ขอเป็นนางเอกสักครั้ง ให้ชื่นใจ เป็นเวลาเกือบสามวันที่โจวหยางซีพักใกล้ๆ เรือนหลัก กลางวันเธอก็สอนหนังสือเซียวตี้หลุน ฝ่ายเด็กชายติดเธอแจ เขาชอบเล่าเรื่องตลกให้ฟัง อีกทั้งพวกเขามีเวลารถน้ำดอกกุหลาบ พรวนดินแปลงผักเล็กๆ ที่ปลูกไว้กินที่เรือนหลัก ความรู้สึกที่ได้อยู่กับคนเจ้าเนื้อทำให้เธอสบายใจ ไม่คิดฟุ้งซ่าน ถึงอย่างนั้นก็มีหวาดระแวงเรื่องของนายหญิงเล็กบ้านนี้ ทว่าเธอคิดมากไป ด้วยหม่าลั่วเซียงไม่ได้มาวุ่นวายกับเธอเลย ถึงอย่างนั้นโจวหยางซีอดระแวงไม่ได้ ฝ่ายเซียวหวังเหล่ยไม่ได้กลับบ้านเซียว เขาไปที่ไหนเธอก็ไม่อาจทราบได้ เธอถามเฮยหนิง ได้คำตอบว่าตอนนี้นอกจากเรื่องหลี่ฉู่ โจวเยี่ยนฟาง ชายหนุ่มยังต้องเจรจากับทางการด้วย มีภัยแล้งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ทั้งยังมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายก่อความไม่สงบ นั่นจึงทำให้เขาหายหน้าไป ซึ่งตั้งแต่ต้นเรื่องเหตุการณ์ของบ้านเมืองนั้น กำลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ สิ่งนี้จึงน่าหวาดหวั่นมิน้อย และบ่ายวันนี้ที่เถาจื่อ มาพบหญิงสาว ซึ่งแน่นอนว่าเซียวหวังเหล่ยอนุญาติเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้า “ป้าเถา...” ด้วยตัวละครเดิมสน
พ่อกับลูก ก็เหมือนกัน โจวหยางซีตกใจ แต่นับว่าเธอมีสติที่ไม่ร้องโวยวาย คนที่รวบเอวเธอไว้ และยกนิ้วทำท่าจุ๊ปากห้ามไม่ให้ส่งเสียงคือเซียวก้งเยว่ ลูกสาวคนโตของเซียวหวังเหล่ยนั่นเอง “พี่ซีซี... ถอยออกมาตรงนี้เร็วๆ” เด็กสาวทำเสียงกระซิบกระซาบ พลางบุ้ยใบ้ให้เธอเห็นว่าสถานการณ์ในเรือนใหญ่ไม่ปกติ ยามนี้ฝนซาเม็ดแล้วก็จริง แต่ยังมีตกเปาะแปะอยู่บ้าง ดังนั้นเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงชัดเจน “ใครก็ไม่รู้ เดินวนไปวนมา หน้าห้องนอนหนู ดีที่หนูปีนหน้าต่างออกมาเสียก่อน และพี่หนิงไปเปิดประตูด้านข้าง พาเสี่ยวหลุนหลบข้างนอกแล้ว” เซียวก้งเยว่ว่า ในมือเด็กหญิงมีไม้กวาดถือไว้มั่น ดูเหมือนคงใช้เป็นอาวุธไม่ได้ ทว่ายามนี้สิ่งใดใกล้ตัวก็ควรถือไว้ก่อนเป็นดีที่สุด “เอ่อ มีที่ไหนหลบได้บ้าง” “ตามหนูมา และระวังอย่าให้มันเห็น” เด็กหญิงรีบพาเธอไปอีกทาง ในตอนนั้นเฮยหนิงโผล่มาร่วมอีกแรง “เสี่ยวหลุนล่ะพี่หนิง” “หลับปุ๋ยเลย ฉันให้คนพาไปซ่อนแล้ว” เฮยหนิงว่าเสียงเรียบ เธอผ่านหลากหลายเหตุการณ์มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และได้รับความไว้วาง
เดี๋ยวอาบน้ำ เดี๋ยวเล่นจ้ำจี้ ดวงตากลมโตหลับลง ใครจะไปอยากดูงูดำๆ ของคนตัวโตกันเล่า โจวหยางซีบ้าผู้ชายอยู่บ้าง แต่เธอย่อมรู้ดี ตอนนี้อีกฝ่ายเมา ทั้งยังทำตัวเผด็จการ ความสาว ความสวย และความบริสุทธิ์ของเธอ จะรักษาไว้ได้อย่างไรหากอยู่กับเขาตามลำพัง อีกทั้งกลัวเขาจะลงมือรุนแรงเกินไป แต่เธอคงมัวแต่คิดอยู่อย่างนั้นนานไปหน่อย อึดใจต่อมา มือเขาก็จับจูงมือเธอแล้วลากตัวไปเข้าห้องน้ำด้านใน “อย่าดิ้น ดิ้นแรงกว่านี้ อั๊วจะจับแก้ผ้าแล้วให้อาบน้ำด้วยกันไปเสียเลย ชอบแบบนั้นไหม ลองดูกันสักรอบสองรอบได้นะ” ได้ยินอย่างสิ่งที่เขาพูด ขนหลังต้นคอก็ลุกซู่ เธอจึงเลือกที่จะไม่ขัดขืน ปล่อยตัวตามสบาย ทว่ายังไม่ยอมลืมตา ศีรษะเลยชนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย ก่อนที่คนเมาที่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ในตัวจะพาเซเสียหลัก จากนั้นทั้งคู่ก็ลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำ “อร๊าย เหล่ยต้าเกอ” เธอร้องเสียงหลงได้เท่านั้น มือใหญ่ๆ ก็เอื้อมไปหมุนฝักบัว น้ำที่นี่ไหลแรง ไม่ได้มีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งยุคสมัยนั้นเรียกว่าหาได้ยากอยู่สักหน่อย อีกทั้งชายหนุ่มนิยมอาบน้ำอุณหภูมิปกติ ยกเว้นหน้าหนาวที่เขาจะต
หัวสมองหญิงสาวโล่งไปหมด เมื่อเขาถอนจูบแล้ว ก็ถามด้วยเสียงแหบพร่าชวนให้หวั่นไหวว่า “เอาล่ะ...อั๊วอยากเป็นผู้ชายของซีซี... คืนนี้พร้อมไหม” ในหัวของหญิงสาวต้องใช้ความคิดอย่างเร็วจี๋ หากปฏิเสธเขาจะมีสิ่งใดร้ายแรงตามมาหรือไม่ และไม่ทันได้ตอบอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นว่า “อั๊วชอบซีซี จริงๆ นะ ก่อนหน้านั้นเกเรไปบ้าง แต่งูยักษ์ยังใช้การได้ดี พอมันพบเจ้าของใหม่ ก็รับรองว่าจะไม่วอแวกับใครอีก ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น” บอกเธอจบ มือใหญ่ๆ ก็จับมือเรียวให้ไปสัมผัสแก่นกายของตน โจวหยางซีตัวสั่น ร่างกายอ่อนระทวย “ซีซีไม่ชอบคนเอาเปรียบ และถ้าเหล่ยต้าเกอ อยากมีความสุข เราก็จะมีไปด้วยกัน” พอเธอพูดจบ มีหรือที่คืนนี้ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวนอนหลับง่ายๆ และนี่คงเป็นครั้งแรก ที่เธอรู้สึกว่าตนช่างกล้าหาญเหลือเกิน หลายครั้งถูกเขาคำรามดุ แต่โจวหยางซียังฝืนเดินหน้าต่อ แก่นกายเขาอยู่ในโพรงปากเธอ ฝ่ายเธอก็พยายามปรนเปรอความสุขให้เขา พอช้าเงอะงะ บางครั้งฟันกระทบเนื้อ ชายหนุ่มก็แก้เผ็ดทันที มือเขานั้นแทรกเข้าไปในกลีบอุ่นจัดของหญิงสาว ปากก็ดูดรุนแรงอย่างเอาเ
หนึ่งเดือนต่อมา เกือบสิบวันแล้วที่มีการส่งผัก มันฝรั่ง และไข่ไก่ออกไปจากสวนของสกุลเซียว และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามความต้องการของเซียวหวังเหล่ย เขาอยากช่วยผู้ประสบภัยแล้ง ทางแผ่นดินใหญ่ และยังมีคนที่อดยากไร้งานทำในอีกฝั่งหนึ่งเมืองเมืองไห่ซานด้วย เนื่องจากผลกระทบของบ้านเมือง ที่อดีตผู้นำเป็นคนที่กักตุนสินค้า เพื่อขึ้นราคาภายหลัง และทำการทุจริตหลายเรื่อง “เถ้าแก่เนี้ย... ยืนตากแดดอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวก็เป็นลมจนได้” เฮยหนิงถือร่มมากางบังแดดให้หญิงสาว และเซียวก้งเยว่ก็เอาขวดน้ำดื่มมาด้วน ส่วนเซียวตี้หลุนกำลังง่วงนอนอย่างเต็มที่ แต่ไม่วายดึงชายเสื้อของโจวหยางซีไว้ “มามี้... น้องแข็งแรงนะ น้องหลุนช่วยงานตลอด” เขาบอกเธอ แต่ตาก็ปรือเต็มที่ กระทั่งช่วงบ่ายแก่ๆ ใกล้เดินทางกลับเรือนหลัก ร่างสูงก็ขี่รถจักรยานยนตร์คันใหญ่มาที่ไร่มันฝรั่ง เด็กชายตื่นจากการนอนกลางวันพอดี เขาชูสองแขนให้บิดากอด “น้องหลุนฝันว่า มามี้ท้องป่องฮะ” หลายวันที่ผ่านมา เซียวหลุนทำหน้าที่กามเทพตัวน้อยได้ดีเหลือเกิน เรียกได้ว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีที่อยากได้น้องคนให
ดั้งนั้นเธอกับเซียวหวังเหล่ย ต้องเดินทางออกจากเมืองนี้ เพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นอันตราย นั่นเป็นเพราะกังเหรินกำลังจะป้ายสีเซียวหวังเหล่ย ด้วยข้อหาคบคิดพวกลัทธิเก่า เพื่อขับไล่ชาวต่างชาติที่มาเช่าพื้นที่ และทำการค้าโดยการเลี่ยงภาษี อันที่จริงนิยายไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่วิกฤตในครั้งนั้น ทำให้เซียวหวังเหล่ยกลับมายิ่งใหญ่ และร่ำรวย หลังจากที่เขาต้องหลบหนีไปใช้ชีวิตต่างแดน “แล้วตอนนี้มันร้ายแรงแค่ไหนเจ๊หนิง” “ผู้ใหญ่ในตระกูลเซียวกำลังวิ่งเต้นอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม คุณเหรินกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ตัวเธอ ฝ่ายเถ้าแก่เซียว เขาคงไม่ยอมเสียเธอไปแน่ๆ ดังนั้นถึงต้องซ่อนตัวสักพัก จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ” “แล้วฉันต้องไปที่ไหน” เฮยหมิงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ แล้วตอบว่า “เจ๊ก็ไม่อยากเชื่อว่า คุณนายโจวกลายเป็นคนที่หูตากวางไกลสุด ตอนนี้แม่ของเธอ ดูที่ทางไว้ให้แล้ว และเจ๊พึ่งรู้ ว่าฝ่ายนั้นหอบเงินไปมากกว่าสองหมื่นหยวน ยิ่งไปแลกเป็นเงินอีกฝั่ง เรียกได้ว่าร่ำรวยกันเลยทีเดียว เธอไปอยู่ที่นั่นสักพักจนทุกอย่างคลี่คลาย จากนั้นค่อยกลับมา และเจ๊เชื่อเหลือเกินว่า ทั้
ชายหนุ่มแย่งปืนจากมือเด็กสาว และสั่งคนของตนจัดการบริเวณนั้นให้เรียบร้อย ห้ามให้มีผู้คนก่อความวุ่นวาย “อาซี รู้ตัวไหมว่าปล่อยให้ผมรอคุณนานเกินไปแล้วนะ อืม คงนับแต่คุณขโมยจูบแรกของผม และยังทำให้ผมรอคอยคุณอยู่นาน” โจวหยางซีวางสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ในหัวก็ปรากฏภาพของเธอกับกังเหรินนัวเนียกัน ให้ตายเถอะ เธอเป็นจูบแรกของเขาจริงๆ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยมีภรรยาหรือคู่นอนมาก่อน พอได้พบกับเธอจึงยกเป็นคนสำคัญ กระทั่งมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อบีบเซียวหวังเหล่ย นั่นจึงเป็นเหตุให้โจวหยางซีจบชีวิตในห้องใต้ดิน อย่างเดียวดาย “อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ ที่สำคัญตอนนี้ ฉันแต่งงานแล้ว” “อาซี อย่าหลอกผมเลย ถ้าไปกับผม ทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาด ผมอภัยให้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะบอบช้ำมาสักแค่ไหน” กังเหรินกล่าวอย่างนั้น ตอนแรกเธอค้านหัวชนฝา หากใช้เวลาคิดนานขึ้นอีกนิด หญิงสาวเริ่มคล้อยตาม อยู่กับเซียวหวังเหล่ยช่วงนี้ เธออาจทำให้ทุกคนเดือดร้อน แต่ถ้าไปกับบุรุษตรงหน้า ยังมีช่วงสุขสบายในชีวิตพักใหญ่ ก่อนจะจบลง และเมื่อเธอรู้เช่นนี้ ย่อมหาทางเอ
นางร้ายตัวแทน เซียวหวังเหล่ยจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เด็กๆ อยู่ในความคุ้มครองจากผู้ใหญ่ตระกูลเซียว ส่วนสวนและไร่ของเขายังมีคนงานทำงานเช่นเดิม ผิดแต่เข้มงวดในการเข้าออก ยีมนี้เขาต้องการพาโจวหยางซีไปใช้ชีวิตสงบสักพัก และรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ซึ่งเขาเชื่อว่ามันจะเรียบร้อยลงเป็นอย่างดี ผู้นำใหม่ย่อมมีวิสัยทัศน์มองอนาคตของบ้านเมือง เรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีต ทว่าพอเขาได้รับข่าวจากเฮยหมิงว่า โจวหยางซีต้องเข้าไปซ่อนตัวในตลาด ก่อนถึงจุดหมาย ชายหนุ่มก็อดห่วงเธอไม่ได้ พอเขามาถึงที่ซึ่งควรพบเธอ สายได้รายงานในเรื่องที่พบเห็น “เถ้าแก่เนี้ยไปกับคุณเหรินขอรับ...” เขาพยายามคิดว่าโจวหยางซีต้องไม่ตัดสินใจเช่นนั้น เพราะเธอเป็นคนของเขาแล้ว และยามนั้นความหึงหวง คับแค้นใจปะทุขึ้น เขาคิดอยู่เสมอเธอว่าโจวหยางซีอยากอยู่ข้างกายเขา เหตุใดถึงตามก้นศัตรูหนีไปเช่นนั้น และในขณะที่เขาคิดเรื่อยเปื่อยไปในทางร้ายๆ เถาจื่อผู้เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ก็โผล่มา “เสี่ยวเหมยยกปืนขึ้นขู่อาซี... และคุณเหรินก็เข้ามาข่มขู่ ป้ายืนห่างตั้งหลายเมตร ยังเดาได้เลยว่า อาซีไม
ประตูห้องพักเปิดเข้าไป ภาพที่ซ่งฮ่าวตงเห็นแทนที่เจ้าหยวนอีจะเครียดหรือร้องไห้เสียใจ เธอกลับกำลังเตรียมอาหารมื้อพิเศษให้ซ่งฮ่าวตง รวมถึงเค้กอร่อยๆ สำหรับเจียวจ้าน ด้วยเขาอยากเป่าเค้กให้กับตุ๊กตาหมีของตน “เอ ฉันนึกว่า จะต้องมาปลอบใจใครบางคน แต่เธอคงกำลังยุ่งอยู่ใช่ไหม” “แน่นอนค่ะ เพราะอบเค้กเองไม่ง่าย อีกอย่างเมื่อครู่ เพิ่งทำไก่อบไหม้” เจ้าหยวนอีไม่เก่งด้านเข้าครัว แต่ก็ชอบทำมา ดังนั้นสิ่งที่ทำจึงมักเป็นอาหารที่ง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และเธอตั้งใจว่า ในอนาคตนอกจากเป็นแม่ให้แก่ลูกๆ ของซ่งฮ่าวตง เธอจะต้องดูแลเรื่องทั่วไปของเด็กๆ ทั้งอาหารเสื้อผ้า รวมถึงการศึกษา สิ่งเหล่านี้ ในโลกเก่าก่อนเธอขาดแคลนเสมอมา “แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้แม่บ้านฟู่ คอยช่วยอยู่ และยังมีแม่ครัวที่ฉันขโมยมาจากห้องครัวโรงแรมอีกตั้งสองคน” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม และผายมือให้เขาดูอาหารที่กำลังจัดเตรียมขึ้นโต๊ะ และเมื่อไก่อบไหม้ จึงทำไข่เจียวปู เบอร์เกอร์หมู แล้วสลัดผลไม้ พร้อมเค้กกล้วยหอม “ฉันทำเองเกือบทั้งหมด หวังว่าคุณกับจ้านเกอจะถูกใจ”
เกือบสองเดือนแล้วหลังจากแต่งงาน เจ้าหยวนอีกับซ่งฮ่าวตง ยังต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ รวมถึงเขาสะดวกในการพักที่โรงแรม ดังนั้นเจ้าหยวนอีจึงพลอยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย เธอติดความสะดวกสบาย อีกทั้งอ้างกับเขาว่า อาหารรถเข็นยามเช้า และสตรีทฟูดส์ตอนเย็น ถูกใจเธออย่างที่สุด ซึ่งฝ่ายซ่งฮ่าวตงก็เห็นด้วย ทั้งคู่จึงเลือกกลับไปนอนในคฤหาสน์สัปดาห์ละคืน แต่ก็เงียบเหงาไปสักหน่อย ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ เจ้าหยวนอีกับซ่งฮ่าวตงจึงอยู่ในโรงแรม ตกบ่ายในวันที่อากาศแจ่มใส และสายลมพัดเย็นสดชื่น ขณะที่เจ้าหยวนอีออกมาดูเสื้อผ้า และรองเท้าเพื่อไปงานเลี้ยงการกุศล เกี่ยวกับการหาทุนเพื่อเด็กกับคนชรา ร่างสตรีที่แต่งตัวเฉิดฉายก็โผล่มายืนเผชิญหน้าเธอ อีกฝ่ายยิ้มเยาะ แสดงท่าทีราวกับถือไพ่เหนือกว่า “โอ้ คุณนายซ่งน้อย พบกันอีกจนได้” น้ำเสียงนั้นประชดประชัน ทว่าไม่ได้ทำให้เจ้าหยวนอีรู้สึกโมโห เจ้าหยวนอีกวาดตามองรอบๆ ตัว วันนี้เธอพลาดเอง ที่ไม่ได้ให้โทนี่ หรือ ฟู่เซิงติดตามมาด้วย นั่นเป็นเพราะเธอใช้ชีวิตที่ถนนสายนี้จนคุ้นชิน แต่โจวซานซานเป็นสตรีที่แค้นฝังหุ่น พอสมโอกาสยามที
เจียวจ้านติดเจ้าหยวนอี ตอนนี้เด็กชาย อวดกับทุกคนว่า เขามีแม่ใหม่ที่สวย อีกทั้งพ่อบอกว่า ไม่นานจะมีน้องมาเป็นเพื่อนเล่นเขาด้วย “แม่... แล้วน้อง ของน้องจะคลอดเมื่อไหร่ครับ” เจ้าหยวนอีมองเด็กชาย และยิ้มกว้างให้เขา นี่ไม่ใช่หนแรกที่เจียวจ้านถาม แต่เธอไม่เคยเบื่อที่จะตอบ “เร็วๆ นี้ จ้านเกอต้องอดทนรอสักหน่อยน้า แม่จะรีบมีน้องให้เร็วที่สุด” เอ่ยออกไปแล้ว เธอก็เขินเสียเอง อีกทั้งตอนนั้น คนตัวโตเดินเข้ามาในพื้นที่ทำอาหาร ท่าทางเขาหิวโซทีเดียว “โอ้ กลิ่นหอมจังเลย แต่จะเค็มขี้มือใครไหมน้า” ซ่งฮ่าวตงถาม เป็นตอนนั้นที่เด็กชายหันไปมองพ่อของตัวเอง ก่อนทำหน้าง้ำหน้างอนิดๆ “ไม่เค็มขี้มือ แต่น้องไม่อยากให้ ปะ ป๊ากิน” “เอ ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ” “เดี๋ยวหมด คนตัวโต กินจุ” เด็กชายตอบน้ำเสียงจริงจัง “จ้านเกอหวงของกินกับปะ ป๊าไม่ดีนะคะ” “เปล่าหวง น้องแค่โกรธอยู่ และปะ ป๊า กินจุ” เขาย้ำคำเดิมท้ายประโยค “โกรธปะ ป๊าน่ะหรือ” ซ่งฮ่าวตงถามเด็กชาย และเขาเงยหน้ามองคนตัวโตแวบหนึ่ง “อื้อฮึ
ในช่วงเวลาที่เจ้าหยวนอีได้อยู่กับซ่งฮ่าวตงช่างร้อนแรงเร้าใจ ทั้งคู่ต่างสาดความร้อนแรงเข้าใส่กัน และหลังจากนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่น่าโล่งใจอยู่สักหน่อย ที่ไม่มีหูตาของผู้อื่นคอยสอดแนม ซึ่งตอนกลับโรงแรม เจ้าหยวนอีไม่สามารถสวมชุดเดิมที่ใส่ออกไปได้ ด้วยหลังจากอาบน้ำกับซ่งฮ่าวตงเรียบร้อย โดยทั้งคู่แต่งตัวเสร็จ ก็เป็นชายหนุ่มที่อดใจไม่ไหว หญิงสาวก้าวไม่ทันถึงรถหรูส่วนตัวด้วยซ้ำ คนตัวโตก็ส่งสายตากรุ้มกริ่ม แล้วมือใหญ่จึงคว้าอวดคอดกิ่ว ก่อนบ่นอุบอิบว่าเสื้อผ้าเธอถอดยาก จากนั้นก็มีเสียงดังแคว่ก เขากับเธอต่างหัวเราะ “คุณเพิ่งเสร็จไปสองน้ำ!” เจ้าหยวนอีโพล่งเสียงดัง ด้วยน้ำเสียงกวนจัด ชายหนุ่มยอมรับว่า เก้อเขิน เกิดมาไม่เคยมีใครพูดตรงๆ กับเขาเช่นนั้น “อืม... ก็เสี่ยวอีอี เป็นเมียสุดโปรดของฉันนี่นา กินอย่างไร ไม่อิ่มสักที” เอ่ยจบเขาจึงทั้งกอด จูบ และใจอยากแทงเนื้อนิ่มของเธออีกหน แต่หญิงสาวเอ่ย เพื่อขอตัวช่วย “ขอเป็นใช้ปาก ลิ้น และมือแทนได้ไหมคะ... หากตามใจท่านเก้าอยู่อย่างนี้ เราคงไม่ถึงที่พักแน่นอน” “ลิ้นมัน
กระทั่งรถจอดด้านหน้าโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ ในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว เนื่องจากเจ้าของประสงค์ให้ดูมีระดับสักหน่อย จึงแยกการบริการลูกค้าทั่วไป กับเฉพาะแขกระดับสูง หญิงสาวที่คอยบริการอยู่ด้านหน้า เพื่อต้อนรับต่างมีสีหน้าตื่นเต้น ด้วยเจ้าหยวนอีในยุคสมัยนั้น มีรูปตามป้ายโฆษณา และหน้านิตยสาร อีกทั้งตัวจริงของเธอ เรียกได้ว่างดงาม แบบที่ใครได้พบต้องตกตะลึง ขณะเดียวกัน พวกนักข่าวเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิม ราวกับว่ามีการนัดหมาย หรือแจ้งให้คนติดตามเธอ “นายหญิงเล็กอี แล้วพวกนักข่าว และแฟนภาพยนตร์ของคุณ ให้ผมจัดการยังไง” ซึ่งประหลาดใจสักหน่อย การเดินทางของเจ้าหยวนอีมาที่โรงอาบน้ำ เหตุใดหนอผู้คนถึงได้ทราบเรื่องไวเช่นนี้ หากเธอคาดการณ์ไม่ผิด คงมีคนของฝ่ายโจวซานซานปะปนอยู่ที่โรงแรม และอยากฉีกหน้าเจ้าหยวนอี หรือไม่ก็ต้องการเห็นเธอ ทำเรื่องเสียหาย เพื่อเขียนข่าวทำลายชื่อเสียง “ก็ดี... ดูเหมือนที่ท่านเก้า แต่งงานกับฉัน เพราะอยากให้มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ และฉันก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นนี้ เขาควรให้รางวัลงามๆ” “แต่นี่ อาจเป็นเรื่องในแง่ลบ ซึ่งมันไม่
ยานนั้น สิ่งที่โทนี่อธิบาย ไม่ได้เข้าไปอยู่ในหัวเจ้าหยวนอี ด้วยเธอไม่อาจสลัดภาพภายในห้องเช่าหลังเล็กๆ ที่อุดอู้ และมีกลิ่นเหม็นอับได้ เมื่อเข้าไปอยู่ในรถ ส่วนของเบาะหลัง ซึ่งเจียวจ้านที่กินไอศกรีมแสนอร่อยอิ่มนานแล้ว เขาเอ่ยกับเจ้าหยวนอีว่า “แม่ใหม่สวยจัง นะ น้องชอบแม่นะ” เพราะเสียงของเขาที่คอยเอ่ยอยู่ใกล้ๆ ทำให้เธอดึงสติตนกลับคืน “จ้านเกอ ว่าอย่างไรนะคะ” “น้องชอบแม่ จุ๊บๆ กัน” เขาบอก แล้วส่งจูบอย่างน่ารักให้แก่หญิงสาว เจ้าหยวนอี นิ่งค้างชั่วขณะ เมื่อครู่ทำเกือบทำสิ่งผิดพลาด เพราะมัวแต่คิดถึงการจากไปของถานจิง และการถูกจับของถานเหว่ย รวมถึงชะตาชีวิตหนิงถงที่ต้องใช้ร่างกายแลกกับเงินไม่กี่เหรียญ เมื่อเห็นและรับรู้ทุกอย่างในเวลาจำกัดก็เหมือนโลกถล่มใส่เธอจนแทบไร้เรี่ยวแรง กระทั่งเสียงของเจียวจ้าน กับท่าทางน่าเอ็นดูของเขาที่แสดงออก ฉุดให้เธอกลับคืนสู่ความจริง “แม่ก็ชอบหนูมาก จ้านเกอน่ารัก เป็นเด็กดี” เด็กชายยิ้มอวดฟันหล่อ แล้วถามว่า “แล้วแม่ใหม่ จะท้องป่องอ้วนๆ กับปะ ป๊าไหม” คำถามเขาไร้เดียงสา
ยามนี้เจ้าหยวนอีเข้าใจอีกขั้นแล้วว่า เหตุใดเจ้าของร่างถึงอยากให้เธอย้อนเวลามาเกิดใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้เจ้าหยวนอี ได้สะสางความแค้น ต่อคนที่หักหลังและทรยศเธอ จนทำให้ครอบครัวเดิมที่เคยดูแลเธอต้องพบกับการสูญเสีย กับความทุกข์อย่างแสนสาหัส “ปะ ป้าคังยังอยู่ที่นี่ไหม” ยามนั้นหนิงถงมองเจ้าหยวนอีตาขวางจัด ก่อนตอบเสียงสะบัดว่า “แม่เกลียดพี่เข้าใส้ บอกว่า ตายไปก็อย่าได้เผาผีกัน!” ขณะที่หนิงถงเอ่ยจบ ได้มีชายสองคนเดินมาใกล้ๆ หนิงถง พร้อมกับยื่นข้อเสนอกับเธอ “เอาเป็นว่าตามที่คุยกันไว้ บุหรี่นอกสองซอง เหล้าหนึ่งกลม... และเงินอีก 3 ดอลล่า นอนกับอั๊ว แล้วก็ไอ้ผอมนี่ได้ไหม” สิ่งที่เจ้าหยวนอีได้ยิน ทำให้เธอเข้าใจทันทีว่าหนิงถงเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนด้วยอาชีพอะไร? โจวซานซานใช้อภิสิทธิ์ใดถึงเข้าไปรอซ่งฮ่าวตงที่ห้องรับรองของโรงงานแห่งนั้นได้ คงเป็นเพราะบ่ายนี้ บิดาของเธอ นัดแนะเจรจาธุรกิจกับชายหนุ่ม เย็นวันนี้ หญิงสาวเปลี่ยนชุดกี่เพ้าแขนกุด เนื้อผ้าดีแนวอวดทรวดทรงหุ่นนาฬิกาทรายสีแดงเพลิง และมันผ่าลึกด้านข้างจนเห็นเนื้อสาว
เมื่อเจ้าหยวนอีออกจากร้านไปพร้อมคนของเธอ ฝ่ายโจวซานซานก็อยากรู้เหลือเกินว่า โดนัททั้งหมดซื้อและส่งไปที่ใด พนักงานในร้านอ้ำอึ้ง ไม่กล้าตอบ กระทั่งถูกเค้นอย่างหนัก “ถ้าหากไม่อยากได้เงิน ก็หมายความว่า อยากถูกซ้อมจนกระดูกหักใช่ไหม” หนุ่มน้อย กลัวจนฉี่แทบราด แต่ก็เอ่ยปากส่งเสียงละล่ำละลัก “สะ ส่ง ที่โรงแรมโรแมนติกการ์เดนท์ ขะ ขอรับ” “ห้องไหน และชั้นไหนแกรู้ไหม” พนักงานไม่ได้ตอบ หากยื่นกระดาษโน้ตให้โจวซานซาน และเรื่องนี้เป็นแผนของเจ้าหยวนอีนั่นเอง เมื่อได้อ่านข้อความ โจวซานซานจึงกรีดร้องราวกับคนเสียสติ “นะ นั่น... นังโสเภณี หยวนอี... มันกล้าแสดงละครหลอกฉัน มะ มันต้องได้เห็นดีแน่!” ถนนซานเสอ เขตชุมชนเก่า เจ้าหยวนอีไม่ได้กลับโรงแรมในทันที แม้ฟู่เซิงบอกว่า ซ่งฮ่าวตงกำลังจะกลับฉางเผิงช่วงเย็นวันนี้ แต่เธอมีความอยากรู้บางสิ่ง รวมถึงต้องการพาเจียวจ้านไปกินไอศกรีมรสอร่อย ซึ่งเมื่อนานแล้ว เจ้าของร่างประทับใจมาก นั่นคือความคุ้นเคยที่กลับคืนมา จึงทำให้เธอมาที่ถนนเสอ “พูดกันตามตรง ถนนแถวนี้เร
เจ้าหยวนอีสวมชุดง่ายๆ เป็นเสื้อเชิ้ตขาวของซ่งฮ่าวตง และด้านล่างคือกางเกงตัวโคร่งสีเข้ม สวมรองเท้าบูต เธอแต่งแนวผู้หญิงเท่ (ทอมบอย) แล้วผมรวมเป็นหางม้า สวมหมวกเก๋ๆ อีกใบ บนใบหน้าเติมกระ ลดทอนผิวกระจ่างใสลง ทั้งยังมีแว่นตากันแดดปกปิดดวงตากลมโต ส่วนคนน่ารักนั้น เขาหัวเราะตั้งแต่ก้าวลงจากลิฟท์ ด้วยชุดที่ไม่เหมือนใคร เป็นชุดของมนุษย์จอมพลัง หรือ ซุเปอร์ฮีโร่ที่เขาชอบดู และยามว่างซ่งฮ่าวตงเคยเปิดหนังสือภาพ และอ่านให้ฟังยามนอน “เขาชื่ออะไรครับ” เด็กชายชี้ชุดซึ่งเขาสวมอยู่ “จ้านเกอไง เป็นผู้พิทักษ์ของแม่” “น้องชอบนะ มีผ้าปิดตาด้วย แล้วก็ผ้าคลุมสีแดง!” ด้วยความเร่งด่วน เจ้าหยวนอีเลือกตัดผ้าแบบง่ายๆ แล้วทำหน้ากากให้เด็กชาย ซึ่งเธอไม่แปลกใจหรอกที่ตนเองมีความสามารถด้านนี้ เพราะก่อนที่หญิงสาวจะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดง เธออาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง และป้าซึ่งทำอาชีพเย็บผ้า ที่อีกฝั่งของเมือง เป็นเขตที่เรียกว่าสลัม “เชื่อไหมว่า จะไม่มีใครจำจ้านเกอ ของแม่ได้แน่นอน” “ฮู้เร ... เยี่ยมเลย คราวนี้น้องก็หายตัวได้ ต