/ รักโบราณ / นางร้ายเหนื่อยแล้ว / 2 : สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'

공유

2 : สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'

บทที่ 2

‘สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'

.

.

ปลายฟ้าในร่างของเย่ซูชางนอนยกขาพาดกันกระดิกปลายเท้าอยู่บนเตียงกว้างด้วยความหนักใจ มือเล็กยกขึ้นก่ายหน้าผากตนเองเพื่อพยายามครุ่นคิดในเรื่องที่จะกลับออกไปจากนิยายนี้ยังไงแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จะฆ่าตัวตายก็เหมือนว่าจะไม่มีทางทำสำเร็จมันจะต้องมีอะไรมาขัดขวางตลอดเวลา

ลมหายใจถูกถอนออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ถ้าการถอนหายใจทำให้แก่ไวป่านนี้ตัวเธอเองคงตายกลายเป็นวิญญาณไปแล้วเพราะจำไม่ได้แล้วว่าถอนหายใจมากี่ครั้งรู้แค่ว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ก็เอาแต่นอนถอนหายใจแบบนี้มาเป็นชั่วยามได้แล้วมั้ง

เสียงเปิดประตูดังขึ้นมันทำให้ปลายฟ้าต้องหันไปมองจนเห็นว่าเป็นเย่ซูเจินที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำเชียว ตอนเด็ก ๆ กินน้ำผึ้งแทนนมหรือไงถึงหน้าหวานยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าขนาดนี้

“ที่นี่ไม่สอนเรื่องมารยาทหรือไง เจ้าถึงได้เข้าห้องผู้อื่นโดยไม่เคาะประตูบอกกล่าวเจ้าของห้องก่อน?”

หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที นางไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปเช่นนั้นทั้งที่ในใจไม่ได้คิดอะไรเลยแท้ ๆ หรือว่าผีคาแรคเตอร์ของเย่ซูชางจะเข้าสิงกันถึงได้พูดคำร้ายกาจด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปแบบนั้น

“ขออภัยพี่หญิงรองเจ้าค่ะ เป็นข้าเองที่เสียมารยาท ท่านจะตีข้าก็ย่อมได้ แต่ข้าเป็นห่วงท่านเห็นไม่ออกจากเรือนจึงมาดูด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง ๆ เจ้าค่ะ”

สุดท้ายก็เหมือนต้องยอมรับว่าตอนนี้เธอไม่ใช่ปลายฟ้าอีกต่อไปแล้วแต่เป็นเย่ซูชาง นางร้ายสายตอแหลจนเดินตลาดไม่ได้เพราะคงโดนรุมตบ การจะอยู่ที่นี่ได้อย่างรอดปลอดภัยและมีชีวิตต่อไปเพื่อรอวันกลับออกไปยังโลกความจริง ก็คงจะมีวิธีเดียวคือการสวมบทบาทเป็นเย่ซูชางแล้วใช้ชีวิตอันสุขสบายนี้ให้คุ้มค่าเสีย ไหน ๆ ก็มาอยู่ในร่างคุณหนูบ้านรวยมากล้นเงินทองแล้วก็อย่ามัวแต่เสียใจหรือทุกข์ใจเลย

‘ลุกมาใช้เงินใช้ทองดีกว่า!’

“ข้าหิวข้าวแล้ว”

อยู่ดี ๆ หญิงสาวก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งจนคนน้องตกใจเล็กน้อย

“พี่หญิงรองไม่คิดหาวิธีฆ่าตัวตายแล้วหรือ?”

“ก็คิดอยู่แต่ตอนนี้หิวเลยคิดไม่ออก” นางเดินเข้ามาหาน้องสาวแท้ ๆ ที่คลานตามกันออกมาแล้วยกวงแขนขึ้นโอบกอดคอเล็กที่แทบจะพันแขนสามรอบได้ หน้าคอมันจะเล็กไปไหน

“เราไปกินข้าวกันดีกว่าน้องรัก”

……….

.

สุดท้ายทั้งสองคนก็มานั่งกันอยู่ที่ศาลาริมน้ำพร้อมอาหารมากมายตระการตาจนเต็มโต๊ะหินจนเย่ซูชางตาเบิกกว้างด้วยความอึ้งเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยกินอาหารเยอะแบบนี้มาก่อนต่อให้เป็นงานเลี้ยงก็ยังไม่เยอะเท่านี้ นี่เป็นสิบกว่าอย่างเลยจนเลือกกินไม่ถูก

“กินกันแค่สองคนต้องเยอะถึงเพียงนี้เลยหรือ?”

“นี่เป็นปกติที่พี่หญิงรองกินเจ้าค่ะ” เย่ซูเจินกล่าวเสียงนิ่งเรียบ

“หมายความว่ายังไง?”

“ยามปกติพี่หญิงรองก็ให้ห้องครัวจัดเตรียมอาหารมากมายเช่นนี้ขึ้นโต๊ะอยู่แล้ว”

“ข้าเนี่ยนะ?” นางชี้นิ้วเข้าหาตนเองหน้าตาเหลอหลาก็ได้คำตอบจากน้องสาวสมรศรีเป็นการพยักหน้ายืนยัน

‘ถ้าหมดนี่ไม่เรียกว่ากินแล้ว แถวบ้านเรียกยัดห่า’

“คราวหน้าเจ้าบอกคนครัวให้ลดอาหารเหลือกับข้าวเพียงสามอย่าง ของหวานอีกหนึ่งอย่างก็พอ”

เย่ซูเจินที่ได้ยินก็ประหลาดใจจนแสดงชัดออกมาทางสีหน้า เย่ซูชางก็พอจะเข้าใจเพราะตามนิยายท่านหญิงเย่ใช้เงินมือเติบสุรุ่ยสุร่ายทุกเรื่องจะตายไป อาหารการกินก็ต้องเยอะแยะมากมายเหมือนจัดงานเลี้ยงทุกวัน ทั้งที่ความจริงกินแค่เพียงผู้เดียว บางจานกินเพียงคำเดียวก็ไม่แตะอีกให้คนเอาไปทิ้งให้หมากินอย่างไม่เสียดาย แต่ตอนนี้กลับบอกให้ลดจำนวนอาหารลงมันเลยแปลกสำหรับทุกคนเป็นแน่

“ข้าไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้ร่างกายอ่อนแอเลยไม่อยากกินอะไรตามใจปากนัก ให้คนครัวจัดอาหารที่มีประโยชน์ให้ข้าแค่สามอย่างต่อมื้อก็พอแล้ว”

“อ๋อ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” เย่ซูเจินพยักหน้ารับสีหน้าดูผ่อนคลายลงอย่างชัดเจน

“งั้นมากินข้าวกันเถิด เจ้าต้องกินเยอะ ๆ ตัวบางร่างน้อยถึงเพียงนี้เดี๋ยวลมพัดมาจะปลิวเอา” นางคีบเนื้อสามชั้นตุ๋นฉ่ำ ๆ ให้น้องสาวในนิยายด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เย่ซูเจินยิ้มหวาน

ตามที่อ่านมาในนิยายไม่ได้กล่าวถึงเย่ซูเจินนัก เหมือนจะเป็นตำแหน่งตัวประกอบมากกว่า คอยรับบทนางห้าม ห้ามเย่ซูชางไม่ให้ไปตบตีไปทะเลาะกับผู้อื่นเนี่ยแหละ ตอนอ่านก็จินตนาการไว้แล้วแหละว่าเย่ซูเจินต้องเป็นดอกบัวขาวและก็ไม่เกินความคาดหมายนัก

ตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้นำสกุลเย่คือเย่ซูชางเนี่ยแหละ ส่วนท่านอารองของนางทำหน้าที่รักษาการแทนคล้ายฮ่องเต้ที่อายุยังน้อยเลยต้องมีฮองเฮาว่าราชการแทน ตามนิยายเย่ซูชางสนใจงานบ้านงานเรือนงานกิจการเสียที่ไหนเอาแต่ตามตื๊อพระเอกตบตีกับนางเอกไปวัน ๆ เท่านั้น

บิดาและพี่ใหญ่ตายในสนามรบ ส่วนมารดาก็ตรอมใจจนป่วยตายไปอีกคน ทำให้สกุลตอนนี้เหลือ ท่านอารอง ท่านอาเล็กที่อาศัยอยู่เมืองทางเหนือ ท่านย่าที่อยู่บ้านนอกกับน้องชายต่างมารดา ตัวของเย่ซูชาง เย่ซูเจิน และครอบครัวของท่านอารอง

ตอนจังหวะที่คิดอะไรเพลิน ๆ สายตาของเย่ซูชางก็มองไปเห็นหยวนฉินที่กำลังเดินผ่านประตูวงกลมไปจนเห็นหลังไว ๆ แต่ก็มั่นใจว่าเป็นเขาเพราะจำอาภรณ์สีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้จึงรีบลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินตามไป

“พี่หญิงรองท่านจะไปไหน?”

“ข้ามีธุระ เจ้ากินไปเถิด กินให้หมดอย่าให้เหลือเดี๋ยวจะเสียของ”

“ดะ… เดี๋ยวสิพี่หญิงรอง” เย่ซูเจินพยายามร้องเรียกพี่สาวแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจเลยเหมือนใจของเย่ซูชางจะลอยไปที่อื่นแล้วเลยเดินตัวปลิวออกไปเลย นางทำได้เพียงก้มลงมองอาหารสิบกว่าอย่างตรงหน้าแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“ถ้าข้ากินหมดนี่คงต้องกลิ้งแทนเดินแล้วพี่หญิงรอง”

……….

.

เย่ซูชางเดินตามหยวนฉินไปทางเรือนของท่านอารองที่เห็นชายอาภรณ์ของเขาไว ๆ แต่เมื่อเดินทะลุประตูออกมากลับไม่เจอเขาแล้ว หันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอไม่รู้ว่าหายไปตอนไหนทั้งที่เมื่อครู่ยังเห็นหลังไว ๆ อยู่เลย มือเล็กยกขึ้นคาดตาเพื่อบังแดดแล้วทอดสายตามองออกไปด้านหน้าแต่ก็ไม่เจอ

“อะไรวะ เมื่อกี้ยังเห็นหลังไว ๆ อยู่เลย” นางเปลี่ยนเป็นเท้าเอวแทน

“หาข้าหรือ?” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูจนเย่ซูชางตกใจ

ด้วยความตกใจทำให้เย่ซูชางกระแทกข้อศอกไปด้านหลังเพื่อหวังจะฟันหน้าใครสักคนที่กล้าเข้ามาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ข้างหลังผู้อื่น แต่คนด้านหลังก็หลบได้ทันไม่พอยังจับแขนนางล็อกไปด้านหลังจนเจ็บปวดร้าวแขนแทบหักออกเป็นสองท่อน

“โอ๊ย!”

“เจ้าตามข้ามาทำไม หรือคิดแผนร้ายจะตีข้าจากข้างหลังให้ตาย”

“ข้ามีไม้หรือไง เจ้าก็แหกตาดูเสียบ้าง”

คนอย่างเย่ซูชางเองก็ไม่ยอมถึงแม้ดวงวิญญาณจะเป็นปลายฟ้าแต่ความไม่ยอมคนของนางเองก็มี ไม่ต้องใช้นิสัยนางร้ายอะไรทั้งนั้นหรอกแต่มันเป็นสิ่งที่คนดีก็มีได้เพราะการเป็นคนดีไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมทุกคน อีกอย่างตามนิยายหยวนฉินก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเย่ซูชางมาตลอดด้วย คอยถกเถียงตบตีกันเป็นเรื่องปกติถ้านางจะด่าเขาหรือเอาศอกฟันหน้าเขาสักฉาดก็คงไม่มีอะไรผิดแปลกไป

“ว่าแต่ข้าแล้วเจ้าเล่า มาจับมือถือแขนข้าไม่ยอมปล่อย คิดสิ่งใดลึกซึ้งกับข้าอยู่หรือเปล่า?” นางแกล้งหยอกเย้าพ่อพระรองรูปงามด้วยน้ำเสียงหวานจนหยวนฉินต้องรีบปล่อยตัวนางให้เป็นอิสระแต่ไม่ปล่อยเปล่าแทบจะผลักนางออกจนหน้าแทบทิ่มด้วยซ้ำไป

“เจ้าไม่ผลักข้าให้หน้าทิ่มไปเลยเล่า!”

“ข้าก็ตั้งใจเช่นนั้น”

“นี่เจ้า!” เย่ซูชางอยากจะสถบคำหยาบคายด่าเขาออกไปแต่ก็ต้องพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้เพราะถึงนางจะเป็นนางร้ายแต่ก็เกิดในสกุลผู้ดี ต้องสำรวมกิริยาและวาจาเอาไว้ให้มากเดี๋ยวคนอื่นจะตกใจนึกว่าแม่ค้าปากตลาดที่ไหน

แต่พอได้มองพ่อพระรองชัด ๆ อีกครั้งเขาก็หล่อเหลาไม่หยอกเชียว ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากสีแดงระเรื่อหน้าจูบ หน้าของเขาเนียนใสมากมันขาวผ่องเป็นยองใยเชียว ช่างเกิดมาเป็นผู้ที่ครบทั้งรูปโฉมและรูปทรัพย์จริง ๆ นางยังไม่เห็นหน้าพระเอกหรอกนะ แต่แค่พระรองก็หล่อมากแล้วและพ่อพระเอกจะหล่อปานเทพลงมาเกิดขนาดไหน

“เจ้าคิดแผนชั่วอะไรอีก”

“ใช่ ข้ากำลังคิดแผนชั่วอยู่”

นางก้าวเท้าเดินเข้ามาหาเขา ถ้าอยากให้นางร้ายนักนางก็จะร้ายให้ดู ใบหน้าหวานยื่นไปใกล้บุรุษผู้องอาจที่ยังยืนนิ่งท้าทายกันอย่างไม่หวาดหวั่นเห็นแล้วมันก็ชวนตื่นเต้นยิ่งอยากเอาชนะมากขึ้น นิ้วเรียวลากไล้ลูบสัมผัสไปตามอกกว้างอย่างหยอกล้อจนคิ้วของหยวนฉินขมวดเข้าหากันมองการกระทำของนางอย่างไม่ชอบใจนัก

“ข้ากำลังคิดว่าต้องทำยังไงถึงจะได้ท่านมาครอบครอง”

“เจ้าพูดอันใด!”

มือใหญ่คว้าเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วออกแรงบีบ ดวงตาคมฉายแววความโกรธจนออกมาทางน้ำเสียงของเขา เย่ซูชางกลับไม่หวาดกลัวเลือกจะยิ้มชอบใจในความขุ่นเคืองของเขาที่นางสามารถกระตุ้นมันออกมาได้

“ข้าชักชอบท่านแล้วสิ บุรุษผู้องอาจ เป็นถึงรองเจ้ากรมพิธีการ มากความสามารถ งามทั้งรูปโฉมและรูปทรัพย์จะไม่ให้สตรีบอบบางเช่นข้าชื่นชมได้อย่างไร”

“สมแล้วที่เจ้าเป็นนางมารร้าย จิตใจช่างโลเลยิ่งนัก สามวันก่อนเจ้ายังไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ทูลขอพระราชทานสมรสกับจางหมิงซัวอยู่เลย”

เย่ซูชางหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะครุ่นคิดไตร่ตรองก็จำได้ว่าตัวของเย่ซูชางในนิยายนั้นหลงรักพ่อพระเอกหัวปักหัวปำจนไปทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้จริง ๆ แต่ก็ถูกจางหมิงซัวปฏิเสธหักหน้ากันต่อหน้าฮ่องเต้และขุนนางมากมายจนกลายเป็นที่โจษจันไปทั่วว่าท่านหญิงเย่ลุ่มหลงบุรุษจนลืมยางอายไปหมดแล้ว มีอย่างที่ไหนสตรีไปขอบุรุษสมรสก่อน

หลังจากเรื่องราวนั้นนางร้ายก็อับอายถึงขีดสุดแต่แทนที่จะไปด่าจางหมิงซัวนางกลับเลือกจะไปตบตีทำร้ายนางเอกแทนเพราะคิดว่าถ้าไม่มีนางเอกพระเอกคงแต่งงานกับตนไปแล้วเลยเอาความโกรธไปลงที่นางเอกทุบตีทำร้ายศัตรูหัวใจเสียจนแขนหักเลยทีเดียว ทำให้พระเอกและพระรองโกรธเกลียดนางร้ายอย่างเย่ซูชางมากที่บังอาจไปทำร้ายดวงใจของพวกเขา

‘นี่ไม่ใช่ว่านางทำร้ายนางเอกไปแล้วหรอกนะ!’

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   3 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย

    บทที่ 3'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย'..“ตอนนี้ข้าไม่อยากแต่งกับท่านพี่หมิงซัวแล้ว” นางพูดหยั่งเชิงออกไปก่อนจะยกพัดด้ามจิ๋วขึ้นโบกเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ“แน่สิ เจ้าจะแต่งกับจางหมิงซัวได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไปทำร้ายเสี่ยวเยว่เสียแขนหัก”‘นั่นปะไร ตรงตามนิยายเป๊ะ งั้นเรื่องหลังจากนี้ก็ต่อจากเหตุการณ์นี้สินะ’“คนชั่วเช่นเจ้าไยถึงได้มีบุญบารมีได้เป็นถึงท่านหญิงกันนะ ถ้าเจ้าไม่มีบรรดาศักดิ์ท่านหญิง ไม่มีอำนาจเก่าก่อนที่บิดาและพี่ชายสร้างเอาไว้ ป่านนี้คงโดนลากคอไปลงอาญาแล้ว วัน ๆ หนึ่งของเจ้าสมองคงคิดแต่เรื่องชั่ว ทำร้ายผู้คนไปทั่วจิตใจช่างโหดเหี้ยมยิ่งนักไม่สมควรเกิดมาในสกุลสูงส่งเช่นนี้เลย”เย่ซูชางที่ได้ฟังก็อึ้งจนพูดไม่ออกจนนึกสงสัยว่านี่คนหรือเครื่องด่าเคลื่อนที่ เหมือนเขาเปิดระบบด่าเลยพ่นคำออกมาเป็นชุดได้ขนาดนี้เล่นเอานางสำนึกผิดไม่ทันเลย คนเลวมันคือเย่ซูชางแท้ ๆ แต่ทำไมคนที่ต้องมายืนรับฟังคำด่าคำสาปแช่งชิงชังมันต้องเป็นนางด้วยนะ‘เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น~’“ขะ… ข้าเองก็เสียใจ”“คนอย่างเจ้าหรือจะเสียใจ”“โอ๊ย!”เขาผลักนางจนล้มก้นจ้ำเบ้า แต่พอเย่ซูชางเงยหน้าจะ

    최신 업데이트 : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   3.1 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย

    บทที่ 3'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย'..เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากเหล่าบ่าวไพร่ที่มายืนล้อมวงดูเย่ซูชางที่กำลังถูกจางหมิงซัวสาดน้ำผลไม้ใส่ มันไม่ใช่น้ำผลไม้คั้นอะไรแต่มันคือน้ำที่ผสมเศษผลไม้ที่ถูกนำไปบดเท่านั้น ทำให้หัวและร่างกายของนางเต็มไปด้วยซากผลไม้ที่ติดตามผมและร่องหลืบของอาภรณ์“ท่านพี่หมิงซัวพอเถิดเจ้าค่ะ!” เย่ซูเจินรีบเข้ามาห้ามปราม“ไม่ต้องห้ามเขา ถ้าท่านแม่ทัพกระทำสิ่งนี้แล้วสบายใจขึ้นก็ปล่อยให้เขากระทำไป ข้าทำผิดย่อมยอมรับโทษทัณฑ์”“คนเช่นเจ้าต่อให้โดนน้ำเน่าน้ำโคลนสาดจากคนทั้งเมืองก็ไม่สามารถชดใช้ในความชั่วของเจ้าได้”“งั้นก็เอาเลยสิ เรียกคนทั้งเมืองมาสาดโคลนใส่ข้า เอาที่เจ้าสบายใจเลยจางหมิงซัว!”เย่ซูชางตะคอกออกไปอย่างหมดความอดทนมันทำให้จางหมิงซัวประหลาดใจเพราะเขาไม่ได้ยินนางเรียกตนด้วยชื่อเต็มมานานแล้ว นานมากจนบางทีอาจจะเป็นสิบปี แต่ทำไมวันนี้นางถึงกล่าวชื่อเต็มของตน ไหนจะท่าทางเฉยเมยนี่อีก ปกตินางมักจะเข้ามาออเซาะออดอ้อนเขาเสมอ เห็นหน้าไม่ได้เลยเป็นต้องเดินตามต้อย ๆ คอยมาตื๊อมาให้ท่าถึงจวนเป็นประจำ แต่ทำไมยามนี้แววตาของนางยามทอดมองมากลับแข็งกร้าวเย็นชาเหมือนไม่เหลือคว

    최신 업데이트 : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   4 : ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่

    บทที่ 4‘ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่’..“พี่หญิงรอง พี่หญิงรองเกิดเรื่องแล้ว!” เย่ซูเจินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในเขตเรือนของเย่ซูชางที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ภายในศาลากลางสวน“ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่” เย่ซูชางกล่าวเสียงนิ่งเรียบมือยังคงหยิบดอกไม้ขึ้นมาจัดแต่งใส่แจกันหยกใบงาม“จะมีคนตายแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่หมิงซัวถูกพาไปที่คุกหลวงเห็นทีคงโดนโทษโบยเพราะฮ่องเต้ทรงไม่ยอมที่เขามาหมิ่นเกียรติท่าน”เย่ซูชางที่ได้ฟังก็นิ่งเงียบลง ภายในใจเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น “ข้าถือว่าข้าชดใช้ไปแล้ว ข้ายอมให้เขาหมิ่นเกียรติ ยามเดินไปไหนผู้คนก็นินทาเป็นตัวตลกขบขันแล้วจะให้ข้าทำสิ่งใดอีก ส่วนที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้ไปแล้ว มันแค่ผิดตรงที่ว่าสิ่งที่หมิงซัวทำดันไปหมิ่นเกียรติฮ่องเต้เช่นกันเพราะฉะนั้นเขาก็ต้องรับโทษในส่วนนี้ด้วยตนเอง หาใช่ความผิดข้าเสียหน่อย”“ตะ… แต่ว่านั่นท่านพี่หมิงซัวนะเจ้าคะ”“แล้วอย่างไรหรือ?”ผู้น้องที่ได้ฟังผู้พี่กล่าวก็ประหลาดใจเพราะยามปกติพี่สาวของนางมักจะตามตื๊อจางหมิงซัวตลอดเวลา และคอยยื่นมือเข้าไปช่วยเขาเสมอด้วยแม้นว่าทุกครั้งเขาจะไม่ต้องการก็ตาม

    최신 업데이트 : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   5 : ทำดีไม่มีใครเห็น

    บทที่ 5‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..ข่าวเรื่องการหมั้นหมายของเย่ซูชางกับหยวนฉินดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองจนชาวบ้านต่างนินทาซุบซิบกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ไม่นึกสงสัยเพราะมักจะเห็นหยวนฉินเข้าออกจวนสกุลเย่เป็นประจำ บ้างก็นึกสงสัยว่าตอนแรกเย่ซูชางตามตื๊อจางหมิงซัวมาหลายปี มิหนำซ้ำยังลดตัวไปทะเลาะตบตีกับสตรีจากหอนางโลมผู้นั้นอยู่ตลอดแต่ทำไมวันนี้ถึงมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายกับบุรุษอีกคนออกมาได้เย่ซูชางที่ปลอมตัวเป็นนักพเนจรออกมาเที่ยวตลาดก็ได้ยินทุกสิ่งที่ชาวบ้านนินทาแต่ก็ไม่ได้คิดจะแก้ข่าวใด ๆ เพราะมันเรื่องจริงทั้งนั้น วันนั้นที่ท่านอารองมาเห็นนางจูบกับหยวนฉินก็ไม่พอใจอย่างมาก ต่อว่านางต่าง ๆ นานาว่ากระทำตัวไร้ยางอาย ไม่ไว้หน้าบรรพบุรุษจนสุดท้ายหยวนฉินที่ไม่รู้ว่าสงสารเวทนานางหรือโดนผีสุภาพบุรุษเข้าสิงก็เอ่ยปากขอหมั้นหมายเองเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เลยเป็นข่าวลือที่ชาวบ้านพูดกันในทุกวันนี้ แต่ข่าวลือมันก็คือเรื่องจริง อีกไม่นานของหมั้นก็จะถูกส่งมาที่จวนสกุลเย่ แต่มันก็ติดปัญหาตรงที่ว่าจวนสกุลหยวนจะยินดีต้อนรับนางร้ายแบบนางเข้าไปเป็นสะใภ้หรือเปล่าเท่านั้นเพราะชื่อเสียงมีแต่ด้านแย่ ๆ ทั้งนั้

    최신 업데이트 : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   5.1 : ทำดีไม่มีใครเห็น

    บทที่ 5‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”“อึก!”แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”สุดท้

    최신 업데이트 : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

    บทที่ 6‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’พระตำหนักคุนหนิง , พระราชวังสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดโล่งเอาไว้จนกลิ่นหอมของมวลบุปผาล่องลอยเข้ามาจนชวนให้รู้สึกสบายใจแต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก หนึ่งในนั้นคือเย่ซูชางที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของฉีฮองเฮาที่กำลังจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจสักนิดเดียว“พระองค์เรียกหม่อมฉันมาพบถึงพระตำหนักมีเรื่องอะไรหรือเพคะ?” นางตัดสินใจถามออกไป พยายามใจดีสู้เสือ“ข้าได้ยินว่าเจ้าจะหมั้นหมายกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนหรือ?” ฉีฮองเฮากล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบสุขุมในแบบของนางที่มักจะแสดงต่อผู้อื่นเสมอ“เพคะ” นางตอบออกไปตามตรงเพราะอีกไม่นานของหมั้นหมายก็จะถูกส่งมาจากนั้นก็คงจะตามมาด้วยสามหนังสือหกพิธีการ“เดิมทีเจ้าหมายใจแม่ทัพจางไม่ใช่หรือ เหตุใดวันนี้ถึงหันเหไปหารองเจ้ากรมพิธีการหยวนเสียแล้วเล่า?”“หม่อมฉันกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนก็เป็นสหายกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ นับว่ารู้จักสนิทสนมกันมาก มันเป็นเพียงแค่ความห่างเหินที่ทำให้ไม่รู้ใจตนเองเท่านั้นเพคะ พอได้อยู่ด้วยกัน ได้กลับมาเรียนรู้กันอีกครั้งจึงต่างรู้ใจตนเองว่าผู้ใดกันแน่ที่หัวใจหมายปอง”นางกล่าวออกไปด

    최신 업데이트 : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6.1 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

    บทที่ 6‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’..“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’………..หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพไปนานแล

    최신 업데이트 : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7‘อำเภอเป่ยตู’..“ท่านพี่ฉิน ท่านจะไปไหน?” ถังซีเยว่รีบมาขวางหน้าของหยวนฉินเอาไว้ แขนข้างที่ไม่ได้หักกางออกเพื่อขวางทางเขา“หลบไปเสี่ยวเยว่ ข้าต้องรีบไป”“ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงอันตรายหรอก”“แต่ข้าต้องไปช่วยเหลือเสี่ยวชาง”หยวนฉินกล่าวด้วยสีหน้าร้อนใจเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเย่ซูชางอาสาไปอำเภอเป่ยตูที่กำลังประสบภัยโรคระบาด เมื่อวานเขาควรจะถามนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่กลับชวนนางทะเลาะจนไม่พูดกันอีก เมื่อเช้าไปจวนสกุลเย่ถึงได้รู้ว่าเย่ซูชางออกเดินทางไปตั้งแต่เช้ามืดตอนนี้คงไปไกลแล้ว“แต่อำเภอเป่ยตูมีโรคระบาด คนที่ไปส่วนมากก็ตายน้อยนักจะรอดกลับมา ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงหรอก”“หลบไปเสี่ยวเยว่”“ทำไมท่านต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนแบบเย่ซูชางด้วย!”“เย่ซูชางคือคู่หมั้นหมายของข้า อนาคตก็เป็นภรรยาของข้า”“นี่ท่านรักนางไปแล้วหรือ?”หยวนฉินที่ได้ฟังคำถามก็นิ่งเงียบลงเพราะเขาก็ไม่แน่ใจนักแต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงเย่ซูชางมากไม่สามารถปล่อยนางไปเผชิญทุกข์ภัยผู้เดียว“ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ข้าเป็นห่วงนางมาก และปล่อยนางไปเผชิญอันตรายผู้เดียวไม่ได้”“ข้าขอร้องท่านพี่ฉิน ที่นั่นอันตรายเกินไปท่านอย่าไ

    최신 업데이트 : 2025-04-18

최신 챕터

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   20.1 : ตอนจบของนิยาย

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางเปิดกล่องเครื่องประดับออกก่อนจะหยิบเอาปิ่นปักผมสีทองอร่ามออกมาทาบลงบนผมเพื่อดูว่าปิ่นอันไหนเหมาะสมกับตนเอง ของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องประดับที่หยวนฉินซื้อให้นางซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเองนักหรอก เวลาเขาเห็นเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะซื้อมาฝากนางเสมอ ยิ่งตอนที่แต่งงานกันก็หอบเอาของพวกนี้มาให้เป็นหีบจนตอนนี้มีเยอะเสียจนใช้แทบไม่ทัน“เจ้าว่าอันนี้งามหรือไม่?”“งามมากเจ้าค่ะ เหมาะกับชุดสีแดง” สาวรับใช้กล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปหยิบหวีเตรียมจะสางผมให้ผู้เป็นนายแต่ยังไม่ทันจะสาง นายท่านของจวนก็เดินเข้ามาจนทุกคนต้องถอยหลังออกมาแล้วก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อม“เอาหวีมา ข้าจะสางผมให้นางเอง”“เจ้าค่ะ” หญิงรับใช้ส่งหวีให้ท่านเจ้าเมืองก่อนจะก้มหัวลาแล้วพากันเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่ายามนายท่านและฮูหยินอยู่ด้วยกันห้ามผู้ใดรบกวนทั้งสิ้น ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพังถ้ามีอะไรจะเรียกใช้เองไม่ต้องยืนรอหยวนฉินเดินเข้ามาหาเย่ซูชางก่อนจะจับลงบนผมของนางแล้วใช้หวีสางลงบนเส้นผมอย่างอ่อนโยนไม่ให้มันขาดออกมาสักเส้นเดียว เย

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   20 : ตอนจบของนิยาย

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าแฝดที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะวันทั้งวันเอาแต่วิ่งเล่นตกกลางคืนเลยอ่อนเพลียหลับง่ายเป็นธรรมดา นางหันตัวเดินออกมานอกห้องก่อนจะปิดประตูแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนลูกทั้งสองสายตามองไปยังห้องตำราก็เห็นมีแสงสว่างอยู่ แปลว่าหยวนฉินยังไม่กลับเรือนนอนจึงเดินไปหาเผื่อจะช่วยงานเขาได้บ้าง เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นว่าสามีกำลังนั่งอ่านหนังสือร้องเรียนอยู่“มันหมดเวลาทำงานแล้ว”นางเดินเข้ามานั่งข้างเขาก่อนจะหยิบเอาหนังสือร้องเรียนขึ้นมาดู วันแต่ละวันมีเรื่องร้องเรียนมากมายแต่ส่วนมากก็เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นคนตีกัน ตกลงกันไม่ลงตัว ไกล่เกลี่ยเล็กน้อยปัญหาก็จบแล้ว“ข้าเป็นเจ้าเมืองไม่มีหมดเวลาทำงานหรอก เป็นเจ้าเมืองทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านเดือดร้อนมีทุกข์ตอนไหนก็พร้อมช่วยเหลือทันที”“แต่เจ้าก็ต้องพักผ่อนบ้าง ถ้าทำงานหนักมากเกินไปมันจะไม่ดีต่อสุขภาพ เกิดเจ้าตายขึ้นมาข้าก็เป็นหม้ายสิ”“ไว้ข้าทำตรงนี้เสร็จก็จะพักแล้ว”“เหลืออีกตั้งมาก”“ครู่เดียวเท่านั้นแหละ”สุดท้ายเย่ซูชางก็ต้องยอมให้ท่านเจ้าเมืองสะสางงานต่อให้เสร็จ แต่มีหรือที่คนซุกซนแบบนางจะยอ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   19.1 : พระกระโดดกำแพง

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“เจ้าไม่รู้อะไร การมีฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงคอยช่วยงานฮ่องเต้ นอกจากจะคอยค้านอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์รัชทายาทให้เอางานเอาการสนใจงานบ้านเมืองด้วย เพราะถ้าไม่สร้างผลงานไม่ทำให้ฮ่องเต้พอใจก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปก็ได้ ฮ่องเต้คิดมาแล้วทั้งหมดว่าต้องทำยังไงถึงจะเคี่ยวเข็ญองค์รัชทายาทได้ วิธีนี้ฝ่าบาทก็ไม่ต้องลงแรงไปเคี่ยวเข็ญออกคำสั่งเอง แค่ใช้สถานการณ์รอบตัวให้เป็นประโยชน์ องค์รัชทายาทอยู่ไม่เป็นสุขหรอก ต้องรีบสร้างผลงานทำความดีเพื่อรักษาตำแหน่งตนเองอยู่แล้ว”“เช่นนี้ก็เหมือนว่าฝ่าบาทใช้ฝูอ๋องเป็นเครื่องมือทางการเมือง”“จะกล่าวเช่นนั้นก็ถูก แต่ที่ฝ่าบาทยังให้ฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นห่วงด้วย เจ้าอย่าลืมว่าวัยเยาว์ฝูอ๋องต้องไปอยู่ที่อื่นกับพระสนมกุ้ยจนสุดท้ายก็ถูกพวกกบฏลอบทำร้ายจนพระสนมกุ้ยตายส่วนฝูอ๋องก็กลายเป็นคนขาเป๋ ฝ่าบาทคงไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยจึงไม่ยอมให้ฝูอ๋องไปไกลพระเนตรพระกรรณตนเอง”เย่ซูชางยกถ้วยอาหารยื่นให้น้องสาว “เจ้าช่วยข้ายกออกไปตั้งที่โต๊ะในสวนทีจะได้กินข้าวกัน”

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   19 : พระกระโดดกำแพง

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..เสียงมีดหั่นลงบนเขียงดังก้องภายในโรงครัวที่มีควันลอยฟุ้งจากเตาถ่านที่ถูกจุดเอาไว้ บนเตามีหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นให้นุ่มจนเข้าเนื้อ เย่ซูชางหันไปหยิบปลิงทะเลและหอยเป่าฮื้อมาหันเป็นชิ้นพอดีคำ“พี่หญิงรองทำสิ่งใดอยู่เจ้าคะ?” เย่ซูเจินเดินเข้ามาภายในครัวเมื่อได้กลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาจนน้ำลายสอท้องร้องขึ้นมา“พระกระโดดกำแพง”“ฮะ?” คนน้องหน้าตาเหวอกับคำตอบของพี่สาว “อะ… อะไรกระโดดกำแพงนะเจ้าคะ?”“อ๋อ พระอะ พระกระโดดกำแพง”“มันคือชื่ออาหารหรือเจ้าคะ แล้วทำไมพระต้องกระโดดกำแพงด้วย?”“เพราะเมื่อต้มเสร็จมันจะหอมมากจนพระต้องกระโดดกำแพงมาร่วมวงกินด้วยไง”“ฮะ?” เย่ซูเจินที่ได้ฟังความหมายของชื่อก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง แต่ก็พยายามคิดให้มันเป็นเรื่องปกติแล้วเดินไปหยิบส่วนผสมที่เป็นคล้าย ๆ ฟองสีทองนวลขึ้นมา“นี่คืออะไรหรือ?”“กระเพาะปลาเชื่อกันว่าจะช่วยให้ผิวพรรณดี ดูอ่อนเยาว์ ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงและกระชับ ให้พลังงาน เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย สามารถรักษาอาการตกเลือด อาการซีด และโลหิตจางได้”“แล้วดำ ๆ อันนี้ล่ะ?”“ปลิงทะเล”“ฮะ? ปะ… ปลิงทะเล มันกินได้หรือพี่หญิง?”“กิ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   18.1 : ฉีฉีชิงชิง

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..“เจ้านี่ยังปากร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”หยวนฉินโน้มลงไปจูบริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความมันเขี้ยวจนเย่ซูชางตกใจจะดันเขาออกแต่ก็ถูกมือใหญ่รวบแขนเอาไว้จนไร้ทางขัดขืนได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง“เจ้าทำบ้าอะไร สติเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”“เรื่องบัดสีอะไรกัน ข้าเพียงจูบเจ้าเองก็ช่วยไม่ได้เจ้าน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้ข้าจะอดใจไหวได้ยังไง รู้หรือไม่ว่าข้าต้องใช้ความอดทนอย่างมากขนาดไหนที่จะไม่ปิดที่ว่าการแห่งนี้แล้วอุ้มเจ้ากลับไปฟัดที่จวนให้จมเตียง”“เป็นถึงเจ้าเมือง ช่วยทำตัวให้น่านับถือหน่อยสิ นับวันเจ้ายิ่งหน้าหนาพูดเรื่องในม่านมุ้งได้ไม่อายปาก สงสัยข้าต้องส่งจดหมายไปทูลฟ้องฮ่องเต้แล้วว่าเจ้าคงไม่เหมาะกับตำแหน่งเจ้าเมืองให้ริบคืนเสีย”“ฮูหยินเจ้าเมืองก็ช่างโหดเหี้ยมนัก เจ้าดุจนคนรับใช้ในจวนกลัวกันหัวหด เรียกผู้ใดผู้นั้นก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นตาย”“ก็ข้าเป็นฮูหยินแล้ว เป็นนายหญิงของจวน เป็นภรรยาเจ้าเมือง และยังเป็นมารดาของเด็กแฝดด้วย ถ้าจะมามัวทำตัวเล่นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วถ้าไม่จริงจังไม่หนักแน่นจะคุมผู้อื่นได้อย่างไร ในเมื่อมีหน้าที่ภาระต้องดูแลทั้งภ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   18 : ฉีฉีชิงชิง

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..ห้าปีต่อมาเมืองหนานตูเสียงเด็ก ๆ วิ่งกันเจื้อยแจ้วไปตามถนนของเมืองที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาค้าขายตามประสาของเมืองท่าติดทะเลที่มีเรือขนส่งมากมายมาจอดเทียบท่า ผู้คนล้วนมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายใต้เมืองที่เงียบสงบไร้เหตุร้ายเพราะทุกคนล้วนมีงานทำมีเงินใช้จึงไม่มีการปล้นฆ่าแย่งชิงกันในเมืองแห่งนี้หน้าร้านถังหูลู่มีเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังยืนจดจ้องของหวานอยู่ด้วยความอยากกินตามประสาเด็ก มือเล็ก ๆ หยิบเหรียญออกมาก่อนจะยื่นให้พ่อค้า“ท่านลุงข้าขอถังหูลู่สองไม้”“สำหรับคุณหนู ข้าให้สามไม้เลยขอรับ” ลุงใจดีหยิบถังหูลู่ให้เด็กน้อยสามไม้จนมือเล็ก ๆ แทบจะหยิบไม่หมดแต่เด็กน้อยก็ใจสู้พยายามจับมันให้ได้“ขอบคุณท่านลุง ขอให้ท่านค้าขายดิบดี”“ขอบคุณขอรับคุณหนู”“คุณหนูหยวน คุณหนูหยวนเจ้าคะ!”เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นจนเด็กสาวตัวน้อยตกใจรีบหันไปมองก็พบบรรดาพี่เลี้ยงที่กำลังวิ่งมาหานาง “ท่านลุงข้าไปก่อนนะ!”ว่าจบเด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งหนีปะปนไปกับฝูงชนทันที มือยังคงถือถังหูลู่ไม่ยอมปล่อย วิ่งดุ๊กดิ๊กหนีเหล่าพี่เลี้ยงจนเป็นที่เอ็นดูของเหล่าชาวบ้าน บางคนก็ช่วยให้ที่หล

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   17 : ค่ำคืนวสันต์

    บทที่ 17'ค่ำคืนวสันต์'..เสียงดังเซ็งแซ่ลอยมาตามลมให้ได้ยินแว่วหู เย่ซูชางในชุดเจ้าสาวสีแดงที่กำลังนั่งรอเจ้าบ่าวอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพังภายในห้องหอที่ประดับประดาไปด้วยสีแดงก็นึกเบื่อเพราะให้นั่งนิ่ง ๆ มันไม่ใช่นิสัยของนางเลย สุดท้ายจึงเลิกผ้าคลุมขึ้นไปไว้ด้านบนแล้วลุกเดินมายังโต๊ะอาหารที่มีขนมวางอยู่มือเล็กหยิบเอาขนมหวานขึ้นมากิน ลักษณะมันเหมือนถั่วตัดเลย รสชาติหวานละมุนเรียกว่าทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลยเมื่อร่างกายได้น้ำตาลบ้าง วันนี้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำยุ่งแต่กับพิธีแต่งงาน เครื่องหัวก็หนักมากเพราะเป็นมงกุฎหงส์พระราชทานจากฮ่องเต้เลยอลังการงานสร้างเพชรล้านเม็ดสุดอะไรสุด แขกในงานแทบลืมตาไม่ได้เพราะเพชรนิลจินดาบนตัวเจ้าสาวแยงตาแทบทะลุเสียงประตูเปิดออกมันทำให้เย่ซูชางตกใจรีบเคี้ยวกลืนขนมที่อยู่ในปากจนไม่ทันระวังติดคอสำลักจนหน้าดำหน้าแดงลำบากเจ้าบ่าวอย่างหยวนฉินต้องเดินมาทุบหลังนางดังปึกจนขนมกระเด็นหลุดออกมาจากปาก จนนางต้องรีบหันไปเทน้ำชาดื่มเพื่อล้างปากล้างคอมือก็ยกขึ้นปาดคราบน้ำตาตนเอง“ยังไม่ทันจะดื่มเหล้ามงคลเลยเจ้าก็จะตายแล้วหรือ?”“ก็เจ้าเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ข้าก็ตกใจ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   16.1 : ดวงดาวกับข้าและเจ้า

    บทที่ 16'ดวงดาวกับข้าและเจ้า'..“นี่เจ้าจับปลาตั้งแต่ฟ้าสว่างจนฟ้ามืดเลยเหรอ?”“ข้าจับได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” หยวนฉินยื่นปลาที่สุกแล้วให้เย่ซูชางนางรับปลาย่างมากัดไปเสียคำโตแต่ลืมไปว่ามันยังร้อนอยู่จนแทบจะคายทิ้ง เป่าลมเข้าปากพัลวันจนหยวนฉินหลุดขำออกมาเสียงดังทำเอานางหน้ามุ่ยใส่“มันร้อนทำไมเจ้าไม่บอกข้า”“เจ้าก็เห็นว่ามันเพิ่งลงจากกองไฟจะไม่ร้อนได้อย่างไร”“ก็เป่าให้ข้าสิ” นางยื่นปลาย่างคืนให้เขาหยวนฉินรับปลามาก่อนจะบิดเนื้อปลาออกมาแกะก้างให้เรียบร้อยแล้วเป่าเพื่อไล่ความร้อนก่อนจะจ่อมันไปยังปากของนาง“ข้าเป่าให้แล้ว กินสิคนงาม”“ร้อนหรือเปล่า?”“ไม่ร้อนแล้ว ถ้าร้อนข้าให้ตบเลย”เย่ซูชางอ้าปากกินเนื้อปลาที่หยวนฉินป้อนแต่โดยดี ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วทำสีหน้าเหมือนร้อนจนต้องเป่าปาก “ยังร้อนอยู่เลย”“ดะ… เดี๋ยวเจ้าจะทำอะไร?” หยวนฉินหน้าเหวอเมื่อเห็นเย่ซูชางง้างฝ่ามือขึ้น“ก็เจ้าบอกว่าถ้าร้อนจะให้ข้าตบไง”“อันนี้เจ้ากลั่นแกล้งข้าแล้ว”“ข้าร้อนจริง ๆ ลิ้นข้าพองหมดแล้ว”“ข้าเป่าขนาดนี้ยังร้อน คงต้องเคี้ยวเข้าไปก่อนแล้วคายให้เจ้ากินแล้วแหละ”“ยี๋!” เย่ซูชางทำหน้าหยีเมื่อนึกภาพตาม“จูบกัน

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   16 : ดวงดาวกับข้าและเจ้า

    บทที่ 16'ดวงดาวกับข้าและเจ้า'..“เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม?” เย่ซูชางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อหยวนฉินพานางมาที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี“พาเจ้ามาดูทะเลดาว”นางหยุดฝีเท้าลงก่อนจะเงยหน้ามองฟ้าที่ยังคงมีแสงอยู่เลย มันจะเอาดาวมาจากไหนวะแดดเปรี้ยงขนาดนี้ นอกจากดาวบนหัวเขาอะหาท่อนไม้สักท่อนฟาดเข้าให้น่าจะได้เห็นดาวจริง ๆ“แดดเปรี้ยงขนาดนี้เจ้าจะเอาดาวมาจากไหน?”“เดี๋ยวมันก็มืดแล้ว”“นี่ข้าต้องรอจนมืดหรือ?”“รอไม่ได้หรือ?” หยวนฉินทิ้งตัวลงนั่งย่อตรงกองไฟที่มีคนเคยมาจุดเอาไว้แล้วหยิบเอากิ่งไม้แห้งใส่เข้าไปแล้วใช้กระบอกจุดไฟจุดกองใบไม้แห้งให้ไฟลุกขึ้น“แทนที่ข้าจะได้กลับไปนอนพัดวีที่เรือนสบาย ๆ ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งรอพระอาทิตย์ตกดินอีกหรือ”“เจ้าจะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมา ยังไม่ทันแก่เลยเจ้าบ่นเก่งนัก ถ้าแก่ตัวไปหูข้าไม่ตึงเพราะโดนเจ้าบ่นทุกวันทุกเวลาเลยหรือไง”“หูเจ้าไม่ตึงหรอก” เย่ซูชางที่หมั่นไส้หยวนฉินก็ยื่นมือไปบิดหูเขาจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลง“โอ๊ย ๆ ข้าเจ็บ!”“ข้าจะบิดให้หูเจ้าขาดไปเลย จะได้ไม่ต้องมีหูให้ตึง”“ปะ… ปล่อย ข้ายอมเจ้าแล้ว ยอมเจ้าทุกอย่างเลย” หยวนฉินที่โดนบิดหูซะม้วนก็ร้องโอดครวญออกมาเสียง

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status