว เดินไปตามทางทันทีรถยุโรปคันสวยจอดเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวจะลง คนที่เดินตามมา ก็เคาะกระจกทันทีกระเป๋าถือใบสวย ถูกหยิบลงมา พร้อมกับกุญแจรถและโทรศัพท์ คนที่ยืนรออยู่แล้ว คว้ากระเป๋ามาถือ แล้วโอบไหล่คนข้างตัวให้เดินข้างใน เรื่องเล็กน้อย แต่มันมีค่า เหลือเกิน" นิ้งไม่ต้องขับรถเองแล้วมั้ง เหนื่อยแย่ " แดนไทพูดเพราะห่วงมาก ไม่อยากให้วนหาที่จอดรถแบบนี้" ถ้าไทอยากให้นิ้ง ทำแบบนั้น นิ้งก็จะตามใจ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นก่อนจะสว่าง คนที่เพิ่งหลับไปได้ไม่นาน ลืมตาขึ้นมา แล้วมองคนที่หลับอยู่ข้างๆ ผมยาวสยายที่อยู่บนอก ทำให้ต้องค่อยๆ ระวังมืออ่อนโยนรวบผมอย่างเบามือ แล้วขยับตัวคนที่นอนบนอกของตัวเองให้กลับไปหนุนหมอน ห่มผ้า แล้ว จูบเบาๆอีกครั้งไฟในห้องอ่านหนังสือเปิดขึ้นให้ความสว่าง ข้างนอกยังมืดอยู่ แต่คนที่ต้องตื่นแต่เช้า กลับไม่ง่วงเลย เพราะเมื่อคืน ยอมแลกเวลานอน เวลาอ่านหนังสือ แล้วไปใช้เวลาด้วยกันใบหน้าสุขสมแดงก่ำ ยามถูกขยับโยกบนร่างกายเปลือยเปล่า เป็นความสุข เป็นกำลังใจ ให้คนที่ต้องเรียนหนัก อ่านหนังสือโหดมีแรงขึ้นสู้ เสียงเรียกชื่อที่ดังออกมาจากปาก อ่อนหวานกว่าอะไรทั้งนั้น จนคนที่กำลังจะยั้งใจ ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วนักศึกษาแพทย์ยิ้มกว้างแล้วเปิดตำรา ตั้งสมาธิโฟกัสกับหนังสือตรงหน้า ก่อนที่จะไม่ทันไปมากกว่านี้เสียงนาฬิกาที่ปลุกตามเวลาของตัวเอง ทำให้คนที่รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาก่อน แล้วพลิกตัวนอนหงายเลื่อนมือไปข้างๆ หมอนอีกใบเย็นเฉียบ เพราะคนข้างตัว คงจะตื่นนา
แฟ้มเอกสารปิดลง พร้อมเสียงปรบมือ ดีล ลงทุนครั้งแรก ของคุณนิ้ง เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว คู่ค้า ยิ้มให้กับ ท่านรอง ก่อนจะยื่นมือออกไป สัมผัสเบาๆ แล้วถ่ายรูปด้วยกัน เป็นที่ระลึก" ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ที่ไว้ใจเคทีกรุ้ปของเรา นิ้งจะทำให้เต็มที่ "ดีลแรกมูลค่าเกือบเก้าหลัก ทำให้พนักงานที่ทำงานด้วยกัน เห็นฝีมือ คุณนิ้ง ไม่ใช่เด็กเส้น อย่างเดียว แต่เป็นเด็กเส้น ที่มีฝีมือพนักงานในห้องประชุมทยอยเดินออกกันไปหมดแล้ว มีเพียงเลขาสาว และ คู่ค้า ที่ยังนั่งคุยกันอยู่" ไม่เจอกันนาน นิ้งดู มีความสุขมากๆ " ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ มองรุ่นน้องที่ตัวเองเคยสนใจ แล้วบอกออกมา" นิ้ง หมั้นแล้วค่ะ พี่คอป แต่ไม่ได้บอกใครเลย เพราะว่า ไทเค้ายังเรียนไม่จบ " คนที่พอรู้ข่าวมาบ้าง พยักหน้า รับรู้" ยินดีด้วยนะครับ วันไหนว่างๆ นัดมาเจอกันหน่อย พี่จะเลี้ยงข้าว แสดงความยินดี " 
" ไท ไปแล้วนะครับ ค่ำนี้เจอกันนะ " คนที่ต้องไปเรียนแต่เช้า ดึงภรรยามากอด แล้วมองถุงกระดาษสีชมพูหวาน ที่อยู่ในมือ" ขอบคุณสำหรับอาหารเช้านะครับ " เค้าบอกอีกที ทำเอาคนทำอาหารเช้า ยิ้มแก้มปริ" ไปได้แล้ว พูดเยอะจัง " คนเขินจัด แก้เขินด้วยการไล่ให้เค้าออกไป แต่มือยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอว" อ้าว ไหนจะให้ไป ทำไมไม่ปล่อยมือ "" ไท อะ ล้อหรอ "" ไม่ได้ล้อซักหน่อย ก็นิ้งของไท น่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้ จะให้ไท ทำยังไงได้ " แดนไท กอดแล้วหอมแก้มบางอีกครั้ง" ไปจริงๆแล้วครับ พี่ปีสี่ต้องไปแล้ว " พี่ปีสี่บอกเสียงเข้ม แล้วเปิดประตูห้อง เดินออกไปอย่างรวดเร็วคนที่อยู่ในห้อง ยิ้มเต็มหน้า มองมือของตัวเอง ที่สวมแหวนหมั้นเอาไว้ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวเสื้อผ้าชุดทำงานที่ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อย ถูกหยิบนำมา สวมใส่เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ร่างกายบอบบา
คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่เป็นเรือนหอ ตกแต่งอย่างสวยงาม สมบูรณ์แบบ ผู้เป็นแม่ มองลูกสาว ที่กำลังจะย้ายออกจากบ้าน ด้วยความรู้สึกที่บอกออกมาไม่ได้ ตลอดเวลาที่ตกแต่งคอนโด ช่วยลูกย้ายของเข้ามา ก็พยายามที่จะไม่คิดอะไรมาก เพราะรู้และเข้าใจในธรรมชาติ แต่พอถึงคราว จะต้องมาส่งจริงๆ" ทำไม ทำหน้าแบบนี้ละ "คนข้างตัว มองภรรยา ที่ทำหน้าเศร้าสร้อย พิธีการวันนี้ เสร็จเรียบร้อย อบอุ่น และสวยงามอย่างดี แต่พอมาส่งลูกที่คอนโด ผู้เป็นแม่ กลับทำหน้าตาไม่สู้ดีนัก" พี่คีธ มาลินห่วงลูก " ผู้เป็นสามีโอบเอวภรรยา มาแนบชิดกับตัวเอง แล้วจูบที่หน้าผากเบาๆ" ไหนบอกพี่ว่า นิ้งโตแล้ว " คนเป็นสามีย้อนคำพูด" ก็ห่วง จะกินจะอยู่ยังไง " ลูกสาวที่มีแต่คนฟูมฟักเอาใจ ตลอดมา ต้องมาเป็นแม่บ้าน ให้สามีแล้ว" บ้านโน้นเค้าไม่ปล่อยให้ลูกสะใภ้เค้าลำบากหรอก ในตู้เย็น ของกิน คาวหวาน แน่นไปหมด แม่บ้าน
บ้านหลังใหญ่ของว่าที่เจ้าสาวมีรถวิ่งเข้าวิ่งออก ตลอดทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน ทีมงานเว็ดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพ มองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า ด้วยความตื่นเต้น งานหมั้นที่เป็นงานภายในของครอบครัว ถูกวางแผนจัดงาน เพื่อความเป็นส่วนตัวของทั้งสองบ้าน เนื่องจากฝ่ายชาย ยังเป็นเพียงนักศึกษาแพทย์ ทำให้การหมั้นหมายในวันนี้ เป็นเรื่องภายใน เท่านั้นช่างแต่งหน้ามือทองระดับประเทศ และช่างทำผมมองหญิงสาวตรงหน้า ที่แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่าง น้อยแต่มาก ที่แท้ทรู บ้านหลังใหญ่ ราคาหลายสิบล้าน และ ตำแหน่งบุตรสาวคนโตของเคทีกรุ้ป ไม่ได้ทำให้ เว่อร์วังอลังการเลย แต่ทุกอย่าง เหมาะสม และลงตัว แต่สง่างามมาก จริงๆ" ขอบคุณมากนะคะ ที่หาคิวให้นิ้ง " ว่าที่เจ้าสาว ยกมือไหว้ทีมช่าง ที่มางานด่วนให้ในวันนี้" เป็นเกียรติและยินดีมากกว่าค่ะ ที่ได้มาดูแล วันสำคัญให้น้องๆทั้งสองคน







