แพนธารินนั่งคุยกับลูกค้าที่ร้านอาหารชื่อดัง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันกลับมีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทายเขา
“คุณแพทจะมาทานข้าวไม่บอกกันเลยนะคะ” เพลงนาราถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายเขา พร้อมกับส่งยิ้มทักทายลูกค้าของเขา ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาตัวจริงของแพนธาริน
“ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณลีโอ”
เขาลากเพลงนาราออกมาด้านนอกร้านพร้อมต่อว่าหญิงสาวที่ทำตัวไม่มีมารยาทกับเขา
“ผมคุยกับลูกค้าอยู่ทำตัวไม่มีใครสั่งใครสอน และอย่าแสดงความเป็นเจ้าของ” เขาเคยเตือนไปหลายครั้งแล้วแต่เหมือนหญิงสาวไม่สนใจ
“เพลงคิดถึงคุณนะคะ”
“ผมให้เงินคุณไปตั้งเยอะมันไม่พอใช้หรือไง”
“ประจำเดือนเพลงยังไม่มาเลยค่ะ” เพลงนาราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากพลาดท้องขึ้นมาอย่างไรแล้วเขาต้องรับผิดชอบเธอ
“...” เขานิ่งเงียบกำลังใช้สมาธิ
“ถ้าเพลงท้องคุณไม่รักเพลงไม่ว่าแต่รักลูกของเราบ้างได้ไหม”
มิณไอริณที่บังเอิญผ่านมาและได้ยินประโยคนั้นถึงกับช็อกไปชั่วขณะ แพนธารินต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือแล้วเพลงนารายังจะปล่อยท้องเพื่อจับเขา ดีเลยเธอจะได้เขาข้ออ้างนี้ไปเล่นงานเขา
“อยากให้รับก็ต้องไปตรวจดีเอ็นกล้าไหมล่ะ” น้ำเสียงของเขาเย็นชาเขาเลวอยู่แล้วเรื่องแบบนี้บอกเลยว่าไม่สนใจ
“คุณแพทเพลงนอนกับคุณแค่คนเดียวนะ” เธอไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด
“ว้าว~ มาพลอดรักอะไรกันกลางวันแสกๆ ทำให้อะไรไม่อายคนอื่นอยากประจานตัวเองหรือไงว่าเป็นเมียน้อย” เสียงมิณไอริณดังขึ้นเธอกอดอกแล้วยืมมองพวกเขาทั้งสองคน แพนธารินที่มีสีหน้าตกใจ
“เธอมาได้ยังไงไอริณ”
“ก็มาทานข้าวไงคะแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอฉากเด็ด”
“มันไม่มีอะไรทั้งนั้น!” แพนธารินรีบปฏิเสธกลัวว่าหญิงสาวจะเข้าใจเขาผิด เรื่องความสัมพันธ์กับเพลงนารามิณไอริณไม่รับรู้
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรร้อนตัวทำไมจริงไหมจ๊ะ เพื่อนรักเราไม่ได้เจอกันนานเลย”
“ฉันยุ่งนะ”
ยุ่งกับผัวชาวบ้านเขานะสิมิณไอริณเบ้ปากกลอกตาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันขอตัวก่อนนะพอดีมีงานด่วน”
วันนี้นัดทนายมาทำเรื่องฟ้องหย่ากับแพนธารินแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับสิ่งที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน แพนธารินทำผู้หญิงท้องและผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนรักของมิณไอริณ
“มันเลวจริงๆ” เสียงเทวัญดังขึ้น
“ฟ้องเลยค่ะพี่เทวัญติดต่อนักข่าวให้ด้วยนะคะ”
เอาให้อับอายกันไปข้างหนึ่งเมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้ว มิณไอริณจึงไปหานักข่าวพร้อมกับเทวัญอีกไม่ถึงชั่วโมงน่าจะเป็นข่าวใหญ่
.
“แกไปก่อเรื่องอะไรไว้ไอ้แพท!” พ่อของแพนธารินเข้ามาโวยวายถึงในห้องประชุมโดยไม่สนใจผู้ร่วมลงทุนคนอื่น
“ออกไปให้หมดผมมีเรื่องจะคุยกับลูกชาย”
แพนธารินไม่เข้าใจว่าพ่อโกรธใครมาถึงได้เป็นแบบนั้น ช่วงบ่ายเขากลับมาและเข้าประชุมทั้งวัน
“อะไรกันครับคุณพ่อ”
“แกอ่านข่าวและคิดวิเคราะห์ดู”
แพนธารินรีบเข้าไปอ่านข่าวแววตาของวาวโรจน์ มือไม้สั่นเทาด้วยความโกรธที่มิณไอริณทำแบบนั้น
‘ไฮโซสาวฟ้องหย่าสามีข้อหาคบชู้ พร้อมฟ้องเพื่อนสนิทข้อหาเป็นชู้กับสามี’
‘สะเทือนวงการ! ไฮโซชื่อดังฟ้องหย่าสามี หลังจับได้คบชู้กับเพื่อนสนิท!’
ข่าวเด็ดล่าสุดในวงการบันเทิง! ไฮโซสาวทายาทบริษัทผลิตยาชื่อดัง ประกาศฟ้องหย่าสามีหลังจับได้ว่าเขาคบชู้กับเพื่อนสนิท แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น… เธอยังตัดสินใจฟ้องเพื่อนสนิทของเธอข้อหาเป็นชู้กับสามีของตัวเองด้วย!
ในแถลงการณ์จากทนายความของฝ่ายโจทก์ เขากล่าวว่า “ในเมื่อหมดรักกันควรจะหย่าไม่ใช่มีคนอื่น”
ส่วนเจ้าตัวเปิดหน้าท้าชนกับฝ่ายคู่กรณีพร้อมเรียกเงินค่าเสียหายเป็นจำนวนที่สูงให้สมกับความเลวของสามีอย่าง แพนธารินและเพื่อนรักที่ทำร้ายเธอได้ลงคอ
“การทรยศในครั้งนี้มันเกินกว่าจะให้อภัยได้ ไอริณไม่เพียงแค่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากสามี แต่ยังต้องเจ็บปวดจากเพื่อนคนที่เคยไว้ใจ” เธอกำลังพูดให้ดูน่าสงสารที่สุด
“ไอริณไม่ยอมให้ใครมาทำลายชีวิตและศักดิ์ศรีของไอริณได้ ที่เลือกจะฟ้องหย่าในครั้งนี้เพราะฝ่ายชายไม่ยอมหย่า” มิณไอริณหน้าเศร้าให้สัมภาษณ์ชื่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
การฟ้องหย่าสามีและฟ้องเพื่อนสนิทในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเผยเรื่องราวความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังชีวิตคู่ของมิณไอริณ ซึ่งทำให้คู่ค้าทางธุรกิจต่างตกตะลึงและให้ความสนใจอย่างมาก
“คนสองคนที่เคยเรียกว่า ‘รัก’ และ ‘เพื่อน’ กลับกลายเป็นคนที่ต้องฟ้องร้องในศาล” หญิงสาวกล่าวอย่างเจ็บปวด
เรื่องราวนี้กำลังได้รับความสนใจจากสื่อที่ต่างจับตาดูว่าจะมีการพัฒนาอย่างไรในคดีที่เกี่ยวข้องกับความรักและความทรยศในครั้งนี้
แพนธารินกลับบ้านด้วยความว้าวุ่นและหุ้นบริษัทร่วงระนาวผู้ถือหุ้นต่างต้องการให้เขาลงจากตำแหน่งเพื่อมาเคลียร์เรื่องคดีความให้เสร็จสิ้น
“ไอริณไปไหน”
“คุณหนูกลับไปนอนที่บ้านคุณท่านค่ะน่าจะอีกหลายวันถึงจะกลับ”
เขาหงุดหงิดอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปหมดกำลังจะกลับไปที่รถแต่เจอแม่ตัวเองพอดี แต่แทนที่จะทักทายกลับถูกตบหน้าแทน
เพียะ
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่รักก็ให้หย่าทำไมลูกทำแบบนี้” ปอไหมไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปพูดคุยกับเพื่อนรัก สิ่งที่ลูกชายทำมันเกิดกว่าจะให้อภัย
“คุณแม่ผม...”
“แม่ให้เวลาลูกเคลียร์ตัวเองและเซ็นใบหย่าให้น้องซะ” ปอไหมยื่นคำขาด
“ผมไม่หย่า!” เขาไม่มีทางปล่อยมิณไอริณไปเด็ดขาด ส่วนเรื่องที่เพลงนาราท้องเขากำลังให้นักสืบตามและเรื่องที่เขาเมาตื่นมาบนเตียงพร้อมกับเพลงนารา
“แพทลูกจะยื้อไปทำไม”
“ตอนผมแต่งแม่ก็บังคับพอจะหย่าแม่ก็บังคับ ต่อจากนี้ผมจะทำตามใจตัวเองบ้าง”
“แม่จะให้ลูกพิสูจน์ตัวเองแม่ถามอีกครั้งลูกเป็นชู้กับเพลงนาราจริงหรือไม่” ตอนที่ได้ยินข่าวปอไหมลมแทบจับเพราะไม่คิดว่าลูกจะทำแบบนั้น
“ผมคิดว่าผมถูกใส่ร้ายแต่ผมกำลังหาหลักฐาน”
“เรื่องฟ้องหย่าแม่จะไปพูดกับน้องอีกที”
แพนธารินน่าจะจัดการกับเพลงนาราขั้นเด็ดขาด ปล่อยเวลาไปนานจนสุดท้ายกลายเป็นเขาที่ต้องแก้ปัญหา เขาเครียดจนเริ่มปวดศีรษะ และไม่สามารถติดต่อมิณไอริณได้
“ผมขอสายไอริณหน่อยครับ”
“คุณยังมีหน้ามาถามหาลูกสาวผมอีกเหรอคุณแพท เลิกวุ่นวายกับไอริณแล้วไปหย่ากันให้จบๆ” ติณภพโกรธแทนลูกสาว
“ผมรู้ว่าไอริณฟังอยู่แต่ผมไม่หย่า ผมจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองว่าผมกับเพลงนาราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เขาพูดไม่ทันจบปลายสายถูกตัดทิ้งเขาทิ้งตัวลงนั่งที่โชฟาในห้องโถง มีสายโทรเข้ามาเรื่อยๆ จนเขาต้องปิดเครื่องหนี
“คุณเพลงนาราติดต่อมาครับ”
“ฉันไม่คุย”
ภีมมีสีหน้าลำบากใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้เจ้านายลงจากตำแหน่งผู้บริหาร โดยมีคุณท่านขึ้นไปดูแลแทนชั่วคราวจนกว่าเรื่องนี้จะสิ้นสุดลง
“ผมเช็คหมายศาลจากทนายมาแล้วคุณไอริณฟ้องหย่าเป็นตัวเลขคนละ 20 ล้าน จะให้...” ภามหยุดพูดเมื่อเจ้านายสวนขึ้นมา
“จะกี่ร้อยล้านฉันก็ไม่หย่าติดต่อไอริณให้ได้และให้กลับบ้านมา ฉันจะคุยเรื่องนี้!”
เพลงนาราพยายามติดต่อเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากแพนธารินเลย จนทำให้เธอไม่สามารถหาทางออกได้ในการจ่ายค่าฟ้องที่ยังค้างอยู่...ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแพงคนแบบเธอไม่มีปัญญาจ่ายสุดท้ายเพลงนาราที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ ก็ได้ตัดสินใจปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงออกไป โดยบอกว่าเธอกำลังตั้งท้อง เพื่อให้ทุกคนเห็นใจและดึงความสนใจจากสังคมกลับมาหาตัวเองข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ระหว่างเธอกับสามีของมิณไอริณก่อนที่เพื่อนสาวจะออกมาเปิดเผยว่า“เพลงท้องกับคุณแพทจริงๆ และตอนนี้เขาทิ้งเพลงไปแล้ว!”“ลูกคุณหนูที่ดูดีภายนอก แต่กลับทิ้งเพลงให้เป็นคนที่ถูกทอดทิ้งมิณไอริณทำให้ลูกของเพลงไม่มีพ่อ” เธอกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารุมล้อมในขณะที่ข่าวนี้กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ มิณไอริณกลับได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากการสัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทผ่านโทรทัศน์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด “เธอต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”“น่ารังเกียจจริงๆ” เทวัญปิดทีวีเขาเห็นอกเห็นใจน้องสาวสุดที่รักที่ต้องเจอคนไม่จริงใจ“เวรกรรมกำลังทำงานเพลงนาราพยายา
แพนธารินนั่งดื่มตามลำพังทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงที่เขารัก หากไม่มีมิณไอริณเข้ามาในชีวิตเขากับนุนีคงได้แต่งงานใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นุนีประสบอุบัติเสียชีวิตในที่เกิดขึ้น ข้อความสุดท้ายมีคนส่งภาพถ่ายของเขากับมิณไอริณที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ตอนนั้นเขากับนุนียังไม่ตกลงเป็นแฟนกันทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างกลับพังเพราะนางร้ายอย่างมิณไอริณ และที่เขาเสียใจมากกว่านั้นคือนุนีกำลังตั้งท้องลูกอ่อนๆ หญิงสาวจากไปพร้อมลูกในท้อง ทำให้เขาแปลกใจว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเขาสักคำ ยิ่งไปกว่านั้นในผลชันสูตรมีสารเสพติดในร่างกายของนุนี จนถึงวันนี้เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะมิณไอริณวางแผนหรืออย่างไร เช้าของอีกวันแพนธารินแปลกใจเพราะเห็นรถไม้คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถ เขาได้ยินเสียงพูดหัวเราะกันซึ่งอีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายเขาไม่รอช้าเดินไปกระชากประตูออกทันที ภาพที่เขาเห็นคือชายหนุ่มกล้ามโตกำลังจับโพกมิณไอริณ ท่าทางไม่น่าดูเท่าไรความหึงหวงทำให้เขาเดินไปกระชากหญิงสาวออกมา “โอ๊ยยย ทำอะไรของคุณ” “มันเป็นใคร! พามันมาเย้ยฉันถึงในบ้านเลยเหรอ” “พูดอะไรของคุณ” “แ
เพลงนารานั่งหน้าเครียดเพราะไม่ว่าจะปล่อยข่าวออกไปเช่นไร แพนธารินกลับไม่สนใจและไม่ติดต่อมา ขนาดเธอยอมโกหกว่าตัวเองท้องเขากลับนิ่งเฉย เธอรอไม่ได้ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง “ไปบอกคุณแพทว่าฉันเพลงนาราต้องการพบ” เธอเข้ามาในบ้านของมิณไอริณ ครั้งหนึ่งเคยเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้สบาย “ค่ะ” เพลงนารานั่งรออย่างใจเย็นเธอเห็นรถมิณไอริณจอดอยู่ในโรงรถแสดงว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่นานร่างคุ้นตาก้าวเข้ามาใกล้ “คุณไม่ยอมติดต่อเพลงเลย ฮึก คุณรู้ไหมเพลงต้องเจอกับอะไรบ้าง” ถูกสังคมตราหน้าไม่เจ็บเท่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดกลับไร้ค่า “คุณต้องการอะไร” “เพลงอยากให้คุณรับผิดชอบเพลงกับลูก” บรรยากาศอึมครึมเหมือนพายุที่กำลังก่อตัวขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังร่างของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเย็นชา แววตาดุกร้าวเต็มไปด้วยความชิงชัง “เธอฟังฉันให้ดีนะ” เขาหยุดพูด “ตอนนี้ฉันเลือกเมีย ไม่ได้จะเลิกเมีย”คำพูดที่หนักแน่นและเฉียบขาดทำให้อีกฝ่ายหน้าชาวาบ สีหน้าแปรเปลี่ยนจากความท้าทายเป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามรักษาท่าที ทว่า นั่นไม่อาจหลบหนีจากสายตา
“ผมทำอะไรให้คุณไอริณไม่พอใจหรือเปล่าครับถึงไม่จ้างผมต่อ” เพิ่งจะมาทำงานได้ไม่ถึงสองวัน กลับโดนเลิกจ้างเสียอย่างนั้น “คุณธามคะไม่ใช่แบบนั้น...พอดีไอริณมีความจำเป็นค่ะ” หมอสั่งห้ามไม่ให้ออกกำลังกลัวว่าจะเกิดภาวะแท้งคุกคาม “แล้วเรื่องอะไรครับ” “ไอริณท้องค่ะ” “คะ...ครับ” ธามไทตกใจไหนเทวัญบอกว่าหญิงสาวกำลังหย่าสามี แล้วเอาไปเอามาทำไมถึงป่องได้ แบบนี้คงไม่หย่ากันแล้ว “ขอบคุณมากนะคะที่เสียเวลามาสอนไอริณ” “ผมยินดีครับ” แพนธารินได้ยินสิ่งที่มิณไอริณพูดเขาตัวชาวาบ มือไม้สั่นเทาเพราะความตื่นเต้น หากหญิงสาวท้องเรื่องหย่าคงไม่มีทางเป็นไปได้อีก ปัง “นายออกไปได้แล้วฉันไล่นายออก” เขารีบไล่เทนเนอร์คนนั้นไปจากบ้านทันที พอคนนอกออกไปได้แล้วเขาจึงนั่งลงข้างหญิงสาว “เรากำลังจะมีลูกด้วยกันใช่ไหม” “คุณเป็นอะไรยิ้มอะไร ดีใจเหรอ?” เธอลองใจเขาดู “แล้วถ้าตอบว่าใช่ล่ะ” เขาตอบไม่อายว่ากำลังดีใจที่มีลูกกับมิณไอริณ “....”“เธอแน่ใจใช่ไหม” เสียงของเขาแผ่วต่ำ แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง “แน่ใจอะไร” “
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องมืด ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟามองมันแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วกดปิดหน้าจอ มันเป็นสายที่ห้าของคืนนี้แล้ว...“รับสายสักทีเถอะว่ะ” ปลายสายบ่นพึมพำขณะยืนอยู่ใต้แสงไฟข้างถนน เสียงสัญญาณตัดไปอีกครั้ง ทำให้เขาเผลอกำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีกฝ่ายไม่เคยเมินเฉยต่อเขาแบบนี้มาก่อนเลย...เขาสูดลมหายใจลึก แล้วตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้ง และครั้งนี้ คนปลายสายก็รับในที่สุด“ไอ้...”“กูว่า... เราควรห่างกันสักพัก” น้ำเสียงแสนเย็นชาตอบกลับมาโดยไม่ต้องคิดอะไรเสียงนั้นเบาแผ่ว ทว่ากระแทกเข้าเต็มอกคนฟัง“หมายความว่าไง?” ภูวเรศหัวเราะเบาๆ คล้ายไม่เข้าใจ แต่หัวใจเต้นแรงราวกับจะหยุดทำงาน“ไอริณท้องและฉันอยากแก้ตัว” คำตอบที่ได้รับมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย “กูต้องรับผิดชอบ กูต้องอยู่ข้างเธอ”“แกรักนางมารร้ายนั่นเหรอ?” เสียงนั้นเบาและสั่นไหว แต่ก็ชัดเจนพอจะทำให้คนฟังหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน “แกรู้ใช่ไหมเพราะอะไรฉันถึงอยากอยู่ห่าง” เพราะเหตุการณ์นั่น ทำให้เขามองภูวเรศไม่เหมือนเดิม“งั้นเหรอ...ตอนนั้นแกเกลียดไอริณจะตายแล้วทำไมตอนนี้... ช่างเถอะแกลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งหนึ่งลูกก
สองวันที่ชีวิตเงียบเหงาเพราะแพนธารินไปดูงานแทนผู้เป็นพ่อ ตอนอยู่กับเขาแม้ปากบอกจะรำคาญแต่พอห่างกันเธอกลับรู้สึกอ้างว้าง “คิดถึงฉันอยู่ละสิ” ปลายสายพูดเหมือนเห็นทุกอย่าง “โทรมาทำไม” เธอดีใจจนเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ “อย่าลืมกินยาด้วยนะเดี๋ยวลูกไม่แข็งแรง” “รู้หรอกน่า” พูดเหมือนเธออายุน้อยไม่รู้ความ “ฉันต้องวางแล้วอีก 2 วันกลับคิดถึงเอน่ะ”มิณไอริณรีบกดวางสายเพราะตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงจนจะทะลุออกมาข้างนอก ยอมรับว่าตกหลุมรักพ่อของลูกเข้าแล้ว“คุณหนูคะคุณเทวัญมาขอพบค่ะ”“ค่ะ” แสดงว่ามีความคืบหน้าทางคดีเทวัญต้องมาขอพบ แต่แปลกใจว่าทำไมสารวัตรธันวาต้องมาด้วย สีหน้าเคร่งเครียดทำให้เธอเริ่มรู้สึกไม่ดี“มีอะไรหน้าเครียดจังเลยคะ”“ผมได้ข่าวมา...” เขาเว้นจังหวะการพูด “คนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือภูวเรศรวมถึงคดีของคุณนุนี”สารวัตรธันวาที่กำลังมีสายคนหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการติดต่อมาจากภูวเรศให้กำจัดแพนธาริน เขาจึงเอาเรื่องนี้มาบอกมิณไอริณ“เขาเกี่ยวอะไรกับคนที่ชื่อนุนี”ไม่เห็นถึงความเชื่อมโยงกัน“ภูวเรศให้คนมาข่มเหงคุณนุนีจนตั้งท้อง และจัดฉากว่ารถประสบอ
ความใกล้ชิดกันทำให้เขามองมิณไอริณเปลี่ยนไป หญิงสาวเป็นคนมีเหตุผลมากขึ้น และเอาเองก็เลิกประชดประชันทำให้อยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขถึงแม้บางวัน หญิงสาวจะงอแงตามประสาท้องก็ตาม “มองหน้าทำไม” เธอเงียบและเขาก็เงียบเช่นกัน “ฉันขอโทษ...ขอโทษที่ทำตัวแบบนั้น” เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น “...”ใจก็อยากเห็นเขาเจอเวรกรรมอะไรบ้าง เพียงแต่เธอก็แค่อยากให้ลูกเห็นหน้าพ่อ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังคลี่คลายลง “เรามาทำหน้าที่สามีภรรยากันแบบจริงจังได้ไหม” “ไอริณไม่ค่อยไว้ใจคุณ” คนเคยมีบาดแผลมาก่อนมันก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้เสมอ “ฉันจะพิสูจน์ตัวเอง” เขาได้แต่ขอบคุณและขอโอกาส แต่เธอก็เงียบไม่พูดอะไร แต่ถ้าจะตอบแทนเธอรักอิสระอย่ามากักขังกัน และถ้าเธอปฏิเสธก็ช่วยเคารพเธอด้วย แพนธารินรับปาก Rrrrrrrrrrr สายเข้าทำให้มิณไอริณจะกดรับสาย แต่แพนธารินนั้นมือไวกว่าเพราะคนที่โทรเข้ามาคือหมอคัมภีร์ เขาจึงรีบกดรับ “ไอริณเห็นคลิปหรือยัง” “คลิปอะไรคะ?” น้ำเสียงของอีกฝ่ายดูตื่นเต้นมาก จนเธอเริ่มแปลกใจ “พี่ส่งไปให้ดูแล้วครับ” ถึงแ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่
มิณไอริณนอนอยู่บนเตียงกว้างเธออ่านข่าวของเพลงนารากับภูวเรศ คำสารภาพของชายหนุ่มทำให้มิณไอริณต้องช็อกอีกรอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพลงนาราเขาเป็นคนทำทั้งหมด และเป็นคนสั่งเก็บเพลงนารา “เวรกรรมโรคจิตมาก” ถ้าวันนั้นพวกมันทำกับมิณไอริณสำเร็จไม่อยากจะคิดเลย ว่าต่อจากนั้นชีวิตของหญิงสาวจะเป็นอย่างไรต่อ “ว้าย...คุณเข้ามาทำอะไร!” เธอมองหน้าคนที่บุกเข้ามาในห้องนอน “คืนนั้นบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมล็อกห้องหนีล่ะ” แต่งงานกันมาตั้งนานเพิ่งได้ร่วมเตียงกันแค่ไม่กี่ครั้ง คืนนั้นก็ชิงหนีเขาก่อน เจ้าเล่ห์เหลือคณาปล่อยให้เขาแห้งเหี่ยว “ไอริณแค่พูดลอยๆ” “คืนนี้ต้องเข้าไปทักทายลูก” ทำเลื่อนมือเข้าไปใต้ร่มผ้า “พอ...หยุด! ผู้ชายสำส่อนแบบคุณควรอยู่คนเดียว” “แรงมาก จะบอกให้นะทุกอย่างแค่ละครฉากหนึ่ง” “อะไร!” งงละครอะไร “ที่ผ่านมาฉันเคยนอนกับใครเสียที่ไหนกันเล่า” เขาไม่ใช่คนชั่วมั่วไม่เลิกเสียหน่อยไม่มีนิสัยแบบนั้น คนไม่รักษาศีลข้อความชีวิตไม่ตายดี “คุณแพท” ที่ผ่านมาเขาหลอกมิณไอริณมาตลอด “ฉันจ้างพวกหล่อนมาเล่นละครเพ
แพนธารินได้หลักฐานจากสารวัตร และทีมสืบสวน จนได้รู้ผู้บงการตัดสายเบรกของเขา ภูวเรศนั่นเองเขามาก แต่เทวัญก็ปลอบใจ “นายไม่รู้จริงเหรอว่าไอ้ภูวเรศมันแอบรักนาย” “หมายถึงอะไร?” แพนธารินทำหน้างุนงงแอบรักแบบไหน “มันเป็นเกย์และหวังจะเอานายไง” เรื่องที่เพื่อนเกย์เขารับได้แต่เรื่องที่จะฟันเขา คิดดูแล้วยังมองหาความเป็นจริงไม่เจอเพราะภูวเรศไม่เคยแสดงออกเลย “แต่ไอ้ภู...” “นายดูคลิปนี้ซะ” แพนธารินเห็นคลิปที่ภูวเรศอมกระสวย เขาถึงกับรับไม่ได้ เขากับภูวเรศมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งเปลือยกาย อาบน้ำด้วยกัน เพราะเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล “อย่าไปหามันเลยมันคงไม่กล้าสู้หน้าปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ เรื่องของคุณนุนีฟังคลิปเอาแล้วกัน” เทวัญสะเทือนใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้ ภูวเรศไม่ยอมให้แพนธารินมาเยี่ยม เพราะไม่กล้าสู้หน้า แต่คำสารภาพก็ทำให้แพนธารินเจ็บปวดคือ รักมาก และเมื่อไม่ได้ครอบครองก็อยากฆ่าให้ตาย “เรื่องของนุนีทั้งหมดเป็นกูทำเอง” ภูวเรศอัดคลิปสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แพนธารินมือไม้สั่นเพราะภูวเรศเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก