Share

บทที่ 86

Penulis: Karawek House
last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-20 18:22:19

“ตกเขาแล้วเจอกิ่งไม้ ก็เลยรอดตาย...” เหอะๆ “...นี่มันหนังจีนกำลังภายในชัดๆ”

ยังไม่นับอีกว่าครั้งหนึ่งเคยมีจอมยุทธหนุ่มอย่างจ้าวหุบเขาหลี่ตกลงมาแล้วไม่เพียงรอดตาย แต่ยังได้เคล็ดวิชามารฟ้ากลับขึ้นไปอีกแน่ะ...

“ซะ...” อาจูจะตะโกนเรียกคนที่นึกถึง แต่นึกได้เสียก่อนว่าอาจารย์ป้าที่ชื่ออะไรสักอย่างเหยาๆ อาจยังวนเวียนอยู่แถวนี้ และจ้าวหุบเขาหลี่อาจยังไม่เสร็จธุระบ้าบออะไรนั่น จึงยั้งปากเอาไว้

ความที่ผิวขาวผ่องของจวี๋ฮวาโดดเด่นสะดุดตาจนเกินไป เพื่อให้แน่ใจได้ว่าคนที่จะมาเจอเธอเป็นคนแรกจะเป็นท่านจ้าวหุบเขา อาจูจึงค่อยๆ กระถดถอยหนีแสงจันทร์ที่สาดแสงลงมา กว่าที่ร่างบอบช้ำร่างนี้จะได้เอนพิงผนังหิน สายตาเธอก็คล้ายจะค่อยๆ ปรับตัวจนคุ้นชินกับความมืดขึ้นนิดหน่อย

“หนาว...” อาจูกอดร่างตัวเองแน่น เนื้อตัวสั่นเทา

ตกลงใส่พุ่มไม้ตั้งไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น ร่างกายย่อมบอบช้ำและได้รอยแผลขีดข่วนไม่น้อย แต่ตอนนี้ นอกจากความหนาวจนผิวชากับอาการแสบคอเสียดหน้าอกแล้ว เธอไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

หนาวเป็นบ้า... อาจูพยายาม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 112

    กระนั้นจ้าวเหว่ยซงก็ไม่คิดว่าบุรุษที่พุ่งทะยานนำหน้าตนจะเป็นผู้คิดอ่านเรียบง่ายเช่นนั้น นอกจากนี้ แม้ตำหนักพันพิษจะเป็นค่ายพรรคมารก็ใช่ว่าจะยินยอมรับงานจากผู้ใดโดยง่าย ยิ่งเรื่องเข้ารับใช้แผ่นดินหนึ่งแผ่นดินใดด้วยแล้ว นับว่าผิดวิสัยพรรคมารอันเย่อหยิ่งที่ก่อร่างสร้างตัวอยู่ในสถานที่ที่รายรอบด้วยทะเลทรายอันแห้งแล้ง ปกครองตนเองเสมือนหนึ่งชนเผ่าอิสระย่อมๆ ชนเผ่าหนึ่งก็ไม่ปานรองแม่ทัพจ้าวสงสัยยิ่งนัก ว่า “กุนซือหวาง” ผู้พุ่งทะยานนำหน้าด้วยแววตามั่นอกมั่นใจถึงเพียงนั้น ไปเอาความเชื่อมั่นเช่นนี้มาจากที่ใดขณะกระโดดข้ามหุบเหวเคียงกัน จ้าวเหว่ยซงอดออกปากถามไม่ได้“กุนซือหวาง...ท่านมีวิธีทำให้ประมุขตำหนักพันพิษยอมช่วยเหลือฝ่ายเราอย่างนั้นรึ?”“เรื่องนั้นยังไม่แน่นอนนัก เพียงแต่ข่าวลือพวกนั้นช่างน่าสนใจยิ่ง” หวางมู่ตอบตามตรงนอกจากข่าวเล่าลือเรื่องลูกศิษย์ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสตรีของจ้าวหุบเขา กับเรื่องนายน้อยสกุลซุน ยังมีเรื่องที่ประมุขตำหนักพันพิษมาพำนักที่นี่อยู่อีกเรื่องจากข่าวสารที่พวกเขาได้รับ...ก่อนหน้าที่พวกเ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 111

    ท่ามกลางความเงียบงัน กุนซือหน้าหยกเอ่ยเสียงไม่ดัง ไม่เบา “จ้าวหุบเขาผู้นั้น ดูจะเร่งรีบเกินไปหน่อยหรือไม่...?” หวางมู่ยกมือจับคางตัวเองเบาๆ “เจ้าว่าคนผู้นั้นรีบร้อนถึงเพียงนั้นเพราะเหตุใด เพราะอยากรีบออกตามหาดรุณีน้อยในข่าวลืออย่างนั้นรึ?”ก่อนหน้านี้ ผู้คนในโรงเตี๊ยมใกล้ลานชุมนุมชาวยุทธไม่ไกลจากหุบเขา ล้วนพูดถึงสตรีเยาว์วัยผู้หนึ่งซึ่งจ้าวหุบเขาเดียวดายประกาศไว้ว่า“หากผู้ใดพบเห็นสตรีเช่นที่กล่าวถึงและพาตัวนางกลับมาส่งโดยปลอดภัย หรือแม้จะมีข่าวสารใดมอบให้แม้เพียงนิด ก็จะมอบรางวัลให้อย่างงาม”เมื่อเข้าไปสอบถามจึงพบว่า แม้จะบรรยายรูปลักษณ์และอุปนิสัยตลอดจนกิริยาอาการของนางละเอียดนัก จ้าวหุบเขาผู้นี้กลับไม่ยอมทิ้งภาพเขียนใบหน้านางเอาไว้สักฉบับแม้ต่อมาจะมีชาวบ้านหาของป่าที่เคยพบหน้านางพยายามชี้แนะศิลปินผู้ผ่านทางให้ทดลองวาดภาพจำลองจากความทรงจำ จ้าวหุบเขารู้เข้า ไม่เพียงไม่รู้สึกขอบคุณยังบุกทำลายภาพเขียนเหล่านั้นและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดวาดรูปนางทั้งสิ้น ผู้คนจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดกันลับหลังว่า "ท่านจ้าวหุบเขาช่างห

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 110

    “จ้าวหุบเขาช่างเข้าใจพูดจานัก”“ข้าล้วนคิดใคร่ครวญตามถ้อยคำกุนซือหวางทั้งสิ้น”ฝีปากของจ้าวหุบเขาผู้นี้... รองแม่ทัพเห็นท่าจะไม่ดี รีบเอาตัวเข้าแทรกการสนทนาบรรยากาศตึงมึนนี้อย่างทันท่วงที “ที่จ้าวหุบเขาเอ่ยมานั้นชอบแล้ว เมื่อพิจารณาตามถ้อยคำกุนซือหวาง หุบเขาเดียวดายก็ยากจะนับว่าอยู่ในอาณาจักรหนึ่งอาณาจักรใดจริงๆ” เขาประสานมือคารวะเจ้าของสถานที่ กิริยายิ่งกว่านอบน้อมหากคนอื่นๆ ณ ที่นี่ใบหน้าดำคล้ำเหมือนเปื้อนหมึก สีหน้าท่านรองแม่ทัพในยามนี้ก็ดำคล้ำและแข็งเกร็งราวกับแท่งหมึกเลยทีเดียว“ท่านจ้าวหุบเขา” จ้าวเหว่ยซงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม จริงจัง “บิดาข้านั้นเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านยิ่งนัก ตัวข้าเองที่ได้ยินชื่อเสียงท่านมาร่วมสิบปีก็ศรัทธาในตัวท่านเหลือจะกล่าว หากชาตินี้ไม่อาจร่วมรบก็คงได้แต่เสียใจที่ไร้วาสนา...”“รองแม่ทัพช่างเจรจายิ่งนัก เสียแต่ที่เรื่องการทหารดูจะเหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป อีกทั้งตัวข้ายังไม่มีเวลามากพอจะอยู่ฟัง หากพวกท่านมีธุระเท่านี้ เห็นทีจ้าวหุบเขาเช่นข้าต้องขอตัว&rd

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 109

    กุนซือหนุ่มจ้องมองร่างที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่เพียงวูบหนึ่งก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ “ข้าน้อยหวางมู่คารวะท่านจ้าวหุบเขา” ยามเอ่ยชื่อตัวเอง หวางมู่ลอบจับสังเกตสีหน้าบุรุษสูงสง่าเจ้าของสถานที่ เมื่อไม่เห็นว่ามีสิ่งใดผิดปกติจึงค่อยเอ่ยต่อไป “ไม่ทราบว่าจ้าวหุบเขามีชื่อเรียงเสียงไร?” กุนซือหวางถามด้วยรอยยิ้มสว่างสดใส ดูเป็นมิตรเป็นอย่างยิ่ง“ดำรงอยู่เสมือนไม่ดำรงอยู่ มีก็เหมือนหนึ่งไม่มี ไม่ว่าก่อนหน้าสืบทอดที่แห่งนี้จะชื่อเสียงเรียงไร นับแต่รับสืบทอดทุกสิ่งจากปรมาจารย์จ้าวหุบเขารุ่นก่อน จ้าวหุบเขาเช่นข้าก็ได้ละวางชื่อแซ่ไปนานแล้ว” จ้าวหุบเขายังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าดูไร้อารมณ์ความรู้สึก “บอกธุระพวกท่านมา หากไม่มีธุระอันใด ก็เร่งลงจากเขาเสีย จ้าวหุบเขาเช่นข้ามีกิจธุระรัดตัว ไม่สะดวกรับรองผู้ใดทั้งนั้น” ประโยคหลังนี้ฟังดูไร้มารยาทนัก ทว่าท่าทีอันสงบนิ่งภูมิฐานเปี่ยมมารยาทจรรยาของบุรุษเจ้าของสถานที่ กลับขับให้ประโยคที่ว่านี้ดูถูกต้องชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง“อา...ท่านคือจ้าวหุบเขาเดียวดายผู้โด่งดังผู้นั้นไม่ผิดแน่” กุนซือหวางยังคงเอ่ยด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้มเจือจาง ทว่

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 108

    ชายคนเดิมยังคงเอ่ยเสียงต่ำ ฟังแล้วแทบไม่ดังไปกว่าเสียงลมพัด น้ำเสียงยามชายคนนี้เอื้อนเอ่ยไม่เพียงฟังดูไพเราะนุ่มนวลยังมีจังหวะจะโคนคล้ายเสียงดนตรี รับกันกับใบหน้างดงามและรูปร่างเพรียวบางเป็นอย่างยิ่ง“คนผู้นี้กำลังเดินลมปราณเพราะเหตุผลบางอย่าง หากขัดจังหวะตอนนี้ ไม่แน่ว่าเราอาจทำเขาบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็อาจเป็นพวกเราเสียเองที่ตกอยู่ในอันตราย...” ชายเสียงไพเพราะราวกับเสียงพิณยังคงเอ่ยต่อไป “โทสะของพยัคฆ์ร้ายยามโดนรบกวนนั้นไม่ธรรมดา ผู้ฝึกยุทธนั้นเทียบไปแล้วก็ไม่ต่างจากสัตว์ป่า แต่ละคนล้วนฝึกปรือจนประสาทสัมผัสและสัญชาตญาณในการป้องกันตนเองรุนแรงแกร่งกล้า หากสัมผัสถึงสิ่งคุกคามแม้เพียงนิด พวกเขาย่อมไม่ลังเลที่จะ ‘กำจัด’ เพื่อปกป้องตนเองเอาไว้...คิดรบกวนผู้ฝึกยุทธ โดยเฉพาะผู้ที่สำเร็จวิชามารจนลมปราณกล้าแข็งขณะคนผู้นั้นกำลังเดินลมปราณ หากพลาดพลั้งถูกลงทัณฑ์ หรือถูกสัญชาตญาณอันแรงกล้าของยอดฝีมือคร่าชีวิตอย่างไร้ค่าก็ไม่อาจโทษผู้ใดทั้งนั้น นอกจากความโง่เง่าของตนเอง”“อะ...” ผู้ถูกสอนสั่งชะงักปากเล็กน้อย ก่อนเอ่ยประโยคที่เริ่มไว้ “กุน ซือหวางกล่าวได้ถูกต้อง เป็นผู้น้อยที่คิดอ่านไม่ถี่ถ้วนจนเกิ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 107

    “ดี” มันเลื้อยกลับไปนอนขดตัวที่ผนังถ้ำฝั่งตรงข้ามเหมือนก่อนหน้า “ทีนี้อยากจะแช่สมุนไพรหรือจะไปทำอะไรในห้องเล็กอะไรนั่นก็รีบทำ เรียบร้อยแล้วก็รีบเก็บลูกท้อนั่นกินซะ เสร็จแล้วจะได้เร่งฝึกฝนกันต่อ”“เจ้ารู้หรือไม่ ข้าไม่อาจกินของเพียงสิ่งเดียวซ้ำๆ กันทุกวันเช่นนี้” อาจูอดพูดไม่ได้ “มนุษย์เช่นข้าต้องกินอาหารให้ถูกต้องเหมาะสม อย่างน้อยๆ ก็ควรได้กินเนื้อสัตว์หรืออย่างอื่นที่พอจะทดแทนกันได้อย่างพวกเมล็ดถั่ว จะกินแค่น้ำสะอาดกับผลไม้ชนิดเดียวซ้ำๆ ซากๆ ไม่ได้ ที่ร่างกายข้าย่ำแย่ลงกะทันหัน จะเป็นเพราะกินแต่ของแบบนี้ซ้ำๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”“หรือเจ้าอยากกินเลือดเนื้อสัตว์ดิบๆ” มันเสนอ ไม่รู้สึกรู้สา ทำเอาอาจูขมวดคิ้วมุ่นเออ...ข้าคิดผิดเองแหละที่มานั่งคุยเรื่องอาหารการกินกับงู!ต่อให้ปลงเรื่องอาหารได้แล้ว อาจูก็ยังทำใจเรื่องยากง่ายอีกเรื่องหนึ่งไม่ค่อยจะได้“เจ้าจะปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียวตามลำพังสักนิดไม่ได้เลยจริงๆ รึ?”"ตอนเจ้าเข้าห้องเล็กนั่น ยังไม่ใช่อยู่ตามลำพังอีกรึ?”อาจูลอบกัดริมฝีปากอย่างขัดใจ ต่อให้ไม่พอใจแค่ไหนก็ไม่กล้าทำตัวเรื่องมาก ได้แต่พยายามปลอบตัวเองในใจดีนะ...ที่งูตัวนี้เป็นแค่งู

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status