แชร์

บทที่ 167

ผู้เขียน: อิงเซี่ย
รุ่นพี่ [พวกเธอหย่ากันแล้วแต่ฟู่อี้ชวนยังโพสต์ข้อมูลแต่งงานต่อสาธารณะ ทำให้เธอกลายเป็นเป้าของทุกคน เขาคงไม่ยอมรามือแน่ ถ้าถึงขั้นนั้นจริง ๆ ฉันจะช่วยเธอติดต่อทนาย]

ซูมั่วหลุบตามองข้อความของอีกฝ่าย กล่าวขอบคุณ เธอรู้สึกว่าตัวเองควรต้องเตรียมตัวให้พร้อมจริง ๆ

ฟู่อี้ชวนลงมือกับติ่งเซิ่งแล้ว ทั้งยังตามตอแยเธอไม่เลิก เดิมทีเธอคิดจะรักษาหน้าให้ตระกูลฟู่ ไม่ได้อยากหักหน้ากันแบบนี้ แต่ตอนนี้ล้วนเป็นฟู่อี้ชวนที่กดดันกัน

นึกถึงอำนาจของฟู่อี้ชวน ซูมั่วกำหมัดแน่น แววตาฉายแววเด็ดเดี่ยว

ถึงแม้จะสู้ได้ยาก เธอก็จะดิ้นรนให้ถึงที่สุด ในเมื่อออกจากกรงมาแล้ว เธอก็ไม่อยากกลับไปอีก

......

ช่วงเย็นเวลาเลิกงาน ริมถนนหน้าตึกใหญ่

เฟอร์รารี่จอดอยู่ข้างทาง ที่เบาะคนขับคือหลีโย่วกำลังเติมลิปสติก

เห็นว่าใกล้ได้เวลาแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์เตรียมลงจากรถ ทว่าด้านข้างกลับมีโรลส์รอยซ์สีดำคันหนึ่ง จอดหน้ารถเธอหนึ่งตำแหน่งพอดี

เดิมทีเธอไม่คิดจะสนใจ แต่อีกฝ่ายก็เปิดประตูรถเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นหลังยังดูคุ้นตาเล็กน้อย

ตอนที่ชายคนนั้นปิดประตูรถหางตาเหลือบไปเห็นข้างทาง จึงชะงักเล็กน้อยแล้วหันหน้ามาพูด “คุณหลี”

“เ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 177

    “ประธานฟู่นี่ล้มเหลวสุด ๆ ไปเลยนะ บอกว่าตัวเองไม่ได้หย่า ทว่าแม้แต่ที่อยู่ของภรรยาตัวเองก็ยังหาไม่เจอ เหอะ ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปจะถูกหัวเราะเยาะเอานะ” พออีกฝ่ายพูดจายั่วโมโหเสร็จ ก็ยังไม่ลืมที่จะตบด้วยการจิกกัดเย้ยหยันฟู่อี้ชวนกำหมดแน่น อยากจะซัดหมัดใส่อีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้เลย แต่อย่าว่าแต่หมัดเลย กระทั่งจะด่าออกไปเขาก็ยังด่าไม่ได้ ด้วยอีกฝ่ายวางสายไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว“แม่งเอ๊ย! หลีเซิน! จำไว้เลยนะ!!” ฟู่อี้ชวนกัดฟันกรอดพลางพ่นคำพูดออกมาด้วยความเดือดดาล แล้วเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งอีกครั้ง“นายก็เหมือนน้องสาวนายนั่นแหละ เลวได้โล่!!!”ก่นด่าจบ มือทั้งสองข้างของเขาก็กำพวงมาลัยรถไว้ พลางจดจ้องไปยังฟ้ายามราตรีที่ดำมืดราวกับหมึกดำข้นคลั่กไม่รู้ว่าเขาต้องสงบสติอารมณ์อยู่นานแค่ไหน ถึงได้ขับรถกลับบ้านอย่างน้อยซูมั่วก็ไม่ได้ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์กับหลีโย่ว แล้วก็ไม่ได้เรียกหนุ่มโฮสต์ด้วย แต่ว่าอยู่ในบ้านนี่เป็นความดีใจเพียงหนึ่งเดียวของเขาเลยบริเวณด้านนอกคอนโดเมืองหยางกวงในเวลาเดียวกันรถเบนท์ลีย์รุ่นธุรกิจสีดำเคลื่อนตัวออกไป หลีเซินให้คนอื่นมาคอยจับตาดูไว้ อย่าเข้าใจผิดนะ เขาไม่ได้ท

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 176

    “คุณไปดูแค่นี้ แล้วจะรับประกันได้ยังไงว่าหลังจากนี้พวกเธอจะไม่ออกไปอีก?” ฟู่อี้ชวนถามหาเหตุผล“เพราะงั้นคุณก็บอกที่อยู่ผมมาเลย แบบนั้นผมจะได้...”“ถ้าประธานฟู่ยังไม่วางใจ เดี๋ยวผมจะให้คนมาคอยเฝ้าอยู่ข้างนอก” หลีเซินพูดตัดบทเขาฟู่อี้ชวนกัดฟันกรอด ดูแล้วหลีเซินคนนี้คงหมายมั่นแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องที่อยู่กับเขาขณะที่กำลังจะยกเรื่องอื่นมาพูด หรือใช้ความร่วมมือทางธุรกิจมาแลกเปลี่ยน ทางหลีเซินกลับพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า“หากไม่มีเรื่องอะไรอีก ผมต้องขอเลิกงานก่อน ส่วนเรื่องงานแต่งระหว่างตระกูลหลีกับตระกูลฟู่ ผมว่าคงต้องยุติแต่เพียงเท่านี้”“นั่นเป็นเรื่องที่พ่อผมเขาจัดการของเขาเอง ผมไม่ได้มีความตั้งใจแบบนั้นเลย” ฟู่อี้ชวนว่าเสียงหัวเราะเย้ยหยันของชายหนุ่มดังลอดออกมาจากอีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ปลายสายด่าทอกลับมาอย่างไม่ปรานีเลยสักนิด“คุณไม่ได้มีความคิดแบบนั้นแล้วไม่คิดว่าควรมาบอกกับครอบครัวผมด้วยตัวเองงั้นเหรอ? โพสต์รูปทะเบียนสมรสแบบนั้นคือต้องการบอกอะไร? เจตนาพูดจากระทบกระเทียบ ประชดประชันอะไรแบบนั้นสินะ?”“ถึงกิจการในตระกูลหลีของผมจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าของตระกูลฟู่ แต่ก็ใช่จะมารังแกกันได้

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 175

    “ฉันกำลังกินข้าวอยู่ กลับบ้านคืนนี้? ไม่กลับ ฉันจะนอนกับเพื่อนฉัน”“โอ๊ย! ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ! จะไปเที่ยวเล่นมั่วสุมได้ยังไง? ฉันกับเพื่อนกำลังจะกลับแล้วเนี่ย!” หลีโย่วพึมพำ“จนกว่าพ่อแม่จะยกเลิกงานแต่ง ฉันไม่มีทางกลับไปเด็ดขาด” เธอพูดอย่างแน่วแน่อีกครั้งคนปลายสายพูดอะไรบางอย่าง หลีโย่วขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงดูผ่อนคลายลงพอตัว เธอตอบกลับไปว่า “งั้นก็ไม่กลับ ช่วงนี้เพื่อนฉันมีเรื่องนิดหน่อย ต้องคอยปกป้องเธอ”“ก็ได้ ๆ ฉันวางละนะ ถ้าพี่ว่างนักก็ไปหาแฟนสักคนไป๊ อย่ามัวมาคอยควบคุมฉันอย่างกับพ่อทั้งวันเลย บ๊ายบาย!”พูดจบ ก็กดวางสายทันที อีกด้านหนึ่ง หลีเซินได้แต่มองโทรศัพท์“...”เขาลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเสื้อสูท เตรียมตัวเลิกงาน ให้คนขับรถไปส่งเขาที่คอนโดเมืองหยางกวงภายในร้านอาหารหลีโย่วหิ้วกระเป๋า พลางพูดกับซูมั่ว “พวกเราไปกันเถอะ กลับบ้านเธอกัน”ซูมั่วถูกเธอคล้องแขนไว้ เดินไปพลางพูดไปพลางว่า “ฉันไม่เป็นไร ฟู่อี้ชวนหาที่อยู่ฉันไม่เจอหรอก ดูเหมือนว่าพี่ชายเธอจะเป็นห่วงมากเลยนะ”“เขาเป็นห่วงกับผี เมื่อเช้ายังมารับฉันอยู่เลยเถอะ แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้ว่าจะหลอกฉันกลับไปให้พวก

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 174

    [สบายใจได้ ประธานฟู่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันจะช่วยคุณดูแลมั่วมั่วเป็นอย่างดี เดี๋ยวคืนนี้จะเรียกหนุ่มโฮสต์มาปลอบหัวใจที่บอบช้ำของเธอสักสิบคนเลย~]ฟู่อี้ชวนจะโทรไปอีกครั้งก็โทรไม่ได้แล้ว เขาโมโหจนเหวี่ยงโทรศัพท์ลงกับพื้นรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ“หลี โย่ว!” ฟู่อี้ชวนพูดเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พลางกำพวงมาลัยแน่นขืนเธอกล้าเรียกหนุ่มโฮสต์มาให้ซูมั่วละก็ อย่ามาโทษว่าเขาฉีกโค้นตระกูลหลีแล้วกัน!ขณะที่กำลังโมโหอยู่ ในใจของเขาก็เกิดความหวาดกลัวพร้อมความกังวล เขากลัวว่าหลีโย่วจะทำแบบนั้นจริง ๆ เก็บโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่พลางคิดว่าจะติดต่อเธออย่างไรดีถ้าให้เลือกระหว่างโทรไปหาพ่อแม่ตระกูลหลีกับโทรไปหาหลีเซิน เขายอมเลือกฝ่ายหลัง เพราะอย่างไรคนรุ่นเดียวกันก็น่าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่าเขากดโทรติดต่อผ่านแอปพลิเคชัน ปลายสายกดรับหลังจากผ่านไปไม่นาน เขารีบถามด้วยความร้อนใจทันที“ประธานหลี ตอนนี้น้องสาวคุณอยู่ที่ไหนครับ?!”อีกฟากหนึ่ง พอหลีเซินได้ยินแบบนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับเสียดสี“เหอะ เมื่อวานคนที่โพสต์ถึงภรรยาเก่าลงอินสตาแกรมมันใครกัน? ตอนนี้คิดจะมาคั่วน้องสาวผม? ฟู่อี้ชวน เหยียบเรือสอง

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 173

    ฟู่ปั๋วหมิงได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วฉับทันที “หนิงเหิงน่ะแม้แต่ผังตระกูลก็ยังไม่ได้เข้าเลย ทางตระกูลหลีต้องเลือกอี้ชวนก่อนแน่”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หวังหลันรีบเผยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวราวกับจะร้องไห้ “ฉันอยู่กินกับคุณมานานหลายปี จนลูกโตขนาดนี้แล้ว คุณทำแบบนี้คือรังเกียจที่เขาออกหน้าออกตาไม่ได้เหรอคะ?”“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...” ฟู่ปั๋วหมิงรีบเข้าไปง้อ“จนถึงตอนนี้คุณท่านยังไม่ยอมรับพวกเราสองแม่ลูกเลย เขาเป็นลูกชายของคุณแท้ ๆ แต่กลับเข้าไปอยู่ในผังตระกูลฟู่ไม่ได้ คนอื่นจะคิดว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส...” หวังหลันร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิมฟู่ปั๋วหมิงสีหน้าไม่ดีเอาเสียเลย จนถึงตอนนี้พ่อของเขายังคงเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลฟู่อยู่ ต่อให้เกษียณไปนานหลายปีแล้ว ทว่าอำนาจทั้งในบริษัทและทั้งในตระกูลล้วนอยู่ในมือพ่อเขาทั้งสิ้นแถมอี้ชวนก็ถูกพ่อเขาเลี้ยงดูด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่เหลียวแลลูกชายคนรองของเขาเลยสักนิด สิทธิ์การสืบทอดในอนาคตนั้นมีเปอร์เซ็นต์ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวที่จะตกเป็นของอี้ชวนรวบหวังหลันเข้าสู่อ้อมกอด ดวงหน้าสะสวยมีน้ำมีนวลของเจ้าหล่อนปรากฏแววโหดเหี้ยมต่อให้ฟู่อี้ช

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 172

    เดิมทีเขาคิดจะกดวางสาย ทว่าไม่ทันระวังเผลอไปกดรับสายเสียอย่างนั้น เสียงของชายวัยกลางคนด่าทอออกมาพร้อมกับน้ำเสียงเคร่งขรึมไม่น้อย“ฟู่อี้ชวน!!! แกปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ? แม้แต่สายจากฉันแกก็ไม่รับ?!”อันที่จริงตั้งแต่ที่เขาโพสต์อินสตาแกรมไป พ่อของเขาก็โทรมาหาเขาตั้งแต่วันนั้น จนถึงช่วงเช้าวันนี้ รวม ๆ กันเป็นสิบสายแล้ว แต่เขาเมินตลอด“แกหย่าแล้วไม่ใช่หรือไง? โพสต์ทะเบียนสมรสลงไปแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง? ตอนนี้ทางตระกูลหลีต้องการคำอธิบาย แกไปอธิบายพวกเขาเองแล้วกัน!” ฟู่ปั๋วหมิงตำหนิด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด“มีอะไรต้องอธิบายอีก ผมไม่หย่า ก็ต้องแต่งงานกับตระกูลหลีไม่ได้อยู่แล้ว” ฟู่อี้ชวนพูดเสียงเย็นชา“ถ้าแกมีปัญญาก็มาพูดต่อหน้าฉันนี่? ดูซิว่าฉันจะตีไอ้เด็กเปรตอย่างแกให้ตายคามือได้ไหม!!” ฟู่ปั๋วหมิงเดือดดาลกับท่าทางแบบนี้ของเขา จนต้องต่อว่าออกมาด้วยความโมโห“เหอะ ๆ พ่อสู้ผมได้หรือไง? ถ้าไม่เห็นแก่คุณปู่ละก็ พ่อได้ลงไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ผมในนรกแล้ว” ฟู่อี้ชวนถากถาง“แก! แก...” ฟู่ปั๋วหมิงโมโหจนพูดไม่ออก จนตัวสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง“ที่รัก เป็นอะไรไปคะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ...”ครั้นได้ยินเสียงน่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status