LOGIN“คริสตี้ ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดกับเธอให้ดี...” เอริคพูดพร้อมกับที่เขาจัดการตัวเองโดยการเอาเกราะป้องกันที่ยังคงมีคราบเลือดพรหมจรรย์ของเธอติดอยู่ให้เห็นจางๆออกไป “เธอต้องกลับไปบอกพ่อของเธอว่า วันนี้เธอมาทำหน้าที่ของเธอที่บ้านของฉัน และมันยังไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางมาที่นี่อีก...” เอริคแต่งตัวไปพร้อมๆ กับพูดในสิ่งที่คริสตี้ต้องทำ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้นและวางบนลงเตียง “...แต่งตัวซะ” เอริคสั่งการทันที เมื่อคริสตี้ยังไม่ขยับ แต่เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด
คริสตี้ขยับร่างกายที่บอบบางและอ่อนล้านั้นทันทีเท่าที่เธอจะสามารถขยับได้เร็วพอแบบที่ไม่ต้องเจ็บปวดมาก เสียงพูดของเขายังดังต่อไป โดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย คริสตี้รีบแต่งตัวตามคำสั่งนั้น เธอไม่มีคำถามต่อคำสั่งนั้น แต่...
“ฉันยังต้องมาที่นี่อีกเหรอ?” คริสตี้ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“ใช่!…และทำตามที่พ่อเธอบอกทุกอย่าง...แต่งตัวเสร็จก็กลับไปได้แล้ว” เอริคหันหลังให้กับคริสตี้ เขาเดินออกไปยังระเบียงห้อง เขาเปิดประตูระเบียงไว้ เขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของเธอ แต่เขาไม่อาจหันกลับมามองได้ เพราะนั้นจะทำให้เขาไม่อาจปล่อยเธอกลับไปตอนนี้ได้ เอริคกอดอก กรามแกร่งขบกัดไว้ กักขังตัวเองไว้ ให้ยืนนิ่งๆ อยู่กับที่
คริสตี้ลงจากเตียงนอน เธอแทบจะล้มลงกับพื้นเมื่อเธอยืนด้วยขาของตัวเอง เจ็บ เธอเจ็บไปหมดตามร่างกายโดยเฉพาะความเป็นหญิงของเธอที่ทำให้เธอต้องกัดฟันเข้าหากันอย่างอดทน คริสตี้เดินและเอื้อมหยิบกระเป๋าของตัวเองก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างทรมานร่างกาย
เอริคหลี่ตามองร่างเล็กของคริสตี้ที่เดินไปตามทางเดินเพื่อออกจากบ้านเขาไปตามคำสั่ง ใช่! บ้านของเขา ห้องนอนของเขา เตียงนอนของเขา คริสตี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาใช้สถานที่แห่งนี้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิง เอริคไม่มีหญิงอันเป็นที่รักแบบชู้สาว แต่เขามีหญิงสาวที่ไว้สำหรับรองรับความต้องทางเพศแบบผู้ชายทั่วๆไปอยู่สามสี่คนในเวลาเดียวกัน ซึ่งเอริคจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อเขาเบื่อพวกเธอ แต่พวกเธอเหล่านั้นไม่เคยได้รับสิทธิมาที่นี่ เขามีห้องอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวสำหรับเรื่องแบบนี้ บ้านหลังนี้เขาอาศัยอยู่กับพ่อ(อลัน)และแม่(หนูมุก)ที่ตอนนี้พวกท่านไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่น
เอริคเดินกลับเข้าไปในห้อง เขาเลี่ยงที่จะมองไปที่เตียงนอน เพราะไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคิดถึงคริสตี้ในแบบที่ความรู้สึกอีกด้านในตัวเขากำลังร้องบอกเขาไม่หยุด ซึ่งเขาพยายามจะต่อต้านและฝังกลบความรู้สึกนั้นอยู่ตอนนี้...แต่ทุกอย่างยังคงมีอยู่ กลิ่น ความอบอุ่น ของคริสตี้...
คริสตี้รีบไขกุญแจเข้าห้องเช่าด้วยมือไม้ที่สั่นเทา เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่กว่าเธอจะพาร่างกายที่บอบช้ำกลับมาถึงที่นี่ คริสตี้มองภายในห้องเช่า พ่อเธอยังไม่กลับมา และนั้นทำให้เธอโล่งอก ที่พรุ่งนี้เธออาจไม่ต้องไปบ้านของเขาเอริค ซาวันเดอร์ ผู้ที่พรากพรหมจรรย์ของเธอไปอย่างเลือดเย็น ในตอนแรก แต่เขาก็ยังใจร้ายกว่าที่เธอคิดไว้ จริงอยู่ที่เธอเป็นฝ่ายกระทำเขาก่อน...แต่เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลเขาน่าจะรู้ว่าเธอไม่อะไรจะไปต่อสู้หรือทำร้ายเขาได้สักนิด แล้วทำไมเขาถึงต้องใช้วิธีนี้ทำร้านเธอ...
ฮือออออ ฮือออออ...ซู่ซู่ซู่ คริสตี้ร้องไห้ ใต้สายน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวในห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนเธอ คริสตี้ที่เข้าห้องของตัวเองทันทีไม่ทันเห็นโน้ตที่ดีน พ่อของเธอเขียนแจ้งไว้ว่าเขารับงานก่อสร้างไม่อยู่สองสามวันนี้
--ซึ่งในขณะเวลาเดียวกันที่บ้านซาวันเดอร์--
ซู่ซู่ซู่ เสียงสายน้ำในห้องน้ำแสนโอ่อ่าที่เอริคกำลังให้สายน้ำกระทบศีรษะและไหลไปตามร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขาเช่นกัน ใบหน้าเขาครุ่นคิดอย่างหนัก สองเรื่องในตอนนี้ เรื่องแรก คือใครกันที่สอดแนมเขา เพราะเขาไม่สามารถตามล่องรอยอุปกรณ์นั้นได้ เหมือนมันถูกทำลายไป เครื่องมือของโนอาห์จึงไม่สามารถตรวจจับสัญญาณได้ เรื่องที่สองคือเรื่องของสองพ่อลูกนี้ ดีนไม่ใช่พ่อแท้ๆของคริสตี้ และผู้ชายคนนี้ไม่มีประวัติที่ส่อถึงการก่ออาชญากรรมได้เลย ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีแรงกายในการรับจ้างหาเลี้ยงตัวเองทั่วไป เพราะยิ่งสืบค้น หาข้อมูลมากเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้...จึงเกิดคำถามที่หาคำตอบไม่ได้
ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดของ เอริค ซาวันเดอร์
Grrrr Grrrr เอริค เดินไปกดรับสายเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้อย่างหลวมๆ
“นาย...ดีนออกไปทำงานต่างเมือง...อีกหลายวันกว่าจะกลับ”เอริคคิ้วขมวดเข้าหากันทันทีกับเสียงปลายสายรายงานมา เพราะนั้นก็แสดงว่า คริสตี้อยู่ที่นั้นเพียงลำพัง เอริคตอบรับและวางสาย สองขาขยับเข้าไปยังวอล์คอิน เพื่อแต่งตัวสำหรับการออกไปข้างนอก
“ทำไม?...อยากจะแกล้งอะไรเขาอีกละ...” “เปล่าสักหน่อย...ยายนั้นมาฟ้องคุณย่าเหรอครับ” “คิดว่าเชือกฟางทำแบบนั้นเหรอ” ไอเดนยิ้มและส่ายหน้า ถึงเขาจะเจอกับเชือกฟางได้ไม่นาน แต่เขารู้ว่าเชือกฟางไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน “นะครับคุณย่า” “จะดูแลเขาได้เหรอ?” หนูนาถามกลับทันที “ได้ครับคุณย่า” หนูนายิ้มให้กับหลานชาย หนูนามองเข้าไปในดวงตาของไอเดน เธอรู้ว่าไอเดนคิดยังไง และเมื่อไอเดนกล้ามาคุยกับเธอ นั้นก็แสดงให้เธอรู้ว่า ไอเดนคิดยังไงโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย “คุณปู่และย่าภูมิใจในตัวหลาน
“ไอเดน ฉันชอบเธอ” ไอเดนเบิกตากว้างขึ้น อย่างคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้หญิงอีกคน เชอร์รี่บอกออกไปในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เธออยากจะบอกไอเดนมาตั้งนาน เธอไปขอให้เชือกฟางร่วมมือ ให้เปิดทางให้เธอได้อยู่กับไอเดนเพียงลำพัง แต่... “เธอควรจะหาทางเองดีกว่า” เชือกฟางบอกกับเชอร์รี่ไป หลังจากที่เชอร์รี่บอกให้เชือกฟางกลับบ้านไปเองตามลำพัง ไม่ต้องรอไอเดน “เชือกฟางมันจะยากอะไรนักหนา เธอก็กลับบ้านไปเลย เดี๋ยวฉันจะไปบอกไอเดนแทนเธอเองว่า เธอฝากมาบอกว่ากลับแล้ว” “ไม่ได้!” เชือกฟางตอบเชอร์รี่เพียงแค่นั้น เพราะถ้าเธอขืนทำแบบนั้น ชีวิตเธอคงไม่สงบไปอีกสักพักเป็นแน่ “ทำไมไม่ได้” &ldq
“อุ้ย!” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอพยายามจะปิดประตูแต่ฝ่ามือของเอริคก็ดันมันไว้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนเธอต้านแรงของเขาไม่ได้ “คุณมาที่นี่ทำไม...” คริสตี้เอ่ยถามด้วยเสียงที่เธอคิดว่าดังมากแล้ว“เป็นอะไรเหรอเปล่า?” เอริคกลับตอบคำถามของเธอด้วยการตั้งคำถามกลับ เพราะคริสตี้ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด “ออกไปนะ!” คริสตี้ไม่สนใจฟังและไม่สนใจใบหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างชัดเจนถ้าเธอจะสังเกตุ และมองใบหน้าของคนตรงหน้าตรงๆ “กินอะไรเหรอยัง?” เอริคหลี่ตามองและตั้งคำถามอีกครั้ง ไม่สนใจคำไล่ของเธอ “ออกไปนะ!...” คริสตี้อ่อนแรง อ่อนเพลีย เธอเหมือนจะเป็นลม และเธอก็เจ็บปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอคงกำลังจะไม่สบาย “อ๊ะ!” เอริคขยับรับร่างที่กำลังจะล้มหมดสติได้ทัน 
เฮเลนที่ลอบมองจากหน้าต่าง ล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และกดโทร.ออกทันทีเมื่อเจ้านายขับรถออกไป “คุณมุก...เรื่องน่าจะเลยเถิดไปมากกว่าที่คุณอลันคาดไว้แล้วล่ะคะ” เฮเลนเอ่ยบอกปลายสายทันที เมื่อได้รับเสียงตอบรับมา “เอริค ทำอะไรเหรอคะ?” ปิ่นมุกถามกลับทันที ในขณะที่เธอและ อลันอยู่ที่ญี่ปุ่น “ป้าคิดว่า คุณเอริคมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นลูกบุญธรรมของดีน เลอนาร์ด...และตอนนี้คุณเอริคก็ออกจากบ้านไปตามลำพังแล้วค่ะ” “ตายจริง!...ขอบคุณนะคะเฮเลน คนที่ก่อเรื่องต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พี่อลันทำเกินไปแล้ว...มุกฝากเฮเลนช่วยดูแลเธอคนนั้นหน่อยนะคะ... คริสตี้เป็นเด็กดี...มุกได้แต่หวังว่าเอริคจะรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป...แต่ตอนนี้มุกต้องไปจัดการคนที่สร้า
“คริสตี้ ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดกับเธอให้ดี...” เอริคพูดพร้อมกับที่เขาจัดการตัวเองโดยการเอาเกราะป้องกันที่ยังคงมีคราบเลือดพรหมจรรย์ของเธอติดอยู่ให้เห็นจางๆออกไป “เธอต้องกลับไปบอกพ่อของเธอว่า วันนี้เธอมาทำหน้าที่ของเธอที่บ้านของฉัน และมันยังไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางมาที่นี่อีก...” เอริคแต่งตัวไปพร้อมๆ กับพูดในสิ่งที่คริสตี้ต้องทำ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้นและวางบนลงเตียง “...แต่งตัวซะ” เอริคสั่งการทันที เมื่อคริสตี้ยังไม่ขยับ แต่เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด คริสตี้ขยับร่างกายที่บอบบางและอ่อนล้านั้นทันทีเท่าที่เธอจะสามารถขยับได้เร็วพอแบบที่ไม่ต้องเจ็บปวดมาก เสียงพูดของเขายังดังต่อไป โดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย คริสตี้รีบแต่งตัวตามคำสั่งนั้น เธอไม่มีคำถามต่อคำสั่งนั้น แต่... “ฉันยังต้องมาที่นี่อีกเหรอ?” คริสตี้ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ&
สองมือของเอริคไล้เลื่อนไปยังมือเล็กที่เกร็งดึงรั้งผ้าปูที่นอนดั่งกับต้องการหาหลักที่ยึดเหนี่ยว มือที่ใหญ่และแข็งแรงกว่ากอบกุมมือเล็กไว้ ก่อนที่ เอริคจะทำลายกำแพงนั้น ‘พรหมจรรย์’ “อื้มมมมม...” เสียงร้องในคอของคริสตี้ดังออกมา พร้อมกับดวงตาที่ปิดลงอีกครั้ง น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อโพรงสาวถูกล่วงล้ำโดยแก่นกายของเขาจนแนบสนิทกันและกัน เอริคดูดรั้งริมฝีปากของเธอ เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดและอาการเกร็งของเธอทั่วทั้งเรือนร่างภายใต้ร่างกายเขา ให้ตายเถอะ! เอริคเกลียดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ เพราะเขาพยายามหักห้ามตัวเอง เขาจะไม่ปลอบประโลมเธอเด็ดขาด คริสตี้ร้องออกมาเพียงครั้งเดียว จากความเจ็บปวดที่เธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเซ็กส์ มันมีดีอะไร ในเมื่อตอนนี้เธอทรมานกับสิ่งที่ได้รับอยู่ ร่างกายเธอแทบจะระเบิดออกมา ยามที่เขาเข้ามาในกายเธอ เธอเจ็บจนเกินบร







