Share

4 ใครว่าพระเอกขี่ม้าขาว

last update Last Updated: 2025-04-09 11:39:14

ใครว่าพระเอกขี่ม้าขาว

        ชีวิตโจวหยางซีในโลกที่จากมาเป็นเพียงพนักงานร้านสะดวกซื้อ แต่ทำอยู่หลายปีและที่ไม่ยอมเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการร้าน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการมีเงินใช้ ได้อยู่ห้องแอร์เย็นๆ ทำงานใกล้บ้าน เพียงเท่านี้ชีวิตก็สมบูรณ์

        เธอเรียนจนระดับปริญญาตรี การเรียนไม่ได้ใช่ไก่แลกเกรด อีกอย่างวันๆ พบคนหลายประเภท และยังชอบศึกษาเรื่องต่างๆ เป็นนักอ่านตัวยง เหนืออื่นใด อายุเธอไม่น้อยแล้วเฉียดสามสิบกว่า ประสบการณ์ชีวิตจึงมีพอตัว ส่วนการมาอยู่ในร่างหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดปี นับว่าเป็นกำไรมากโข ซึ่งเธอจะใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตอนนี้คือการสั่งสอน เด็กที่บังอาจปีนเกลียวกับเธอ

        “ฮึ พ่อแกคงมัวแต่ประจบพวกนักการเมือง เลยไม่มีเวลาได้สั่งสอน ส่วนแม่นั้น...”

        โจวหยางซีมองไปที่อีกฝ่าย ใช้สายตาอย่างพินิจ ช่วงเวลานั้น เรื่องราวของไป๋อันเหมยปรากฏในหัว อีกฝ่ายกำพร้ามารดา เนื่องจากหล่อนทนความอดดันในสกุลไป๋ไม่ไหว สามีเย็นชาและบ้างาน ส่วนแม่สามีเป็นพวกไม่อยากเห็นลูกสะใภ้ได้ดี มารดาไป๋อันเหมยจึงตัดสินใจผูกคอตายลาโลก ทิ้งเธอให้อยู่ในความเลี้ยงดูของย่า และนั่นจึงกลายเป็นการบ่มเพาะเด็กร้ายกาจเช่นนี้

        “อย่า แกไม่มีสิทธิ์ พูดถึงหม่าม้า”

        อันที่จริงโจวหยางซีร้ายตามบทตัวละครเดิม และเธอในโลกเก่าเป็นคนที่ยอมหักไม่ยอมงอเช่นกัน แต่ไม่อยากขยี้ปมในใจเด็กสาวให้แหลกสลาย ทว่าพวกจิ๊กโก๋ ลูกน้องสารวัตรไป๋ล้วนถือดี มีคนหนึ่งเข้ามาหมายจะฉุดเธอ และนับว่าโจวหยางซีคล่องแคล่วพอตัว จึงเตะผ่าหมากไปเต็มๆ

        “บอกให้พวกมันถอยไป ไม่อย่างนั้นฉันจะกรี๊ดให้ลั่น และพูดเรื่องแม่ของแกไม่หยุด ว่าทำไม ถึงด่วนจากไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ และทิ้งให้แกเป็นเด็กกำพร้าจนถึงทุกวันนี้”

        “ตบมัน ตบนังนี่ให้สมองเสื่อมไปเลย”

        ไป๋อันเหมยหวีดร้องลั่น เธอรู้ว่า มารดาตนสนิทกับหลี่ฉู่ เนื่องจากฝ่ายนั้นเคยมารับใช้ที่บ้านเธอ มีหน้าที่ทำความสะอาด ดูแลเสื้อผ้าหลายปี อีกทั้งเป็นคนพบศพแม่ของเธอด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่หลี่ฉู่จะรู้ถึงความทุกข์ของมารดาเธอ และคนปากมากเช่นนั้น ย่อมเล่าเรื่องต่างๆ ให้โจวหยางซีที่เป็นลูกสาวฟังอย่างละเอียด เพียงแค่คิด ไป๋อันเหมยก็แทบกระอักเลือด

        “ตบมันแล้วจิกหัวลากไปที่โรงพัก สั่งตำรวจขังเดี่ยว ให้อดข้าวอดน้ำ จนตายไปเลยยิ่งดี”

        เด็กสาวร้องโวยวาย ยามนั้นเซียวก้งเยว่หายตัวไปแล้ว ฝ่ายโจวหยางซีกวาดตามองหาอีกฝ่ายพอไม่พบ และอดสังหรณ์ใจแปลกๆ ไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอเปลี่ยนบทในช่วงนี้ได้ เพียงแต่ว่าสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเล่า หญิงสาวจะเอาตัวรอดอย่างไร!

        และเป็นอย่างที่ในหัวคิดเรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ ไป๋อันเหมยก้าวเข้ามาหาเธอ อีกฝ่ายอยู่มัธยมปลาย ทั้งยังเรียนช้าอายุจึงเกือบสิบเก้าปี เธอจึงยกตนเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม

        “ก่อนจะจับตัวนังนี่ไปขังลืมโรงพัก ฉันขอตบสั่งสอนสักหน่อยก็แล้วกัน”

        ไป๋อันเหมยกางฝ่ามือออก หมายตบลงบนหน้าโจวหยางซี และวาดมือเตรียมพร้อม ซึ่งช่วงเวลานั้น ไป๋อันเหมยไม่ทันได้ทำอย่างใจต้องการ ด้วยมีเสียงบีบแตรลั่น เป็นเก๋งคันใหญ่ขับผ่านมา พร้อมเสียงกระหึ่มของรถจักรยานยนต์หลายคัน 

        “คุณเหมย นั่นๆ ๆ เป็นพวกขวานลำพองมาทางนี้จริงๆ ด้วย พวกผมว่า รีบกลับเถอะครับ แถวนี้เราไม่ใช่เจ้าถิ่น เกิดเหตุร้ายขึ้นมา พวกผมจะพลอยแย่ไปด้วย”

        พวกกุ๊ยที่เป็นลูกน้องปลายแถวบอกไป๋อันเหมย ตอนแรกเธอยังมีไฟกรุ่นๆ ในอก คิดสั่งสอนโจวหยางซี แต่เสียงแตรบีบดังกว่าเดิม เลยทำให้เด็กสาวเพื่อนของไป๋อันเหมยถีบจักรยานกลับทางเดิม พลอยให้เธอต้องตัดสินใจใหม่

        “ฉันปล่อยแกไปก่อน พบกันคราวหน้า หวังว่าจะไม่เห็นแกไปเป็นเมียพ่อค้าเขียงหมูในตลาด หรือยืนโบกรถขายหมาก* แลกเศษเงินไม่กี่หยวนหรอกนะ”

        ไป๋อันเหมยพูดจบ ก็รีบกลับไปขึ้นจักรยานแล้วปั่นหลบไปจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว

        (*สาวขายหมากเป็นอาชีพของหญิงสาวในยุคสมัยนั้น ตามหัวมุมถนน จะมีหญิงสาวแต่งตัวสวยงาม นุ่งกระโปรงสั้น ขายหมากเคี้ยวที่ห่อเป็นคำๆ ให้แก่หนุ่มที่สัญจรผ่านไปมา)

        ฝ่ายโจวหยางซีที่พอจะหายใจสะดวกได้บ้าง ก็หมุนตัวตั้งใจกลับบ้านเสียก่อน เธอกลัวเหลือเกินว่าในกลุ่มรถที่ขับผ่านมาจะมีกังเหริน หากเป็นเช่นนั้น อาจถึงคราวซวย เธอยังไม่พร้อมพบหน้าผู้ชายตระกูลกัง เนื่องจากตัวละครนี้รักปักใจอีกฝ่าย และเธอมั่นใจว่า หากได้เห็นหน้ากังเหริน หัวใจดวงน้อยคงพ่ายแพ้ต่อเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าเดินไปเพียงเล็กน้อย หญิงสาวก็สะดุดขาตัวเอง วินาทีนั้น เอวบางถูกรวบจากมือใหญ่ๆ ที่สากอยู่สักหน่อยและอุ่นจัด

        “อุ๊ย... ปล่อยนะ อร๊าย...”

        เธอร้องบอกอย่างนั้น อึดใจต่อมา ก็รู้สึกว่าตกอยู่ในอ้อมกอดแกร่งๆ ของบุรุษ

        หญิงสาวไม่กล้ามองอีกฝ่ายในทันที ตัวสั่น และกลัวเหลือเกินว่าจะเป็นกังเหริน ผู้ชายที่ตัวละครนี้ ปรารถนาจะเป็นของเล่นอีกฝ่าย ให้เขาได้ย่ำยี และทำร้ายเธอสารพัด ถึงอย่างนั้นโจวหยางซีก็ยอมเป็นทาสรักเขา

        ทว่าเพราะเสียงกระแอมไอที่ดังขึ้น คุ้นหูพิกล ดวงตากลมโตเลยค่อยๆ มองร่างที่รับเธอเอาไว้ วินาทีนั้น หญิงสาวตัวแข็งค้าง หัวใจคล้ายหยุดเต้น

        ให้ตายเถอะ เธอดีใจมากที่เป็นเขา แต่สถานการณ์เมื่อครู่ ทั้งคำร้ายๆ ที่เธอพ่นไฟแล่บออกมา มันสมควรให้ว่าที่สามีวัยคราวพ่อ...ได้ยินหรือไม่

        “โจวหยางซี ทำไมยังอยู่แถวนี้อีก!”

        เสียงก็ดุ สีหน้าปั้นให้ขรึมเข้ม ใจหญิงสาวอ่อนระทวยไปหมด และสิ่งที่ทำได้ตอนนี้ เพื่อไม่ให้ต้องถูกคนตัวโตซักไซ้ไล่ต้อนให้เธอขวัญกระเจิง ย่อมเป็นไม้ตายของตัวร้ายเช่นเธอ

        “ชะ อุ้ย... เป็นลม... ซีซี... มะไหว หน้ามืด อ๊ะ...”

        พูดจบเธอ ก็ตัดสินใจทิ้งตัวเพื่อทำให้ตนเองตกเป็นภาระของเซียวหวังเหล่ย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    37 ภรรยาไม่เคยผิด (จบ)

    ประตูห้องพักเปิดเข้าไป ภาพที่ซ่งฮ่าวตงเห็นแทนที่เจ้าหยวนอีจะเครียดหรือร้องไห้เสียใจ เธอกลับกำลังเตรียมอาหารมื้อพิเศษให้ซ่งฮ่าวตง รวมถึงเค้กอร่อยๆ สำหรับเจียวจ้าน ด้วยเขาอยากเป่าเค้กให้กับตุ๊กตาหมีของตน “เอ ฉันนึกว่า จะต้องมาปลอบใจใครบางคน แต่เธอคงกำลังยุ่งอยู่ใช่ไหม” “แน่นอนค่ะ เพราะอบเค้กเองไม่ง่าย อีกอย่างเมื่อครู่ เพิ่งทำไก่อบไหม้” เจ้าหยวนอีไม่เก่งด้านเข้าครัว แต่ก็ชอบทำมา ดังนั้นสิ่งที่ทำจึงมักเป็นอาหารที่ง่ายขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และเธอตั้งใจว่า ในอนาคตนอกจากเป็นแม่ให้แก่ลูกๆ ของซ่งฮ่าวตง เธอจะต้องดูแลเรื่องทั่วไปของเด็กๆ ทั้งอาหารเสื้อผ้า รวมถึงการศึกษา สิ่งเหล่านี้ ในโลกเก่าก่อนเธอขาดแคลนเสมอมา “แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้แม่บ้านฟู่ คอยช่วยอยู่ และยังมีแม่ครัวที่ฉันขโมยมาจากห้องครัวโรงแรมอีกตั้งสองคน” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม และผายมือให้เขาดูอาหารที่กำลังจัดเตรียมขึ้นโต๊ะ และเมื่อไก่อบไหม้ จึงทำไข่เจียวปู เบอร์เกอร์หมู แล้วสลัดผลไม้ พร้อมเค้กกล้วยหอม “ฉันทำเองเกือบทั้งหมด หวังว่าคุณกับจ้านเกอจะถูกใจ”

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    36 ภรรยาไม่เคยผิด

    เกือบสองเดือนแล้วหลังจากแต่งงาน เจ้าหยวนอีกับซ่งฮ่าวตง ยังต้องพบปะผู้คนอยู่เสมอ รวมถึงเขาสะดวกในการพักที่โรงแรม ดังนั้นเจ้าหยวนอีจึงพลอยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วย เธอติดความสะดวกสบาย อีกทั้งอ้างกับเขาว่า อาหารรถเข็นยามเช้า และสตรีทฟูดส์ตอนเย็น ถูกใจเธออย่างที่สุด ซึ่งฝ่ายซ่งฮ่าวตงก็เห็นด้วย ทั้งคู่จึงเลือกกลับไปนอนในคฤหาสน์สัปดาห์ละคืน แต่ก็เงียบเหงาไปสักหน่อย ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ เจ้าหยวนอีกับซ่งฮ่าวตงจึงอยู่ในโรงแรม ตกบ่ายในวันที่อากาศแจ่มใส และสายลมพัดเย็นสดชื่น ขณะที่เจ้าหยวนอีออกมาดูเสื้อผ้า และรองเท้าเพื่อไปงานเลี้ยงการกุศล เกี่ยวกับการหาทุนเพื่อเด็กกับคนชรา ร่างสตรีที่แต่งตัวเฉิดฉายก็โผล่มายืนเผชิญหน้าเธอ อีกฝ่ายยิ้มเยาะ แสดงท่าทีราวกับถือไพ่เหนือกว่า “โอ้ คุณนายซ่งน้อย พบกันอีกจนได้” น้ำเสียงนั้นประชดประชัน ทว่าไม่ได้ทำให้เจ้าหยวนอีรู้สึกโมโห เจ้าหยวนอีกวาดตามองรอบๆ ตัว วันนี้เธอพลาดเอง ที่ไม่ได้ให้โทนี่ หรือ ฟู่เซิงติดตามมาด้วย นั่นเป็นเพราะเธอใช้ชีวิตที่ถนนสายนี้จนคุ้นชิน แต่โจวซานซานเป็นสตรีที่แค้นฝังหุ่น พอสมโอกาสยามที

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    35 ภรรยาไม่เคยผิด

    เจียวจ้านติดเจ้าหยวนอี ตอนนี้เด็กชาย อวดกับทุกคนว่า เขามีแม่ใหม่ที่สวย อีกทั้งพ่อบอกว่า ไม่นานจะมีน้องมาเป็นเพื่อนเล่นเขาด้วย “แม่... แล้วน้อง ของน้องจะคลอดเมื่อไหร่ครับ” เจ้าหยวนอีมองเด็กชาย และยิ้มกว้างให้เขา นี่ไม่ใช่หนแรกที่เจียวจ้านถาม แต่เธอไม่เคยเบื่อที่จะตอบ “เร็วๆ นี้ จ้านเกอต้องอดทนรอสักหน่อยน้า แม่จะรีบมีน้องให้เร็วที่สุด” เอ่ยออกไปแล้ว เธอก็เขินเสียเอง อีกทั้งตอนนั้น คนตัวโตเดินเข้ามาในพื้นที่ทำอาหาร ท่าทางเขาหิวโซทีเดียว “โอ้ กลิ่นหอมจังเลย แต่จะเค็มขี้มือใครไหมน้า” ซ่งฮ่าวตงถาม เป็นตอนนั้นที่เด็กชายหันไปมองพ่อของตัวเอง ก่อนทำหน้าง้ำหน้างอนิดๆ “ไม่เค็มขี้มือ แต่น้องไม่อยากให้ ปะ ป๊ากิน” “เอ ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ” “เดี๋ยวหมด คนตัวโต กินจุ” เด็กชายตอบน้ำเสียงจริงจัง “จ้านเกอหวงของกินกับปะ ป๊าไม่ดีนะคะ” “เปล่าหวง น้องแค่โกรธอยู่ และปะ ป๊า กินจุ” เขาย้ำคำเดิมท้ายประโยค “โกรธปะ ป๊าน่ะหรือ” ซ่งฮ่าวตงถามเด็กชาย และเขาเงยหน้ามองคนตัวโตแวบหนึ่ง “อื้อฮึ

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    34 ภรรยาไม่เคยผิด

    ในช่วงเวลาที่เจ้าหยวนอีได้อยู่กับซ่งฮ่าวตงช่างร้อนแรงเร้าใจ ทั้งคู่ต่างสาดความร้อนแรงเข้าใส่กัน และหลังจากนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่น่าโล่งใจอยู่สักหน่อย ที่ไม่มีหูตาของผู้อื่นคอยสอดแนม ซึ่งตอนกลับโรงแรม เจ้าหยวนอีไม่สามารถสวมชุดเดิมที่ใส่ออกไปได้ ด้วยหลังจากอาบน้ำกับซ่งฮ่าวตงเรียบร้อย โดยทั้งคู่แต่งตัวเสร็จ ก็เป็นชายหนุ่มที่อดใจไม่ไหว หญิงสาวก้าวไม่ทันถึงรถหรูส่วนตัวด้วยซ้ำ คนตัวโตก็ส่งสายตากรุ้มกริ่ม แล้วมือใหญ่จึงคว้าอวดคอดกิ่ว ก่อนบ่นอุบอิบว่าเสื้อผ้าเธอถอดยาก จากนั้นก็มีเสียงดังแคว่ก เขากับเธอต่างหัวเราะ “คุณเพิ่งเสร็จไปสองน้ำ!” เจ้าหยวนอีโพล่งเสียงดัง ด้วยน้ำเสียงกวนจัด ชายหนุ่มยอมรับว่า เก้อเขิน เกิดมาไม่เคยมีใครพูดตรงๆ กับเขาเช่นนั้น “อืม... ก็เสี่ยวอีอี เป็นเมียสุดโปรดของฉันนี่นา กินอย่างไร ไม่อิ่มสักที” เอ่ยจบเขาจึงทั้งกอด จูบ และใจอยากแทงเนื้อนิ่มของเธออีกหน แต่หญิงสาวเอ่ย เพื่อขอตัวช่วย “ขอเป็นใช้ปาก ลิ้น และมือแทนได้ไหมคะ... หากตามใจท่านเก้าอยู่อย่างนี้ เราคงไม่ถึงที่พักแน่นอน” “ลิ้นมัน

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    33 ภรรยาไม่เคยผิด

    กระทั่งรถจอดด้านหน้าโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ ในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว เนื่องจากเจ้าของประสงค์ให้ดูมีระดับสักหน่อย จึงแยกการบริการลูกค้าทั่วไป กับเฉพาะแขกระดับสูง หญิงสาวที่คอยบริการอยู่ด้านหน้า เพื่อต้อนรับต่างมีสีหน้าตื่นเต้น ด้วยเจ้าหยวนอีในยุคสมัยนั้น มีรูปตามป้ายโฆษณา และหน้านิตยสาร อีกทั้งตัวจริงของเธอ เรียกได้ว่างดงาม แบบที่ใครได้พบต้องตกตะลึง ขณะเดียวกัน พวกนักข่าวเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิม ราวกับว่ามีการนัดหมาย หรือแจ้งให้คนติดตามเธอ “นายหญิงเล็กอี แล้วพวกนักข่าว และแฟนภาพยนตร์ของคุณ ให้ผมจัดการยังไง” ซึ่งประหลาดใจสักหน่อย การเดินทางของเจ้าหยวนอีมาที่โรงอาบน้ำ เหตุใดหนอผู้คนถึงได้ทราบเรื่องไวเช่นนี้ หากเธอคาดการณ์ไม่ผิด คงมีคนของฝ่ายโจวซานซานปะปนอยู่ที่โรงแรม และอยากฉีกหน้าเจ้าหยวนอี หรือไม่ก็ต้องการเห็นเธอ ทำเรื่องเสียหาย เพื่อเขียนข่าวทำลายชื่อเสียง “ก็ดี... ดูเหมือนที่ท่านเก้า แต่งงานกับฉัน เพราะอยากให้มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ และฉันก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นนี้ เขาควรให้รางวัลงามๆ” “แต่นี่ อาจเป็นเรื่องในแง่ลบ ซึ่งมันไม่

  • นางร้ายอ้อนรักพ่อหม้ายชาวสวนยุค 70    32 ภรรยาไม่เคยผิด

    ยานนั้น สิ่งที่โทนี่อธิบาย ไม่ได้เข้าไปอยู่ในหัวเจ้าหยวนอี ด้วยเธอไม่อาจสลัดภาพภายในห้องเช่าหลังเล็กๆ ที่อุดอู้ และมีกลิ่นเหม็นอับได้ เมื่อเข้าไปอยู่ในรถ ส่วนของเบาะหลัง ซึ่งเจียวจ้านที่กินไอศกรีมแสนอร่อยอิ่มนานแล้ว เขาเอ่ยกับเจ้าหยวนอีว่า “แม่ใหม่สวยจัง นะ น้องชอบแม่นะ” เพราะเสียงของเขาที่คอยเอ่ยอยู่ใกล้ๆ ทำให้เธอดึงสติตนกลับคืน “จ้านเกอ ว่าอย่างไรนะคะ” “น้องชอบแม่ จุ๊บๆ กัน” เขาบอก แล้วส่งจูบอย่างน่ารักให้แก่หญิงสาว เจ้าหยวนอี นิ่งค้างชั่วขณะ เมื่อครู่ทำเกือบทำสิ่งผิดพลาด เพราะมัวแต่คิดถึงการจากไปของถานจิง และการถูกจับของถานเหว่ย รวมถึงชะตาชีวิตหนิงถงที่ต้องใช้ร่างกายแลกกับเงินไม่กี่เหรียญ เมื่อเห็นและรับรู้ทุกอย่างในเวลาจำกัดก็เหมือนโลกถล่มใส่เธอจนแทบไร้เรี่ยวแรง กระทั่งเสียงของเจียวจ้าน กับท่าทางน่าเอ็นดูของเขาที่แสดงออก ฉุดให้เธอกลับคืนสู่ความจริง “แม่ก็ชอบหนูมาก จ้านเกอน่ารัก เป็นเด็กดี” เด็กชายยิ้มอวดฟันหล่อ แล้วถามว่า “แล้วแม่ใหม่ จะท้องป่องอ้วนๆ กับปะ ป๊าไหม” คำถามเขาไร้เดียงสา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status