“ไม่เอาค่ะ อยู่ใกล้กันแค่นี้ เขาไม่เรียกว่าไปหาประสบการณ์ชีวิตหรอก” พลอยชมพูส่ายหน้ากับอกมารดา สูดน้ำมูกเบาๆ
“งั้นก็ไปช่วยงานพี่เพลิงที่ไร่ภูอิงฟ้า”
แม่กระแตเสนออีกหนึ่งทางเลือกให้ แม้ไร่ภูอิงฟ้าจะอยู่ไกล แต่ที่นั่นท่านมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า จะไม่มีอันตรายใดๆมาแผ้วพานลูกสาวท่านได้แน่นอน
“ที่นั่นยิ่งแล้วใหญ่ ใครๆก็คงไม่ให้ติ๊บหยิบจับอะไรหรอกค่ะ”
พลอยชมพูว่าอย่างรู้ทัน ไร่ภูอิงฟ้าเรียกว่าเป็นสถานที่รวมญาติของเธอเลยก็ว่าได้ ทั้งอาพราวผู้เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อ ลุงนนท์สามีอาพราวซึ่งเป็นผู้อุปการะแม่กระแตมาตั้งแต่เล็กก่อนจะมาแต่งงานกับพ่อเพชร แล้วไหนจะพี่เพลิงลูกชายอาพราวกับลุงนนท์ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงน้อง กับยายน้ำฝนภรรยาพี่เพลิงที่เป็นน้องสาวบุญธรรมของเธออีก รายสุดท้ายนี่ปกติตอนอยู่บ้านด้วยกันก็ชอบแย่งงานเธอทำทุกอย่าง แทบจะไม่ให้เธอหยิบจับอะไร น้ำฝนทำอย่างกับเธอเป็นน้องสาวคนเล็กสุดของบ้านด้วยซ้ำ แล้วจะให้เธอไปอยู่ทำงานที่นั
เจ้าของรีสอร์ตบ้านไร่รักละมุนเป็นเพื่อนของกวีซึ่งเป็นหลานเขย เขาเป็นชายหนุ่มอายุสี่สิบปี นิสัยใจคอก็ได้รับการการันตีจากหลานเขยและหลานสาวว่าเป็นคนดี ไว้ใจได้ อีกทั้งวาโยซึ่งมีฐานะเป็นพี่เขยของพลอยชมพูก็ได้ให้คนสืบประวัติเบื้องหน้าเบื้องหลังของชายหนุ่มมาแล้ว ไม่พบประวัติเสียใดๆ ดังนั้นทุกคนจึงวางใจที่จะให้พลอยชมพูไปทำงานที่นั่น“ค่ะคุณแม่” พลอยชมพูรับคำหนักแน่น เธอคิดไว้แล้วว่าจะตั้งใจทำงาน เรียนรู้ทุกอย่าง จะไม่ทำให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นลูกคุณหนู เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อหรอก หญิงสาวกอดร่ำลาพ่อเพชรกับแม่กระแตอีกครู่หนึ่ง เมื่อรถแท็กซี่ที่โทรเรียกไว้แล่นเข้ามาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เธอจึงประนมมือไหว้ลาบุพการีแล้วหยิบกระเป๋าเป้ใบโตไปขึ้นรถพ่อเพชรกับแม่กระแตมองตามท้ายรถแท็กซี่ที่แล่นพ้นประตูรั้วบ้านไปด้วยความเป็นห่วง ทั้งสองถอนหายใจออกมาพร้อมกัน“เราไปเยี่ยมลูกทุกสัปดาห์ได้ไหมคะคุณเพชร” แม่กระแตถามเสียงเศร้า พอลูกไปจริงๆแล้วก็รู้สึกใจหาย เพราะไม่เคยต้องห่างกันนานขนาดนี้เลย พ่อเพชรหัวเราะในลำคอ โอบกอดบ่าบอบบางมาแนบชิด“แค่หกเดือนเอง เดี๋ยวลูกก็กลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิ
“คุณพบคะติ๊บสงสัยว่าติ๊บน่าจะนั่งรถสองแถวเลยป้ายค่ะ”คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอก“คุณขับรถหลงทางหรือ” เพราะไม่คิดว่าลูกคุณหนูอย่างเธอจะนั่งรถประจำทางมา เขาคิดว่าเธอคงพูดผิด“ไม่ใช่ค่ะ ติ๊บนั่งรถทัวร์มาลงที่บขส.แล้วต่อรถสองแถว แต่เอ่อ...ระหว่างทางติ๊บเผลอหลับไปแป๊บนึง พอตื่นขึ้นมารถสองแถวก็เลยมาจนสุดสายแล้วค่ะ แล้วทีนี้คนขับรถบอกว่าเที่ยวรถหมดแล้วค่ะ ติ๊บว่าจะเหมารถคันที่นั่งมาให้กลับไปส่งที่รีสอร์ต แต่คุณลุงคนขับรถบอกว่าวันนี้แกมีนัดกับแฟน แกเลยไม่รับงานแล้วค่ะ”พลอยชมพูใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ หญิงสาวรู้ว่าตัวเองผิดที่ดันเผลอหลับจนนั่งรถเลยป้าย ก็คนมันง่วงนี่นา นั่งรถมาตั้งไกล ร่างกายเลยโหยหาการพักผ่อน มันชัตดาวน์ตัวเองโดยไม่ปรึกษาเธอสักคำ“แล้วไง” พบรักพ่นลมหายใจออกมาไม่เบานัก เขาเจตนาให้ปลายสายได้ยินพลอยชมพูหดคอทำหน้าเหยเกคล้ายจะร้องไห้“เอ่อ...คุณพบช่วยส่งคนมารับติ๊บได้ไหมคะ” เสียงบอกไม่มั่นใจเอาเสียเลย มาวันแรกเธอก็ก่อเรื่องให้เขาต้องยุ่งยากแล้ว“ธุระของผมเหรอ”พลอยชมพูแทบจะปล่อยโฮออกมาเมื่
พลอยชมพูนั่งรอจนถึงสองทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรถมารับ หญิงสาวเริ่มกระวนกระวาย มองซ้ายขวาด้วยความระแวง แสงไฟนีออนหลอดเดียวภายในเพิงพักที่ติดๆดับๆยิ่งทำให้เธอขวัญผวา ผู้คนเริ่มบางตาจนแทบไม่เหลือใคร แม่ค้าแม่ขายเข็นรถกลับบ้านไปจนหมดแล้ว ตึกแถวขนาดสี่คูหาที่มีร้านขายของชำเล็กๆเพียงร้านเดียวก็เลื่อนประตูเหล็กปิดหนีเธอไปแล้วด้วย มือเรียวสวยล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ พลอยชมพูตัดสินใจโทรหาพบรักอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดจะเร่งเขา แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ลืมที่รับปากเธอไว้ว่าจะส่งคนมารับเธอที่นี่ หญิงสาวโทรหาเขาถึงสามครั้ง ทว่าคนที่เธอโทรหากลับไม่ยอมรับสาย ใบหน้าน่ารักเริ่มฉายแววกังวลชัดเจนขึ้น ขณะที่หญิงสาวนั่งรอนายจ้างส่งคนมารับอยู่ด้วยความเป็นกังวลอยู่นั้น ก็มีจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงแต่งท่อให้มีเสียงดังเกินที่กฎหมายกำหนดแล่นผ่านเพิงพักผู้โดยสารไปอย่างรวดเร็ว แต่เพียงครู่เดียวมันก็วกกลับมาจอดตรงหน้าเธอ สัญชาตญาณระวังภัยทำให้พลอยชมพูกอดกระเป๋าเป้ใบใหญ่แนบอกแล้วรีบลุกขึ้นยืนท
“จับดีๆ ระวังตก” พบรักคร้านจะเถียงกับคนปากดีแล้ว เพราะตั้งแต่ค่ำมานี่เขาวุ่นวายแต่กับเธอคนเดียวจนไม่เป็นอันต้องทำอะไร“ว้าย!” พลอยชมพูรีบโน้มตัวไปกอดคนขับแทบไม่ทัน เมื่อคนที่เพิ่งบอกเธอว่าให้จับดีๆขับรถออกตัวอย่างรวดเร็วจนเธอแทบหงายหลัง หญิงสาวเกร็งไปทั้งตัว เธอกลัวตก กลัวเขาจะพารถล้ม เรียวขาเสลาหนีบแนบอยู่กับต้นขาแกร่งทั้งสองข้าง เธอรับรู้ถึงการขยับของกล้ามเนื้อต้นขาในตอนที่เขาเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้ง ยิ่งเขาเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็กอดกระชับเขาแน่นยิ่งขึ้นเช่นกัน สองร่างแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงไออุ่นของกันและกัน ทว่าพลอยชมพูไม่คิดใส่ใจ หญิงสาวแนบแก้มกับแผ่นหลังกว้าง หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไรทั้งนั้น ในใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้กลับถึงรีสอร์ตอย่างปลอดภัยใช้เวลาสิบห้านาทีพบรักก็พาคนงานใหม่กลับมาถึงรีสอร์ต ชายหนุ่มถอดหมวกกันน็อกออก แล้วถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนเบี่ยงหน้าไปบอกคนที่ยังคงนั่งกอดเอวเขาไว้แน่น แม้ว่าเขาจะจอดรถและดับเครื่องแล้วก็ตาม“ลงไปได้แล้ว”เสียงห้วนติดดุทำให้พลอยชมพูลืมตาขึ้นทีละข้าง คิ้วเรียวขมวดมุ่น เมื่อเห็นภาพวิวทิวทัศน์ชัดเจน ไม่ได้เป็นภา
“เดี๋ยวลำดวนไปเอายาดมมาให้นะคะ เผื่อจะดีขึ้น คุณรอสักครู่นะคะ”ลำดวนลุกไปแล้ว จึงเหลือเพียงสองหนุ่มสาว พบรักถอนใจแรง มองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสายตาดูแคลนพลอยชมพูนึกโมโหร่างกายตัวเอง น่าขายหน้าชะมัด กะอีแค่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันใหญ่มาแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงกับต้องเมารถ ยิ่งพอเหลือบตาขึ้นสบสายตาคนตัวโตที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าด้วยแล้ว หญิงสาวก็ชักฉุน เขาต้องกำลังเยาะเย้ยเธออยู่ในใจแน่ๆ คนอย่างพลอยชมพูเสียอะไรไม่ว่า แต่จะเสียหน้าไม่ได้นะ“จะไปไหน” เมื่อเห็นคนตัวเล็กขยับทำท่าจะลุกขึ้น พบรักจึงเอ่ยถามเสียงเข้ม ก็เห็นบอกว่าเวียนหัว ยังจะลุกขึ้นอีก ไม่รู้จักเจียมสังขารตัวเองบ้างเลย“จะไปห้องพักค่ะ อยู่ทางไหนคะ” พลอยชมพูฝืนลุกขึ้นยืนทั้งที่เวียนหัว ตาพร่ามัว มองเห็นภาพเบลอทับซ้อนไปหมด แต่ถ้าให้เธอเลือกระหว่างฝืนเดินไปพักผ่อนที่ห้องพัก กับนั่งอยู่ตรงนี้ให้เขามองด้วยสายตาสมเพชเวทนา เธอขอเลือกอย่างแรกดีกว่า“อยู่ชั้นบน เดินไหวหรือ” น้ำเสียงเยาะเย้ยอยู่ในทีทำให้คนเมารถมีแรงฮึดพลอยชมพูไม่ตอบ หญิงสาวมองไปยังบันไดที่อยู่ไม่ไกล เธอเดินช้าๆตรงไปยังจุดหมาย
น้ำเสียงสดใสกังวานทว่าสุภาพอย่างที่ผู้มีอายุน้อยกว่าพึงใช้กับผู้ใหญ่ ทั้งยิ้มหวานและแววตาจริงใจ กอปรกับใบหน้าอ่อนใสน่ารักของหญิงสาว ทำให้ลำดวนนึกเอ็นดูลูกจ้างคนใหม่ของเจ้านายจนหมดใจ“ทานข้าวก่อนเถอะค่ะ เสร็จแล้วพี่จบจะมารับไปทำงานนะคะ”“ค่ะ” พลอยชมพูรับคำกระตือรือร้น เธอจะได้เริ่มทำงานจริงจังแล้ว งานที่ออกจากกรอบเดิมๆที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก แค่คิดก็สนุกแล้ว“เอ่อ...ทำปุ๋ยคอกหมักหรือคะ” พลอยชมพูถามคนที่ขับรถกระบะพาเธอมาถึงโรงเรือนเพาะชำกล้าไม้ของรีสอร์ต ซึ่งอยู่เกือบสุดเขตพื้นที่รีสอร์ตห้าสิบกว่าไร่“ใช่ครับ วันนี้คุณพบบอกว่าให้คุณกะติ๊บเริ่มทำงานในสวนเป็นลำดับแรกครับ” ประจบบอกขณะที่เดินนำลูกจ้างคนใหม่ไปยังบริเวณที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ทำปุ๋ยคอกหมักไว้แล้ว“แล้วทำไมเราต้องหมักด้วยล่ะคะ ปุ๋ยคอกพอได้มาแล้วก็เอาไปใส่แปลงผักหรือต้นไม้เลยไม่ได้หรือคะ” “ปุ๋ยคอกสดๆยังเอาไปใช้ไม่ได้ครับ เพราะมันยังไม่ผ่านกระบวนการย่อยสลาย เวลาเราเอาปุ๋ยคอกสดๆไปใส่ต้นไม้เลย จุลินทรีย์ในดินจะดึงไนโตรเจนจากต้นไม้มาช่วยในการย่อยสลายปุ๋ยคอก แท
สายลมเย็นพัดโชยมาเอื่อยๆ จากที่คิดว่าจะนอนเล่นๆ พอได้เหยียดตัวนิดหน่อย ดวงตาคู่สุกใสก็เริ่มหรี่ปรือลงจนเกือบปิด แต่แล้วก็ต้องเบิกกว้างขึ้นทันทีเพราะเสียงห้าวที่ดังขึ้นเหนือศีรษะ“นี่มาทำงานหรือว่ามาพักผ่อนกันแน่”พลอยชมพูดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ด้วยสายตาไม่พอใจเท่านัก เขาจะพูดดีๆไม่ได้หรือยังไงนะ ทำไมต้องตะคอกเสียงดังด้วย นี่ถ้าเกิดเธอเป็นโรคหัวใจอยู่นะ ป่านนี้คงหัวใจวายตายไปแล้ว“มาทำงานค่ะ งานเสร็จแล้วเลยมานั่งพัก”“ที่เห็นเมื่อกี้เรียกนั่ง?”กรามเล็กขบกันดังกึก อยากเถียงใจจะขาด แต่ก็ได้แต่ท่องเอาไว้ในใจว่าเขาคือเจ้านาย คือคนที่เธอมาขอทำงานด้วย เขาเป็นคนจ่ายค่าแรงตลอดหกเดือนที่เธอจะไม่ได้รับเงินเดือนจากพี่ชาย เพราะพี่กระต่ายอ้างว่าหากไม่อยู่ทำงานที่บริษัทด้วย ก็จะไม่จ่ายเงินเดือนให้ เงินเก็บส่วนอื่นก็ห้ามเบิกมาใช้ และห้ามขอเงินคุณพ่อคุณแม่เด็ดขาด บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และสมุดบัญชีเงินฝากทุกประเภทในนามเธอ ถูกพี่กระต่ายยึดไว้หมดเลย แต่พี่ชายแสนดีของเธอก็ยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง ด้วยการให้เงินสดติดตัวมาหนึ่งหมื
“ค่ะ น้าจบบอกว่าจะแวะมารับค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วนั่งลงบนเสื่อ“ไปกับผมก็ได้ จะพาไปแนะนำให้พนักงานในห้องครัวรู้จักด้วย”“ได้ค่ะ คุณพบรอแป๊บนะคะ ติ๊บขอไปใส่รองเท้าก่อน” ร่างสมส่วนรีบลุกขึ้นเดินเท้าเปล่ากระย่องกระแย่งเพื่อไปสวมรองเท้าที่ถอดอยู่ไกลๆ พบรักมองตามแล้วส่ายหน้า กะเปิ๊บกะป๊าบแบบนี้เดี๋ยวก็ได้หกล้มเหมือนตอนนั้นอีกหรอก“โอ๊ย!” เสียงอุทานของหญิงสาวกับการทรุดตัวลงนั่งทันทีทำให้พบรักที่มองตามหญิงสาวทุกฝีก้าวรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ“เป็นอะไร” ชายหนุ่มนั่งลงใกล้ๆแล้วถามน้ำเสียงติดดุ เพราะเขาคิดว่าเธอเดินไม่ระวัง“เหยียบอะไรก็ไม่รู้ค่ะ” พลอยชมพูนั่งพับเพียบอยู่กับพื้นดินร้อนระอุ หญิงสาวหงายฝ่าเท้าขึ้นมาดู เลือดสีแดงสดเลอะเต็มฝ่าเท้าขาวๆ ทั้งมีเศษดิน เศษใบไม้ และมีเศษขี้วัวติดอยู่ด้วยพบรักกวาดสายตามองบริเวณที่หญิงสาวนั่งอยู่ แล้วเขาก็พบเศษแก้วชิ้นใหญ่อยู่ใกล้ๆ แถมยังมีรอยเลือดติดอยู่เล็กน้อยด้วย“เหยียบเศษแก้ว แผลน่าจะลึกพอสมควร” ชายหนุ่มคาดคะเนเอาจากเลือดที่ไหลออกมาค่อนข้างเยอะ พอเขาเงยขึ้นมองหน้าคนเหยียบเศษแก้วก็เห็นเธอทำหน้าตาบิดเบ้ น้ำตาร
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม