แชร์

บทที่ 3 ฝึกหัดเป็นนางรำ

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-16 13:00:38

ชายผู้นั้นมิได้ตอบคำถามนาง แต่หันไปบอกมาม่าฟางเซียนว่า “ เจ้าพานางออกไป แล้วทำตามที่ข้าสั่ง เมื่อนางร่ายรำได้ดีแล้ว ก็แต่งตัวให้นางแล้วพามาร่ายรำให้ข้าดูก่อน ว่าสินค้าเช่นนางจะขายได้ราคาหรือไม่ ” แล้วเขาก็หันหลังเดินกลับไปยืนที่ริมหน้าต่างบานกว้าง แล้วมองออกไปที่ทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างไม่ได้สนใจหญิงทั้งสองอีก  “ เจ้าเดินตามข้ามา อย่าพูดมาก ควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ ว่าทาสเช่นเจ้ามิควรมีปากเสียงให้มากนัก มิเช่นนั้นถ้าหากนายท่านรำคาญเจ้าขึ้นมา จะส่งเจ้าไปเป็นนางโลมชั้นต่ำไว้บำเรอพวกกุลีที่ท่าเรือก็ได้นะ หรือเจ้าอยากจะมีชะตากรรมเช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ” 

คำพูดนี้ปิดปากของอดีตคุณหนูตกอับไว้ได้ชะงัดนัก นางคิดไม่ออกเลยว่าสภาพของนางจะเป็นเช่นไร หากถูกนายท่านผู้นี้ส่งไปบำเรอกุลีพวกนั้น เหม่ยอิงร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่ นางแค่เดินเข้าไปโดยไม่รู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องของเจ้าของที่นี่ แล้วเขาเองที่เป็นฝ่ายมาจูบนางก่อนแท้ๆ นางมิได้เชิญชวนเขาเสียหน่อย แต่กลับมาด่าว่านางเหยียดหยามนางด้วยถ้อยคำรุนแรงยิ่งนัก มิเคยมีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับนางมาก่อนเลย เหม่ยอิงครุ่นคิดด้วยความโมโห แต่แล้วก็ชะงักไปตอนนี้นางมิได้เป็นคุณหนูของจวนคหบดีใหญ่อีกแล้ว ก็จริงของมาม่าฟางเซียนสถานะตอนนี้ของนางคือทาสที่เขาซื้อตัวมา นางมิใช่คุณหนูในห้องหออีกแล้ว นางมิมีบิดาคอยคุ้มครองนาง มิมีครอบครัวที่คอยจะปกป้องนางอีกแล้ว 

ในเมืองเฉิงตูนี้ นางตัวคนเดียวอย่างแท้จริงไม่เหลือใครให้พึ่งพาได้อีก หากนายท่านผู้นั้นจะรังแกนางเช่นไร แล้วเหม่ยอิงจะมีปัญญาอะไรไปสู้รบปรบมือกับเขาที่มีอำนาจไม่น้อย สามารถซื้อตัวคนที่ต้องคดีที่ต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองไปด้วยซ้ำ แต่เขาก็สามารถซื้อตัวของนางมาได้ จะซื้อจากใครเล่า ก็ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจมาก ถึงจะขายตัวนักโทษต้องคดีให้เขาได้ เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว อดีตคุณหนูจางเหม่ยอิงจึงได้หุบปากแล้วทำตามคำสั่งของมาม่าฟางเซียนอย่างเงียบเชียบดังเช่นหุ่นกระบอกกระนั้น ใครสั่งให้ทำอะไรเหม่ยอิงก็ทำตามอย่างไม่ขัดขืน เพราะนางคิดใคร่ครวญดูแล้ว นางมิสามารถหนีไปจากที่นี่ได้ นางตัวคนเดียว ไร้ญาติขาดมิตรที่จะคอยช่วยเหลือ นางไม่มีเงินเหลือเลยและไม่มีวรยุทธ์ เพราะฉะนั้นอดีตคุณหนูผู้บอบบางที่ไม่เคยต้องสู้รบปรบมือกับใครมาก่อนเช่นนางจะทำสิ่งใดได้อีกเล่า ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมไปเช่นนี้ 

มาม่าฟางเซียนเดินนำฟางเซียนไปที่ชั้นล่างสุดและเดินไปตามทางเดินทอดยาวจนถึงห้องสุดท้ายริมทางเดิน นางเปิดประตูเข้าไปในห้อง เหม่ยอิงเดินตามหลังนางเข้าไป มีหญิงงามผู้หนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งที่เป็นโต๊ะยาวมากและมีคันฉ่องอันใหญ่วางอยู่บนโต๊ะหลายบานด้วยกัน บนโต๊ะมีเครื่องประทินผิวและเครื่องแต่งแต้มใบหน้าอยู่ในขวดเคลือบและตลับเล็กใหญ่หลายใบวางเรียงรายอยู่มากมายหลายขนาดและมีหีบใบเล็กวางอยู่หลายหีบเรียงกัน คงจะเป็นจำพวกเครื่องประดับของนางรำ  

“ ชุ่ยหลิน เจ้าสอนเหม่ยอิงร่ายรำด้วยนะ สอนนางเริงระบำให้คล่องแคล่ว สอนทั้งหมดที่เจ้าชำนาญ และสอนนางให้หัดแต่งหน้าแต่งตัวเช่นนางรำมืออาชีพเขาทำกันให้คล่อง เมื่อเรียบร้อยก็บอกข้าจะได้พาไปให้นายท่านดูอีกครั้ง ” เมื่อสั่งงานหญิงผู้นั้นแล้วก็หันมายังคนที่เดินตามมาติดๆ “ เหม่ยอิงเจ้าก็เรียนร่ายรำกับชุ่ยหลินไปจนกว่าจะคล่องแคล่ว ไม่ต้องทำงานรับใช้ในหอนี้อีกแล้ว ถือว่าเจ้าโชคดีมากนะที่ไม่ต้องทำงานใช้แรงงานเช่นทาสคนอื่น แค่นี้นายท่านก็ปราณีเจ้ามากแล้ว ทั้ง ๆ ที่เจ้ากล้าเถียงนายท่านไม่ขาดคำเช่นนั้น หากเป็นผู้อื่นป่านนี้คงถูกขายต่อให้ซ่องนางโลมเมืองอื่นหรือให้ไปบำเรอกุลีไปแล้ว เจ้าก็อย่ารนหาเรื่องอีกก็แล้วกัน “ 

แล้วมาม่าฟางเซียนก็เดินออกไปจากห้องทันที ทิ้งเหม่ยอิงไว้กับนางรำที่ชื่อชุ่ยหลิน เมื่อมาม่าฟางเซียนเดินลับกายไปแล้วนั้น ชุ่ยหลิงนางรำที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งตัวยาวนั้นก็หันมา ” เจ้าชื่อเหม่ยอิงใช่หรือไม่ ข้าได้ยินเขาพูดกันว่านายท่านซื้อเจ้ามาเมื่อวานนี้ ปกติแล้วนายท่านมิค่อยได้ซื้อทาสบ่อยๆหรอกนะ เพราะคนงานที่นี่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน และมีคนมาหางานทำอยู่บ่อยๆ พวกทาสก็มีที่มาขายตัวเองหรือครอบครัวพามาขายเท่านั้น มิได้ไปหาซื้อมาเช่นเจ้า เอาล่ะ วันนี้ข้าจะสอนท่าทางพื้นฐานให้เจ้าก็แล้วกันค่อยๆร่ำเรียนกันไป ถ้าเจ้ามีความสามารถทางนี้ก็จะเรียนรู้ได้เร็ว แต่ว่าเจ้าเคยเรียนร่ายรำมาก่อนหรือไม่ ” เหม่ยอิงเอ่ยตอบนางไปว่า “ ข้าเคยเรียนร่ายรำมาบ้าง ก็ศาสตร์ทั้งสี่ของสตรีที่ต้องได้ร่ำเรียนกัน แต่มิได้ถึงกับชำนาญมาก ” ชุ่ยหลินพยักหน้า 

“  แต่ในเมื่อนายท่านให้เจ้ามาเรียนร่ายรำเช่นนี้ คงจะให้เจ้าขึ้นไปทำการแสดงบนเวที ปกติที่นี่จะมีนางรำสามคน ข้าและคนที่รับงานหลายๆที่อีกสองคน สองคนนั้นจะผลัดเปลี่ยนกันมาทำการแสดง ส่วนข้านั้นทำงานที่นี่ประจำ และทำการแสดงร่ายรำหากนักแสดงหรือพวกหญิงงามที่มาขายศิลปะทั้งหลายเกิดไม่สบายหรือไม่มาทำการแสดงข้าก็จะต้องไปแสดงแทน ”  ดังนั้นวันนั้นทั้งวัน ชุ่ยหลินก็สอนการร่ายรำให้แก่เหม่ยอิงที่พอมีทักษะทางด้านนี้มาบ้างจึงได้เรียนรู้ได้รวดเร็วยิ่งนัก 

เหม่ยอิงมาเรียนการร่ายรำกับชุ่ยหลินในทุกๆวัน เมื่อตกตอนเย็นชุ่ยหลิงจะต้องเตรียมตัวทำการแสดงจึงได้ลากลับไปที่ห้องพักของตนเอง หรือไม่ก็แอบไปดูชุ่ยหลิงทำการแสดงบ้างเผื่อนางจะได้เรียนรู้ไว้ เหม่ยอิงทำใจไว้บ้างแล้ว ชะตากรรมของนางคงหนีไม่พ้นหญิงคณิกาอย่างแน่นอน หลังจากได้ยินนายท่านผู้นั้นบอกว่าให้นางทำการแสดงให้เขาดูก่อนว่าหญิงเช่นนางจะขายได้ราคาหรือไม่ เหม่ยอิงกลับห้องพักไปครุ่นคิดถึงคำพูดของเขา แล้วก็คิดว่าเขาคงหมายถึงจะให้นางขายศิลปะการร่ายรำหรือไม่อย่างเลวร้ายที่สุดที่นางคงจะต้องคำทำใจไว้ล่วงหน้าก็คือ อาจจะต้องถึงกับขายเรือนร่าง 

เพราะอดีตคุณหนูตกอับเช่นนางจะมีใครมาปกป้องและช่วยเหลือให้พ้นไปจากที่นี่ได้เล่า แต่ยังโชคดีที่อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วก็มิมีผู้ใดมารบกวนหรือทำร้ายกลั่นแกล้งใดๆ แม้ที่นี่มีชายหน้าตาน่ากลัวที่เป็นเวรยามและดูแลคุ้มกันหอคณิกาแห่งนี้หลายๆคน แต่พวกเขาก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับเหม่ยอิง อีกอย่างนางก็คอยหลบเลี่ยงจากคนมากหน้าหลายตาเช่นกัน เหล่าสาวใช้ก็ทักทายนางบ้าง แต่มิได้มายุ่งเกี่ยวกันมากนัก เพราะพวกเขาก็มีงานล้นมือ ยิ่งเวลาที่เปิดหอนางโลมตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงกลางดึกพวกเขาทำงานแทบจะไม่มีเวลามาพูดคุยกับเหม่ยอิงเลย 

อดีตคุณหนูตกอับเพิ่งรู้ตัวว่าโชคดีแค่ไหนที่ไม่ต้องทำงานรับใช้ในหอคณิกาแห่งนี้ เพราะเป็นงานที่หนักมาก นางเห็นพวกเขาทำงานตั้งแต่ตอนบ่ายจนดึกดื่นถึงจะได้กลับมาเรือนพักเพื่ออาบน้ำเข้านอนกัน แต่ได้ยินพวกเขาคุยกันว่าที่นี่ให้เงินดี ถึงได้ยอมเหน็ดเหนื่อยทำงานกันมือเป็นระวิง 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 26 ครอบครัวสุขสันต์

    คืนนั้นทั้งคืนเหม่ยอิงก็ร้องครวญครางใต้ร่างสามี เขาร้อนแรงยิ่งนัก มิได้ปล่อยให้นางได้พักร่างเลย แม้นางจะประท้วงว่านางกำลังตั้งครรภ์ แต่เขาก็ยังเคี่ยวกรำนางทั้งคืน แต่แล้วเหม่ยอิงก็เอาแต่ส่งเสียงร้องครวญครางและเคลิบเคลิ้มไปกับรสรักของสามีที่หลอกล่อจนนางหลงลืืมไปหมดจนได้ ทั้งสองเริงรักกันที่จวนนอกเมืองแห่งนี้จนหลายวันผ่านไป นายท่านถึงจะออกไปตรวจงานนอกจวนสักครั้ง กิจการใดที่เขาไว้วางใจคนดูแลเขาก็มักจะให้ส่งเพียงรายงานและบัญชีมาให้เขาตรวจสอบ เหม่ยอิงก็ช่วยงานสามีบ้างเท่าที่นางจะช่วยได้แต่เขามิอยากให้นางเคร่งเครียดเพราะนางกำลังตั้งครรภ์จึงให้ทำแต่งานเบาๆ ชีวิตของเหม่ยอิงตอนนี้ดียิ่งกว่าอดีตคุณหนูจ้าวเสียอีก นางอยากจะได้สิ่งใดปรารถนาสิ่งใด สามีของนางก็บันดาลให้ทุกอย่างเขาขอเพียงนางคลอดลูกให้เขาหลายๆคนเพียงเท่านั้น นางได้ข่าวคราวของบิดามารดาเพราะสามีให้คนไปสืบมาและได้ทำการช่วยเหลือไปแล้วจนครอบครัวของนางมีจวนขนาดกลางอยู่อาศัยและมีเงินทุนจำนวนมากเพื่อทำกิจการค้าต่อไป ทุกคนสบายดี และฝากความคิดถึงมาให้นางและอวยพรขอให้นางและสามีครองรักกันอย่างมีความสุข หากมีโอกาสขอให้พาหลานๆไปเที่ยวที่แคว้นสู่

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 25 ตามเมียรักกลับคืน

    ด้านเหม่ยอิงเมื่อรถม้าที่นางโดยสารมาหยุดนิ่งหลังจากที่วิ่งห้อตะบึงมานานนับชั่วยาม มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่นางก็นั่งฟังเสียงด้านนอกที่เงียบอยู่จากนั้นประตูรถม้าก็เปิดผางออก“ นายหญิงขอรับ นายท่านให้มารับกลับจวนขอรับ นายท่านไม่อนุญาติให้นายหญิงเดินทางไปไหนหากไม่มีนายท่านไปด้วย โปรดกลับไปกับข้าเถิดขอรับ ” แล้วชายในชุดดำนั้นก็ได้รอคำตอบ เขาเดินเข้ามาในรถม้าคล้ายจะกดดันนางให้ลุกขึ้น แต่มิได้แตะต้องตัวของนาง เหม่ยอิงจึงได้ลุกขึ้นช้าๆหอห่อผ้าที่มีเงินซุกซ่อนไว้ในนั้นโดยทิ้งของกินเอาไว้เพราะนางหอบหิ้วไปไม่ไหว แล้วยอมเดินออกไปจากรถม้านั้นแต่โดยดีเมื่อเดินลงมาจากรถม้าคันเดิม ก็มีอีกคันหนึ่งจอดรอรับนาง ชายชุดดำผายมือให้นางเดินไปขึ้นรถม้าคันนั้น เหม่ยอิงยอมเดินขึ้นไปอย่างว่าง่ายเพราะนางมิอาจขัดขืนชายชุดดำสามสี่คนที่ยืนขนาบข้างรถม้า และนางคิดว่าคนเหล่านี้คงจะเป็นคนของสามีของนางนั่นเอง เขาหูตาไวมากสมกับที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยเป็นคหบดีใหญ่ด้วยตนเองโดยใช้เวลาไม่กี่ปีเท่านั้น นางจึงยอมขึ้นรถม้าคันใหม่นั้นแต่โดยดี ในรถม้าก็มีห่อของกินและน้ำดื่มเช่นกัน สองคนนี้สมกับเป็นแม่ลูกกันจริงๆ แม้สิ่งของที่จ

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 24 เมียหาย

    หลายวันต่อมามีคนของฮูหยินหยางมาส่งข่าวโดยฝากจดหมายน้อยมาให้เหม่ยอิง นางเปิดออกอ่านแล้วพบว่ารถม้าจะมารอรับนางที่หน้าหอคณิกาในอีกสองวัน แต่วันนั้นจะมาคนช่วยนางเบี่ยงเบนความสนใจของคนดูแลหอคณิกาและยามรักษาการณ์ของที่นี่ให้นาง และมิต้องขนข้าวของสิ่งใดติดตัวไป ฮูหยินหยางจะให้คนเตรียมของจำเป็นใส่ไว้ให้นางในรถม้า และเงินจะมีผู้นำมาให้นางระหว่างเดินทางเองมิต้องเป็นห่วงอะไรเพียงเตรียมตัวเดินทางเพียงเท่านั้นเมื่อรู้เวลาที่แน่นอนที่จะต้องจากสามีของนางแล้ว นางคอยปรนนิบัติเขาและเริงรักกันอย่างเร่าร้อน นางอยากจะดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้าย เขาไปที่ไหนนางมักจะอ้อนขอติดตามเขาไปในทุกที่ แม้เขาไปตรวจงานที่นอกเมือง นางก็จะติดตามไปด้วย เพราะเวลาของนางเหลืออีกไม่มากแล้ว วันที่จะต้องออกเดินทางไปจากแคว้นหนิงโจวมาถึงแล้ว นางขึ้นไปบนหอคณิกาและตรงไปพบชุ่ยหลินที่ห้องแต่งตัวของนางรำและมอบปิ่นเล็กๆที่มีพลอยหลากสีประดับไว้พร้อมกับเครื่องประทินโฉมหนึ่งตลับให้นาง “ นายหญิง ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะที่มอบของมีค่าเช่นนี้ให้กับข้า ตั้งแต่ท่านไม่ได้ทำการแสดงอีกแล้ว ข้าเหงามากเลยเจ้าค่ะ ไม่มีคนคุยด้วยเลย เพราะนางรำผู้อื่นรับงานก

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 23 ขอให้ออกไปจากชีวิตบุตรชาย

    เหม่ยอิงอึ้งงันไปทันที แม้ในใจของนางนั้นรักสามีเหลือเกิน แต่ในเมื่อแม่สามียื่นคำขาดต่อนางว่ามิอาจจะรับนางเป็นลูกสะใภ้มิว่าตำแหน่งใดๆและมิอยากจะให้หลานของนางกำเนิดมาจากสะใภ้เช่นเหม่ยอิง เมื่อแม่สามีพูดถึงขนาดนี้แสดงว่ามิให้อภัยอย่างเด็ดขาด เหม่ยอิงจึงคิดว่าแม้นางจะรักพี่ตงเหวินมาก แต่นางและครอบครัวก็ทำผิดต่อครอบครัวของพี่ตงเหวินไว้มากจนท่านป้าหยางมิอาจจะให้อภัยและยอมรับนางได้ จึงได้เอ่ยว่า“ หากท่านป้าต้องการเช่นนั้นข้าก็พร้อมจะทำตามเพื่อให้ท่านป้ากับพี่ตงเหวินมีความสุขและยอมให้อภัยข้าและท่านพ่อ หากท่านป้าจะให้รถม้าไปส่งข้าวันไหนก็ขอได้โปรดส่งคนไปบอกข้า ข้าจะรีบออกไปจากชีวิตของพี่ตงเหวินทันทีเจ้าค่ะ ” นางตัดสินใจเอ่ยด้วยมองไม่เห็นทางที่นางกับสามีจะครองรักกันได้ สามีของนางเป็นบุรุษที่หล่อเหลา เขาย่อมจะมีหญิงมาพึงใจมากมาย และยิ่งเขามีฐานะร่ำรวยแล้ว หากนางหนีไป เพียงไม่นานเขาคงจะลืมนางได้ ยิ่งมีสตรีที่งดงามน่ารักที่ท่านป้าเต็มใจอยากจะได้เป็นสะใภ้อยู่ใกล้ชิดเขา อีกไม่นานเขาก็คงจะลืมนางไปเอง เส้นทางชีวิตของนางกับพี่ตงเหวินเป็นเส้นขนานที่มิอาจจะมาบรรจบกันได้ แม้จะเพียงผ่านพบกันแค่ช่วงระยะเว

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 22 วางแผนให้หนีสามี

    วันต่อมาคุณชายหยางตงเหวินพาอนุเหม่ยอิงไปที่จวนหยางเพื่อยกน้ำชาให้มารดาของเขา เพราะเขาคิดว่าหากจะปิดบังมารดาไปก็คงได้ไม่นานเพราะข่าวของเขาต้องมีคนนำไปบอกมารดาอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจพาเหม่ยอิงไปพบมารดาของเขาเสียในวันนี้ เมื่อไปถึงจวนหยางก็พานางเข้าไปหามารดาที่เรือนหลักเมื่อเดินเข้าไปก็พบมารดากำลังนั่งขัดถูเครื่องประดับของนางอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั้น โดยมีหญิงงามผู้หนึ่งที่ดูงดงามน่ารักนั่งอยู่ข้างๆมารดา “ ท่านแม่ขอรับ วันนี้ข้าพาลูกสะใภ้มายกน้ำชาขอรับ ” มารดาของเขาเงยหน้าขึ้นจากกองเครื่องประดับตรงหน้านาง แล้วหันมามองบุตรชายและสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายเขาใบหน้าของนางเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อเพ่งพิศมองใบหน้าของเหม่ยอิง “ จ้าวเหม่ยอิง นั่นนางใช่หรือไม่ ตงเหวินเจ้าบ้าไปแล้วหรือไร ถึงได้คิดแต่งหญิงใจดำเช่นนี้มาเป็นภรรยา ข้ามิอาจยอมรับได้หรอกนะ หากเจ้าอยากจะได้นางนัก ก็รับนางเป็นนางบำเรอก็พอแล้ว หญิงเช่นนางที่มาจากบิดามารดาที่ใจดำและไม่มีความจริงใจ หากเรายังมีประโยชน์ให้พวกเขาก็จะมองเราเป็นสหายหากเราตกต่ำพวกเขาก็พร้อมจะสลัดเราทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่ได้มีความจริงใจให้ใคร ที่นางยอมเป็นเมียของเจ้าก็

  • นางบำเรอไร้ค่าของคุณชายหยาง   บทที่ 21 รับนางเป็นอนุ

    เมื่อรถม้าแล่นมาจนถึงที่หน้าหอคณิกา คุณชายตงเหวินก้าวลงจากรถม้า แล้วรอรับภรรยาของเขา จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างของหอคณิกาเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ จึงได้พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างเพื่อกลับไปยังเรือนเล็ก ขณะนั้นพบมาม่าฟางเซียนยืนรอนายท่านหนุ่มอยู่จึงได้หยุดทักทาย“ นายท่านเจ้าคะ มีแต่คนมาขอพบเพื่อจะขอไถ่ถอนตัวของนายหญิง พวกเขายังไม่ทราบว่านางเป็นภรรยาของนายท่านและมิได้ทำการแสดงอีกแล้ว ” นายท่านฟังมาม่าฟางเซียนพูดจบก็เอ่ยบอกนางว่า “ บอกพวกเขาไปว่านางทำการแสดงแทนนางรำที่ไม่มาทำงาน แต่นางเป็นภรรยาของข้าที่ตอนนี้ไม่ให้นางทำการแสดงอีกแล้ว และข้ากำลังจะแต่งงานกับนางในอีกสองสามวันนี้ ” มาม่าฟางเซียนพยักหน้าอย่างยินดีและยิ้มกว้างให้กับทั้งสอง“ ยินดีกับนายท่านและนายหญิงจริงๆเจ้าค่ะ ข้าดูแลรับใช้นายท่านมาหลายปีแล้ว ต่อไปก็ขอฝากนายหญิงดูแลนายท่านให้ดีด้วยเจ้าคะ ข้ายินดีกับนายท่านจริงๆที่จะได้มีคนดูแลแล้วเช่นนี้ ” มาม่าฟางเซียนยิ้มกว้างอย่างยินดี นางติดหนี้บุญคุณนายท่านที่ช่วยชีวิตนางไว้และทำให้นางได้มีชีวิตที่ดีขึ้น พ้นความทุกข์ทรมานเมื่อครั้งอดีต และได้ช่วยเหลือครอบครัวของนางให

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status