ในตอนเช้าข่าวลือไปทั่วเมืองต้าโจวว่าคุณหนูรองเซียนหยีนั้นแข่งตีคลีแพ้แล้วผลักคุณหนูใหญ่หลินซีล้มจนได้รับบาดเจ็บ
ข่าวลือทั่วสำนักศึกษา ยามนี้เซียนหยีพลันนั่งในศาลา พลันมองเหล่าสหายอย่างเมิ่งชีชี เสิ่นอ้ายและเหมยอิง ต่างมองเซียนหยีที่ไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวกับข่าวลือพวกนั้น
"อาหยีเจ้าไม่เป็นไรนะ" เมิ่งชีชีถามสหายด้วยความเป็นห่วง
"เมื่อวานพวกเจ้าน่าจะเห็นว่านางล้มลงไปเอง ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง" เซียนหยีพลันเอ่ยขึ้น ทั้งสามคนอยู่กลุ่มเดียวกันย่อมต้องเห็นอยู่แล้ว แต่พวกนางพูดไปใครจะเชื่อพวกนาง
"พวกเจ้าทั้งสี่คน อาจารย์จ้าวหวันให้ไปล้างคอกม้าทั้งวัน ไม่ต้องเข้าเรียน" บุรุษผู้หนึ่งเดินมาบอกพวกนางในศาลา
"ไม่สิ ทั้งอาทิตย์นี้พวกเจ้าจงอยู่แต่คอกม้า" บุรุษผู้นั้นถ่ายทอดคำสั่งของอาจารย์แล้วเดินออกไป
ทั้งสี่คนพลันมองหน้ากัน "รังแกกันเกินไปแล้วนะ" เมิ่งชีชีพลันหน้าเศร้า
"พวกเจ้าเดือดร้อนเพราะข้าแท้ ๆ" เซียนหยีพลันรู้สึกผิด กระนั้นพวกนางทั้งสี่คนพลันมุ่งหน้าไปที่โรงเลี้ยงม้าของสำนักศึกษาหลวง
ทางด้านหลินซีกับเหล่าสหายของนางพลันมีความสุขยิ่งนักที่ได้ทราบข่าวว่ากลุ่มของเซียนหยีได้ล้างคอกม้าจนถึงวันหยุดเรียน
"คุณหนูหลินฉลาดยิ่งนัก" แน่นอนว่าคนที่เอ่ยชมหลินซีคือเซียนโหรวน้องสาวผู้หน้าโง่ของเซียนหยี
"คุณหนูสามเซียนคงจะได้รับน้อยเนื้อต่ำใจจริงมั้งอยู่จวน" หลีหลานพลันเข้าใจเซียนโหรว
"จริง ๆ แล้วพี่หญิงรองมักแกล้งข้าประจำ" เซียนโหรวโป้ปดทั้งเพ เรื่องราวทั้งหมดที่พวกนางสนทนากันอาซานได้มารายงานเซียนหยีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เซียนหยีพลันบอกสหายว่ามาเข้าห้องน้ำ แต่ทว่านางแอบมาพบอาซาน หญิงสาวนึกชังน้องสามเซียนโหรวกับหลินซี ยามนี้เวลาเที่ยงเหล่าศิษย์ชายหญิงต่างออกมาที่ศาลาสวนบุปผา
"อาซานเจ้านำผงบางอย่างไปโปรยใส่พวกนาง จากนั้นเจ้าทำอย่างไรก็ได้ให้รังผึ้งตกลงมา" เซียนหยีนึกชังคนในสำนักศึกษาที่ให้ร้ายนาง อีกทั้งเชื่อคำพูดของหลินซี นางจะแก้แค้นด้วยวิธีนี้
อาซานรับคำหายไปประดุจสายลม ในช่วงเที่ยงของวันนั้นศาลาสวนบุปผาได้เกิดเรื่องขึ้น เมื่อรังผึ้งตกลงมา ทำให้หมู่ผึ้งต่างบินไล่ต่อยลูกศิษย์ชายหญิงจนได้รับบาดเจ็บ
"ช่วยด้วย" เซียนโหรวพลันวิ่งหนีผึ้ง นางกระโดดลงไปในสระบัว ส่วนหลินซีกับเหล่าสหายพลันวิ่งหนีลงในสระบัว อีกทั้งฝูงผึ้งเข้าไปต่อยอาจารย์ทั้งหลายจนใบหน้าบวมเป่ง
ในวันนั้นเองหลังจากที่ฝูงผึ้งจากไปเหล่าอาจารย์พลันให้ลูกศิษย์ทั้งหลายกลับจวนได้ ให้ลาพักสามวันรวมกับวันหยุดเป็นห้าวันพอดี เซียนหยีกับสหายของนางทำทีว่าโดนผึ้งต่อยด้วยกระนั้นจึงได้กลับจวน อีกทั้งไม่ได้ล้างคอกม้าตั้งหลายวัน
นางนั่งรถม้าคนละคันกับเซียนโหรว พอเห็นเซียนโหรวลงจากรถม้าใบหน้าปูดบวม
"น้องสามใบหน้าเจ้าเป็นหัวหมูแล้ว" จากนั้นเซียนหยีก็หัวเราะลั่นหน้าจวน โชคดีที่เซียนโหรวเปลี่ยนชุดก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งสำนักศึกษามอบขี้ผึ้งบรรเทาปวดมาให้นาง
นางไม่อยากใส่ใจคนอย่างเซียนหยีรีบวิ่งเข้าไปในจวนทันที เซียนหยีมาที่เรือนด้วยความสะใจ
นางพลันเรียกอาซานเข้ามา เสี่ยวอิงพลันตกใจเมื่อเห็นอาซาน
"คุณหนูเขาเป็นใคร"
"อาซานบ่าวชายยอดฝีมือของข้า พวกเจ้าสองคนรู้จักกันไว้" บ่าวทั้งสองทำความรู้จักกัน
"อาซานวันนี้เจ้าทำดีมาก เจ้ากลับไปที่เรือนเถอะ" จากนั้นอาซานหายออกไปทางหน้าต่าง เสี่ยวอิงพลันตกใจไม่น้อย
"เจ้ารีบไปเตรียมน้ำให้ข้าอาบเร็วเข้า" เซียนหยีอารมณ์ดีไม่น้อยที่ได้ระบายความแค้น
เป็นอย่างไรบ้างเล่าคนพวกนี้ ได้รับความเจ็บปวดไปไม่น้อยโดยเฉพาะหลินซี
เซียนหยีอาบน้ำเสร็จผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เสียใหม่ ได้ไม่นาน คนจากเรือนฮูหยินผู้เฒ่าเซียนก็พลันมารายงานให้นางไปรับมื้อเย็นที่เรือนใหญ่ กระนั้นสองนายบ่าวจึงรุดไปเรือนใหญ่
ก่อนจะไปเรือนใหญ่เซียนหยีไม่ลืมทาแผลเป็นให้น่าเกลียด
พอมาถึงพบว่าทุกคนพลันนั่งรอนาง " อาหยีมานั่งข้างย่า" เซียนหยีมิได้สวมผ้าขาวบางบนใบหน้า เพราะคิดว่าต้องถอดอยู่ดี
"หน้าน้องสามไปโดนอันใดมา" เซียนหยีเยาะเย้ยทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
"พี่หญิงรองเหตุใดท่านไม่โดนผึ้งต่อย" มีแรงเถียงพี่สาวแสดงว่าไม่เจ็บมาก
"น้องสามข้าไปล้างคอกม้า ไม้ได้อยู่สวนบุปผาเหมือนพวกเจ้า"
"อาโหรวของพ่อเจ้าเจ็บพ่อก็ปวดใจ" เซียนเจิงเอ็นดูบุตรสาวคนเล็กของเขามาก
"ข้าปวดยิ่งนักท่านพ่อ" เซียนโหรวการละครเสียจริง ๆ
"นายท่านคุณหนูสามน่าสงสารนัก" อนุซู
"เหตุใดคนที่โดนต่อยไม่เป็นเจ้า" เซียนเจิงช่างเป็นบิดาสมองสุนัขเสียจริง
"ท่านพี่เอ่ยเช่นนี้ได้อย่างไร" เซียนฮูหยินทนไม่ไหว ในสายตาของเขายังเห็นเซียนหยีเป็นลูกสาวรึไม่
"เจ้าจะเอ่ยเช่นนี้มิได้ นังหนูสามดวงซวยเอง จะให้นังหนูรองรับเคราะห์ได้อย่างไร" ท่านย่ายังเข้าข้างเซียนหยี
"ย่าคีบผักให้เจ้ากินเยอะ ๆ ใครไม่กินก็ช่างมัน" ฮูหยินผู้เฒ่าเซียนทำเมิน
ในค่ำคืนนั้นท่ามกลางหิมะตกหนักลงมา หลินซีพลันมองถาดน้ำแกง นางทราบข่าวว่าเขาอยู่ในห้องหนังสือ หลินซีรีบตุ๋นน้ำแกงรังนกมาให้โอวหยางเสียนโอวหยางเสียนพลันมองหลินซีที่เดินเข้ามาพร้อมกับชามน้ำแกง ใบหน้างามพลันระบายไปด้วยรอยยิ้ม หากแผนการนี้สำเร็จ เซียวอ๋องจะกลายเป็นคนสารเลวที่แย่งคู่หมั้นน้องชาย อีกทั้งโดนขุนนางยื่นฟ้องมิให้มีสิทธิ์ในบัลลังก์อีกต่อไป"น้ำแกงอะไร" เซียวอ๋องแกล้งถาม ไม่คิดเลยว่าเพื่อให้ได้ในสิ่งที่นางต้องการ นางถึงกับต้องทำคุณไสย์ใส่เขา อีกทั้งวางแผนอย่างชั่วร้าย"น้ำแกงรังนกเจ้าค่ะ" ใบหน้างามส่งสายตาออดอ้อนให้เขาเซียวอ๋องยกขึ้นมาดื่ม ภาพสุดท้ายวูบดับลงกับพื้นทันทีอีกด้านหนึ่งหน้าจวนเซียวอ๋องยามนี้ หนานอ๋องพาทหารเข้ามาบุกจวนเซียวอ๋องยามพลบค่ำ "ท่านอ๋องเหตุใด ท่านพาทหารมามากมายเช่นนี้" อาเสิ่นพลันมองหนานอ๋องนำทหารบุกเข้ามา"หุบปากของเจ้าเสีย วันนี้ข้าจะพาคู่หมั้นของข้ากลับจวน" หนานอ๋องไม่ฟังคำของอาเสิ่น เขาพาทหารมุ่งหน้าไปที่ห้องหนังสือ เพราะสาวใช้รายงานว่า เซียวอ๋องกับหลินซีอยู่ห้องหนังสือ"ท่านเข้าไปมิได้นะ ท่านอ๋อง" อาเสิ่นขวางทาง บ่าวเยี่ยงเขาต้องเล่นตามบทละคร"หลีกไป
เมิ่งชีชีพลันอยู่ที่โรงหมอของเซียนหยี เมิ่งชีชีตัดสินใจที่จะเรียนหมอ "อาหยีหลายวันมานี้เจ้าเป็นอันใดไป" แน่นอนว่าเมิ่งชีชีพลันสังเกตสหายรักของนาง "ท่านอ๋องโดนมนต์ดำเข้าให้แล้ว""อะไรนะ" เมิ่งชีชีตกใจไม่น้อยหลังได้ยินสหายรักเอ่ยเช่นนี้ "ข้าสั่งให้คนในจวนค้นเรือนหาสิ่งของนั้นอยู่ เจ้ามิต้องกังวลไป" "คุณหนูเมิ่งซื่อจื่อมาหาท่าน" เซียนหยีพลันมองเสี่ยวอิงเข้ามารายงายแล้วมองเมิ่งชีชี"นี่เจ้าเหตุใดซื่อจื่อจึงมาหาเจ้า" เซียนหยีมองสหายรัก"ข้ากับครอบครัวของเขาตกลงหมั่นหมายกันแล้ว""ขอแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย" เมิ่งชีชีพลันยิ้มแล้วเดินออกไปหาซื่อจื่อน้อย"พระชายาอาเสิ่นมาเจ้าค่ะ" เสี่ยวอิงวิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อย อาเสิ่นพลันรีบร้อนเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาเหมือนคนไม่ได้นอนมาหลายวัน"พระชายาข้าน้อยไปเจอหุ่นตัวนี้ใต้หมอนของเซียวอ๋อง ข้าสั่งให้สาวใช้ทุกคนค้นหาในตอนทำความสะอาดเรือน" เซียนหยีพลันมองหุ่นไม้ตัวนี้ เขียนอักษรวันเดือนปีเกิดของเซียวอ๋องชัดเจน"ข้าจะพยายามให้เขากลับมาเป็นปกติให้ได้ ภายในวันนี้ ส่วนเจ้ารีบนำหุ้นตัวปลอมไปใส่ไว้ใต้หมอนเหมือนเดิมอย่าให้หลินซีสงสัยเป็นอันขาด" พูดง่าย ๆ อย่าแหว
เซียนหยีคิดว่านางจะต้องรีบไปหาหยางฮองเฮาโดยด่วน วันถัดมาเซียนหยีเข้าวังอย่างลับ ๆ ไปเข้าเฝ้าฮองเฮา ทางประตูหลังวัง หวงกงกงรีบพาเซียนหยีเข้ามาในตำหนักพระนาง"ถวายพระพรเสด็จแม่" เซียนหยีพลันมองหยางฮองเฮากับองค์หญิงสามที่กำลังดื่มชา"อาหยีเจ้ามาแล้ว" "หม่อมฉันมีเรื่องด่วนกราบทูลเพคะ ยามนี้เซียวอ๋องให้หลินซีเข้ามาในจวน""เจ้าว่าอะไรนะ" องค์หญิงสามกับฮองเฮาตกใจจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน"หม่อมฉันเกรงว่า เซียวอ๋องจะโดนคุณไสย์เข้าแล้ว""แล้วพวกเราจะทำอย่างไร""หม่อมฉันให้อาเสิ่นค้นหาอย่างลับ ๆ ในเรือนท่านอ๋อง หากหาเจอมีทางแก้ไข""เจ้ารู้รึไม่ ใครอยู่เบื้องหลัง""เซี่ยไทเฮา""เราก็คิดเหมือนกันกับเจ้า เพราะนางเคยวางพิษกู่ อีกทั้งส่งคนวางยาพิษทำลายร่างกายเซียวอ๋อง ทุกอย่างรอดมาได้เพราะเจ้าช่วยเขา ครั้งนี้เราหวังว่าเจ้าจะช่วยเซียวอ๋องสำเร็จ"องค์หญิงสามไม่คิดเซียนหยีจะช่วยพี่ใหญ่ของนางหลายครั้ง นางตาบอดที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว"พี่สะใภ้ที่ผ่านมาข้าขอโทษ""ไม่เป็นไร""เสด็จแม่ เรื่องนี้เราจะกราบทูลเสด็จพ่อเช่นไร" เซียนหยีพลันเอ่ยถาม"ฝ่าบาทไม่ทรงเชื่อใครง่าย ๆ หากไม่มีหลักฐาน ข้าจะให้คนจับตาดูไทเฮา นางอ
คืนนั้นเซียนหยีนอนหลับสนิทโดยมีเซียวอ๋องคอยดูแลนอนกอดนางทั้งคืน เซียนหยีพลันลืมตาขึ้นมาพบว่าเซียวอ๋องหายไปแล้ว ช่างเถอะเขาคงไปค่ายทหารตามเคยเซียนหยีมาเปิดโรงหมอหยีแต่เช้า นางขายครีมหน้าเด้งด้วย ลูกค้าของนางเป็นเหล่าสตรีชนชั้นสูงไปหาชนชั้นล่างสุด"พระชายาแย่แล้วบัดนี้ เซียวอ๋องเชิญคุณหนูหลินมาที่จวนให้นางดีดเพลงพิณให้ฟัง" อาซานเป็นคนเข้ามาแจ้งข่าวเจ้านายเซียนหยีให้เสี่ยวอิงเฝ้าร้านเนื่องจากเสี่ยวอิงสามารถขายครีมได้ กระนั้นนางจึงรุดมาที่จวนเซียวอ๋องตึ่ง ตึ้ง ตึ่ง เสียงคนงามพลันดีดเพลงพิณในศาลาสระบัว หลินซีไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เซียวอ๋องเชิญนางมาที่จวนแบ้วให้นางมาดีดเพลงพิณให้เขาฟังใบหน้างามพลันระบายไปด้วยรอยยิ้ม เซียวอ๋องพลันมองหลินซีไปด้วยความรักความเสน่หา"พี่เสียน ข้ารักท่านแม้ท่านจะแต่งงานกับผู้อื่นไปแล้ว" นี่คือความในใจของหลินซี นางหน้าแดงก่ำ "พวกเจ้านี่มันหญิงร้ายชายเลวจริง ๆ คนหนึ่งแต่งงานแล้ว คนหนึ่งเป็นคู่หมั้นน้องชาย" เซียนหยีในชุดสีขาวพลันเดินเข้ามามองสองคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำหลินซีพลันมองเซียนหยีที่ด่านางฉอด ๆ "ท่านอ๋องพระชายาของท่านเหตุใดถึงได้ใช้คำพูด
"ข้าก็ดีกับเจ้าไม่น้อย" เซียนฮูหยินเสียใจ นางรักเซียนอ้ายมาก"ข้าเกลียดพวกท่าน""ข้าคิดว่าจะให้เจ้าแต่งงานกับบุตรชายขุนนางหลังจากเจ้ากลับมาถึงเมืองหลวง จึงได้ให้แม่สื่อเสาะหาคุณชายตระกูลใหญ่ให้เจ้า" ภาพวาดนับสิบถูกนำมากองต่อหน้าเซียนอ้าย นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนปรึกษากัน แต่ไม่คิดว่าเซียนอ้ายจะตอบแทนเช่นนี้มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นที่หัวเซียนหยีเมื่อหลายเดือนก่อน งานคล้ายวันเกิดท่านพ่อ พี่หญิงใหญ่ให้นางดื่มสุราจากนั้นพานางมาไว้ห้องรับรองบุรุษ"เป็นพี่หญิงที่วางยาข้า ส่งข้าไปหาเซียวอ๋อง ข้าจำได้แล้ว" "เป็นเจ้าที่ทำร้ายน้องสาวของเจ้าเองรึ" เซียเจิงเสียใจมาก"จะส่งข้าให้ทางการก็ว่ามา" เซียนอ้ายพลันยอมแพ้แล้ว"นายท่านพบเงินใต้เรือนคุณหนูใหญ่หลายหีบเลยขอรับ" เซียนหยีสั่งให้คนไปสำรวจเรือนเพราะคิดว่าเซียนอ้ายต้องซ่อนเงินไว้ และแล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ"พี่หญิงใหญ่ที่ผ่านมาข้าจะไม่เอาความกับท่าน" เซียนหยีมักให้โอกาสคนเสมอ"วันพรุ่งเจ้าจงไปใช้ชีวิตที่วัดนอกเมือง วัดเล้ง" เซียนอ้ายทำผิดโดยไม่น่าให้อภัย"ไม่นะท่านพ่อ" เซียนอ้ายไม่อยากไปอยู่วัด"เจ้าก็เลือกเอาว่าจะแต่งงานออกไปหรือจะไปอยู่วัด" เซียนเ
เซียนหยีพลันนึกถึงเรื่องในถ้ำเมื่อครั้งก่อน นางยังหน้าแดงไม่หาย เจ้าอ๋องบ้าซุกหน้าอกนาง ส่วนนางจับแท่งหยกของเขา ช่างไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบและเสียเปรียบทุกคนเสมอกัน ตอนนั้นทั้งสองยังไม่แต่งงานกัน แต่ทว่ายามนี้ทั้งสองคนพลันแต่งงานกันแล้ว เซียนหยีพลันมิได้ตอบอันใดปล่อยให้เจ้าอ๋องบ้ากอดนางจนถึงเช้าพอเซียวอ๋องลืมตาขึ้นมาพบว่าเซียนหยีพลันกอดเขาแน่น"อาหยี"เซียนหยีลืมตาขึ้นมารีบปล่อยเซียวอ๋องทันที นางรีบดีดตัวออกจากเขา เซียวอ๋องพลันอมยิ้ม เซียนหยีหน้าแดง นางนอนกอดเขาทั้งคืน"ท่านฉวยโอกาสกับข้า" ท่าทางของนางช่างเหมือนแมวน้อยที่เกรี้ยวกราดน่ารักยิ่งนัก"ข้ามิได้ฉวยโอกาส แต่เจ้าต่างหากที่บอกว่าให้ข้ากอดเจ้าได้" เซียวอ๋องยิ้มแก้มปริเลยล่ะ เซียวหยีพลันลืมไปเลยเรื่องเมื่อคืน นางให้เขากอดนางได้ทั้งสองแต่งตัวเรียบร้อย จากนั้นลาท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่กลับมาที่จวนอ๋องเซียวอ๋องมุ่งหน้าไปที่ค่ายทหาร ส่วนเซียนหยีพลันนึกถึงร้านข้าวมรกตของนาง กระนั้นนางจึงปลอมตัวเป็นบุรุษไปเดินตลาดกับเสี่ยวอิง"คุณหนูเหตุใดต้องปลอมตัวเป็นบุรุษด้วยเล่า" เสี่ยวอิงช่างน่ารำคาญเสียจริง "ข้าอยากจะรู้ว่าเซียนอ้ายนางโก่งเงินสก