LOGINเฮเลนที่ลอบมองจากหน้าต่าง ล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และกดโทร.ออกทันทีเมื่อเจ้านายขับรถออกไป
“คุณมุก...เรื่องน่าจะเลยเถิดไปมากกว่าที่คุณอลันคาดไว้แล้วล่ะคะ” เฮเลนเอ่ยบอกปลายสายทันที เมื่อได้รับเสียงตอบรับมา
“เอริค ทำอะไรเหรอคะ?” ปิ่นมุกถามกลับทันที ในขณะที่เธอและ อลันอยู่ที่ญี่ปุ่น
“ป้าคิดว่า คุณเอริคมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นลูกบุญธรรมของดีน เลอนาร์ด...และตอนนี้คุณเอริคก็ออกจากบ้านไปตามลำพังแล้วค่ะ”
“ตายจริง!...ขอบคุณนะคะเฮเลน คนที่ก่อเรื่องต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พี่อลันทำเกินไปแล้ว...มุกฝากเฮเลนช่วยดูแลเธอคนนั้นหน่อยนะคะ... คริสตี้เป็นเด็กดี...มุกได้แต่หวังว่าเอริคจะรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป...แต่ตอนนี้มุกต้องไปจัดการคนที่สร้างเรื่องนี้ขึ้นมา...” ปิ่นมุกวางสายจากเฮเลน สายตาเธอก็มองหา อลัน ทันที
“หนูมุก!...” อลันที่นั่งพักผ่อนอย่างสบาย ที่บ้านพักในชนบทของเมืองฮิโรชิม่าประเทศญี่ปุ่น
“พี่อลัน!...ตอนนี้เรื่องเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว รู้มั้ยว่าเอริคทำอะไรลงไป” อลันทำหน้าแปลกใจกับสิ่งที่ปิ่นมุกพูดออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ
“เอริคทำอะไร?” อลันเลิกคิ้วถาม ด้วยน้ำราบเรียบ มั่นคง
“เขารังแกคริสตี้...นั้นก็เพราะพี่อลัน ที่วางแผนนี้ขึ้นมา ทำให้ลูก ทำเกินกว่าเหตุอย่างไม่รู้ตัว” อลันรับฟังอย่างสงบเงียบเช่นเดิม
“…หนูมุก ก็เรื่องนี้เราตกลงกันแล้วนะ...จริงอยู่เรื่องคริสตี้อาจจะเกินควบคุมได้ แต่คนอย่างเอริค เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขารู้สึกได้ว่าเป็นศัตรูอย่างเด็ดขาด” หนูมุกเป็นคิ้วขมวดทันทีกับเหตุผลของอลัน
“พี่อลันหมายความว่าอะไร?”
“หนูมุก!...อย่าลืมสิว่าพี่เช็คสองพ่อลูกคู่นี้มาอย่างละเอียด สองคนนี้ไม่ใช่คนเลว และเมื่อพี่สืบหาข้อมูลได้ เอริคก็ทำได้เหมือนกัน และการที่เขาให้คริสตี้เข้าไปในบ้านนั้นก็แสดงว่าเขามั่นใจแล้วว่าคริสตี้ไม่ได้ร้ายกาจอะไร...แต่เรื่องที่เอริคทำแบบนั้น พี่ว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุผลอื่นของลูกมากกว่า...”
“พี่อลันกำลังบอกมุกว่า ลูกแอบพอใจคริสตี้โดยที่เขาไม่รู้ตัวเหรอคะ...”
“รู้ตัวหรือไม่ เรื่องนี้พี่ก็ไม่รู้หรอก...แต่เรื่องนี้พี่แค่ต้องการให้เอริคได้บทเรียน เอริคเป็นคนทะนงตนอย่างมาก เขาคิดว่าไม่มีใครกล้าล้ำเส้นอาณาจักรของเขา ซึ่งนั้นทำให้เขาประมาทเกินไป การที่พี่ส่งสองพ่อลูกนี้เข้าไป เพื่อให้เอริคระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะเขายิ่งใหญ่มากขึ้นเพียงใด ช่องโหว่ก็มากขึ้นและนั้นจะเปิดโอกาสให้กับศัตรูเข้าถึงเขาได้ง่ายมากขึ้น อย่างสองพ่อลูกนี้ที่ไม่มีพิษสงอะไรทั้งนั้น ก็สามารถเข้าถึงตัวเอริคได้อย่างง่ายดาย” ปิ่นมุกถอนหายใจอย่างเหลือเชื่อ
“พี่อลันแน่ใจนะคะ ว่าไม่เร็วเกินไปที่ให้เอริครับช่วงต่อ” อลันยิ้มก่อนตอบ...
“หนูมุกลืมไปแล้วเหรอ? ว่าพี่รับช่วงต่อจากคุณตาทวดตั้งแต่อายุสิบห้า” ปิ่นมุกเลื่อนสายตามองบนอย่างรำลึกเหตุการณ์ในอดีต ก่อนที่จะยิ้มและนึกถึงคนในปัจจุบันที่น่าสงสาร เพราะช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่พวกเธอต้องพลัดพรากจากกัน นานมากแล้ว เตาเหมือนพึ่งเกิดขึ้น ตอนที่เธออายุแค่ไม่กี่ขวบ ร้องไห้ฟูมฟายที่อลันต้องเดินทางไปอังกฤษ ตอนนั้น...
“แล้วคริสตี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป เธอไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เลยนะคะ”
“เรื่องนั้นก็เป็นปัญหาของเอริค...อย่าลืมสิ! เอริคไม่ใช่คนไม่ดี ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ เขาเป็นลูกที่หนูมุกเลี้ยงมากับมือ” หนูมุกทรุดเข่าลงนั่งข้างๆสามีที่รักเมื่อได้ฟังเหตุผลของเขา อลันยิ้มและโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน เมื่อหนูมุกยังเป็นหนูมุกของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เธอเป็นคนที่รับฟังเหตุผลเสมอ ก็เขาเลี้ยงดูแลเธอมาโดยตลอด ผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเขา แม่ของลูกชายทั้งสองของเขา
เอริคพยักหน้าให้กับเดธ และบอกให้เขากลับไปพักผ่อน เมื่อเดธมาเปิดประตูห้องเช่าของคริสตี้ให้เรียบร้อยแล้ว
เอริคเดินไปยังประตูห้องส่วนตัวของคริสตี้ทันทีมันล็อคจากด้านใน
ก็อก ก็อก ก็อก คริสตี้หันไปที่ประตู “พ่อกลับมาแล้ว...” คริสตี้เปรยออกมาเมื่อเธอสวมเสื้อผ้าในชุดที่เธอพร้อมนอน เธอรู้สึกไม่ดีเหมือนว่าเธอกำลังจะป่วย แต่เธอจะให้พ่อเธอรู้ไม่ได้ คริสตี้เก็บอาการของตัวเองและเดินมาเปิดประตูห้อง ทันทีที่ประตูเปิดกว้าง ดวงตา และปากของเธอเปิดกว้างขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่า เอริค ซาวันเดอร์ ยืนอยู่ตรงนี้
“ทำไม?...อยากจะแกล้งอะไรเขาอีกละ...” “เปล่าสักหน่อย...ยายนั้นมาฟ้องคุณย่าเหรอครับ” “คิดว่าเชือกฟางทำแบบนั้นเหรอ” ไอเดนยิ้มและส่ายหน้า ถึงเขาจะเจอกับเชือกฟางได้ไม่นาน แต่เขารู้ว่าเชือกฟางไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน “นะครับคุณย่า” “จะดูแลเขาได้เหรอ?” หนูนาถามกลับทันที “ได้ครับคุณย่า” หนูนายิ้มให้กับหลานชาย หนูนามองเข้าไปในดวงตาของไอเดน เธอรู้ว่าไอเดนคิดยังไง และเมื่อไอเดนกล้ามาคุยกับเธอ นั้นก็แสดงให้เธอรู้ว่า ไอเดนคิดยังไงโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย “คุณปู่และย่าภูมิใจในตัวหลาน
“ไอเดน ฉันชอบเธอ” ไอเดนเบิกตากว้างขึ้น อย่างคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากผู้หญิงอีกคน เชอร์รี่บอกออกไปในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เธออยากจะบอกไอเดนมาตั้งนาน เธอไปขอให้เชือกฟางร่วมมือ ให้เปิดทางให้เธอได้อยู่กับไอเดนเพียงลำพัง แต่... “เธอควรจะหาทางเองดีกว่า” เชือกฟางบอกกับเชอร์รี่ไป หลังจากที่เชอร์รี่บอกให้เชือกฟางกลับบ้านไปเองตามลำพัง ไม่ต้องรอไอเดน “เชือกฟางมันจะยากอะไรนักหนา เธอก็กลับบ้านไปเลย เดี๋ยวฉันจะไปบอกไอเดนแทนเธอเองว่า เธอฝากมาบอกว่ากลับแล้ว” “ไม่ได้!” เชือกฟางตอบเชอร์รี่เพียงแค่นั้น เพราะถ้าเธอขืนทำแบบนั้น ชีวิตเธอคงไม่สงบไปอีกสักพักเป็นแน่ “ทำไมไม่ได้” &ldq
“อุ้ย!” คริสตี้ร้องออกมา เมื่อเธอพยายามจะปิดประตูแต่ฝ่ามือของเอริคก็ดันมันไว้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนเธอต้านแรงของเขาไม่ได้ “คุณมาที่นี่ทำไม...” คริสตี้เอ่ยถามด้วยเสียงที่เธอคิดว่าดังมากแล้ว“เป็นอะไรเหรอเปล่า?” เอริคกลับตอบคำถามของเธอด้วยการตั้งคำถามกลับ เพราะคริสตี้ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด “ออกไปนะ!” คริสตี้ไม่สนใจฟังและไม่สนใจใบหน้าที่ดูเป็นกังวลอย่างชัดเจนถ้าเธอจะสังเกตุ และมองใบหน้าของคนตรงหน้าตรงๆ “กินอะไรเหรอยัง?” เอริคหลี่ตามองและตั้งคำถามอีกครั้ง ไม่สนใจคำไล่ของเธอ “ออกไปนะ!...” คริสตี้อ่อนแรง อ่อนเพลีย เธอเหมือนจะเป็นลม และเธอก็เจ็บปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอคงกำลังจะไม่สบาย “อ๊ะ!” เอริคขยับรับร่างที่กำลังจะล้มหมดสติได้ทัน 
เฮเลนที่ลอบมองจากหน้าต่าง ล้วงโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และกดโทร.ออกทันทีเมื่อเจ้านายขับรถออกไป “คุณมุก...เรื่องน่าจะเลยเถิดไปมากกว่าที่คุณอลันคาดไว้แล้วล่ะคะ” เฮเลนเอ่ยบอกปลายสายทันที เมื่อได้รับเสียงตอบรับมา “เอริค ทำอะไรเหรอคะ?” ปิ่นมุกถามกลับทันที ในขณะที่เธอและ อลันอยู่ที่ญี่ปุ่น “ป้าคิดว่า คุณเอริคมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นลูกบุญธรรมของดีน เลอนาร์ด...และตอนนี้คุณเอริคก็ออกจากบ้านไปตามลำพังแล้วค่ะ” “ตายจริง!...ขอบคุณนะคะเฮเลน คนที่ก่อเรื่องต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ พี่อลันทำเกินไปแล้ว...มุกฝากเฮเลนช่วยดูแลเธอคนนั้นหน่อยนะคะ... คริสตี้เป็นเด็กดี...มุกได้แต่หวังว่าเอริคจะรับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป...แต่ตอนนี้มุกต้องไปจัดการคนที่สร้า
“คริสตี้ ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดกับเธอให้ดี...” เอริคพูดพร้อมกับที่เขาจัดการตัวเองโดยการเอาเกราะป้องกันที่ยังคงมีคราบเลือดพรหมจรรย์ของเธอติดอยู่ให้เห็นจางๆออกไป “เธอต้องกลับไปบอกพ่อของเธอว่า วันนี้เธอมาทำหน้าที่ของเธอที่บ้านของฉัน และมันยังไม่เรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางมาที่นี่อีก...” เอริคแต่งตัวไปพร้อมๆ กับพูดในสิ่งที่คริสตี้ต้องทำ เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้นและวางบนลงเตียง “...แต่งตัวซะ” เอริคสั่งการทันที เมื่อคริสตี้ยังไม่ขยับ แต่เธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด คริสตี้ขยับร่างกายที่บอบบางและอ่อนล้านั้นทันทีเท่าที่เธอจะสามารถขยับได้เร็วพอแบบที่ไม่ต้องเจ็บปวดมาก เสียงพูดของเขายังดังต่อไป โดยที่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอเลย คริสตี้รีบแต่งตัวตามคำสั่งนั้น เธอไม่มีคำถามต่อคำสั่งนั้น แต่... “ฉันยังต้องมาที่นี่อีกเหรอ?” คริสตี้ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ&
สองมือของเอริคไล้เลื่อนไปยังมือเล็กที่เกร็งดึงรั้งผ้าปูที่นอนดั่งกับต้องการหาหลักที่ยึดเหนี่ยว มือที่ใหญ่และแข็งแรงกว่ากอบกุมมือเล็กไว้ ก่อนที่ เอริคจะทำลายกำแพงนั้น ‘พรหมจรรย์’ “อื้มมมมม...” เสียงร้องในคอของคริสตี้ดังออกมา พร้อมกับดวงตาที่ปิดลงอีกครั้ง น้ำตาของเธอไหลออกมาอีกครั้ง เมื่อโพรงสาวถูกล่วงล้ำโดยแก่นกายของเขาจนแนบสนิทกันและกัน เอริคดูดรั้งริมฝีปากของเธอ เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดและอาการเกร็งของเธอทั่วทั้งเรือนร่างภายใต้ร่างกายเขา ให้ตายเถอะ! เอริคเกลียดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ เพราะเขาพยายามหักห้ามตัวเอง เขาจะไม่ปลอบประโลมเธอเด็ดขาด คริสตี้ร้องออกมาเพียงครั้งเดียว จากความเจ็บปวดที่เธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเซ็กส์ มันมีดีอะไร ในเมื่อตอนนี้เธอทรมานกับสิ่งที่ได้รับอยู่ ร่างกายเธอแทบจะระเบิดออกมา ยามที่เขาเข้ามาในกายเธอ เธอเจ็บจนเกินบร







