แม่ปันปันบีบมือสามีเบาๆ ป๋าฟ้ามองสบตาภรรยาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
"เราต้องบอกให้เด็กๆรู้ว่าพี่เป็นอะไรนะคะ" แม่ปันปันบอกสามีด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว สักวันลูกชายทั้งสี่ก็ต้องรู้เรื่องนี้ คงจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้ อีกอย่างหากทั้ง สี่คนทราบ ก็จะได้ช่วยกันดูแลหนูจ๋าด้วย
ป๋าฟ้าหลับตาลง แล้วระบายลมหายใจออกแรงๆ
"ปันปันช่วยบอกลูกที ป๋าขอออกไปยืนรับลมนอกระเบียงหน่อย"
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางระเบียงห้องพัก ป๋าฟ้าเลื่อนประตูกระจกออก แล้วเดินออกไปก่อนหันมาปิดประตูเสียงดัง
หนูจ๋ากำผ้าห่มที่จับไว้ในสองมือแน่น หญิงสาวยังคงนอนหลับตา หัวใจเต้นกระหน่ำระรัว เจ็บปวดเสียใจที่ทำให้บุพการีต้องผิดหวัง
หนูจ๋านอนฟังสิ่งที่แม่บอกน้องๆ เกี่ยวกับตัวเธอ แต่ละคำแต่ละประโยคที่ท่านพูดออกมานั้น ท่านพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดจนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทำให้คนที่รักต้องผิดหวัง ทำให้ครอบครัวต้องมาทุกข์ใจเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ หลัง
"แม่จ๋าเครื่องประดับชุดนี้สวยไหมคะ" หนูจ๋าสวมเครื่องประดับที่คุณย่าเพิ่งส่งมาให้ หญิงสาวเดินออกจากห้องมาอวดผู้เป็นแม่ แม่ปันปันจึงถอนสายตาจากสามีและลูกชาย หันกลับมามองลูกสาว"สวยจ้ะ สวยมาก แล้วของแม่ที่เอามาให้เมื่อวันก่อนล่ะ หนูไม่ใส่แล้วหรือ""ใส่สิคะ เพียงแต่หนูอยากใส่ให้ครบทุกอันที่มี เดี๋ยวคุณย่าจะน้อยใจหาว่าส่งมาให้แล้วหนูไม่ใส่"แม่ปันปันยื่นมือไปลูบศีรษะลูกสาว ท่านหลุบตามองหน้าท้องของลูกอย่างหนักใจ แม้ลูกยังไม่ปริปากบอกว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร แต่ท่านมั่นใจเหลือเกินว่า ป่านนี้สามีน่าจะรู้แล้วว่าพ่อของเด็กในท้องลูกสาวคือใคร และถ้าป๋าฟ้ารู้แล้ว ชีวิตของผู้ชายคนนั้นก็อาจอยู่ไม่เป็นสุขเนื่องจากวันนี้เจ้าสี่กุมารไปโรงเรียนทั้งหมด หน้าที่การนำส่งปิ่นโตให้สามีตอนเที่ยงเลยตกเป็นของแม่ปันปัน ท่านปั่นจักรยานเข้าไปหาสามีที่โดมหลังใหญ่ แต่ป๋าฟ้าไม่อยู่ที่นั่น สอบถามจากคนงานก็ได้ความว่า ป๋าฟ้าขับรถไปที่ท้ายไร่ นั่นยิ่งทำให้แม่ปันปันสงสัยว่า ช่วงเวลานี้สามีจะไปที่นั่นทำไม แต่เพราะท่านปั่นจักรยานมา แล้วตอนนี้เป็นช่วงเวลาเที่ยงที่แดดร้อนมาก ท่านจึง
"ไอ้หนูจับพี่มาทำไมเนี่ย"เด็กหนุ่มทั้งสี่มองหน้ากันแต่มันไม่ตอบคำถามของเขา พวกมันมาเดินวนรอบๆตัวเขาเหมือนตรวจตราดูความเรียบร้อย ตอนนี้นี่เองที่เพชรนิลสังเกตเห็นว่าพวกมันทั้งสี่คนใบหน้าละม้ายคล้ายกันทั้งหมดแฝดสี่! ไอ้สี่คนนี้ต้องเป็นน้องชายของหนูจ๋าแน่ๆ เพราะตามข้อมูล ที่พี่โยส่งมาให้ หนูจ๋ามีน้องชายอยู่สี่คนและมันเป็นแฝด"ดิน น้ำ ลม ไฟใช่ไหม พี่เป็นแฟนพี่หนูจ๋า พี่มาหาพี่หนูจ๋าของพวกนาย แก้มัดให้พี่หน่อยพี่จะไปหาหนูจ๋า""คุณป๋าสั่งห้ามแก้มัด พวกผมแค่มาดูว่าพี่ตายหรือยัง พี่ยังไม่ตาย งั้นพวกผมขอกลับไปบอกคุณป๋าก่อนนะ"หนึ่งในสี่คนบอกเขาแล้วพวกมันก็เฮโลกันไปขึ้นรถ ก่อนจะขับออกไปโดยไม่สนใจเขาที่ร้องเรียกตามหลังสักนิดเพชรนิลมองตามด้วยความหงุดหงิด เขาประเมินป๋าฟ้าต่ำไป ทั้งๆที่พี่โยก็เตือนแล้วว่าป๋าฟ้าเขี้ยวเล็บรอบตัว ท่านเคยเป็นประธานบริหารโรงแรมใหญ่ แต่ยอมมาอยู่ที่นี่เพราะต้องการอยู่กับลูกเมีย แต่ท่านก็ยังถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่ง โรงแรมที่ท่านเคยบริหารก็คือโรงแรมที่เขาเห็นหนูจ๋าครั้งแรกนั่นแหละ เขาเพิ่งจำได้ว่าในวันที่เขาเจอหนูจ๋าครั้งแรกที่โรงแร
ภาพป๋าฟ้าหันกลับมาโอบกอดลูกสาวคนโตไว้แนบอก ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ไม่ว่าจะเกิดข้อผิดพลาดใดๆขึ้นกับใคร ขอแค่คนในครอบครัวเข้าใจและให้กำลังใจกัน คนที่เผชิญกับปัญหาก็จะมีกำลังใจที่จะสู้และเผชิญหน้ากับมัน และพร้อมจะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้าสองวันแล้วที่เพชรนิลไม่สามารถติดต่อหนูจ๋าได้ เขากระวนกระวายใจแทบบ้า คอนโดเธอเขาก็ไม่รู้จัก บ้านเธอเขาก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน คิดมาถึงตรงนี้เพชรนิลก็ยีหัวตัวเองแรงๆ นี่เขาโง่มากเลยใช่ไหมที่ไม่รู้เรื่องราวของคนเป็นแฟนเลย เขามีแค่เบอร์โทรศัพท์ของเธอ กับรู้ว่าเธอเรียนที่ไหนเท่านั้นเอง"บ้าเอ๊ย!" เพชรนิลสบถอย่างหัวเสีย เขานั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะติดต่อหนูจ๋าได้ และในที่สุดเขาก็คิดถึงใครคนหนึ่งที่เขาคิดว่าต้องช่วยเหลือเขาได้แน่นอน"พี่โย!" เพชรนิลยิ้มมีความหวัง เขารีบต่อสายหาน้องเขยที่อายุมากกว่าทันทีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่หนูจ๋าไม่ได้ติดต่อกับเพชรนิล เธออยากบอกให้เขารู้ พอๆกับกลัวว่าพ่อจ๋าจะรู้ว่าเขาคือพ่อเด็
แม่ปันปันบีบมือสามีเบาๆ ป๋าฟ้ามองสบตาภรรยาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด"เราต้องบอกให้เด็กๆรู้ว่าพี่เป็นอะไรนะคะ" แม่ปันปันบอกสามีด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว สักวันลูกชายทั้งสี่ก็ต้องรู้เรื่องนี้ คงจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเก็บไว้เป็นความลับได้ อีกอย่างหากทั้ง สี่คนทราบ ก็จะได้ช่วยกันดูแลหนูจ๋าด้วยป๋าฟ้าหลับตาลง แล้วระบายลมหายใจออกแรงๆ"ปันปันช่วยบอกลูกที ป๋าขอออกไปยืนรับลมนอกระเบียงหน่อย"ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางระเบียงห้องพัก ป๋าฟ้าเลื่อนประตูกระจกออก แล้วเดินออกไปก่อนหันมาปิดประตูเสียงดังหนูจ๋ากำผ้าห่มที่จับไว้ในสองมือแน่น หญิงสาวยังคงนอนหลับตา หัวใจเต้นกระหน่ำระรัว เจ็บปวดเสียใจที่ทำให้บุพการีต้องผิดหวังหนูจ๋านอนฟังสิ่งที่แม่บอกน้องๆ เกี่ยวกับตัวเธอ แต่ละคำแต่ละประโยคที่ท่านพูดออกมานั้น ท่านพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดจนอยากหายตัวไปจากตรงนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ทำให้คนที่รักต้องผิดหวัง ทำให้ครอบครัวต้องมาทุกข์ใจเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ หลัง
ป๋าฟ้าเดินมาเห็นหนูจ๋าออกจากห้องครัวพอดี พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของลูกจึงรีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง"หนูจ๋าเป็นอะไรลูก""แม่จ๋าทำอะไรก็ไม่รู้ค่ะพ่อหนูเหม็นจังเลย"ป๋าฟ้ามองเข้าไปในครัวที่เมียรักกำลังทำอาหารอยู่ ท่านทำจมูกฟุดฟิดสูดกลิ่น"เหม็นอะไรกัน นี่มันกลิ่นกระเทียมเจียวนี่นา หอมจะตาย""แต่หนูเหม็นค่ะ อื้อ…"หนูจ๋าทำท่าพะอืดพะอมแล้ววิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ ป๋าฟ้ารีบตามไปลูบหลังให้ลูกสาวด้วยความเป็นห่วง"ไม่สบายหรือเปล่าลูก เวียนหัวไหม ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา" ป๋าฟ้าทั้งลูบหลังทั้งแตะตามตัวลูกสาว ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย"เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ" หนูจ๋าตอบหลังจากที่บ้วนปากเรียบร้อยแล้ว"งั้นก็ไปนั่งพักที่ริมเฉลียงก่อน ไปนั่งตรงที่ระบายอากาศดีๆ จะได้รู้สึกดีขึ้น"หนูจ๋าพยักหน้ายอมให้ผู้เป็นพ่อประคองพาไปนั่งเก้าอี้ที่เฉลียงหน้าบ้านแม่ปันปันเดินออกมาจากห้องครัว เห็นสามีกำลังใช้พัดโบกให้ลูกสาวอยู่ก็เดินเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง"หนูจ๋าเป็นอะไรลูก ไม่สบายหรือเปล่า""เวียนหัวนิดหน่อยค่ะคุณแม่ นั่งพักสักคร
พ่อเพชรกับแม่กระแตมองตามลูกชายที่เดินอย่างคนซังกะตายด้วยความสงสัย ก่อนจะหันมามองหน้ากันด้วยใบหน้าครุ่นคิด“หนูกำลังจะมีลูกสะใภ้ใช่ไหมคะคุณเพชร”กระต่ายน้อยยืนอยู่ใต้สายน้ำอุ่น เขาปล่อยให้น้ำรินรดกายเปลือยเปล่าอยู่นานแล้ว คิดถึง อยากเจอหน้า อยากกอด อยากหอมแก้ม ใบหน้านวลกระจ่างใสแจ่มชัดอยู่ในใจตลอดเวลา คงมีเพียงงานยุ่งๆในแต่ละวันเท่านั้นที่ทำให้เขาหยุดคิดถึงเธอได้ชั่วขณะ แต่พออยู่ลำพัง พอไม่ได้คิดเรื่องงาน เรื่องที่เขาคิดถึงก็มีอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องของเขากับเธอ“พี่ควรยกขันหมากไปสู่ขอหนูเลยดีไหม คิดถึงหนูจังเลย” กระต่ายน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่สายวันนั้นหลังจากผ่านค่ำคืนแสนหวานด้วยกัน เขาตื่นก่อนหนูจ๋า คนที่เพิ่งลงสนามรักครั้งแรกอ่อนเพลียจัดจนแทบไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียง เขาต้องอุ้มเธอเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้เธอแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นเพื่อให้ผ่อนคลาย ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ป้อนอาหารเช้า และปล่อยให้เธอพักผ่อนอีกเกือบครึ่งค่อนวันโดยไม่กวน ถึงอย่างนั้นน้องก็ใจร้าย ไม่ยอมให้เขาทำอะไรๆอีกเลย น้องบอกเขาว่า“ห้ามพี่กระต่ายทำแบบนั้นกับหนูอีก”