Home / รักโบราณ / นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี / ตอนที่3 การเปลี่ยนแปลงของนาง

Share

ตอนที่3 การเปลี่ยนแปลงของนาง

last update Last Updated: 2025-09-15 23:27:29

 ว่านชิงอีหยิบประคำหยกเจ็ดสีออกมาสวมใส่ ก่อนจะรับรู้ถึงพลังบางอย่างไหลเวียนทั่วร่างก่อนจะหายไป จากนั้นนางก็หยิบสิ่งของที่อยู่ในยามออกมา มีข้าวสารเสก สายสิญจน์ ยันต์ มีดอาคม และหนังสือเก่าโบราณเล่มหนึ่ง พอนางเปิดขึ้นมาอ่านตัวอักษรในหนังสือ ก็ลอยมาเข้าตัวนางจนหมด จากนั้นหนังสือก็หายไป 

 “ปิงปิงแปลกมากเลยหนังสือหายไปแล้ว”

 “ก็ไม่แปลกนี่เจ้าค่ะ ก็ท่านเป็นเทพผู้พิทักษ์ ย่อมมีอะไรเหนือกว่าผู้อื่นอยู่แล้ว” ปิงปิงอธิบายอย่างคล่องแคล่ว แต่จู่ๆ ก็มีบ่าวรับใช้หญิงเดินเข้ามาอย่างกล้าๆ กลัว

 “คุณหนูสามท่านอยากจะชำระร่างกายเลยหรือไม่ ข้าจะได้เตรียมน้ำเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้หญิงยืนก้มหน้าเนื้อตัวสั่น ว่านชิงอีสังเกตเห็นว่าดวงตาของนางบอดหนึ่งข้าง จึงลุกเดินเข้าไปหา

 “เจ้าเงยหน้าขึ้น” บ่าวรับใช้หญิงยิ่งตัวสั่นมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 “เป็นอะไรตัวสั่นมากขนานนี้กลัวข้าเหรอ?” ว่านชิงอีกล่าวจบก็เอื้อมมือไปสัมผัสตัวนางเพื่อปลอบขวัญ แต่ทันใดภาพต่างๆ ในความทรงจำก็วิ่งแล่นเข้ามา ภาพที่ว่านชิงอีตบหน้าและสาดน้ำแกงใส่หน้าบ่าวรับใช้คนนี้ จนนางตาบอดเพราะน้ำแกงเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศ นี่มันอะไรกัน!ร่างนี้ร้ายกาจได้ขนานนี้เลยหรือ? ว่านชิงอียกมือไปสัมผัสกับดวงตาของนางอย่างรู้สึกผิด

"ข้าขอโทษด้วยนะ” จู่ๆ ปลายนิ้วของว่านชิงอีก็เปล่งแสงไปดวงตาของบ่าวคนนั้น จากที่นางตาบอดดวงตาก็เริ่มหายดี และกลับมามองเห็นอีกครั้ง ว่านชิงอีเองก็ตกใจกับความพิเศษของตน นางสามารถรักษาคนตาบอดให้หายได้เลยเหรอ บ่าวนางนั้นตกใจและดีใจที่จู่ๆ ดวงตาก็กลับมาหายดี ก่อนจะรีบคุกเข่าคำนับว่านชิงอีด้วยความซาบซึ้ง

 “คุณหนู ขอบคุณเจ้าค่ะๆ” นางพูดขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างดีใจ ว่านชิงอีเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่สามารถลบความผิดที่ร่างนี้ได้กระทำเอาไว้ 

“เจ้าชื่ออะไร?”

 “เสี่ยวหมานเจ้าค่ะ”

 “ต่อไปก็มาคอยดูแลข้าอยู่ที่เรือนนี้ เจ้าไม่ต้องกลัวข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีกแล้ว ข้าต้องขอโทษกับเรื่องที่ข้าได้ทำผิดต่อเจ้า” ว่านชิงอีกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยน 

 “เจ้าค่ะ” เสี่ยวหมานดีใจมากที่ดวงตาหายดี เรื่องต่างๆ ในอดีตจึงไม่คิดจะใส่ใจ

 “เจ้าไปเตรียมน้ำเถอะข้าก็อยากแช่น้ำอุ่นอยู่เหมือนกัน”

 “เจ้าค่ะ” เสียวหม่านรีบออกไปจัดการอย่างร่าเริงและคล่องแคล่ว ว่านชิงอียกยิ้มการได้ช่วยเหลือคนอื่น มันทำให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขได้จริงๆ 

 “คุณหนูท่านเทพมากเจ้าค่ะ” ปิงปิงยกนิ้วให้นางอย่างเยินยอนายสาวเต็มที่ 

 “ข้าก็แปลกใจในความสามารถนี้เหมือนกัน แต่ก็ดีข้าจะได้รู้สึกผิดน้อยลงหน่อย ร่างนี้ร้ายกาจไม่เบาเลยนะปิงปิง ไม่รู้ว่ามีอีกมากน้อยแค่ไหน ที่นางได้ไปทำร้ายคนอื่นไว้” ว่านชิงอีเอ่ยขึ้นอย่างหนักใจ

 “ข้าว่านี่ก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ท่านได้มาอยู่ในร่างนี้”

 “ตามเช็ดตามล้างสิ่งที่นางทำไว้นะหรือเฮ้อ!แค่คิดข้าท้อไว้รอแล้ว” ว่านชิงอีถอนใจ ก่อนจะเดินไปหลังม่านเพื่อชำระร่างกาย เพราะน้ำอุ่นเสี่ยวหมานได้เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว 

 เรือนกลางจวนสกุลว่าน ว่านซูอวี้นั่งปักผ้าด้วยความเหม่อลอย บุตรสาวคนที่สามของนาง เติบโตมาเป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจและร้ายกาจ เพราะถูกเลี้ยงดูจากแม่สามีและยังมีว่านจื่อหยวนคอยให้ท้ายและตามใจ นางแทบไม่มีสิทธิ์ดูแลว่านชิงอี หลังคลอดแม่สามีก็ให้คนรับใช้คนสนิท มาเอาทารกไปดูแลเเละเลี้ยงดูเอง นิสัยของว่านชิงอี นางรู้ดีว่าไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ฮูหยินผู้เฒ่ามอบความรักทั้งหมดให้ว่านชิงอี ส่วนหลานสาวอีกสองคนนางไม่เคยรับรู้ ว่านจื่อหยวนก็เช่นกัน เขาทุ่มเททุกอย่างที่มีให้กับว่านชิงอี ไม่ว่าว่านชิงอีอยากได้อะไร เขาต้องไปสรรหามาให้นาง ต่างกับว่านชิงหลินและว่านชิงหลาน ที่ไม่เคยเหลียวแลหรือแม้แต่ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ความลำเอียงนี้สร้างความเจ็บปวดให้นางมาโดยตลอด

 หลายเดือนก่อนว่านชิงอีล้มป่วยลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ฮูหยินผู้เฒ่าและว่านจื้อหยวน ต้องหมดเงินทองมากมายเพื่อจ่ายให้กับหมอที่มารักษา แต่อาการของนางก็ไม่ดีขึ้น แต่ทั้งสองก็ไม่ละความพยายาม ที่จะพยายามติดต่อหาหมอที่ความสามารถมารักษา แต่สุดท้ายว่านชิงอีก็จบชีวิตลง แต่จู่ๆ นางก็ฟื้นคืนชีพ และนิสัยที่เคยเป็นอยู่ก็แทบไม่หลงเหลืออยู่อย่างกับคนละคน แต่คนเป็นมารดาเช่นนางก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ สิ่งที่นางเฝ้าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นจริงขึ้นมาแล้ว ว่านชิงอีเติบโตและรู้ความอยากที่นางอยากให้เป็น

 “ท่านแม่ท่านคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ” ว่านชิงหลินบุตรสาวคนโตหรือคุณหนูใหญ่ เห็นมารดานั่งเหม่อลอยอยู่นาน จึงเอ่ยถามขึ้น 

 “แม่กำลังคิดถึงเรื่องราวของน้องสาวของเจ้า” แต่ว่านซูอวี้พูดยังไม่ทันจบ ว่านชิงหลานที่เดินเข้ามาก็พูดสวนขึ้นมาทันที

 “ข้าว่านางก็แค่เสแสร้ง ใครจะไปเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ รอดูไปอีกสักสามสี่วัน นิสัยเดิมของนางต้องกลับมาแน่” ว่านชิงหลานเอ่ยน้ำเสียงดูแคลน เพราะนางไม่เชื่อการกระทำของว่านชิงอีในวันนี้ แต่แล้วเสี่ยวหมานก็เดินเข้ามา

 “ฮูหยิน คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง ตาของข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวหมานรีบเข้ามาเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ 

 “ตาเจ้าหายได้อย่างไร หมอที่ใดรักษาเจ้า?” ว่านซูอวี้เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

 “เป็นคุณหนูสามเจ้าค่ะ”

 “เจ้าว่าอย่างไรนะ!” ทั้งสามสาวร้องขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เชื่อหู ว่านชิงอีจะมีความสามารถรักษาคนได้อย่างไร เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

 “เจ้าพูดจริงเหรอเสี่ยวหมาน?” คุณหนูใหญ่ถามให้แน่ใจอีกรอบ

 “จริงเจ้าค่ะนางใช้มือสัมผัสที่ดวงตาของข้า แล้วนางก็เอ่ยขึ้นว่า ขอโทษนะ จากนั้นข้าก็มองเห็นทันทีเลยเจ้าค่ะ” เสี่ยวหมานเล่าไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

 “นิสัยเปลี่ยนไปแถมยังมีวิชาแพทย์รักษาคน จะเป็นนางจริงหรือเจ้าคะท่านแม่” ว่านชิงหลานยังคงหวาดระแวงและสงสัย 

 “นั่นสิเจ้าค่ะคนเราจะเปลี่ยนแปลงเพียงชั่วข้ามคืนได้จริงๆ เหรอ” ว่านชิงหลินคิดถึงความเป็นไปได้

 “แต่ว่านางบอกได้ไปพบเทพเซียน แม่ว่าท่านเทพคงได้ให้อะไรนางติดตัวมาบ้างแน่” ว่านซูอวี้เปรยขึ้น

 “ท่านแม่! ท่านคิดหน่อยสิเจ้าคะ ท่านเทพเซียนจะให้ของดีของวิเศษกับคนเช่นนางได้อย่างไร” ว่านชิงหลานแย้งขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย เทพเซียนนะหรือจะให้ของวิเศษกับคนนิสัยเลวร้ายเช่นนาง นางไม่มีทางเชื่อแน่นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่ 51 วันแต่งงาน

    แล้ววันที่เหว่ยอ๋องรอคอยก็มาถึง วันนี้เขาแต่งอาภรณ์สีแดงได้อย่างหล่อเหล่าและสง่างาม ตามมาด้วยเกี้ยวแปดคนหามเพื่อมารับเจ้าสาว และขบวนสินสอดที่ยาวเป็นทาง ผู้คนมายืนรอชมกันอย่างเนืองแน่นพอมาถึงจวนสกุลว่าน เสนาว่านจื่อหยวนและฮูหยินว่านซูอวี้ ก็ช่วยประคองว่านชิงอีออกมาส่งที่หน้าประตูจวน เหว่ยอ๋องกระโดดลงจากหลังม้า เพื่อมารับนางให้ขึ้นเกี้ยว เสนาว่านจับมือของว่านชิงอี วางลงบนมือของเหว่ยอ๋อง ด้วยใจที่ปลาบปลื้มปิติยินดีจนน้ำตาไหล ว่านชิงอีก้าวขึ้นเกี้ยวด้วยความตื่นเต้นยินดี สุดท้ายเขากับนางก็ได้แต่งงานกัน บุรุษที่นางจะฝากชีวิตไว้ด้วยตลอดชีวิตสินเจ้าสาวที่แต่งออกก็มากมายไม่ต่างกับสินเจ้าบ่าว ผู้คนต่างกล่าวชื่นชมถึงความเหมาะสม บางคนก็ยังกล่าวอย่างมีอคติว่า ตำแหน่งชายาอ๋องนั้นไม่คู่ควรกับนาง ว่านชิงอีนั่งฟังในเกี้ยวอย่างไม่ใส่ใจ พวกเขาจะพูดอย่างไรก็ช่าง อย่างไรนางก็ได้แต่งกับเขาอยู่ดี บุรุษผู้นี้เป็นของข้าผู้เดียว ว่านชิงอีระบายยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมาถึงจวนของเหว่ยอ๋อง เขาก็เดินมายื่นมือให้นางจับเพื่อเดินเข้าไปในจวน เพื่อเริ่มพิธีการตามประเพณี วันนี้ฮ่องเต้มาร่วมงานด้วยตัวเอง และองค์รัชทายา

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่50 ประกาศความผิด

    ว่านชิงอีและเหว่ยอ๋องรีบเร่งมาที่เหมืองหลวงอย่างเร่งรีบ แต่ก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้า เมื่อมีทหารหลายพันนายยืนรออยู่หน้าประตูเมือง แต่ที่ทำให้ว่านชิงอีใจกระตุกจนใจเจ็บ เมื่อร่างที่ถูกจับมัดห้อยไว้บนกำแพงเมืองนั้น คือคนในครอบครัวของนาง ว่านจื่อหยวน ว่านซูอวี้ ว่านชิงหลิน ว่านชิงหลาน เหนือขึ้นไปมีบนกำแพงเมือง มีร่างของฮ่องเต้ถูกจับมัดไว้เช่นกัน เหว่ยอ๋องโกรธจนดวงตาแดงก่ำ สองมือกำแน่นกับอารมณ์ที่ปะทุภายในใจ ฮองเฮาและรัชทายาทก้าวออกมา ปรายตาลงมองด้านล่าง ที่มีเหว่ยอ๋องและว่านชิงอี นั่งอยู่บนหลังม้า สายตาที่มองมานั้นเย็นชาและเย้ยหยัน รัชทายาทเฟยหยาง ภายในใจเจ็บปวดไม่แพ้กัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อก่อนเขาเคยมีความคิดอยากขึ้นครองบัลลังก์ แต่หลังจากได้รู้จักว่านชิงอี ได้ทำงานร่วมกันกับ เหว่ยอ๋องและองค์ชายซีห่าว ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป แต่ว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย เมื่อขึ้นบนหลังเสือก็ยากที่จะลง มารดาของเขานั้นก็คือฮองเฮา วางแผนร่วมมือกับตระกูลโจวมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งดึงสามตระกูลขุนนางมาร่วมด้วย แลกกับผลประโยชน์มากมาย เมื่อเขาขึ้นครองราชย์ อำนาจทุกอย่างก็จะตกเป็นของฮองเฮาและตระกูลโจว และอ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่49 จัดการขั้นเด็ดขาด

    ทางด้านองค์ชายซีห่าว ยามนี้กำลังต่อสู้กับคนร้ายอย่างดุเดือด เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนร้าย มาดักรอเพื่อฆ่าเขามากขนาดนี้ องครักษ์ที่เขาพามาด้วยสิบคน ก็พยายามต่อสู้และปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ แต่นักฆ่าที่มาดักรอก็มีจำนวนไม่น้อย ทำให้ฝ่ายขององค์ชายซีห่าวเสียเปรียบพลาดท่าเสียที ได้รับบาดเจ็บกันอย่างสาหัส เรี่ยวแรงก็เริ่มถดถอย เพราะต่อสู้กันมาได้สักพัก องครักษ์ทั้งสิบยามนี้ เลือดอาบไปทั่วทั้งร่างแต่ก็สู้ไม่ถอย เพื่อปกป้องชีวิตขององค์ชาย องค์ชายซีห่าวเองก็ถูกดาบฟันที่แขนเลือดอาบเช่นกัน แต่เขาก็คิดว่าแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากเทียบกับพวกเขาที่ีมีแผลเต็มตัว องค์ชายซีห่าวมององครักษ์ด้วยความซาบซึ้งใจ พวกเขายอมต่อสู้แลกชีวิตเพื่อปกป้องเขา บุญคุณครั้งนี้เขาไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน แต่เขาจะไม่ยอมหลบอยู่ข้างหลังแบบนี้ ยามนี้พวกเขาเริ่มอ่อนแรง เขาจะต้องปกป้องชีวิตพวกเขา “พระองค์จะทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ?” หนึ่งในองครักษ์เดาความคิดของเขาได้เป็นอย่างดี จึงรีบเอ่ยทักเขาเอาไว้ “อย่าแม้แต่จะคิดพ่ะย่ะค่ะ ถึงพวกกระหม่อมจะตาย ก็ต้องปกป้องชีวิตองค์ชายให้ได้พ่ะย่ะค่ะ” เจินซีห่าวได้ฟังก็ถึงกับพูดไม่ออก ในความจงร

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่48 ความสุขมาไวไปไว

    ว่านชิงอีมองเหว่ยอ๋องกับองครักษ์ ที่พากันไปหาฟืนแล้วแบกกลับมาอย่างเอ็นดู ไม่อยากเชื่อว่าจะเห็นมุมนี้ของเขา เมื่อก่อนเขาดูเงียบขรึมและเย็นชา แต่ทว่าเดี๋ยวนี้เขากลับดูอ่อนโยน และเริ่มเป็นกันเองกับคนใต้บังคับบัญชามากขึ้น ที่จริงก็ใช้ว่าคนเราจะเปลี่ยนแปลงตนเองไม่ได้ หากมีแรงจูงใจที่มากพอและคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงมัน นางคิดว่าความรักก็มีส่วนทำให้คนอ่อนโยนลงได้ เพราะหากเรารักใครสักคน เราก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก ว่านชิงอีและฮุ่ยเจียงช่วยกันทำอาหาร อย่างสนุกสนาน ว่านชิงอีเริ่มสังเกตว่าองครักษ์สาวข้างกาย ช่วงนี้เริ่มทำตัวเหมือนสตรีขึ้นมาบ้าง อย่างเช่นเรื่องการแต่งกาย เมื่อก่อนนางทำตัวคล้ายกับบุรุษทุกอย่าง ยามนี้เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนเป็นสวมใส่ดั่งสตรีทั่วไป ว่านชิงอีหรี่ตามองฮุ่ยเจียงอย่างจับผิด หรือว่านางจะมีความรัก ใครกันนะ? หรือว่า? “ฮุ่ยเจียงเจ้าดูสิ อู่ถงแบกฟืนกองใหญ่ขนาดนั้น เดี๋ยวก็ปวดหลังเอาได้หรอก สงสัยจะทำอวดสาว ๆ แถวนี้” ว่านชิงอีแกล้งพูดออกไปแต่ว่าก็ได้ผล แก้มของฮุ่ยเจียงขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ว่านชิงอียกยิ้มหากทั้งสองชอบพอกัน นางก็พร้อมสนับสนุน ความรักเป็น

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่47 วิญญาณผีพราย

    วันรุ่งขึ้นเหว่ยอ๋องก็มารับว่านชิงอีที่จวน การไปในครั้งนี้นางและเหว่ยอ๋อง ไปในฐานะพ่อค้าที่ต้องเดินทางไปทั่วแคว้น การแต่งกายจึงต้องเหมือนคนธรรมดาทั่วไปคือเรียบ ๆ ไร้สีสันใด ๆ องครักษ์ที่นำไปด้วยก็แต่งกายเหมือนบ่าวรับใช้ บนเกวียนว่านชิงนำสิ่งของเครื่องใช้ใส่ไปมากพอสมควร เพราะนางไม่รู้ว่าจะไปกี่วัน นางจึงบอกให้องครักษ์เตรียมผ้าห่ม และผ้าสำหรับกางกระโจม หากว่าต้องได้นอนตามป่าเขาจะได้ไม่ยุ่งยาก ว่านชิงอีรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากกับการเดินทางครั้งนี้ เพราะเหมือนกับว่านางจะได้ไปท่องเที่ยวเดินป่า และนอนตามป่าเขา ซึ่งในยุคก่อนเป็นสิ่งที่นางใฝ่ฝันและอยากจะทำสักครั้ง ไม่อยากเชื่อว่าพอได้ทำขึ้นมาจริง ๆ กลับเป็นคนละยุคกัน ภูเขาตงซานหากเดินทางจริง ๆ จะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ว่าว่านชิงอีอยากใช้เวลาท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งเหว่ยอ๋องก็เห็นด้วย ดีเหมือนกันเขากับนางจะได้ใช้เวลาร่วมกันบ้าง เพราะส่วนใหญ่เจอกันที่สำนักงาน ก็มีคุยกันบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเรื่องงานเสียมากกว่า พอรถม้าพ้นเขตเมืองหลวง ก็เป็นไร่นาเรือกสวนของชาวบ้าน ต้นไม้ปกคลุมเขียวขจีไปทั่วบริเวณ ว่านชิงอีเปิดม่านหน้าต่างรถม้า มองธรรมชา

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่46 สอบสวนต่อหน้าทุกคน

    เหว่ยอ๋องก้าวเดินลงไปหาชายนักบวชที่ถูกผูกติดไว้กับเสา จากนั้นเขาก็เดินเลือกว่าจะใช้อุปกรณ์สอบสวนอันใดเป็นสิ่งแรก ผู้คนมองตามทุกอิริยาบถของเหว่ยอ๋องอย่างลุ้นระทึก และหวาดหวั่นกับท่าทางเย็นชาของเขา ก่อนที่เขาจะหยิบตะขอ ที่มีปลายแหลมคมขึ้นมา จากนั้นก็ให้ทหารมาจับเขาอ้าปาก เขาปรายตามองกลุ่มคนที่เป็นนักพรตก็แสยะยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามชายนักบวชตรงหน้า แต่ว่าก็มีเอ่ยถามขึ้นมาก่อนด้วยความสงสัย “ทูลท่านอ๋องเหตุใดต้องสอบปากคำเขาด้วยละพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อคำทำนายของเขา กล่าวได้ดี และคล้ายกับท่านโหรหลวงทำนายทุกอย่าง และไม่มีคำกล่าวร้ายต่อท่านหญิงเลยพ่ะย่ะค่ะ?” เหว่ยอ๋องยกยิ้ม “เจ้าพูดถูกทหารไปจับท่านนักพรตมามัดอีกคน ข้าจะไต่สวนพร้อมกัน” คราวนี้ทุกคนยิ่งไม่เข้าใจ กับการกระทำของเหว่ยอ๋อง ในเมื่อชายที่เป็นนักบวช ทำนายออกมาได้ดี แล้วเหตุใดยังคงต้องสอบสวน เขาจะไร้เหตุผลเกินไปหรือไม่ เหว่ยอ๋องเหลือบตามองทหารที่จับนักพรตมามัดไว้กับเสา คู่กันกับชายนักบวช ก่อนจะวางตะขอในมือลง แล้วหยิบกระบี่ยาวเฟื้อยขึ้นมา ก่อนจะจับกระบี่ลากไปกับพื้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับเอ่ยถามนักบวชที่ถูกมัดอยู่กับเสา “ท่านนักบวชคำทำนายของท่านไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status