“จะไปรู้เหรอ ก็เห็นทั้งร้ายทั้งใจร้อนแบบนี้ นึกว่าจะไม่มีความยับยั้งชั่งใจ”
“มึงจะพูดมากทำไม ลงไปแดกเหล้าดีกว่า เขาเข้าหอกันแล้ว จะนั่งอยู่ทำซากอะไร” เพลิงตะวันตัดบท ขืนให้มันพูดต่อไปเขาคงถูกมันลากไส้ออกมาจนหมดพุงแน่ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปทางบันไดก่อน แต่ก็ยังได้ยินเสียงกวนตีนแว่วตามหลังมาอีก
“รักน้องจะตายห่า รักมาตั้งแต่น้องยังเด็ก ยังกล้าทำให้น้องเสียใจนะพี่น่ะ”
เพลิงตะวันหันกลับไปขึงตาใส่ไอ้คนปากมาก ไอ้คนได้ทีขี่แพะไล่ มันจะรื้อฟื้นความหลังความเก่าหาพระแสงอะไร แต่เพราะแขกเหรื่ออยู่เต็มบ้าน เขาจึงไม่โต้ตอบ แต่...ฝากไว้ก่อนเถอะมึง
ภายในห้องหอชั่วคราว ผู้หลักผู้ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุผ้าลายวิจิตรที่จัดเตรียมไว้กำลังให้พรให้โอวาทในการครองเรือน คู่บ่าวสาวนั่งพับเพียบประนมมืออยู่บนพื้นห้อง
“พ่อดีใจที่ได้เต็นมาเป็นลูกสะใภ้ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ถ้าพี่เขาทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจฟ้องพ่อได้นะ พ่อจะจัดการให้” คุณวาทิตเข้าข้างลูกสะใภ้เต็มที่
“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” พลอยไพลินรับคำยิ้มๆ หญิงสาวชำเลืองตามองคนที่นั่งข้างๆ เขายิ้มตอบเธอแล้วกระซิบบอกเบาๆ
“คงต้องสระผมด้วย” วาโยบ่นงึมงำขณะแกะมวยผมออกให้น้องอย่างเบามือ“อาบน้ำอย่างเดียวจริงๆเหรอคะ” คนที่เคยร่วมอาบน้ำพร้อมกับเขาถามอย่างไม่ไว้ใจวาโยมองสบตาน้อง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ย่อตัวลงอุ้มน้องขึ้นแนบอก แล้วกระซิบตอบเสียงแหบพร่า“ไม่น่าจะจริงครับ”“ฮือ...หายไปไหนนะเงินหนึ่งล้านของฉัน”หลังจากส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเรียบร้อย แขกเหรื่อก็ร่วมรับประทานอาหารกันและเริ่มทยอยกลับจนเกือบหมดแล้ว บรรดาญาติสนิทที่จะพักค้างคืนที่นี่ก็พาไปรวมตัวกันที่บ้านหลังใหญ่ ปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ในห้องหอภายในบ้านไม้เพียงลำพัง แต่คนที่ทำเช็คมูลค่าหนึ่งล้านบาทหายกลับต้องกลับมาที่บ้านไม้อีกครั้ง เพื่อตามหามัน“เช็คจ๋า ออกมาหาติ๊บเถอะ”พลอยชมพูก้มหน้าเดินหาไปรอบๆบ้าน เธอมั่นใจว่ามันต้องตกอยู่ข้างล่าง เพราะก่อนก้าวลงจากบันได เธอเอามือจับดูก็พบว่ามันยังอยู่ตรงชายพก ตอนนั้นเธอลงมาแล้ววิ่งไล่จับพี่พร้อมน้องพริ้งช่วยพี่หนูพรรณ เช็คอาจจะหล่นตอนนั้นก็ได้หญิงสาวในชุดไทยประยุกต์ที่กำลังถลกผ้าถุงเดินไปมา แล้วเอาแต่ก้มหน้าเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างทำให้คนที
“อ้าว! กลับไปแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงจะอยู่ต่ออีกนาน เลยไปเดินเล่นรอ ถูกพี่เมียไล่ตะเพิดอีกล่ะสิ อือๆ งั้นกูกลับเลยแล้วกัน”พบรักเดินหนีไปทันทีที่วางสาย เขาตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูของตนที่จอดอยู่ไม่ไกล เขามางานนี้เพราะกวีซึ่งเป็นอดีตสามีของพรรณดาราชวนมาเป็นเพื่อนเผื่อกูถูกไอ้เพลิงยิงตาย มึงจะได้ช่วยเก็บศพกูกลับไปให้พ่อแม่กูทำพิธีนั่นเป็นเหตุผลที่มันบอกกับเขา ตอนที่โทรไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อนพลอยชมพูมองตามร่างสูงใหญ่เดินห่างออกไป จะตะโกนเรียกก็ไม่รู้จักชื่อ กระทั่งเขาขึ้นรถคันใหญ่ขับออกไปแล้ว หญิงสาวก็ยังมองตามด้วยความหงุดหงิด เธอรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณเขา“ต้องตามไปชดใช้ในชาติหน้าไหมเนี่ย”วาโยยิ้มบางเมื่อเปิดประตูห้องฟิตเนสส่วนตัวเข้ามา แล้วพบว่าภรรยาของตนกำลังเล่นโยคะอยู่บนเบาะรองที่กลางห้อง เธออยู่ในท่วงท่าคลาน เข่าสองข้างห่างกันเล็กน้อย กดเอวลงจนสะโพกยกสูง สองแขนยืดตึง และเงยหน้าเชิดขึ้น ชายหนุ่มรออยู่เงียบๆ กระทั่งเธอเปลี่ยนท่าและมองเห็นเขาเอง“พี่โย มานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถาม พร้อมกับเปลี่ยนท่วงท่าไปตา
วาโยใช้นิ้วกดกลางรอยแยกหว่างขา เขาสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ หัวใจแกร่งเต้นแรง เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เต็มที่เมื่อพบว่ามันเปียกชุ่ม น้ำสวาทสาวซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาชายหนุ่มกดปลายลิ้นลงบนเนื้อผ้าเปียกชุ่ม ตวัดช้าๆเน้นหนัก นิ้วโป้งข้างขวาบดขยี้ตำแหน่งปุ่มเนื้อระรัว“อ๊ะ พี่โย อ๊า...” พลอยไพลินเด้งสะโพกสูงส่ายร่อนร้อนร่าน หญิงสาวควานมือลงมาขยุ้มเส้นผมสามีไว้แน่น การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าให้อารมณ์เร้าใจแปลกใหม่ เสียดเสียวทรมาน“เต็นจ๋า...เมียพี่หอมเหลือเกิน” วาโยพร่ำเพ้ออยู่กับซอกขาสาว เขากัดขย้ำ ขบเม้ม และลงลิ้นแทงเร็วๆสลับกันไป มือหนาบีบนวดโคนขาหนีบ เร่งเร้าอารมณ์สาวคนถูกสามีกัดกินโดยไม่ปอกเปลือกเสียวกระสันจนมิอาจกลั้นเสียงครวญครางไว้ได้ แรงซุกไซ้จากคนหลงเนื้อนวลเมียส่งผลให้ร่างสาวเขยื้อนกระเพื่อมไหว ยิ่งเขาเพิ่มความรุนแรงในการจ้วงลิ้นแทงมากเท่าไร พลอยไพลินก็เสียดเสียวมากขึ้น เธอกำลังจะระเบิดพร่างทั้งที่เขาไม่ได้แตะต้องโดยตรง“พี่โย พี่โย อ๊ะ! อ๊าย...” พลอยไพลินดีดเด้งสะโพกขึ้นสูง ความเสียดเสียวทิ่มแทงบาดลึกในความรู้สึก จนหญิงสาวหลงลืมตัวตน ยกขาเรียวขึ้นตวัดรัด
ปักลึกในซอกสาว วงแขนแกร่งกอดเกี่ยวร่างบางไว้แน่น ปลดปล่อยหยาดรักถ่ายเทเข้าสู่ร่างสาวจนหมดสิ้น “เต็นจ๋า เมื่อไรเจ้าตัวน้อยจะมาสักที” วาโยรำพึงเบาๆคลอเคลียแก้มเนียน เขาแช่ลำรักร้อนผ่าวในร่องสาว ให้เธอตอดรัดเขาอย่างแสนสุข ร่างเปลือยเปล่าแข็งแกร่ง และร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนนอนกอดก่ายกันอยู่บนเบาะแคบ พลอยไพลินนอนหนุนอกสามี หญิงสาวก่ายเกยอยู่บนร่างเขา แนบแก้มกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจแกร่งเต้นเป็นจังหวะหนักแน่น มือบางลูบไล้ผิวเนื้อเรียบตึงอย่างเพลินมือ ใบหน้าสาวอมยิ้ม ทอดถอนใจอย่างมีความสุข วาโยนอนหนุนแขนตัวเองข้างหนึ่ง วงแขนอีกข้างกอดน้องไว้แนบอก และป่ายมือลงไปวางบนสะโพกหนั่นแน่น เคล้นคลึงเบาๆ “พี่โยขา” “ครับ” “เต็นมีอะไรจะบอกค่ะ” พลอยไพลินขยับตัวขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนตัวสามี ดวงตาคู่งามเป็นกระกายวิบวับ หญิงสาวยิ้มน้อยๆให้เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองหน้าน้องอย่างจับผิด ท่าทางแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาอยู่แน่ๆ “เต็
“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าเข้ามานะ!” เสียงตวาดเบาๆ แต่หน้าตาบูดบึ้งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ทั้งสายตาเคืองขุ่นที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และนิ้วเรียวที่ชี้ตรงมาที่เขา ทำให้กวียิ้มมุมปาก“จะเข้า ใครจะทำไม จะเข้าให้ลึกสุดตัวเลยด้วย”คำพูดสองแง่สองง่าม น้ำเสียงยียวน และท่าทางกวนประสาท อีกทั้งสายตาวิบวับไม่น่าไว้ใจของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงทำให้พรรณดาราอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ“คนบ้า! คนลามก!” หากแต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงบริภาษออกมาเบาๆ และสาดสายตาดุใส่เขาเท่านั้น เพราะเธอกลัวลูกน้อยทั้งสองที่นอนหลับอยู่บนเตียงจะตื่น“ลามกน่ะใช่ แต่ไม่ได้บ้า” กวีกดเสียงต่ำขู่แม่ของลูกๆ ขายาวก้าวมั่นคงอ้อมไปทางปลายเตียง ขณะที่สายตาหมายมาดจับจ้องร่างอวบอิ่มน่าฟัดของคุณแม่ลูกสองไม่วางตา“คุณวี! ถ้าคุณเข้ามาใกล้ฉันอีกนิดเดียว ฉันจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย” พรรณดาราขู่คนที่เดินไม่กี่ก้าวก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ระยะห่างเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนแบบนี้ ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างระวังตัว ทั้งหันซ้ายหันขวา หาทางหนีทีไล่&nb
“คุณวี ฉันเป็นห่วงลูก” พรรณดารามองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเป็นห่วงลูกจริงๆ กลัวว่าถ้าลูกตื่นมาแล้วไม่เห็นเธอ เจ้าตัวเล็กทั้งสองจะร้องไห้งอแง“อย่าห่วงไปเลย มีคนอาสาดูแลลูกของเราให้แล้วทั้งคืน”“ฉัน...”“ชู่ว์! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดครับที่รัก เรามีอะไรต้องทำกันเยอะแยะ”พรรณดาราถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวปรายตามองไปทางประตูแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาเงยหน้าจ้องมองคนที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้า“คุณวี...” พรรณดาราเรียกเขาด้วยน้ำเสียงทอดอ่อน หญิงสาวเอนกายลงนอนลงบนเตียงเมื่อเขาโน้มตัวลงมาวางสองมือคร่อมร่างเธอ“ว่าง่ายๆ แบบนี้ ค่อยน่ารักหน่อย” กวียิ้มพอใจกับท่าทีอ่อนลงของอดีตภรรยา หัวใจแกร่งเต้นระทึก เขาแทบรอไม่ไหวที่จะส่งตัวตนแข็งกร้าวเข้าไปซุกซบในแอ่งเนื้อนุ่มอุ่นอ้าวคุ้นเคยพรรณดารากำมือทั้งสองข้างแน่น เธอไม่มีวันยอมเขาง่ายๆ หรอก เขาทำให้เธอเจ็บช้ำจนต้องซมซานกลับไปรักษาหัวใจที่บ้านนานเกือบสองปี แล้วอยู่ดีๆ จะมาทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมาทวงสิทธิ์ความเป็นสามี เรียกร้องเอาแต่ใจอย่างนี้ไม่ได้ ถึงแม้เธอกับเขาจะยังไม่ได้หย่าขาดจากกันก็ตามเถอะ นั
“หนูพรรณครับ ตื่นได้แล้วครับ” กวีปลุกคนขี้เซาอีกครั้ง มือหนาบีบขยำแก้มก้นเด้งดึ๋งงอนงามอย่างมันเขี้ยว“ฮื้อ! อย่ากวนได้ไหมคะ” พรรณดาราปัดมือแสนซนออก ร่างอวบอัดขยับตัวขยุกขยิก ขาเรียวยกขึ้นพาดเอวสอบ ยืดแขนกอดรัดร่างใหญ่ที่นอนเบียดอยู่ แล้วถอนหายใจแรงคล้ายหงุดหงิด ก่อนลมหายใจจะค่อยๆผ่อนลง เป็นจังหวะสม่ำเสมอ บอกให้คนที่ถูกกอดรัดรู้ว่า หญิงสาวได้กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งแล้วกวีกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก ความอวบอิ่ม นุ่มเนียน ทั้งกลิ่นหอมกรุ่นของเมียรักปลุกปั่นอารมณ์เร่าร้อนที่มอดดับไปแล้วเมื่อคืนนี้ให้โหมกระพือขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว“ที่รัก…” กวีกระซิบเรียกเสียงแตกพร่า ชายหนุ่มเลื่อนฝ่ามือลงต่ำ ผ่านหน้าท้องแบนราบ เขาใช้นิ้วกลางเรียวยาวซุกไซ้ในแอ่งอุ่นกลางร่างสาว สำรวจช่องทางรัดรึงด้วยการหมุนควานนิ้วเนิบช้า ร่องรอยความชุ่มฉ่ำจากบทรักหลายตลบเมื่อคืนทำให้หัวใจเต้นระรัว“ทั้งแน่นทั้งนุ่มเลยที่รัก อา…หนูพรรณจ๋า”“อืม…” เสียงหวานครางรับผะแผ่ว สะโพกเต่งตึงขยับน้อยๆ พรรณดาราเคลิบเคลิ้มไปกับความฝันแสนหวาน วาบหวิวซาบซ่าน เป็นความฝันที่คล้ายความจริ
สองพี่น้องปีนขึ้นไปนั่งขนาบคุณแม่บนเตียงกว้าง น้องพริ้งเขย่าแขนคุณแม่เบาๆ“คุณแม่ขา ลงไปทานข้าวกันเถอะค่ะ” น้องพริ้งรีบเอ่ยปากชวน เมื่อมารดาลืมตาตื่นขึ้นมายิ้มให้“คุณแม่ไม่สบายหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าตาไม่สดชื่นเลย” พี่พร้อมอังหลังมือกับหน้าผากมารดาด้วยความห่วงใย ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับคุณหมอกำลังวินิจฉัยโรคคนไข้เมื่อพี่ชายตั้งข้อสังเกตน้องน้อยก็เอียงคอกะพริบตามองคุณแม่อย่างสำรวจตรวจตรา น้องพริ้งยื่นมือน้อยไปแตะแก้มนุ่มคุณแม่เบาๆ“น้องพริ้งรู้สึกว่าคุณแม่ตัวร้อนนิดนึงนะคะพี่พร้อมขา หรือพี่พร้อมว่าไงคะ” เด็กหญิงมองหน้าพี่ชายอย่างขอคำปรึกษา พี่พร้อมพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องสาว“คุณแม่ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ คุณแม่สบายดี” พรรณดารายิ้มให้ลูกทั้งสอง หญิงสาวลุกขึ้นนั่งแล้วกางแขนออก เจ้าตัวเล็กทั้งสองรีบคลานเข้าไปซุกอกอุ่นให้คุณแม่กอดอย่างรู้ใจ“แล้วทำไมคุณแม่ถึงตัวร้อนล่ะคะ” ยายหนูพริ้งยังไม่คลายข้อสงสัย พรรณดาราตวัดสายตาดุไปยังต้นเหตุที่ทำให้เธอตัวร้อน คนหื่นจัดการเธอจนหนำใจแล้วก็แถมบริการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่หลังจากนั้น แทนที่เขาจะพอ คนมักมากกลับย
พลอยชมพูกะพริบตาปริบๆ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง พอหญิงสาวเปิดม่านออกก็มองเห็นเขายืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างล่าง เธอปิดม่านแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อกลางวันแค่เธอคุยกับเขานิดเดียว แถมยังมีผู้คนอยู่ด้วยตั้งมากมาย พบรักยังจับเธอไปลงโทษด้วยบทรักเร่าร้อนท้าแสงแดด นี่ถ้ามาเห็นเธอคุยกับเขาที่หน้าบ้าน เธอจะโดนอะไรอีกไหมเนี่ยแต่สุดท้ายแล้วพลอยชมพูก็ต้องลงไปคุยกับเพื่อนชายที่ซุ้มไม้หน้าบ้าน เธออุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้ฟัง ไม่ซักไม่ถาม วิศรุตถามคำเธอก็ตอบคำ หวังว่าเขาจะเบื่อแล้วกลับห้องพักไปก่อนที่เจ้าของบ้านจะกลับมา แต่อีตานี่ก็หน้าด้านหน้าทนกว่าที่คิด ขุดเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้มาคุยกับเธอได้เป็นคุ้งเป็นแคว แหม...รู้สึกคิดถูกมากๆที่ไม่สนใจเขาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาจีบใหม่ๆ เพราะไม่งั้นเธออาจจะเบื่อตายไปเลยก็ได้ เธอไม่ชอบผู้ชายพูดมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็พูดมากอยู่แล้ว เธอชอบคนที่พร้อมจะฟังมากกว่า เหมือนคุณพบนั่นไง พอคิดถึงคนที่ฟังเธอเสียเป็นส่วนมาก เขาก็โผล่มาพอดีพบรักจอดรถกอล์ฟที่หน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาเธอกับวิศรุตที่ซุ้มไม้“ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัวของผม ไม่
“เดือนนี้ไม่หักแล้ว จะให้เพิ่มด้วย” พบรักบอกยิ้มๆ“ให้เพิ่มทำไม ติ๊บไม่ได้ทำงานอะไรเพิ่มสักหน่อย” คนไม่อยากเอาเปรียบนายจ้างปฏิเสธไม่รับเงินค่าจ้างเพิ่มโดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเพิ่มพบรักถอนหายใจบางเบา เขาลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งเก้าอี้ข้างหญิงสาว ดูเหมือนเธอจะหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเหตุการณ์เร่าร้อนที่เขาและเธอเพิ่งทำกันไปเมื่อครู่ใหญ่“กระติ๊บ” พบรักจับมือบางทั้งสองข้างมากุมไว้ เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุ ไม่พอใจที่เธอไม่เรียกร้องอะไรจากเขาเลย ทั้งๆที่เขาอยากให้เธอเรียกร้องเอาทุกอย่างจากเขา เอาไปให้หมดเลยก็ได้ ทั้งตัว หัวใจ เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่างๆ เขาพร้อมจะยกให้เธอทั้งหมด“อะ...อะไรคะ” พลอยชมพูเอนตัวหลบคนที่อยู่ดีๆก็เดินมาจับมือถือแขนเธอ ที่จริงเธอก็ไม่ควรตกใจอะไรหรอก เพราะมากกว่ามือเขาก็จับมาแล้ว แต่บอกตรงๆว่าเธอยังไม่ชิน ถึงจะไม่ได้รังเกียจเขา แต่ก็ใช่ว่าเธอจะชอบที่เขาเข้ามาใกล้ชิดแบบนี้ เพราะมันทำให้หัวใจเธอสั่น“คุณไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากผมหน่อยหรือ”พลอยชมพูมองหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนระบายยิ้มหวานสดใสให้เขา“แล้วคุณพบอยากใ
พลอยชมพูหลับตา แหงนเงยหน้าเชิดสูง พร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความซ่านเสียวสะใจ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่รู้สึกไปกับเขามากมายขนาดนี้ และเมื่อเขาเริ่มโยกกายถอดถอนสลับเติมเต็มในจังหวะเชื่องช้า หญิงสาวก็ครางเบาๆอย่างกับลูกแมวน้อย มันเสียวสะท้านก็จริง ทว่าเธอคิดว่ามันอ่อนโยนเกินไป หญิงสาวจึงโยกสะโพกกลับไปด้านหลัง ในจังหวะที่เขาสอดเสยเข้าหาเธอพอดี เสียงเนื้อสะโพกหนั่นแน่นปะทะกับหน้าขาจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างคนต่างใส่แรงเข้าหากันไม่มีใครยอมใคร แต่คนแรงน้อยกว่าสูญเสียอธิปไตยในน่านน้ำตัวเองไปหลายครั้ง กว่าเธอจะรีดรัดคนแข็งแกร่งห้าวหาญจนเขายอมพ่ายแพ้ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง “ไปเดินอีท่าไหนให้หกล้มหัวเข่าถลอกแบบนี้คะ” ลำดวนถามคนที่ตนกำลังทำแผลให้ หญิงสาวนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านพักของเจ้าของรีสอร์ตพลอยชมพูตวัดสายตาดุขึ้นมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องหัวเข่าถลอก เขายืนกอดอกตีหน้านิ่งอยู่ใกล้ๆ แต่เมื่อสบสายตากับเธอ เขาก็ยิ้มบางบนใบหน้า แถมยังยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เธอด้วย คนเจ็บตัวเพราะความหื่นปรอทแตกของเขาจึงสะบัดค้อนให้จนคอแทบเคล็ด
ใบหน้าที่หลับตาพริ้ม อ้าปากเผยอครางเสียงหวานดังผะแผ่ว ทำให้พบรักเร่งมือเพื่อส่งเธอไปสุดปลายทางล่วงหน้าก่อน เขาสอดนิ้วกลางเข้าสู่ร่องสาวคับแน่น ชักเข้าออกกระทุ้งแรง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้ออ่อนที่บีบรัดรอบจากปลายสุดโคนนิ้ว ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว เขาแข็งขึงทรมาน อยากจะพาสัดส่วนที่ขยายใหญ่โตสอดลึกในตัวเธอแล้ว ทว่าก็ได้แต่ยับยั้งใจไว้ก่อน ความสดใหม่ของเธอทำให้เขาต้องรีดเค้นน้ำหวานออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บตัวมากเหมือนครั้งแรก“คุณพบ!” พลอยชมพูหลับตาแน่น เงยหน้าขึ้นครวญครางเรียกชื่อคนที่กำลังปรนเปรอเธอด้วยนิ้วมืออย่างดุดัน เมื่อไม่อาจต้านทานบทเพลงกามาที่บรรเลงโดยนิ้วเรียวยาวที่พร่างพรมลงใจกลางความเป็นหญิง สะโพกสวยก็ขยับเร็วเพื่อจะไปให้ถึงบทสุดท้ายของเพลงรัก เผลอให้ความร่วมมือไปโดยไม่รู้ตัว“กระติ๊บ...” พบรักจับจ้องมองใบหน้าน่ารักไม่วางตา เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ จูบปลายคางเล็ก แล้วอ้าปากงับเบาๆ เร่งขยับซอยนิ้วมือกระทั่งส่งเธอข้ามพ้นขอบเขตความอดกลั้น หญิงสาวระเบิดตัวเองหยาดน้ำใสฉีดล้นซอกขาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าตักเขาพลอยชมพูหอบหายใจแฮกๆ หญิงสาวเอนกายซวนซบอกกว
“อุ๊ย!” พลอยชมพูมัวแต่โมโหคนที่ไม่ยอมปล่อยเธอสักที หญิงสาวเลยมองเมินไปยังพื้นที่สีเขียวโล่งกว้างตรงหน้า โดยไม่ทันระวังตัว พบรักก็รวบเอวคอดดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา แล้วกักกอดไว้แน่น แผ่นหลังนุ่มแนบไปกับอกกว้างกำยำ“คุณพบ! จะทำอะไรคะ ปล่อยนะ” พลอยชมพูหันหน้าไปต่อว่าเขา ใบหน้าสาวบูดบึ้งไม่พอใจอย่างที่สุด“นั่งพักสักหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับ”“จะนั่งก็นั่งดีๆสิคะ ทำไมต้องมากอดคนอื่นแบบนี้”“คนอื่นที่ไหน เมียทั้งคน”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเมียด้วยสายตาแตกตื่น พบรักมองสีหน้าตกใจของเธอแล้วยิ้มขำ พอเห็นคนที่เอาแต่ตกตะลึงตาค้างกับตำแหน่งใหม่ที่เขามอบให้ แถมริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อยๆนั่นก็ยั่วใจเขาเหลือเกิน ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหว เขาโน้มใบหน้าลงไปใกล้อีกนิด หวังจะชิมความหวานจากปากนุ่ม แต่ดูเหมือนคนกำลังจะถูกเขารังแกจะรู้ตัวเสียก่อน มือบางสองข้างจึงถูกยกขึ้นมาปิดกั้นปากเขาไว้แล้วดันออกสุดแรงจนหน้าแทบหัน“จะทำอะไรคะ” พลอยชมพูถามเสียงขุ่น หญิงสาวดึงมือกลับมาเช็ดๆถูๆกับกางเกง มองค้อนคนจ้องจะเอาเปรียบเธอปากเขานุ่มชะมัด บ้าจริ
“ไอ้หมอนั่นใคร”เสียงเข้มไม่พอใจที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้พลอยชมพูสะดุ้ง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหมุนตัวกลับไปยืนประจันหน้ากับเจ้าของรีสอร์ตนิสัยเสียที่กล้าเรียกลูกค้าว่าไอ้หมอนั่น“ลูกค้าค่ะ”“รู้แล้วว่ามันเป็นลูกค้า มันรู้จักกระติ๊บด้วยเหรอ”“เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนปอโทค่ะ”“เมื่อกี้มันขอเบอร์ด้วย”“ค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วหันไปคว้าถาดมาถือ เดินหนีคนช่างซัก“จะไปไหน” พบรักเดินตามติดต้อยๆ“เอาถาดไปเก็บค่ะ”“ผมช่วย” พบรักแย่งถาดจากมือบาง แต่ลูกจ้างสาวไม่ยอม พลอยชมพูดึงเอาไว้แน่น“ไม่ต้องค่ะ”“ต้อง” พบรักใช้แรงที่มีมากกว่าดึงถาดมาจากมือเธอจนได้ พลอยชมพูมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ คนบ้าอะไรเนี่ย คนจะทำงาน เขาจะมาวุ่นวายวอแวอะไรกับเธอนักหนา“งั้นก็ฝากไปเก็บด้วยนะคะ ติ๊บจะไปช่วยพี่น้ำตาลค่ะ” พลอยชมพูสะบัดหน้าเดินหนีเอาดื้อๆ พบรักมองตามเธอ แล้วก้มมองถาดในมือ เรื่องอะไรจะเอาไปเก็บ เธอไม่ไป เขาก็ไม่ไป ชายหนุ่มพยักหน้าเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มารับถาดไปเก็บ แล้วเดินตามไปยังเคาน์เตอร์ที่พลอยชมพูยืนอยู่กับกลุ่
“ผมก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเหมือนกัน” คนไม่อยากให้สาวทำงานลำบากรีบเอ่ยอ้างพลอยชมพูเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก นี่เธอกำลังคุยกับผู้ใหญ่อายุสี่สิบหรือเด็กอายุสิบขวบกันแน่นะ“ติ๊บจะไปช่วยงานคนอื่นแล้ว ห้ามตามมานะคะ ไม่อย่างงั้นติ๊บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย” พลอยชมพูหันหลังเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ คนที่ถูกเธอขู่ไม่กล้าลุกเดินตามไป พบรักทำได้เพียงถอนหายใจมองตามตาละห้อย เขากลัวเธอหนีกลับบ้าน กลัวเธอไม่อยู่ให้เขารับผิดชอบเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้าของรีสอร์ตได้แล้ว พลอยชมพูถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก บางทีเธอก็ไม่เข้าใจว่า การที่เธอเอาเรื่องนี้มาขู่เขานี่ถูกต้องแล้วใช่ไหม คือเธออดสงสัยไม่ได้ว่าตรรกะการได้เสียระหว่างเธอกับเขามันดูเพี้ยนๆ เขาต้องการรับผิดชอบ ในขณะที่เธอยังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น และยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเสียใจ แต่ที่มากกว่าความเสียใจคือ เธอกลัวครอบครัวรู้ กลัวพวกท่านจะผิดหวังในตัวเธอ แต่จะให้ร้องไห้คร่ำครวญจมอยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลาก็ดูจะไม่ใช่ ไม่น่าทำ เธอโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีภูมิคุ้มกันภาวะจิตใจและอาร
“ยังไม่หิวค่ะ” พลอยชมพูบอกเสียงเบา หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวเช่นไร จึงได้แต่ยืนขัดเขินทั้งกังวลอยู่กลางห้อง รอให้เขาเริ่มพูดเรื่องนั้นขึ้นก่อน“กระติ๊บ”“คะ” คนถูกเรียกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียงของเขา“มานั่งตรงนี้ เราต้องคุยกัน” พบรักตบมือลงข้างๆที่ตัวเองนั่งอยู่“คุณพบพูดมาเลยค่ะ ยืนอยู่ตรงนี้ ติ๊บก็ได้ยิน”“ถ้าไม่มานั่งดีๆ ผมจะเดินไปอุ้ม”คำขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำให้ใบหน้างามงอง้ำ พลอยชมพูพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก่อนจะยอมเดินไปนั่งข้างเขา ซึ่งหญิงสาวทิ้งระยะห่างพองาม พบรักเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เธอมานั่งชิดตัวติดกัน“กระติ๊บอยากให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง” พบรักเอ่ยถามตรงๆไม่อ้อมค้อม คนที่ต้องตอบคำถามอึ้งไปไม่เป็น รับผิดชอบอย่างไรงั้นหรือ แต่งงานคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นจากการเสียตัวเพราะความเมา มันก็คงจบไม่สวยเท่าไรหรอกมั้ง เธอกับเขายังรู้จักกันไม่ดีพอ ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน“อย่าเพิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เราค่อยๆเรียนรู้กันไปก่อนได้ไหม”พลอยชมพูเ
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ