ไม่กี่วันต่อมา…การทำสัญญาว่าจ้างก็เกิดขึ้น โดยที่ลินินฝากให้เพลินพิณเป็นธุระจัดการให้ทั้งหมด ถึงจะแปลกใจอยู่บ้างที่ค่าตอบแทนของงานนี้จะสูงกว่างานปกติตั้งห้าเท่า แต่เพราะทางนั้นเป็นคนเสนอตัวเลขมาเองลินินจึงไม่ได้คัดค้านอะไร
จำนวนเงินเจ็ดหลักถูกโอนเข้าบัญชีของลินินทันทีหลังเซ็นสัญญาเสร็จ คนที่กำลังจะเข้าฉากสำคัญถึงกับทำตาโตเพราะโดยปกติแล้วเธอจะได้รับเงินมาก่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งที่เหลือจะโอนเข้าบัญชีหลังจากทำงานจบ
“ทำไมถึงเขาถึงโอนเงินมาเร็วขนาดนี้ล่ะพี่เพลิณ”
ลินินกดโทรหาผู้จัดการสาว เพราะวันนี้เธอมีถ่ายงานที่ต่างจังหวัด เลยไหว้วานให้เพลินพิณเป็นธุระจัดการแทน หญิงสาวขอตัวมาคุยโทรศัพท์ด้านนอกเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนการสนทนา
(เขาบอกว่าไว้ใจเราค่ะ พี่ก็งงว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรเลย รับข้อเสนอของเราได้หมดทุกอย่าง)
“ถ้างั้นไม่เป็นไรค่ะพี่ ถ้าสัญญารอบคอบก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ถ้ายังไงต้องขอบคุณพี่เพลินอีกครั้งนะคะที่เป็นธุระจัดการให้”
ลินินเอ่ยขอบคุณผู้จัดการสาวที่เป็นธุระจัดการให้ทุกอย่าง เมื่อวางสายแล้วเธอถอนหายใจหนัก ตั้งสมาธิเพราะอีกไม่กี่นาทีเธอต้องสวมบทเป็นตัวละครที่ใครๆ ต่างพากันเกลียดชังและสาปแช่งกันทั่วบ้านทั่วเมืองอีกเช่นเคย
เสียงฝีเท้าดังก้องก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด เสียงทุ้มเอ่ยอนุญาตให้คนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาในห้องด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด วันนี้ทั้งวันอัคนีต้องเซ็นเอกสารกองโต กระทั่งร่างสูงกำยำของเลขาหนุ่มเดินเข้ามา คิ้วหนาเลิกขึ้นรอคอยคำตอบที่ต้องการ
“เรียบร้อยครับนาย ผมโอนเงินเข้าบัญชีของคุณลินินเรียบร้อยครับ ส่วนวันนี้เธอให้คุณเพลินที่เป็นเลขามาแทนเพราะเธอติดถ่ายละครครับ”
รายงานเจ้านายไปตามจริง มือหนาวางปากกาลง พึงพอใจในคำตอบที่ได้จากเลขาหนุ่ม นัยน์ตาสีขุ่นคลี่ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี จนเมืองแมนเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“ทำหน้าแบบนั้นสงสัยไอ้แมน”
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมืองแมน เพื่อนรักที่ผันตัวเองมาทำงานเป็นเลขาคู่ใจ ชายหนุ่มรูปร่างสูง ผมสีดำเข้มปัดไปทางด้านหลัง ในชุดสูทสีกรม ไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะยื่นแฟ้มสรุปรายงานวางที่โต๊ะด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่ยักรู้ว่าคุณจะสนใจดารากับเขาด้วยเหมือนกัน”
คิ้วหนาเลิกขึ้นเชิงสงสัย ที่ผ่านมาอัคนีควงหญิงสาวแต่ละคนไม่ซ้ำหน้า ส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็กที่เขาหามาให้ ก็พวกลูกคุณหนูไฮโซที่เข้ามาตีสนิทเท่านั้น
“แปลกเหรอวะ”
เอ่ยถามพร้อมกับหมุนปากกาแท่งสีเงินไปด้วย
“ครับ…แต่ว่าที่ผมสืบมาคุณลินินเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นเลยสักนิด”
เพราะใช้เวลาอยู่หลายวันในการรวบรวมประวัติให้อัคนีอย่างละเอียด ทำให้เมืองแมนรู้ว่าลินินไม่ใช่ผู้หญิงประเภทเห็นคนรวยแล้ววิ่งใส่ หลายคนยอมเสนอเงินล้านเพื่อที่หลับนอนกับเธอสักครั้ง แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธมาโดยตลอด
“ผู้หญิงที่ให้ฉันง่ายๆ แบบนั้นน่ะเหรอ”
คิ้วหนาเลิกขึ้นถาม อัคนียอมรับว่าติดใจในลีลาท่าทางที่ไม่รู้ประสาของลินิน และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ได้สิ่งล้ำค่านั้นไป แต่นั่นอาจเป็นแผนการที่ลินินวางไว้อย่างแยบยลก็ได้ ผู้หญิงฉลาดๆ แบบนั้นคงคิดว่าเขาต้องติดกับดักง่ายๆที่เธอวางไว้ แต่ถึงคิดอย่างนั้นคนชอบความท้าทายแบบอัคนีมีหรือที่ถอย ตรงกันข้าม...เป็นเขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายคุมเกมนี้
“ผมส่งประวัติเธอให้คุณแล้ว ลองไปอ่านดูนะครับ”
เลขาหนุ่มไม่ได้พูดอะไรต่อ การก้าวก่ายเรื่องของเจ้านายมากเกินไปไม่ใช่หน้าที่ของเขาเช่นกัน ดวงตาคมกริบจ้องมองเอกสารพลันหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ กลุ่มควันถูกพ่นออกมาจากปากหนาครั้นคิดถึงใบหน้าสวยของคนในรูปที่แนบมา ภาพใบหน้าของหญิงสาวครางอยู่ใต้ร่างของเขายังคงติดตรึงใจ
และเขามั่นใจว่าอีกไม่นาน…เขาจะได้เห็นภาพนั้นอีกครั้ง
“ดำเนินการตามแผนต่อไปได้เลย”
“ครับนาย”
ทางด้านของลินินเธอยังคงทำงานตามปกติ และวันนี้เป็นอีกวันที่เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปให้ทันนัดถ่ายงานให้บริษัท V White เพื่อใช้ในวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ในอาทิตย์หน้า
เพราะบริษัทอยู่ในตัวเมือง ลินินจึงเลือกที่จะขับรถไปเองและให้เพลินพิณไปเจอกับเธอที่บริษัทเลยโดยไม่ต้องเสียเวลามารับเธอ ไม่ลืมจะแวะซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋จากร้านประจำไปทานเป็นมื้อเช้าอีกทั้งซื้อไปเผื่อทีมงานทุกคนอีกด้วย
“สวัสดีค่ะคุณนิล มาแต่เช้าเลยนะคะ”
เพราะออกจากบ้านมาเช้าทำให้ลินินมาถึงบริษัทของลูกค้าเร็วกว่าสองชั่วโมง จนทีมงานสาวที่ดูแลเองก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ ไม่บ่อยที่จะเห็นดารามาก่อนนัดไว้ ส่วนใหญ่มาเฉียดเวลานัดหรือไม่ก็สายไปเลยจนเธอกับทีมงานคนอื่นๆ ต้องคอยกันเป็นชั่วโมงๆ
ตอนนี้หญิงสาวอยู่ในเสื้อแขนยาวสีขาวและกางเกงวอร์มสีดำ สวมหมวกปีกสั้นสีครีม แต่งหน้าอ่อนๆ ดูน่ารักสมวัย ในมือถือถุงใบใหญ่สองข้าง
“สวัสดีค่ะ นิลซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากพี่ๆ ทีมงานด้วย เจ้านี้อร่อยมาก”
พูดจบก็เอาของไว้ที่โต๊ะพร้อมกับยิ้มให้สตาฟสาวที่จ้องมองเธออย่างอึ้งๆ หญิงสาวกวาดตามองห้องที่ใช้ถ่ายทำวันนี้เป็นสตูดิโอไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่มีอุปกรณ์ครบครั้น ทั้งกล้อง ฉาก สมกับเป็นบริษัทที่กำลังจะก้าวมาเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของเมืองไทย
“ขอบคุณแทนทุกคนมากเลยนะคะ เดี๋ยวฟางขอตัวไปดูงานก่อน ถ้าคุณนิลมีอะไรบอกได้เลยนะคะ”
สตาฟสาวพูดบอกก่อนที่เธอจะขอตัวไปทำงานต่อ ไม่รู้ว่าลินินคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นสตาฟสาวมองเธอแปลกๆ มาตั้งแต่เข้ามาแล้ว แต่ช่างเถอะเธออาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ลินินเลือกที่จะไปนั่งรอในห้องพักรับรองที่ทีมงานจัดไว้ให้
ระหว่างที่รอช่างแต่งหน้ากับเพลินพิณที่กำลังขับรถตามมา ลินินก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยการนำแท็บเล็ตขึ้นมาเปิดอ่านบทละครเรื่องใหม่ที่กำลังจะเปิดกองเดือนหน้า บทบาทที่เธอได้รับยังคงเป็นนางร้ายเช่นเดิม ในทุกตัวละครที่เธอเล่นเธอจะอ่านบทเพื่อเข้าใจตัวละครนั้นๆ ก่อนเสมอ ถึงจะเป็นตัวร้ายแต่มันเป็นบทสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ละครออกมาสนุก
“พี่ขอโทษนะ เรารอพี่นานไหม”
ทันทีที่เพลินพิณเดินเข้ามาเอ่ยขอโทษดาราสาวที่กำลังแต่งหน้าอยู่
“พี่ก็ตกใจเหมือนกันค่ะ มาถึงน้องนิลก็มานั่งรอแล้ว เขินจัง”
ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองหันมาพูดกับเพลินพิณ ในมือยังถือที่ปัดแก้มอยู่
“บ้านนิลใกล้แค่นี้เองค่ะพี่หวาน รอนานอะไรกัน ดีเสียอีก…วันนี้นิลไปซื้อน้ำเต้าหู้ร้านเฮียธงทันด้วย”
เพลินพิณสบตากับช่างแต่งหน้า พร้อมใจกันหัวเราะเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นลินินก็ยังจับความผิดปกติของทั้งสองคนได้
“นี่แก...เห็นข่าวหรือยัง”
เสียงกระซิบทีมงานสาวทำให้นิลที่กำลังเตรียมตัวก่อนเข้าไปถ่ายแบบต้องชะงัก นัยน์ตาเฉี่ยวหลุบต่ำลงเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกพูดถึง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่คนในวงการบันเทิงต้องพบเจออยู่แล้ว ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา แต่หญิงสาวก็ไม่ชินสักที
“ข่าวของคุณนิลใช่ไหม เอ่อ...มันคือเรื่องจริงหรือเปล่าวะ”
ทีมงานชายพูดตอบกลับก้มลงดูโทรศัพท์ที่อีกคนยื่นให้ดู ภาพแอบถ่ายที่ลินินเดินเข้าโรงแรมหรูกับผู้จัดการคนเก่าอย่างแววตา แม้นว่าจะสวมแว่นกับแมสปิดปากปิดบังใบหน้าแต่ก็ยังมีคนจำเธอได้อยู่ดี
“อืม...เห็นคนที่ออกมาโพสต์บอกว่ารับงานกินข้าวกับเสี่ย อ. เจ้าของเต็นท์รถชื่อดังคนนั้นไง”
“คนนั้นน่ะเหรอ ฉันเห็นชอบไปออกงานกุศลอยู่บ่อยๆ เมียแกก็เป็นใครใจบุญชอบช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้ ไม่คิดเลยว่าคนที่ใครๆเห็นว่าใจบุญจะทำผิดศีลข้อสามประพฤติผิดในกามได้ สงสารก็แต่เมียหลวงนั่นแหละคงช้ำใจน่าดู ไม่คิดว่านางจะอินกับการเป็นเมียน้อยในละครจนต้องเก็บมาใช้ในชีวิตจริงเลย”
ลินินถึงกับตัวสั่นเมื่อได้ยินข่าวลือที่ไม่เป็นจริง เรื่องนี้เธอเองก็พึ่งทราบเหมือนกัน และในภาพก็เป็นเธอที่เดินเข้าโรงแรมจริงตามคำกล่าวอ้าง แต่ที่เธอปฏิเสธก็คือการที่เธอไปเป็นเมียน้อยของเสี่ยอิทธิพล
“ไม่คิดเลยว่าคนของบริษัท V White ที่มีชื่อจะมีพนักงานที่ Toxic ขนาดนี้”
เพลินพิณพูดเสียงดัง จนพนักงานทั้งสองรู้ตัวแล้วรีบเดินออกไป
“พี่จะฟ้องคุณเมืองแมน เรื่องที่พนักงานของเขาทำให้เราเสียชื่อนะคะ”
เพลินพิณเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะหันไปมองหน้าลินินที่ยังคงยืนอึ้ง นัยน์ตาเฉี่ยวน้ำตาคลอ พยายามที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ยิ่งทำก็ยิ่งปกปิดความเศร้าไม่มิด
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าไปโทษเขาเลยนะคะ พวกเขาก็แค่พูดไปตามข่าวที่เห็น”
เธอยังพูดแก้ต่างให้ทั้งสองคน ซึ่งพวกเขาไม่ได้ผิดอะไร ถ้าจะลงโทษพวกเขาก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัก
“พี่รู้ว่านิลคงรู้ข่าวแล้ว ช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อเราสองคนจะได้แก้ไขได้ทัน”
ที่จริงแล้วลินินเองก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนี้สักเท่าไรนัก ทว่าให้เธอแก้ไขปัญญาอยู่เพียงลำพังก็คงไม่ไหว ลินินตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อนให้เพลินพิณฟัง เว้นแต่เรื่องที่เธอเผลอเข้าห้องคนที่เธอเองก็ไม่รู้จักแล้วมีอะไรด้วยกัน
พอฟังจบผู้จัดการก็พอจะคาดการณ์ได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนปล่อยภาพเล่านี้ออกมา ก็อย่างที่คนโบราณพูดไว้ว่า ถ้าคิดจะตีงู มันต้องตีให้ตาย ไม่อย่างนั้นมันจะแว้งกัดเราได้
ใช่แล้วคนที่ที่เพลินพิณคาดว่าเป็นคนปล่อยข่าวไม่ใช่ใครอื่น แต่น่าจะเป็นอดีตผู้จัดการที่ถูกไล่ออกไปอย่างแววตา
“เดี๋ยวพี่จัดการเรื่องนี้เองนะนิล เราแค่ทำใจให้สงบและทำงานของเราไปก็พอ”
พูดบอกพร้อมกับจับมือบางให้กำลังใจ เธอคิดไม่ผิดที่ให้เพลินพิณมาเป็นผู้จัดการของเธอ ถึงจะประสบการณ์ไม่ได้โชกโชนเหมือนแววตาเพราะพึ่งทำอาชีพนี้ได้เพียงสามปี แต่เธอเพลินพิณที่เป็นที่ชื่นชมในหมู่คนวงการบันเทิง ซึ่งก่อนหน้านี้มีนักแสดงอาวุโสแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน แต่เพราะตอนนั้นลินินมีแววตาที่เป็นผู้จัดการอยู่แล้วเลยปฏิเสธไป กว่าที่จะได้ร่วมงานกันก็ผ่านมาระยะเวลาหกเดือนด้วยกัน
“ขอบคุณค่ะพี่เพลิน”
เธอไหว้ขอบคุณคนแก่กว่า ก่อนจะเดินไปเตรียมความพร้อม ลินินถอนหายใจแรงพยายามรวบรวมสติให้กลับมาตั้งใจทำงาน
ผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ก็คือเซรั่มที่บริษัท V White คิดค้นขึ้น ซึ่งของเขาดีจริงๆเพราะก่อนที่จะถ่ายงาน ลินินได้ลองทดลองใช้มาแล้วหากเธอแพ้สารที่อยู่ในเซรั่มสัญญาที่เธอได้ยืนเสนอไปก็เป็นอันสิ้นสุด ซึ่งผลปรากฏว่าเธอใช้แล้วเห็นผล ผิวหน้าของเธอดูกระจ่างใสไร้ริ้วรอย อีกทั้งยังลดคราบหมองคล้ำใต้ตาที่เกิดจากอดหลับอดนอนได้ดีทีเดียว
หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสลายลูกไม้สีฟ้าเผยเนินอกใหญ่ ผมถูกก้าวขึ้นมันเป็นมวยโดยมีดอกลาเวนเดอร์เสียบห้อยอยู่ ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางสีอ่อนดูสวยสมวัย หญิงสาวโพสต์ท่าทางไปเรื่อยๆ ตามที่ช่างถ่ายภาพพูดบอก ซึ่งเธอก็ทำมันได้ดีเลยทีเดียว
ทว่าเมื่อใครคนหนึ่งเดินเข้ามากลับทำให้เจ้าของร่างอวบอิ่มถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจจนทำขวดเซรั่มหล่นแตก ชายหนุ่มที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกันอีก กลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้า
“คุณไฟ”