Share

บทที่ 367

Penulis: อิงเซี่ย
“ตอนนั้นเธอถูกน้ำร้อนลวกขนาดนั้น แต่หลังจากได้ข้อตกลงการหย่ากลับเพิ่งมาบอกฉัน

ถ้าฉันรู้ตั้งแต่แรก แกคงเจอดีไปนานแล้ว”

ฟู่อี้ชวนตกตะลึง ที่แท้ซูมั่วก็ไม่ได้ไป ‘ฟ้อง’ คุณปู่ทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ? แต่ไปบอกทีหลัง?

“แกฉีกศักดิ์ศรีของฉันเป็นชิ้นแล้วยังเหยียบลงบนพื้นอีก ตอนนั้นเพื่อแก ฉันยังขอร้องให้มั่วมั่วว่าให้โอกาสแกอีกครั้งหนึ่งเถอะ แกเดาสิว่าเธอพูดว่าอะไร?”

คุณปู่ฟู่พูดขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

“เธอบอกว่าขอให้ฉันให้โอกาสเธอด้วยเหมือนกัน โอกาสที่จะมีชีวิตรอด!”

ฟู่อี้ชวนฟังมาถึงตรงนี้ก็ตกตะลึงไปโดยสมบูรณ์

ซูมั่ว...

ตอนนั้นพูดแบบนี้จริงเหรอ?

เธอขอให้คุณปู่ปล่อยเธอไป เธอยังอยากมีชีวิตรอด...

นี่มันเป็น ‘คำขอ’ ที่น่าเวทนาแค่ไหน และเจ็บปวดแทบขาดใจแค่ไหนกัน...

แต่เขาไม่เคยอยากเอาชีวิตเธอเลย เรื่องแก๊สรั่วเขาก็ไม่ได้เป็นคนทำ อย่างมากเขา เขา...

เขาไม่ทันสังเกตเห็นทันเวลา ทำให้ทิ้งซูมั่วไว้คนเดียวที่บ้าน

แต่ว่า!

หลังจากที่เขาได้ยินคำเตือนของหมอ เขาก็รีบกลับมาที่บ้านโดยเร็ว เพียงแต่คลาดกันกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพอดี!

เขาอธิบายได้ ทั้งหมดนี้เขาอธิบายได้!

เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะ ‘ฆ่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 394

    คุณท่านฟู่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เขาวางมือประสานกันไว้บนเข่าเขาเป็นผู้มีประสบการณ์ ย่อมไม่ไร้เดียงสาขนาดนั้น เพียงแค่สองเรื่องนี้ยังไม่เพียงพอที่จะตัดสินนิสัยของคนคนหนึ่งได้ลูกชายที่ผู้หญิงคนนั้นเลี้ยงมา จะเป็นคนว่านอนสอนง่ายและซื่อสัตย์ตามแบบฉบับจารีตประเพณีได้จริง ๆ เหรอ?ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็คงเป็นเพราะยีนส์กลายพันธุ์แล้วล่ะเวลาช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าก็ถึงเวลาเลิกงานซูมั่วเลิกงานตรงเวลา และไม่ได้นั่งรถไฟใต้ดินเพราะได้แจ้งความไว้ล่วงหน้าแล้ว เธอได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางนั้นได้ส่งตำรวจนอกเครื่องแบบมาช่วยสืบสวนเมื่อเห็นว่าวันนี้เป้าหมายเปลี่ยนวิธีการเดินทาง ชายสองคนที่อยู่ข้างทางออกรถไฟใต้ดินก็กลับขึ้นไปบนรถเก๋งสีดำ แล้วขับตามไปในระยะที่ไม่ไกลไม่ใกล้ซูมั่วใส่หูฟังตลอดเวลาและติดต่อกับตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่เสมอ หลังจากเดินไปได้สักพัก อีกฝ่ายก็พบรถต้องสงสัยคันหนึ่งจริง ๆ“คุณซูมั่ว เดี๋ยวคุณเดินไปทางถนนปินเหอนะครับ วางใจได้ คนของเราเตรียมพร้อมอยู่ จะไม่ปล่อยให้คุณตกอยู่ในอันตรายแน่นอน” เสียงของตำรวจดังมาจากหูฟัง“พวกเขาไม่ได้จะมาทำร้ายฉันค่ะ แค่สะกดรอ

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 393

    เขารีบหยิบมือถือออกมาโทรศัพท์ทันที แต่ไม่ได้ถามตรง ๆ แต่พูดคุยอ้อม ๆจากนั้นก็โยงเข้าเรื่องงาน ถามว่าต้องเตรียมการล่วงหน้าหรือไม่ แบบนี้ก็จะสามารถสรุปผลได้โดยตรงเมื่อวางสาย หวังฮ่าวก็กล่าวว่า “ได้โปรเจกต์แล้วครับ หลังจากนี้ทั้งสองบริษัทจะพัฒนาร่วมกัน”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่อวี่เหิงก็หรี่ตาลงแล้วคำพูดของหลี่หยวนนั่นหมายความว่ายังไง? ในเมื่อโปรเจกต์ก็สำเร็จแล้ว แล้วฟู่อี้ชวนจะโมโหอะไรอีก?หรือว่านี่เป็นเพียงแค่คำโกหกของหลี่หยวนที่หลอกเขาเท่านั้นเมื่อคิดว่าความเป็นไปได้อย่างหลังมีมากกว่า เขาก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาขนาดแค่ผู้ช่วยยังกล้ามาเหยียบหัวเขาแล้วเห็นเขาเป็นคนโง่ ความอัปยศแบบนี้ใครจะทนได้?รถยนต์แล่นเข้าสู่กระแสจราจรบนถนนใหญ่ ด้านหลังข้างถนนข้างต้นไม้ต้นหนึ่งโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งถ่ายรูปหลายใบอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็ส่งต่อไปพอถึงเวลาทำงานช่วงบ่าย หลี่หยวนก็รวบรวมข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็วและนำเสนอต่อฟู่อี้ชวนยืนยันได้ว่าหวังฮ่าวติดต่อกับฟู่ปั๋วหมิงจริง ทั้งสามคนยังไปกินข้าวด้วยกัน หวังฮ่าวพูดคุยหัวเราะอย่างสนุกสนาน ไม่เหมือนถูกบังคับเลยสักนิดฟู่อี้ชวนกำหมัดแน่น

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 392

    นี่ไม่ใช่ลางดีนัก ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ พวกเขาสองคนก็ไม่ควรจะติดต่อกันอีกฝั่งหลีโย่วอ่านข้อความจากพี่ชาย เรื่องนี้เธอเดาได้ตั้งนานแล้ว แต่พอพี่ชายของเธอยกขึ้นมาพูดแบบนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัยเธอจึงติดต่อซูมั่วไป ตอนนี้ยังเป็นเวลาพักกลางวัน ซูมั่วมองหน้าจอมือถือแล้วเม้มปากแน่นแม้ว่าตอนที่เจอกันที่ร้านอาหารครั้งก่อนเธอจะเริ่มสงสัยอยู่บ้างแล้ว แต่เมื่อเห็นน้ำเสียงที่หนักแน่นของหลีโย่ว เธอจึงถามถึงเหตุผลในที่สุดหลีโย่วก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป และเล่าเรื่องกระเป๋าให้เธอฟัง[ฉันสาบานเลยนะว่าตอนนั้นไม่ได้รู้เรื่องนี้ แต่รู้ตอนกลับถึงบ้านแล้ว][ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นพี่ชายฉันที่ซื้อให้ แต่พี่บอกว่าไม่ใช่เขา ดังนั้นคนที่เป็นไปได้ก็มีแค่ฟู่อี้ชวนคนเดียว][เมื่อเช้าฟู่อี้ชวนมาคุยเรื่องโปรเจกต์ที่บริษัทหลีซื่อกรุ๊ป พี่ชายฉันเลยลองหยั่งเชิงถามดู เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ]ซูมั่วมองหน้าจอมือถือ นึกถึงตอนที่ตัวเองยังไม่ได้ซื้ออะไรแต่กลับถูก “รางวัลใหญ่” ผู้จัดการร้านถึงกับมาส่งด้วยตัวเอง แถมยังมีท่าทีนอบน้อมอย่างยิ่งยวด และยังทิ้งนามบัตรไว้อีก...เหอะ ๆ จะมีโชคดีอะไรกัน ที่แท้เบื้องหลังทั้

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 391

    หลีเชินเคยไปที่บริษัทติ่งเซิ่งแล้ว ไปมาสองครั้ง และทั้งสองครั้งก็ไป ‘พัวพันไม่เลิกรา’ กับซูมั่วครั้งแรก เขาจีบซูมั่วต่อหน้าสาธารณชนครั้งที่สอง เขาไปที่ฝ่ายออกแบบเพื่อมอบของขวัญให้เธอด้วยตัวเอง จนเกือบทั้งแผนกรู้กันหมดว่าหลีเชินชอบซูมั่ว“เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่รีบบอกฉันให้เร็วกว่านี้??!!” ฟู่อี้ชวนที่ใกล้จะคลั่งเต็มที คาดคั้นถาม“ประธานฟู่ คุณก็ไม่ได้ถามนี่ครับ” ปลายสายตอบกลับ“ตอนแรกคุณถามเกี่ยวกับเรื่องของคุณซูมั่ว แล้วก็ถามถึงความสัมพันธ์ของเธอกับประธานโจวของเรา ผมก็เล่าให้ฟังหมดแล้ว”“หลังจากนั้นคุณก็ไม่ได้ติดต่อผมมาอีกเลย แถมฟู่ซื่อก็มีโปรเจกต์ร่วมกับเรา คุณก็ยังมาที่บริษัทด้วยตัวเอง ผมก็นึกว่าคุณไม่ต้องการข้อมูลจากผมแล้วซะอีก”ฟู่อี้ชวนพยายามข่มอารมณ์อย่างสุดกำลัง เขาหายใจเข้าลึก ๆ เพราะกลัวว่าถ้าคุมตัวเองไม่อยู่จะเผลอสบถคำหยาบออกไปคนที่เขาติดต่อด้วยไม่ใช่พนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ แต่เป็นถึงหัวหน้าแผนกคนหนึ่งของบริษัทติ่งเซิ่ง โดยข้อเสนอที่ให้ไปคือสามารถย้ายมาทำงานที่ฟู่ซื่อได้ทุกเมื่อ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงยอมช่วยเขาสืบข่าวและเพราะอีกฝ่ายมีตำแหน่งอยู่บ้าง การสืบข่าวจึงค่อนข

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 390

    “แล้วก็คุณท่านก็เป็นห่วงคุณมากครับ เพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาด้วยตัวเอง”ฟู่อี้ชวนฟังคำพูดจุกจิกพวกนี้แล้วก็เงยหน้าขึ้นอย่างหงุดหงิด กล่าวว่า“รู้แล้ว”เขากินโจ๊กไปง่าย ๆ สองสามคำ แล้วก็กินยาเข้าไป จากนั้นหลี่หยวนถึงได้หอบแฟ้มเอกสารที่เซ็นแล้วออกไปในห้องทำงานกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง สมาธิเมื่อครู่ถูกขัดจังหวะ ในตอนนี้ฟู่อี้ชวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในสมองก็อดคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าไม่ได้จากนั้นความรู้สึกซับซ้อนต่าง ๆ ทั้งความอิจฉา ความโกรธ ความอึดอัด และความน้อยใจก็ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน หัวใจของฟู่อี้ชวนบีบรัดจนรู้สึกเจ็บแน่นไปหมดเขาโทรหาทนายความที่ติดต่อไว้อีกครั้ง ให้ฝ่ายนั้นเตรียมฟ้องร้องหลีเชินและเจิ้งเซวียน พอถึงเวลาขึ้นศาลก็นำหลักฐานออกมาแสดงโดยตรง พวกเขาอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองโดนวางแผนเล่นงานเมื่อเช้านี้ ฟู่อี้ชวนก็รู้สึกเกลียดชังอย่างยิ่งหลีเชินช่างร้ายกาจจริง ๆ ให้ตายสิ เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วแท้ ๆ แต่เขากลับจงใจพูดจาแบบนั้นในตอนท้าย เพื่ออวดกระดุมแขนเสื้อที่ซูมั่วมอบให้เขาถึงตอนนี้จะยังโกรธอยู่ แต่ก็มีสติมากกว่าเมื่อเช้า เขาขมวดคิ้วมุ่น สัญชาตญ

  • นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ   บทที่ 389

    “ของขวัญที่นำมาให้ค่อนข้างมีราคาแพง และก็ถูกท่านประธานฟู่ทุบทิ้งไปจริง ๆ ครับ”“ผู้ช่วยที่ปล่อยเขาขึ้นมาถูกไล่ออกแล้วครับ เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงในบริษัทอีกคนหนึ่ง ซึ่งประธานฟู่สั่งให้ผมกำลังดำเนินการสืบสวนอยู่”“เมื่อครู่ผมได้ตรวจสอบคร่าว ๆ แล้ว เดิมทีเขาถูกจัดให้เข้าทำงานที่ฝ่ายควบคุมคุณภาพ แต่กลับถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายการตลาด ตอนเช้าผมตามประธานฟู่ไปคุยงานความร่วมมือที่หลีซื่อ เลยไม่สามารถสกัดกั้นเขาไว้ได้ทันครับ”.....พ่อบ้านฟังคำพูดของหลี่หยวนแล้วขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าการที่ลูกนอกสมรสคนนั้นมาที่สำนักงานใหญ่ได้มีการปูทางไว้ล่วงหน้าแล้วและคนที่เป็นผู้ปูทางให้จะเป็นใครไปได้ ไม่ต้องบอกก็รู้...ฟู่ปั๋วหมิง ผู้จัดการบริษัทสาขาย่อยในเครือฟู่ซื่อกรุ๊ป“คุณได้ติดต่อกับเขามากน้อยแค่ไหน? คิดว่าเขาเป็นคนยังไง?” พ่อบ้านถามตรง ๆหลี่หยวนตอบว่า “ผมเพิ่งเจอเขาแค่ครั้งเดียวตอนที่ตามท่านประธานฟู่กลับมาที่บริษัทเมื่อตอนเที่ยงนี้เองครับ ส่วนความรู้สึกแรกพบ...”“เขาดูเป็นคนซื่อ ๆ ครับ ปล่อยให้ประธานฟู่ด่าว่าก็ไม่โกรธไม่เถียง แถมยังมีท่าทีอ่อนน้อมขอโทษอีกด้วย”“พอปร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status