แพนธารินนั่งคุยกับลูกค้าที่ร้านอาหารชื่อดัง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันกลับมีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทายเขา
“คุณแพทจะมาทานข้าวไม่บอกกันเลยนะคะ” เพลงนาราถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายเขา พร้อมกับส่งยิ้มทักทายลูกค้าของเขา ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาตัวจริงของแพนธาริน
“ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณลีโอ”
เขาลากเพลงนาราออกมาด้านนอกร้านพร้อมต่อว่าหญิงสาวที่ทำตัวไม่มีมารยาทกับเขา
“ผมคุยกับลูกค้าอยู่ทำตัวไม่มีใครสั่งใครสอน และอย่าแสดงความเป็นเจ้าของ” เขาเคยเตือนไปหลายครั้งแล้วแต่เหมือนหญิงสาวไม่สนใจ
“เพลงคิดถึงคุณนะคะ”
“ผมให้เงินคุณไปตั้งเยอะมันไม่พอใช้หรือไง”
“ประจำเดือนเพลงยังไม่มาเลยค่ะ” เพลงนาราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากพลาดท้องขึ้นมาอย่างไรแล้วเขาต้องรับผิดชอบเธอ
“...” เขานิ่งเงียบกำลังใช้สมาธิ
“ถ้าเพลงท้องคุณไม่รักเพลงไม่ว่าแต่รักลูกของเราบ้างได้ไหม”
มิณไอริณที่บังเอิญผ่านมาและได้ยินประโยคนั้นถึงกับช็อกไปชั่วขณะ แพนธารินต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือแล้วเพลงนารายังจะปล่อยท้องเพื่อจับเขา ดีเลยเธอจะได้เขาข้ออ้างนี้ไปเล่นงานเขา
“อยากให้รับก็ต้องไปตรวจดีเอ็นกล้าไหมล่ะ” น้ำเสียงของเขาเย็นชาเขาเลวอยู่แล้วเรื่องแบบนี้บอกเลยว่าไม่สนใจ
“คุณแพทเพลงนอนกับคุณแค่คนเดียวนะ” เธอไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด
“ว้าว~ มาพลอดรักอะไรกันกลางวันแสกๆ ทำให้อะไรไม่อายคนอื่นอยากประจานตัวเองหรือไงว่าเป็นเมียน้อย” เสียงมิณไอริณดังขึ้นเธอกอดอกแล้วยืมมองพวกเขาทั้งสองคน แพนธารินที่มีสีหน้าตกใจ
“เธอมาได้ยังไงไอริณ”
“ก็มาทานข้าวไงคะแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอฉากเด็ด”
“มันไม่มีอะไรทั้งนั้น!” แพนธารินรีบปฏิเสธกลัวว่าหญิงสาวจะเข้าใจเขาผิด เรื่องความสัมพันธ์กับเพลงนารามิณไอริณไม่รับรู้
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรร้อนตัวทำไมจริงไหมจ๊ะ เพื่อนรักเราไม่ได้เจอกันนานเลย”
“ฉันยุ่งนะ”
ยุ่งกับผัวชาวบ้านเขานะสิมิณไอริณเบ้ปากกลอกตาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันขอตัวก่อนนะพอดีมีงานด่วน”
วันนี้นัดทนายมาทำเรื่องฟ้องหย่ากับแพนธารินแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับสิ่งที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน แพนธารินทำผู้หญิงท้องและผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนรักของมิณไอริณ
“มันเลวจริงๆ” เสียงเทวัญดังขึ้น
“ฟ้องเลยค่ะพี่เทวัญติดต่อนักข่าวให้ด้วยนะคะ”
เอาให้อับอายกันไปข้างหนึ่งเมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้ว มิณไอริณจึงไปหานักข่าวพร้อมกับเทวัญอีกไม่ถึงชั่วโมงน่าจะเป็นข่าวใหญ่
.
“แกไปก่อเรื่องอะไรไว้ไอ้แพท!” พ่อของแพนธารินเข้ามาโวยวายถึงในห้องประชุมโดยไม่สนใจผู้ร่วมลงทุนคนอื่น
“ออกไปให้หมดผมมีเรื่องจะคุยกับลูกชาย”
แพนธารินไม่เข้าใจว่าพ่อโกรธใครมาถึงได้เป็นแบบนั้น ช่วงบ่ายเขากลับมาและเข้าประชุมทั้งวัน
“อะไรกันครับคุณพ่อ”
“แกอ่านข่าวและคิดวิเคราะห์ดู”
แพนธารินรีบเข้าไปอ่านข่าวแววตาของวาวโรจน์ มือไม้สั่นเทาด้วยความโกรธที่มิณไอริณทำแบบนั้น
‘ไฮโซสาวฟ้องหย่าสามีข้อหาคบชู้ พร้อมฟ้องเพื่อนสนิทข้อหาเป็นชู้กับสามี’
‘สะเทือนวงการ! ไฮโซชื่อดังฟ้องหย่าสามี หลังจับได้คบชู้กับเพื่อนสนิท!’
ข่าวเด็ดล่าสุดในวงการบันเทิง! ไฮโซสาวทายาทบริษัทผลิตยาชื่อดัง ประกาศฟ้องหย่าสามีหลังจับได้ว่าเขาคบชู้กับเพื่อนสนิท แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น… เธอยังตัดสินใจฟ้องเพื่อนสนิทของเธอข้อหาเป็นชู้กับสามีของตัวเองด้วย!
ในแถลงการณ์จากทนายความของฝ่ายโจทก์ เขากล่าวว่า “ในเมื่อหมดรักกันควรจะหย่าไม่ใช่มีคนอื่น”
ส่วนเจ้าตัวเปิดหน้าท้าชนกับฝ่ายคู่กรณีพร้อมเรียกเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนที่สูงให้สมกับความเลวของสามีอย่าง แพนธารินและเพื่อนรักที่ทำร้ายเธอได้ลงคอ
“การทรยศในครั้งนี้มันเกินกว่าจะให้อภัยได้ ไอริณไม่เพียงแค่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากสามี แต่ยังต้องเจ็บปวดจากเพื่อนคนที่เคยไว้ใจ” เธอกำลังพูดให้ดูน่าสงสารที่สุด
“ไอริณไม่ยอมให้ใครมาทำลายชีวิตและศักดิ์ศรีของไอริณได้ ที่เลือกจะฟ้องหย่าในครั้งนี้เพราะฝ่ายชายไม่ยอมหย่า” มิณไอริณหน้าเศร้าให้สัมภาษณ์ชื่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
การฟ้องหย่าสามีและฟ้องเพื่อนสนิทในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเผยเรื่องราวความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังชีวิตคู่ของมิณไอริณ ซึ่งทำให้คู่ค้าทางธุรกิจต่างตกตะลึงและให้ความสนใจอย่างมาก
“คนสองคนที่เคยเรียกว่า ‘รัก’ และ ‘เพื่อน’ กลับกลายเป็นคนที่ต้องฟ้องร้องในศาล” หญิงสาวกล่าวอย่างเจ็บปวด
เรื่องราวนี้กำลังได้รับความสนใจจากสื่อที่ต่างจับตาดูว่าจะมีการพัฒนาอย่างไรในคดีที่เกี่ยวข้องกับความรักและความทรยศในครั้งนี้
แพนธารินกลับบ้านด้วยความว้าวุ่นและหุ้นบริษัทร่วงระนาวผู้ถือหุ้นต่างต้องการให้เขาลงจากตำแหน่งเพื่อมาเคลียร์เรื่องคดีความให้เสร็จสิ้น
“ไอริณไปไหน”
“คุณหนูกลับไปนอนที่บ้านคุณท่านค่ะน่าจะอีกหลายวันถึงจะกลับ”
เขาหงุดหงิดอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปหมดกำลังจะกลับไปที่รถแต่เจอแม่ตัวเองพอดี แต่แทนที่จะทักทายกลับถูกตบหน้าแทน
เพียะ
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่รักก็ให้หย่าทำไมลูกทำแบบนี้” ปอไหมไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปพูดคุยกับเพื่อนรัก สิ่งที่ลูกชายทำมันเกิดกว่าจะให้อภัย
“คุณแม่ผม...”
“แม่ให้เวลาลูกเคลียร์ตัวเองและเซ็นใบหย่าให้น้องซะ” ปอไหมยื่นคำขาด
“ผมไม่หย่า!” เขาไม่มีทางปล่อยมิณไอริณไปเด็ดขาด ส่วนเรื่องที่เพลงนาราท้องเขากำลังให้นักสืบตามและเรื่องที่เขาเมาตื่นมาบนเตียงพร้อมกับเพลงนารา
“แพทลูกจะยื้อไปทำไม”
“ตอนผมแต่งแม่ก็บังคับพอจะหย่าแม่ก็บังคับ ต่อจากนี้ผมจะทำตามใจตัวเองบ้าง”
“แม่จะให้ลูกพิสูจน์ตัวเองแม่ถามอีกครั้งลูกเป็นชู้กับเพลงนาราจริงหรือไม่” ตอนที่ได้ยินข่าวปอไหมลมแทบจับเพราะไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนั้น
“ผมคิดว่าผมถูกใส่ร้ายแต่ผมกำลังหาหลักฐาน”
“เรื่องฟ้องหย่าแม่จะไปพูดกับน้องอีกที”
แพนธารินน่าจะจัดการกับเพลงนาราขั้นเด็ดขาด ปล่อยเวลาไปนานจนสุดท้ายกลายเป็นเขาที่ต้องแก้ปัญหา เขาเครียดจนเริ่มปวดศีรษะ และไม่สามารถติดต่อมิณไอริณได้
“ผมขอสายไอริณหน่อยครับ”
“คุณยังมีหน้ามาถามหาลูกสาวผมอีกเหรอคุณแพท เลิกวุ่นวายกับไอริณแล้วไปหย่ากันให้จบๆ” ติณภพโกรธแทนลูกสาว
“ผมรู้ว่าไอริณฟังอยู่แต่ผมไม่หย่า ผมจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองว่าผมกับเพลงนาราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เขาพูดไม่ทันจบปลายสายถูกตัดทิ้งเขาทิ้งตัวลงนั่งที่โชฟาในห้องโถง มีสายโทรเข้ามาเรื่อยๆ จนเขาต้องปิดเครื่องหนี
“คุณเพลงนาราติดต่อมาครับ”
“ฉันไม่คุย”
ภีมมีสีหน้าลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้เจ้านายลงจากตำแหน่งผู้บริหาร โดยมีคุณท่านขึ้นไปดูแลแทนชั่วคราวจนกว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดลง
“ผมเช็คหมายศาลจากทนายมาแล้วคุณไอริณฟ้องหย่าเป็นตัวเลขคนละ 20 ล้าน จะให้...” ภามหยุดพูดเมื่อเจ้านายสวนขึ้นมา
“จะกี่ร้อยล้านฉันก็ไม่หย่าติดต่อไอริณให้ได้และให้กลับบ้านมา ฉันจะคุยเรื่องนี้!”
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่