LOGINเมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ
หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว่า..."ฉีหานฟงมองหนิงอันเพื่อสื่อความ อ้อ...หมายความว่าขอนั่งตรงนี้ได้มั้ยงั้นสินะ? หลี่ถงถงพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะแกะมือของหนิงอันออกและลุกขึ้นยืน หนิงอันเงยหน้าขึ้นมองหลี่ถงถงอย่างตกใจ "ข้าจะไปตามฟางซูมานะ พวกเจ้าก็นั่งรออยู่นี่ไปก่อน"หลี่ถงถงเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่หลี่ถงถงลุกออกฉีหานฟงก็รีบเข้ามานั่งตรงนั้นทันที ช่างเป็นภาพที่น่าดูชมยิ่งนัก รักสามเศร้าของพระเอก นางเอกและตัวร้าย... หุๆๆ...หลี่ถงถงรีบวิ่งออกมาทันทีโดยไม่รีรอให้หนิงอันกับอวี้ซือเหลียงเอ่ย "ถงถง!!!!" ขอโทษนะอันอัน แต่ข้าขอตัวก่อน!!! หลี่ถงถงเอ่ยในใจพลางเอาใจช่วยหนิงอันผู้มีเสน่ห์ล่อลวงเหล่าชายหนุ่ม เป็นนางเอกนี่นะ ชะตากรรมของเจ้าก็คงต้องเป็นเช่นนี้นั่นแหละ! หลี่ถงถงเดินมาทางหอพักชายเพื่อไปตามฟางซู แต่ว่าเมื่อมาถึงห้องพักของฟางซู ก็กลับไม่พบร่างของเขาเลย "ฟางซูอยู่ที่ใดหรือ?"หลี่ถงถงหันไปถามเพื่อนร่วมห้องของฟางซูอย่างสงสัย "ฟางซูหรือ? เจ้านั่นออกไปตั้งนานแล้วนะ ประมานหนึ่งก้านธูปได้แล้วนี่ล่ะ" หนึ่งก้านธูปเหรอ? มันเท่าไหร่นะ? อ้อ!!! 15นาที! ว่าแต่ว่า...ถ้าออกไปนานขนาดนั้นแล้ว ทำไมถึงยังไม่เห็นไปรวมกลุ่ม? หรือว่าจะหลงทาง? หลี่ถงถงรีบเดินออกไปตามหาฟางซูทันทีจนเดินมาถึงป่าข้างๆหอพัก ก็พบว่าฟางซูกำลังมีเรื่องชกต่อยกับคนกลุ่มหนึ่งอยู่ เกิดอะไรขึ้น? หลี่ถงถงแอบมองภาพที่เกิดขึ้นอย่างสงสัย เห็นฟางซูยกมือเช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะก่นด่าออกมาอย่างไม่พอใจ "ไอ้ชาติหมา!!!" พลั่ก!!! "ทำให้มันพิการ!!!"ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังของคนกลุ่มนั้นเอ่ยสั่งการด้วยน้ำเสียงดุดัน พวกนั้นง้างหมัดขึ้นต่อยฟางซูอย่างแรงจนฟางซูล้มหงายหลังลงกับพื้น เลือดไหลลงจากมุมปากเพิ่ม "ไอ้พวกขี้ขลาด! แน่จริงก็อย่าหมาหมู่สิว่ะ!!!"ฟางซูเอ่ยออกมาเสียงดัง "ฮ่าๆ! ปากเก่งนักนะ! พวกเจ้าถ้าข้าไม่สั่งให้หยุด ก็อย่าหยุด! ซัดมันต่อ!!!" ท่าไม่ดีแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างแต่ตอนนี้ต้องช่วยเจ้าโง่นั่นก่อน!!! หลี่ถงถงกระโดดเข้าไปกลางวง "หนึ่งกฎข้อห้ามสำคัญของสำนักคือห้ามทำร้ายร่างกายคนในสำนักเดียวกัน พวกเจ้าเห็นกฎสำนักเป็นเรื่องล้อเล่นรึ?"หลี่ถงถงเอ่ยออกมาเสียงเรียบเย็นก่อนจะก้มไปพยุงตัวของฟางซูขึ้นมาจากพื้น "ชิ! พวกข้าแค่หยอกเล่นกันขำๆเท่านั้นเอง พวกเรากลับ!!!"พวกนั้นยอมล่าถอยอย่างง่ายดาย หลี่ถงถงมองพวกนั้นเดินจากไปก่อนจะหันมาสนใจฟางซูที่หน้าบวมป่องม่วงคล้ำ "หู่วว...หน้าบวมฉึ่งเลยนะเนี่ย?"หลี่ถงถงเอ่ยแซวฟางซูอย่างติดตลก "หนวกหูน่า!!!"ฟางซูตวาดออกมาเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตน หลี่ถงถงหัวเราะออกมาอย่างตลกขบขันก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวให้กับชายหนุ่ม ฟางซูรับมาเช็ดเลือดออกบาดแผลตรงพวงแก้มก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้"ขอบใจ" หลี่ถงถงส่ายหน้าให้กับคนตรงหน้าก่อนจะตบไปที่หลังของชายหนุ่มเบาๆ "มาข้าทำแผลให้" ฟางซูกับหลี่ถงถงเดินมานั่งใต้เงาต้นไม้ต้นหนึ่งข้างๆ มือบางของหลี่ถงถงบรรจงทำแผลให้ฟางซูอย่างเบามือ สายตาคมมองใบหน้างามของคนทำแผลให้ตนก่อนจะหลุบหันไปมองทางอื่น "เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดไปโดนทุบตีเช่นนั้น?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทันทีที่ทำแผลเสร็จ "...มันอาจจะเป็นเหตุผลไร้สาระ" "เอาน่าบอกมาเถอะข้าไม่ถือสา!"หลี่ถงถงเอ่ย ฟางซูกลืนน้ำลายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองก้อนเมฆสีขาวที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า "พวกมันมาดูหมิ่นแม่ของข้า"ชายหนุ่มเอ่ยตอบออกมาเสียงแผ่วเบา หลี่ถงถงหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดูอมทุกข์ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าตาม "ก็ไม่ไร้สาระเสียหน่อย..."หลังจากที่ทำแผลให้ฉีหานฟงเสร็จ หลี่ถงถงก็ได้พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นเพื่อที่จะพาออกไปจากป่า ขนาดตัวของฉีหานฟงนั้นไม่ใช่เล็กๆ ทั้งยังหนักมากจนหลี่ถงถงต้องลำบากไม่น้อย "ให้ตายสิ! ปกติฉากแบบนี้มีแต่บุรุษช่วยพยุงร่างสตรีที่ได้รับบาดเจ็บมิใช่รึ? แล้วเหตุใดข้าจึงได้ต้องมาแบกบุรุษอกสามซอกเช่นนี้ด้วย? โลกช่างไม่ยุติธรรม!"ร่างบางบ่นออกมาอย่างหงุดหงิดนัยตาทับทิมหันมองทางข้างหน้าอย่างเบื่อหน่าย "ข้าก็ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากสตรีที่ไร้เสน่ห์เช่นเจ้าเหมือนกันนั่นแหละ!"ฉีหานฟงเอ่ยตอบกลับอย่างไม่พอใจ "กล่าวเช่นนี้เดินเองเลยมั้ย?"หลี่ถงถงเหลือบสายตาไปมองตัวภาระอย่างฉีหานฟงที่ถูกพยุงอยู่พลางเอ่ยเสียงเรียบ "ชิ!"ชายหนุ่มหันหน้าหนีเพราะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับไปได้ "ถ้าเปลี่ยนจากข้าเป็นหนิงอัน ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำเช่นไร?"หลี่ถงถงหันหน้ากลับมามองทางและพาฉีหานฟงเดินต่อไปอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าบาดแผลของเขาจะฉีกขาดเพิ่มอีก ชายหนุ่มคิดตามคำกล่าวของหลี่ถงถง หากตอนนี้เป็นหนิงอัน ตนคงไม่ยอมให้นางมาแบกข้าเช่นนี้แน่ และคงจะฝืนตนอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้นางมาลำบาก... "แล้วที่เจ้าบอกว่าจะช่วยให
"เจ้าไหวมั้ย!?"หลี่ถงถงหันไปถามกับฉีหานฟงที่กำลังถูกงูอสรพิษสีมรกตจำนวนหนึ่งไล่ต้อน "อึก!!!!"ชายหนุ่มกัดฟันแน่น เพราะตอนนี้ไม่อาจที่จะต่อต้านการโจมตีของงูอสรพิษสีมรกตได้อีกแล้ว ฉึก!!! งูอสรพิษสีมรกตตัวหนึ่งใช้เกล็ดของมันเป็นอาวุธขนาดเล็กและได้คว้างเกล็ดนั้นใส่ที่ท้องของฉีหานฟงโดยที่ฉีหานฟงไม่สามารถหลบการโจมตีนั่นได้ เลือดไหลออกจากบาดแผลของชายหนุ่มเป็นจำนวนมาก แรงการโจมตีนั้นทำให้ฉีหานฟงไม่อาจที่จะพยุงตัวให้ลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเหล่างูอสรพิษสีมรกตเมื่อเห็นว่าฉีหานฟงล้มลงแล้ว มันก็ได้รีบพุ่งเข้าไปจะโจมตีเขาทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น หลี่ถงถงก็กระโดดเข้าไปขวางรับการโจมตีแทนฉีหานฟงที่พลาดพลั่ง หยาดเหงื่อไหลลงผสมกับเลือดสีแดงเปื้อนใบหน้างามแต่กลับไม่มีเวลาเช็ดออก เคร้ง!!! เสียงดาบกระทบกับหางเกล็ดสีมรกตที่งูอสรพิษสีมรกตฟาดเข้ามาโจมตี โชคดีที่พลังของดาบของหลี่ถงถงนั้นสามารถต่อต้านเอาไว้ได้ "เจ้ามีหินเคลื่อนย้ายมิติหรือไม่!?"หลี่ถงถงเอ่ยถามฉีหานฟงเสียงดังสองมือกุมดาบกวัดแกว่งป้องกันการโจมตีของเหล่าสัตว์อสูรอย่างรวดเร็ว ฉีหานฟงมีท่าทีลังเลครู่หนึ่งก่อนตะพยักหน้าเบาๆ นั่นเลยทำใ
หลี่ถงถงเดินกลับไปที่จุดนัดรวมตัวพร้อมกับฟางซูที่เดินอยู่ข้างๆ "ถงถง!!!"หนิงอันที่เห็นว่าหลี่ถงถงเดินกลับมาแล้วก็รีบลุกขึ้นจากม้านั่งที่มีสองหนุ่มนั่งประกบซ้ายขวาทันที ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาหลี่ถงถงดูเหมือนจะอึดอัดมากเลยสินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันคือชะตากรรมของนางเอกนี่นา...หลี่ถงถงเอ่ยในใจ "ฟางซูเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"อวี้ซือเหลียงเอ่ยถามฟางซูอย่างสงสัยทันทีที่เห็นร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของฟางซู ฟางซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยตอบไป"ไม่มีอะไร แค่พลาดตกบันไดเท่านั้น" "เจ้าไม่เป็นอะไรแน่หรือ?"หนิงอันเอ่ยถามฟางซืออย่างเป็นห่วง "ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป"ฟางซูตอบหนิงอันเสียงแผ่วเบา "งั้นก็ไปกันเถอะ สายแล้ว"หลี่ถงถงเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอึมครึมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของตัวเอกทั้งสองผู้แสนดี ทั้งห้าออกเดินทางไปในทันทีโดยไม่รีรอเวลา กำหนดการทำภารกิจคือการเก็บดอกเบญจมาศสีทอง เวลาทำภารกิจคือสองวันหนึ่งคืนห้ามล่วงเลยเวลากำหนดเด็ดขาด ที่ทางสำนักได้ตั้งข้อกำหนดนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าหากศิษย์คนใดไปทำภารกิจเกินเวลากำหนดจะตีความว่าพวกเขาเสียชีวิตหรือกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ เช่นเมื่อเกินเวลาไป
เมื่อตกลงรวมกลุ่มกันเสร็จ ทั้งห้าก็แยกย้ายกันไปเตรียมของเพื่อใช้ในการเดินทางทำภารกิจ หลี่ถงถงได้อาสาเป็นคนทำเรื่องยื่นขอทำภารกิจเพราะมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับคนผู้หนึ่งด้วย "...เจ้า?" "ยินดีที่ได้พบนะ..." หลี่ถงถงเอ่ยกับคนที่นั่งหันหน้ามามองตนอย่างตกใจ หลายชั่วยามผ่านไป... ถึงเวลาเดินทางออกทำภารกิจ หลี่ถงถงกับหนิงอันเดินมาจุดนัดรวมตัวกัน ที่นั่นมีอวี้ซือเหลียงยืนรออยู่ก่อนแล้ว ด้านข้างมีฉีหานฟงที่ยืนหน้านิ่งมองไปรอบๆ "ฟางซูล่ะ?"หลี่ถงถงเอ่ยถามทั้งสองคนทันทีที่มาถึง สายตาเหลือบมองหาคนกะล่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วย "คงกำลังมา"อวี้ซือเหลียงตอบพลางหันมองไปที่หนิงอันที่ยืนหลบอยู่หลังของหลี่ถงถง อา...ก็นางเป็นผู้หญิงนี่นะ(...) "รออีกสักครู่แล้วกัน"หลี่ถงถงพาหนิงอันไปนั่งตรงม้านั่งข้างๆ อวี้ซือเหลียงหันไปเห็นว่าข้างที่นั่งของหนิงอันว่างตนก็รีบไปนั่งทันที "!?"หนิงอันมีท่าทีเขินอายหนักกว่าเดิม พวงแก้มนวลขึ้นสีแดงก่ำมือบางทั้งสองจับแขนของหลี่ถงถงแน่น เฮ้อ...ทำไมผู้หญิงต้องเขินเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบแบบนี้กันด้วยนะ "หลี่ถงถง..." "หืม?"หลี่ถงถงเงยหน้าขึ้นมองฉีหานฟงที่เมื่อครู่เอ่ยเรียกตน "คือว
ในนิกายเป่ยซาน เงินที่ใช้จะเป็นแกนพลังในการแลกเปลี่ยน โดยที่ทองหรือเงินจากโลกภายนอกนั้นใช้กับที่นี่ไม่ได้ เพราะที่นี่ใช้แกนพลังในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น เพื่อความเท่าเทียมกันของศิษย์ในนิกาย และแกนพลังนั้นยังสามารถใช้ในการบ่มเพาะพลังได้อีกด้วย วันนี้หลี่ถงถงจึงได้ไปที่กระดานภารกิจเพื่อจะหางานทำเงินมาใช้บ่มเพาะพลังและใช้แลกเปลี่ยนของอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ แต่ว่าภารกิจง่ายๆกลับถูกเหล่าศิษย์ใหม่เก็บเรียบไปหมดแล้ว เหลือแต่ภารกิจยากๆที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ชีวิตก็มีแค่ครั้งเดียว ใครมันจะไปกล้าเสี่ยงกัน? "เฮ้อ...มีแต่ภารกิจยากๆเลย..."หนิงอันเอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ หนิงอันเองก็ออกมาพร้อมกับหลี่ถงถง และก็ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มจะใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว "เอาภารกิจนี้ดีรึไม่?"หลี่ถงถงชี้ไปที่ป้ายภารกิจหนึ่ง หนิงอันหันไปอ่านทันที "เก็บดอกเบญจมาศทองหรือ? แต่มันอันตรายนะถงถง ที่นั่นมีสัตว์อสูรที่มีพลังแข็งแกร่งเยอะมาก" หลี่ถงถงคิดตาม ลำพังแค่ข้าตัวคนเดียวมันก็ทำได้สะดวกอยู่หรอกนะ แต่ว่าหนิงอันนางคงจะอยากไปด้วยแน่ๆ..."เอาเช่นนี้ เรามาหาสมาชิกเพิ่มดีหรือไม่? สักสองสามคน รวมกลุ่มกันไว้ก็ได้ม
"ศิษย์ขอคาราวะท่านอาจารย์!!!"ทุกคนในห้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพอาจารย์ประจำห้องนี้ที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน "นั่งลงเถอะ"อาจารย์หนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องเรียนด้วยท่าทีสงบ เมื่อทุกคนเห็นว่าท่านนั่งลงแล้ว ทุกคนก็นั่งลงกลับเข้าที่ของตนเอง ท่านอาจารย์กวาดสายตามองสำรวจศิษย์ทุกคนอย่างละเอียดก่อนจะหันหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแต่แผ่ซ่านไปด้วยความอบอุ่นชวนให้อุ่นใจ "ข้ามีนามว่าลู่หมิง หนึ่งปีต่อจากนี้พวกเจ้าจะได้อยู่ฝึกกับข้า หากมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สามารถมาบอกกับข้าได้เสมอ" เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าใจแล้วลู่หมิงก็ยกยิ้มออกมา เด็กที่นี่ทุกคนล้วนมีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ จึงเป็นการง่ายที่จะสามารถกล่าวออกไปตรงๆตามวิถีนักรบได้ "ดีล่ะ! วินาทีนี้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตั้งใจฝึกบ่มเพาะพลังให้มากขึ้น ทุกปี สำนักจะคัดสรรเลือกผู้มีพรสวรรค์ห้าคนของแต่ละสาขาเข้าไปอยู่ในเขตภายในชั้นต้นของนิกาย""โดยเขตภายในชั้นต้นนั้นจะมีทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังสูงกว่าเขตภายนอกหลายเท่าตัว""จำเอาไว้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้นพวกเจ้าจะต้องหมั่นฝึกฝนเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้คัดเลือกให้ได้ และถึ







