Войтиสองสาวลงมาที่ชั้นล่าง เห็นร้านอาหารตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามตึก แต่สะพานลอยที่จะข้ามไปอยู่ค่อนข้างไกล มลฤดีจึงฉุดมือเจด้าวิ่งข้ามถนน!!
“เดี๋ยว ๆ!!” เจด้าที่ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้รีบร้องห้าม แต่ไม่ทัน เสียแล้ว เสียงรถเบรกดังลั่นถนนพร้อมกับเจด้าที่หลับตาปี๋ คิดว่าตัวเองคงต้องตายกลายเป็นผีเฝ้าถนนแน่ ๆ ทว่าผ่านไปสักครึ่งนาทีก็ยังไม่รู้สึกเจ็บ จึงลืมตาขึ้นมองก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ารถคันนั้นได้หักหลบเข้าข้างทางจนชนเข้ากับเสาไฟฟ้าเสียแล้ว
เจด้าเห็นว่าคนขับเหมือนจะยังมีสติอยู่เธอจึงจะวิ่งเข้าไปดู แต่จู่ ๆ มีรถอีกคันวิ่งตามมาด้านหลังอย่างเร็วก่อนชนรถคันที่คาเสาไฟอยู่เต็มแรง “โครม!!”
เจด้าแทบช็อก ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก มลฤดีฉุดเพื่อนให้ไปยืนบนเกาะกลางถนน เสียงรถกู้ภัยที่แล่นผ่านมาพอดีดังแสบแก้วหู เจ้าหน้าที่รีบลงไปช่วยผู้เคราะห์ร้ายที่มีเลือดท่วมตัวออกมาจากรถ
“ตายแล้ว...ผู้ชายคนนั้นตายแล้ว เราสองคนทำให้เขาต้องตาย” เจด้าพูดเสียงสั่น มือเย็นเฉียบ มลฤดีตั้งสติได้เร็วกว่า รีบพาเพื่อนข้ามไปอีกฝั่งทันที
“ถ้ามีใครถามก็บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะเข้าใจไหม พวกเรามาเห็นก็หลังจากที่รถชนกันแล้ว” มลฤดีกำชับขณะที่ทั้งสองคนนั่งอยู่ในร้านอาหารแล้ว
เนื่องจากตอนนั้นผู้คนต่างวุ่นวาย จึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่ารถเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร เหตุการณ์ตรงหน้าพลอยให้เจด้านึกถึงตอนที่ตัวเองอายุห้าขวบ
มือของเจด้ายังคงสั่น อาการที่เคยหายแล้วเริ่มกำเริบอีกครั้ง “ฉันกลับห้องก่อนนะ” เจด้าบอกพลางลุกขึ้นเดินเหม่อออกจากร้านอาหารไปตามถนนเหมือนคนขาดสติ
เสียงเพลงดังแว่วเข้าหูทำให้หญิงสาวหันไปมอง มาจากร้านเหล้านั่นเอง เมื่อเห็นแสงไฟกะพริบหน้าร้านเท้าก็เดินเข้าไปอัตโนมัติ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว พนักงานก็มารับออร์เดอร์ เจด้าบอกชื่อไวน์ที่ตัวเองดื่มเป็นประจำ
พนักงานแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเหลือบเห็นกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้จึงยกไวน์มาเสิร์ฟให้ เจด้ารินไวน์ดื่มหลายแก้วในเวลาอันรวดเร็ว เพราะนี่ไม่ใช่การดื่มเพื่อลิ้มรสชาติ แต่เพื่อให้ลืมเรื่องในอดีตและเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวเพียงลำพังก็ดื่มไวน์หมดไปสองขวด
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำให้เธอเมา มีแค่อาการเหม่อลอยที่ยังคงอยู่ เมื่อคิดว่าได้เวลากลับแล้วเธอก็หยิบกระเป๋าลุกเดินออกไป “เดี๋ยวคุณ!!” เสียงพนักงานเรียกและรีบวิ่งตาม
“คุณยังไม่จ่ายเงิน”
เจด้าพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าถือ แต่กลับพบว่ามีแค่ธนบัตรหนึ่งพันบาทใบเดียว โธ่เอ๊ย ลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอถูกจำกัดการใช้เงิน
พนักงานเห็นท่าทีหญิงสาวก็ถอนหายใจพลางพึมพำ ว่าแล้วเชียว ซวยตั้งแต่หัววัน หลังจากนั้นก็พาเธอไปยังห้องเจ้านายที่อยู่ด้านในของร้าน ประตูปิดลงแล้ว แต่เจด้ายังคงก้มหน้า
เสียงเข้มของชายในห้องสั่งให้นั่งเธอก็นั่ง “พอจะโทร.หาคนที่บ้านให้มาจ่ายได้ไหม”
คนกินแล้วไม่จ่ายเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยครั้ง แต่ส่วนมากจะแกล้งเมาเอะอะโวยวายแล้วชิ่งหนี แต่ผู้หญิงคนนี้นอกจากไม่หนีแล้ว ยังเดินเข้ามาในอาการที่สงบนิ่ง หญิงสาวไม่พูดไม่จา สักพักจึงเงยหน้าแล้ววางกระเป๋าแบรนด์เนมลงบนโต๊ะ “กระเป๋านี่ราคาประมาณหนึ่งแสน ส่วนกระเป๋าสตางค์ประมาณห้าหมื่น พอไหม”
พีรพัฒน์นึกดูถูกในใจ เด็กคนนี้น่าจะยังเรียนไม่จบ แต่กลับมีของแพง ๆ ติดตัว แสดงว่าคงไม่พ้นทำงานอย่างว่าสินะ
คนที่ขึ้นบกได้ไม่นานหลังจากอยู่ที่เกาะมาหลายเดือน ด้วยความรู้สึกอดอยากปากแห้ง เห็นคนตรงหน้าก็รู้สึกสนใจ เขาแอบกระหยิ่มยิ้มย่อง “ชดใช้ได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นแหละ”
ไวน์สองขวดราคาเกือบสองแสน มองอย่างไรก็ขาดทุน ถ้าเขาซื้อกินข้างนอกยังถูกกว่าด้วยซ้ำ หรือว่าควรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนดี
พีรพัฒน์ลุกขึ้น เดินอ้อมโต๊ะไปหาหญิงสาวแล้วเชยคางเธอให้เงยขึ้นเพื่อจะมองหน้าให้ชัดกว่าเดิม อืม ยิ่งดูก็ยิ่งสวย “คืนเดียวแลกกับหนี้ทั้งหมด”
ข้อเสนอนี้หมายถึงอะไรมีหรือเจด้าจะไม่เข้าใจ แต่ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องอาการเหม่อลอยของเธอกำเริบอีก ก็คงต้องสืบหาสาเหตุจนกระทั่งรู้ว่าเธอเป็นต้นเหตุให้คนตายวันนี้ ทีนี้ละเธอได้ถูกตัดหางปล่อยวัดอย่างแน่นอน
“ได้” เพียงคำเดียวของเธอกำลังจะเปลี่ยนชีวิตตนเองในวันข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว
คนที่หื่นกระหายเพราะขาดเรื่องบนเตียงมานานพาหญิงสาวไปยังห้องด้านหลัง จากนั้นสั่งให้เธอถอดเสื้อผ้าออกเพื่อชมเรือนร่างงดงาม จุ๊ ๆ สวยทุกส่วนไม่มีที่ติจริง ๆ พีรพัฒน์นึกในใจก่อนถอดเสื้อผ้าของตนเองออกและก้มลงจูบเธอ โดยไม่คิดที่จะเล้าโลมให้เสียเวลา ชายหนุ่มจัดการยัดท่อนเอ็นยักษ์ของตัวเองเข้าไปในกายของเธอทันที
เจด้ากรีดร้องแล้วขยับหนี คนกระหายมองโคนตรงปลายที่ติดเลือดมา “เฮ้ย!”
“เธอไม่เคย” เจด้าส่ายหน้าแล้วยกผ้าห่มขึ้นปิดร่างกาย มองอีกฝ่ายที่กำลังด่าตัวเอง
“แล้วจะเอายังไงต่อดี” เธอที่หวาดกลัวเขา กลับกลัวพ่อแม่จะรู้มากกว่าจึงบอกไปว่า “ต่อให้จบเถอะ คุณบอกว่าแค่คืนเดียวนี่”
ในเมื่ออีกฝ่ายอนุญาตแล้ว มีหรือผู้ชายอย่างเขาจะปฏิเสธ
“ผมจะเบามือที่สุด” ตอนแรกเขาคิดว่าหญิงสาวจะเชี่ยวชาญ กลับกลายเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ เขาจึงต้องทำอย่างเบามือ ค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปในตัวเธอทีละนิดจนมิด
“อื้อ” เจด้าสะดุ้งพร้อมแอ่นหน้าอกตอบรับอย่างอัตโนมัติ พีรพัฒน์ก้มลงดูดมันอย่างหื่นกระหาย เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หลังจากนั้นจึงได้พบกับความเร่าร้อนที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เสียงเหนื่อยหอบของเจด้าทำให้คนตรงหน้ารู้สึกพอใจ เขามองหญิงสาวที่นอนหลับตาอย่างเหนื่อยล้า จึงก้มลงหอมแก้มเธออีกครั้ง อยากจะรังแกเธอให้มากกว่านี้ ให้สมกับความอัดอั้นที่สะสมมานาน หากเขาไม่กลัวแม่สาวน้อยจะตื่นตระหนกเสียก่อน คิดว่าคืนนี้เธอคงไม่ได้นอน
อีกฝ่ายพ่นภาษาฝรั่งเศสก่อนตบท้ายด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว “ผมชอบคนไทย”ชอบคนไทยแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอมิทราบ “คนไทยมีทั่วปารีส คุณก็ไปฉุดคนอื่นสิ ไม่ใช่ฉัน”“ไม่เอา ผมถูกใจคุณนี่ แต่ถ้าพรุ่งนี้ก็ไม่แน่ หลังจากที่ผมกินคุณจนหนำใจแล้ว”“บ้า!!” ไอ้บ้านี่ต้องสติไม่ดีแน่ ๆ แต่เธอตอนนี้อยู่ในสภาพโดนมัดมือทั้งสองข้าง จะอย่างไรก็หนีไม่พ้นมิหนำซ้ำตอนนี้อาวุธของเขาก็พร้อมรบ ชูตระหง่านเท่าลำแขน ของเธอ ไม่สิ รู้สึกว่าจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ถ้าเธอโดนเจ้านั่น ช่วงล่างเธอต้องพรุนแน่“ไม่เอา ฉันจะแจ้งตำรวจถ้าออกไปได้”“เชิญเลย เพราะตำรวจพวกนั้นล้วนรับเงินผมทั้งนั้น” บ้าไปแล้ว แม้แต่ตำรวจก็พึ่งไม่ได้“แถมดีไม่ดี ถ้าคุณเดินออกไปทั้งสภาพแบบนี้รับรองไม่ได้มีผัว คนเดียวแน่”“ไอ้บ้า!!” เมญ่าพยายามดิ้นให้หลุดจากโซ่ แต่ยิ่งดิ้นมันกลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายแล้วเธอก็เหนื่อยหอบ เสียแรงเปล่าจริง ๆพอหมดแรงจึงมองผู้ชายตรงหน้าให้ดี หน้าตาก็ไม่ได้แย่นี่ ส่วนเธอเพิ่งถูกคู่หมั้นที่รักกันมาถึงห้าปีหักหลังอย่างเลือดเย็นโดยไปนอนกับเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นเธอต้องสนใจอะไรอีก ในเมื่อมีเนื้อสเต๊กชิ้นงามมาเสิร์ฟถึงที่ขอสักคืนก็ไ
ทั้งคู่ถูกผลักให้คุกเข่า มาร์กัสสำรวจรอบ ๆ อย่างระวัง ปืนของพวกนั้นดูเหมือนจะเป็นไรเฟิลรุ่นเก่าจากนั้นไม่นานมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งใกล้กับคนที่เป็นหัวหน้า ชายคนนั้นพูดภาษาพม่ากับเธอ“พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงตกจากเฮลิคอปเตอร์ราคาแพงนั่น เป็นพวกเศรษฐีใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นแปลคำถามจากหัวหน้าออกมาเป็นภาษาไทยให้ฟังมาร์กัสเงยหน้ามองพวกเขา ถ้าบอกว่าเป็นเศรษฐีคงโดนเรียก ค่าไถ่ จึงบอกไปว่า “เราสองคนเป็นผัวเมียกัน กำลังจะขับเฮลิคอปเตอร์ไปส่งให้คนซื้อ ไม่ใช่เจ้าของ”ผู้หญิงที่พูดภาษาไทยได้หันไปแปลให้คนข้างตัวฟัง อีกฝ่ายตะโกนเหมือนไม่เชื่อ คนถือปืนตรงเข้ามาหา เขาเห็นอีกฝ่ายกำลังจะยิงก็รีบลุกขึ้น คว้าปืนมาแล้วแกะแยกเป็นชิ้นส่วนความเร็วของเขาทำให้หัวหน้าโจรตกใจมาก หันไปพูดกับหญิงสาวข้างตัว เธอหันมาถามเขา “คุณประกอบปืนและยิงปืนเป็นไหม”มาร์กัสส่ายหน้า ลูกมาเฟียแบบเขาฝึกยิงปืนตั้งแต่ห้าขวบ ถ้ายิงไม่เป็นก็เสียชื่อแย่ “เป็น”หัวหน้าพูดอีกหนึ่งประโยค ผู้หญิงคนนั้นจึงพูดต่อ “นายอยากให้คุณพิสูจน์ว่าพูดจริงไหม ถ้าโกหกผู้หญิงคนนั้นจะต้องตกเป็นเมียนาย”ขณะที่แปล สีหน้าของเธอดูไม่พอใจนักโดยเฉพาะประโย
เสียงมือถือที่ดังขึ้นเรียกมาร์กัสให้หันไปมองโต๊ะทำงาน ตอนนี้โรงงานแปรรูปยังไม่เข้าที่เข้าทาง อีกทั้งเกิดเรื่องต่าง ๆ มากมายไม่เว้นแต่ละวัน ช่วงที่เขาปวดหัวกับปัญหาจึงไม่ได้รับสายโทร.สองรอบก็ว่ามากแล้ว แต่นี้เล่นโทร.ไม่หยุด เขาจึงตัดปัญหาโดยกดรับสาย “มาร์คัส พี่ทำงานอยู่” เสียงเข้มบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีปลายสายก็รีบบอก “พี่เจนล้ม ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องผ่าตัด เด็กหัวใจเต้นอ่อนลง หมอกำลังเร่งช่วยชีวิตทั้งเด็กและแม่ ตอนนี้ผมติดงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย อาจจะไปสนามบินช้ากว่าสักหนึ่งชั่วโมง”มาร์กัสได้ยินก็ตกใจ “งั้นพี่จะล่วงหน้าไปก่อน” มาร์กัสรีบวางสาย จัดเตรียมกระเป๋าและของจำเป็นขณะที่กำลังจะออกเดินทาง หญิงสาว คนหนึ่งก็โผล่มาปอฝ้ายมองหุ้นส่วนธุรกิจ “พี่มาร์กัสจะไปไหนหรือคะ”“พอดีพี่เจนเกิดเรื่อง ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน พี่ต้องไปภูเก็ตด่วน”พี่เจด้าเกิดเรื่อง ถ้าจำไม่ผิด อีกไม่กี่วันพี่เจด้าก็ถึงกำหนดคลอด ถ้าเกิดเรื่องตอนนี้จะอันตรายทั้งแม่และลูก“ฝ้ายขอตามไปด้วยนะคะ” มาร์กัสมองคนที่ขอตามไปด้วย“ยังไงก็ต้องบินไปกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ให้ปอฝ้ายไปเยี่ยมพี่เจนก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยบินวนกลับมามหา’ลัย”ถ้าไม่เพ
มือหนาที่ว่างงานก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เมื่อมันเลื่อนไล้ไปยังหน้าอก บีบคลึงเคล้นกระตุ้นอารมณ์ของเธอมากขึ้นกว่าเดิม “มีลูกให้ผมอีกคนนะ”“อื้อ” เธอตอบพร้อมรับจูบจากเขา ชายหนุ่มหยอกล้อกับริมฝีปากของเมียอยู่สักครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมาย เจด้าเห็นสายตาของเขาแล้วก็สะดุ้ง“ไม่นะ” ช้าไปแล้วเมื่อมือหนาฉีกเสื้ออิตาลีชุดใหม่ที่เธอเพิ่งสอยมาและใส่ได้แค่ครั้งเดียว หมดกันห้าหมื่นยูโร เธอมองเขาอย่างแค้นเคือง แต่ไม่ทันไรก็หายโกรธเมื่อเขาก้มลงดูดหัวนมเธอดังจ๊วบ เล่นเอาเสียวสะท้านรอบนี้เขาไม่เบามือเหมือนคราวก่อน ทำให้เธอรู้ว่าอันที่จริงแล้วแรงปรารถนาในกายของเขาไม่เคยลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ“ที่ผ่านมาคุณเก็บงำความจริงไว้เท่าไร” เธอเงยหน้ามองสามี“ผมไม่อยากทำให้คุณเจ็บ”“แล้วเจนบอกเมื่อไรว่าเจนทนไม่ได้”ประโยคนี้เหมือนเป็นใบเบิกทางให้เขา ความปรารถนาอันเร่าร้อนที่อยู่ในตัวของนายหัวถูกส่งออกมาทันที โดยที่เจด้าต้องคิดใหม่ว่าไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นพูดจบเขาดูดกลืนหน้าอกเธอแรงกว่าเดิม มือซ้ายที่ว่างก็เลื่อนต่ำลงไปยังด้านล่าง จากนั้นสอดนิ้วเข้าไป“อืม” นิ้วเดียวพอทน แต่พอรู้สึกว่ามีอีกนิ้วเพิ่มเข้าไปเธอก็เบิ
ระหว่างที่พวกเขากำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาหน้าตึก คนที่ลงจากรถคือลูเฟีย เจด้ารีบวิ่งไปตบหน้าเขา“นายทำอะไรลูกฉัน” ลูเฟียลูบแก้มตัวเอง เขาไม่ตอบ แต่เดินไปที่หลังรถ ลากชายคนหนึ่งที่สภาพสะบักสะบอมจากการถูกซ้อมมาทิ้งลงตรงหน้าหญิงสาว“อยากรู้ก็ถามมันสิ” จากนั้นลูเฟียก็อ้อมไปอีกฝั่งของตัวรถ เปิดประตูแล้วอุ้มโนร่าออกมา“โนร่า” เจด้าร้องทันทีที่เห็นหน้าลูกเด็กน้อยหันมามองแม่แล้วยิ้มกว้าง “สนุก ๆ”สนุกอะไรกัน ทุกคนใจหายใจคว่ำกันหมดแล้ว เจด้ากำลังจะเข้าไปอุ้มลูกคืน แต่โนร่ากลับหันไปกอดคอลูเฟียไว้แน่นหา!!! ดูท่าแล้วเธอจะตบผิดคนจริง ๆ“เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเขานะเจน และดูเหมือนเขาจะเป็นคนช่วยลูกสาวเราไว้”เจด้ามองลูเฟีย สายตาเต็มไปด้วยคำขอโทษ แก้มอีกฝ่ายยังไม่หายแดง เธอพูดเสียงอ่อย “ฉันขอโทษ”“ไม่เป็นไร สำหรับยู ไอไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว”เสียงตัดพ้อนั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด ลูเฟียหันไปพูดกับเด็กน้อย “หมดเวลาขับรถเล่นแล้ว กลับไปหาแม่เราไป”โนร่าส่ายหน้า “ซิ่ง ๆ” ดูท่าแล้วแม่หนูน้อยจะแสบไม่ใช่ย่อย ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงร้องไห้ไปแล้วลูเฟียส่งโนร่าคืนให้คนเป็นแม่ เจด้าได้แ
เสียงเปียโนในงานเปิดแกลเลอรีไข่มุกของบริษัทพีรพัฒน์บรรเลงขับกล่อมแขกที่มาร่วมงานเจด้าหันมองไปรอบ ๆ พบว่าแขกส่วนใหญ่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจของพ่อ และบางกลุ่มดูเหมือนจะเป็นคนของฟรองซัวส์ที่เข้ามาสมทบ ความปลอดภัยในงานแน่นหนาดี“มองอะไรอยู่” คนด้านหลังเดินมากอดเอวเธอ แล้วมองผู้คนด้านล่างที่กำลังเลือกซื้อไข่มุก“เหมือนจะเห็นคนที่ไม่ควรมาแฮะ” เจ้าของประโยคถอนริมฝีปากออกจากคอของเธอแล้วมองไปที่ประตูซึ่งพวกบอดี้การ์ดกำลังยืนขวางคนกลุ่มหนึ่ง“วันนี้เจนไม่อยากให้มีเรื่องกัน เจนขอลงไปด้านล่างเองนะคะ”พีรพัฒน์มองลูเฟียที่มากับลูกน้องก็รู้สึกไม่พอใจ “ผมลงไปด้วย”“เจนคนเดียวดีกว่า เชื่อเจนนะคะ” สีหน้าพีรพัฒน์กังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยอมให้เธอลงไปต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ“ฉันจัดการเอง” เสียงเจด้าทำให้บอดี้การ์ดหันไปมอง ลุงคูคัสสั่งให้คนถอยออกมาสองก้าว เปิดทางให้คุณหนูเดินมายืนด้านหน้า“นายมาทำไม”ลูเฟียชูโบรชัวร์ในมือ “จะมีประมูลไข่มุกเมโลไม่ใช่เหรอ ไอก็มาประมูลด้วยน่ะสิ”เจด้ามองกระเป๋าสีดำหลายใบในมือลูกน้องของลูเฟีย“ได้ แต่คงต้องตรวจกระเป๋าพวกนี้ก่อนเข้างาน”ลูเฟียยักไหล่ก่อนผายมือให้คนของเธอทำงาน




![นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


