บทที่ 6
‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’
.
.
“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย
“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย
‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’
“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”
“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”
‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’
……….
.
หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพไปนานแล้วแน่
แต่ยังไม่ทันจะเดินถึงพระตำหนักของหยวนหวงกุ้ยเฟยก็มีขบวนเสด็จของใครบางคนมาขวางทางเอาไว้ก่อน สตรีในชุดสูงศักดิ์เดินออกมา จากการแต่งกายก็เดาไม่ยากน่าจะเป็นองค์หญิงสักพระองค์แน่นอน หรืออาจจะเป็นองค์หญิงสี่เซียวซิงหยา
“เห็นข้าแล้วยังไม่ก้มหัวอีก”
“ขออภัยเพคะ” นางยอมก้มหัวให้แต่โดยดีเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ข้าเป็นถึงองค์หญิง ส่วนเจ้าเป็นแค่ท่านหญิง อย่าคิดว่าได้รับการโปรดปรานจากเสด็จพ่อแล้วจะกระทำสิ่งใดก็ได้ไม่ต้องสนหัวผู้ใด”
“ขออภัยเพคะ”
“เจ้าพูดได้แต่คำว่าขออภัยหรือ?”
“แล้วจะให้หม่อมฉันทำสิ่งใดเพคะ?”
“คุกเข่าก้มกราบข้าสิ”
“หม่อมฉันไม่ได้มีความผิดถึงขั้นนั้นเสียหน่อย”
‘ข้าก็เดินของข้าอยู่ดี ๆ เป็นเจ้าที่เข้ามาหาเรื่องข้าเองแท้ ๆ’
“ข้าคือองค์หญิงเซียวซิงหยา พระมารดาของข้าคือฮองเฮาเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ!”
‘ที่แท้ก็คู่ปรับนางร้ายนี่เอง ก็ดูร้ายสมกันดี ตอนอ่านนิยายความร้ายก็สูสีกันเลยแหละ’
“จับนางคุกเข่าลง!”
“เพคะ!”
เหล่านางกำนัลพากันพุ่งเข้ามาหาเย่ซูชางพยายามกดตัวนางให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแต่นางก็ไม่ยอมออกแรงสะบัดจนพวกนางกำนัลผอมแห้งแรงน้อยกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
“ถ้านางไม่ยอมคุกเข่าก็ฟาดขานางให้หัก!”
องค์หญิงสี่ เซียวซิงหยา ยังคงออกคำสั่งอย่างเหี้ยมโหดสีหน้าของนางจริงจังบ่งบอกว่าต้องการให้เย่ซูชางขาหักจริง ๆ จนนางกำนัลต้องพากันไปหาท่อนไม้มาถือเอาไว้ เย่ซูชางจ้องมองหน้าองค์หญิงสี่ด้วยความโกรธ รุมรังแกกันมากเกินไปแล้วอยากให้นางร้ายมากนักใช่ไหมก็จะจัดให้
“พระองค์ทรงรูปโฉมงดงาม น้ำเสียงก็หวานไพเราะ ชาติกำเนิดสูงส่งเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แต่เหตุใดต้องมาริษยาคนต่ำต้อยเยี่ยงหม่อมฉันด้วยเพคะ?”
“เพราะข้าเกลียดเจ้า เกลียดก็คือเกลียด ข้าไม่เห็นจะต้องมีเหตุผลอะไรเลย”
“หรือที่พระองค์รังเกียจหม่อมฉันมากถึงเพียงนี้เป็นเพราะรองเจ้ากรมพิธีการที่พระองค์หมายปองกำลังจะแต่งงานเป็นสามีของหม่อมฉันหรือเปล่าเพคะ?”
“เอาไม้ฟาดปากนางให้ฟันร่วงหมดปากเดี๋ยวนี้ ใครถอนฟันนางได้ข้าจะให้ทองเป็นรางวัล!”
เมื่อถูกหลอกล่อด้วยของมีค่าพวกเหล่านางกำนัลก็เหมือนจะลืมกลัวไปหมดจนสิ้นหันเป้าหมายมาหาเย่ซูชางทันทีจนนางต้องก้าวเท้าถอยเพื่อออกมาตั้งหลัก จังหวะนั้นก็เห็นหยวนฉินเดินมาไกล ๆ พอดี
‘นี่สิจังหวะพระเอก!’
นางหันมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าด้านหลังเป็นบ่อน้ำก็ตัดสินใจกระโดดลงไปทันทีจนทุกคนต่างตกใจแม้แต่องค์หญิงสี่ก็ด้วย เย่ซูชางที่ว่ายน้ำเป็นก็แสร้งทำเป็นว่ายน้ำไม่เป็นดำผุดดำว่ายอยู่แบบนั้นพร้อมตะโกนจนดังลั่น
“ช่วยด้วย!”
“ชะ… ช่วยด้วย ข้าว่ายน้ำไม่เป็น!”
เสียงตะโกนของนางมันดังไปถึงหูของหยวนฉินที่กำลังจะเดินไปตำหนักหยวนหวงกุ้ยเฟยพอดิบพอดี เขาที่หันมาเห็นว่าที่คู่หมั้นหมายว่าที่ภรรยาในอนาคตของตนดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำก็รีบวิ่งจนชายอาภรณ์ปลิวไม่สนความสำรวมอะไรทั้งนั้น แหวกกลางวงขบวนขององค์หญิงสี่แล้วกระโดดพุ่งลงน้ำทันทีคว้าตัวของเย่ซูชางเอาไว้แล้วพานางขึ้นมาบนฝั่ง
“แค่ก ๆ” เย่ซูชางยังคงแสดงอย่างแนบเนียนด้วยการสำลักน้ำออกมาเพราะอมน้ำไว้ในปากก่อนแล้ว
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หยวนฉินถามด้วยความเป็นห่วง มือก็ลูบหลังนางไปด้วยท่าทางร้อนใจแต่การกระทำกลับอ่อนโยน
“ขะ… ข้ากลัว” นางแสร้งพูดเสียงสั่นแล้วซบหน้าลงบนอกกว้างเนื้อตัวสั่นเทาเหมือนเจ้าเข้า
“ท่านพี่ฉิน” องค์หญิงสี่เอ่ยเรียกหยวนฉิน
“องค์หญิงอย่าทำอะไรหม่อมฉันเลยเพคะ เรื่องที่หม่อมฉันกำลังจะหมั้นหมายกับอาฉินล้วนเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก ขอองค์หญิงอย่าโมโหเลยเพคะ”
“หมายความว่ายังไง?” หยวนฉินรีบถามทันที
“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ข้าถูกฮองเฮาเรียกมาเข้าเฝ้าเมื่อคุยธุระเสร็จจึงจะไปเยี่ยมหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย แต่องค์หญิงสี่ก็เข้ามากล่าวหาข้า หาว่าข้าใช้มารยาสาไถยหลอกล่อเจ้าให้หมั้นหมายด้วย ไม่พอใจที่เจ้ากำลังจะหมั้นหมายกับข้าเลยจะให้คนมาตีขาข้าให้หัก ไม่พอยังกล่าวอีกว่าถ้าใครถอนฟันข้าได้จะให้ทองคำ ข้ามีผู้เดียวแต่ถูกรุมรังแกจึงกลัวจนต้องกระโดดน้ำหนีก็ยังถูกองค์หญิงสี่สั่งห้ามผู้ใดช่วยเหลืออีก”
องค์หญิงเซียวซิงหยาถึงกับตกใจที่ถูกเย่ซูชางใส่สีตีไข่เรื่องราวจนมันดูเป็นเรื่องใหญ่โตเกินความจริงไปมาก นางพยายามจะหันไปอธิบายกับหยวนฉินแต่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“องค์หญิงสี่ท่านอย่าทรงทำเช่นนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้กระหม่อมไม่ได้หมั้นหมายกับเย่ซูชาง กระหม่อมก็ไม่สามารถรับไมตรีของพระองค์ได้ แต่ตอนนี้กระหม่อมกำลังจะหมั้นหมาย ในอนาคตก็ต้องแต่งงาน ขอให้องค์หญิงตัดใจเรื่องนี้แล้วลืมเรื่องราวที่เคยพูดกับกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนฉินกล่าวออกไปตรง ๆ เพราะเขารู้ถึงความรู้สึกที่องค์หญิงสี่มีให้ตนดี ก่อนหน้านี้องค์หญิงเคยมาสารภาพรักแล้วครั้งหนึ่งแต่เขาก็ปฏิเสธไปตั้งแต่ตอนนั้น และขอให้หยวนหวงกุ้ยเฟยทูลขอฮ่องเต้ให้ว่าอย่าบังคับเขาแต่งงานกับองค์หญิงคนไหนถึงได้รอดมาได้ไม่โดนสมรสพระราชทานแต่องค์หญิงสี่ก็ยังไม่ล้มเลิกและคอยตามเอาอกเอาใจส่งของกำนัลมาให้เสมอ
ยามที่รู้ว่าเขามีใจให้ถังซีเยว่ก็ไปทำร้ายนางแต่เพราะเป็นองค์หญิงที่เป็นพระธิดาในฮองเฮาจึงไม่มีผู้ใดกล้าเอาผิด พอมาตอนนี้ที่เขาจะหมั้นหมายกับเย่ซูชางก็ยังมาทำร้ายนางอีก ในเมื่อตนเองไม่ได้แต่งก็จะทำร้ายสตรีทุกคนที่ข้องเกี่ยวกับเขาเลยหรือไง ทั้งที่เขาก็ชัดเจนมาตั้งแต่ปฏิเสธแล้วว่าไม่ต้องการพระองค์
“เจ้าพาข้าออกไปจากตรงนี้เถิด ขะ… ข้าหนาว ข้าไม่ไหวแล้ว” เย่ซูชางแกล้งเสียงสั่นตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า
หยวนฉินเลยตัดสินใจอุ้มนางขึ้นมาอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาเดินฝ่าวงล้อมออกไปทิ้งให้องค์หญิงสี่ยืนมองแผ่นหลังหนาของคนที่ตนรักเดินจากไปด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้นในเวลาเดียวกัน ด้วยความโมโหเลยหาที่ลงอย่างคนพาลด้วยการหันไปตบหน้าเหล่านางกำนัลเรียงตัวจนทุกคนหวาดกลัวพากันรีบนั่งคุกเข่าก้มลงกราบองค์หญิงเพื่อร้องขอชีวิตกันทันที
“ข้าสั่งพวกเจ้า ไยพวกเจ้าไม่ทำตาม ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็อย่าอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองเบี้ยหวัดเลย เอาพวกนางไปโบยให้ตาย!”
“องค์หญิงโปรดเมตตาด้วยเพคะ!”
“เอาออกไปข้ารำคาญ!”
“องค์หญิงโปรดเมตตาด้วยเพคะ องค์หญิง!”
เซียวซิงหยาไม่คิดจะฟังคำขอร้องขอความเมตตาทั้งนั้น นางเลือกจะหันไปมองทางอื่นมือยังคงกำหมัดแน่น ฟันขบกัดเข้าหากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“เดิมทีข้าจะปล่อยเจ้าไปอยู่แล้วเย่ซูชาง แต่ในเมื่อเจ้ากล้าเป็นศัตรูหัวใจของข้าก็อย่าหวังว่าจะได้ตายดีเลย แม้นตายศพของเจ้าก็ต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้นให้หมูหมามันกิน”