“ทำไมต้องเป็นเต็นด้วยล่ะพี่ต่าย ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้!”
เสียงเข้มดุของพี่ชายที่เกิดก่อนเกือบสี่ปีทำให้พลอยไพลินหน้าหงิกงอลงทันที หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดยืนข้างพี่ชาย ผู้ซึ่งเอาแต่ก้มหน้าสนใจงานในมือ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะพอใจหรือไม่พอใจกับงานที่เขามอบหมายให้
พลอยไพลินนั่งคุกเข่าลงบนพื้น สองมือเกาะพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้แน่น หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตาปริบๆมองพี่ชาย ดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ และปั้นหน้าเศร้าให้ดูน่าสงสาร
“พี่กระต่ายขา...” เสียงอ้อนหวานเจี๊ยบจนน่าขนลุกทำให้เพชรนิลมองน้องสาวอย่างไม่ไว้วางใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลุบตามองคนลงทุนคุกเข่าอ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ
“อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก พี่ไม่ใจอ่อนหรอก” เพชรนิลบอกเสียงเข้ม แล้วขยับนั่งตัวตรงตามเดิม สายตาคมจ้องมองงานบนหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า ไม่ชำเลืองแม้หางตาดูน้องสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน
“พี่กระต่ายขา...” พลอยไพลินยังคงเกาะพนักเก้าอี้ไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวเงยหน้ามองพี่ชายด้วยสายตาเว้าวอน เธอไม่อยากทำงานนี้ เพราะสัปดาห์หน้าเธอมีนัดสังสรรค์กับเพื่อน ถ้าเกิดไปทำงาน เธอก็อดไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆสิ
เพชรนิลถอนหายใจอีกครั้ง เขาก้มมองหน้าคนช่างอ้อน ชายหนุ่มยิ้มหวาน ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา พลอยไพลินฉีกยิ้มกว้าง รอคอยคำตอบจากปากพี่ชายอย่างมีความหวัง
“ดูปากพี่ดีๆนะครับน้องสาว เต็นต้องเป็นคนไปรับซื้อพลอยจากเหมืองพลอยที่เมืองกาญจน์ จบ! แยก! ไปทำงาน!”
“ฮือ! พี่ต่ายใจร้าย!” คำตอบที่ได้นั้นตัดรอน ไร้เยื่อใยเหลือเกิน คนที่เคยอ้อนพี่ชายจนทำให้เขายอมเธอมาได้ตลอดถึงกับปล่อยโฮ พลอยไพลินลุกขึ้นยืน สะบัดหน้าให้คนใจร้าย แล้วเดินกะบึงกะบอนออกไปจากห้องทำงานของประธานบริษัทอัญมณีและเครื่องประดับชื่อดังทันที
เพชรนิลมองประตูห้องที่ปิดลง แล้วถอนหายใจเป็นครั้งที่สามของวัน ชายหนุ่มโคลงศีรษะ ยิ้มมุมปากน้อยๆ นึกว่าเขาไม่รู้เหรอว่าสัปดาห์หน้ายัยกระเต็นตัวแสบมีนัดสังสรรค์กับเพื่อนฝูง เขาอยากดัดนิสัยคนเกงานเสียให้เข็ด
น้องสาววัยยี่สิบสี่ปีของเขาเรียนจบปริญญาโท และมาทำงานที่บริษัทจวนจะครบปีแล้ว แต่ยัยตัวแสบก็ยังติดเพื่อน ติดงานสังสรรค์ไม่ยอมตั้งใจเรียนรู้งานสักที และทั้งที่ยัยตัวแสบไม่สนใจเรียนรู้งานเอง แต่คนที่ต้องรับกรรมถูกตำหนิกลับเป็นเขา เพราะบิดามารดาโทษว่าเขาตามใจน้องจนเหลิง ท่านโทษว่าที่น้องเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อก็เพราะเขา ดังนั้นต่อไปนี้เขาจะไม่ตามใจยัยตัวแสบอีกต่อไปแล้ว
“ใจร้าย เป็นพี่ชายที่ใจร้ายที่สุด” พลอยไพลินสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ปากก็ยังบ่นให้พี่ชายไม่เลิก วันนี้เธอไม่มีอารมณ์ทำงานแล้ว อีกสองชั่วโมงก็จะหมดเวลางาน เธอขอชิ่งหนีก่อนแล้วกัน ไหนๆสัปดาห์หน้าก็ต้องไปต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์ เกงานแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
หลังจากตัดสินใจเกงาน ใช้เวลาไม่นานหญิงสาวก็ลงมาถึงชั้นล่างของตึก ร่างอรชรก็ก้าวฉับๆตรงไปยังหน้าตึก เธอโทรนัดให้คนมารับแล้ว เพราะขี้เกียจขับรถท่ามกลางการจราจรติดขัดของเมืองหลวง
พลอยไพลินยิ้มหวานเมื่อเห็นรถสปอร์ตคันหรูแล่นฉิวเข้ามาจอดเทียบหน้าตึก เป็นจังหวะพอดีกับที่เธอก้าวออกมาจากประตูกระจกเลื่อนบานใหญ่ด้านหน้าของตึก หญิงสาวก้าวเร็วตรงไปยังรถคันงาม เปิดประตูรถออกแล้วขึ้นนั่งด้วยท่วงท่ามั่นใจ
“ไปไหนกันดีครับ” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา เอ่ยถามเสียงทุ้มอย่างใจดี เขายิ้มละมุนให้กับคนที่เพิ่งขึ้นมานั่งเคียงคู่บนรถคันหรูของตน
“ไปหาอะไรอร่อยๆกินก่อน แล้วค่อยไปนั่งฟังเพลงเบาๆค่ะ” พลอยไพลินตอบ แล้วยิ้มให้สารถีรูปหล่อพ่อเป็นเจ้าของโชว์รูมรถหรูนำเข้ารายใหญ่ ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับด้วยความเต็มใจ
“ได้ตามบัญชาเลยครับ”
รถยนต์คันหรูโคตรแพงแล่นออกสู่ถนนใหญ่แล้ว พนักงานกวาดถนนอยู่หน้าตึกมองตามท้ายรถคันหรูแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงรีบกดส่งรูปภาพผ่านโปรแกรมแชท เป็นรูปหญิงสาวสวยลูกเจ้าของบริษัท ตั้งแต่เธอเดินออกมาจากตึก ขึ้นนั่งบนรถ และรูปภาพรถพร้อมเลขทะเบียนรถ
ปลายทางที่ได้รับรูปภาพถึงกับควันออกหู เขารีบพิมพ์ข้อความออกคำสั่งส่งกลับไปทันที
ส่งคนตามไป อย่าให้คลาดสายตา
เมื่อส่งข้อความเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมองผู้เข้าร่วมประชุม เขาพยักหน้าให้ทุกคนประชุมต่อหลังจากที่ทุกคนหยุดชะงักเพราะเจ้านายอ่านข้อความในโทรศัพท์
วาโยชายหนุ่มวัยสามสิบหกปีเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยชื่อดังของประเทศไทย เป็นบริษัทที่ให้บริการรักษาความปลอดภัยธุรกิจขนาดใหญ่ สถานที่สำคัญ อารักขาผู้บริหารหรือบุคคลสำคัญ และบริการรักษาความปลอดภัยหลายรูปแบบ โดยใช้กระบวนการการรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือผสมผสานกับเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยาก หากเขาจะติดตามใครสักคน ใครคนนั้นที่ดื้อดึงและท้าทายสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขา
แล้วจะได้เห็นดีกัน...แม่นกกระเต็นน้อย
“ไม่สนุกเหรอครับกระเต็น” ภาสกรชายหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกวัยยี่สิบหก เอ่ยถามสาวสวยตรงหน้าอย่างใส่ใจ เมื่อเห็นเธอนั่งเอามือข้างหนึ่งเท้าคาง และเอาแต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับการแสดงดนตรีสดบทเพลงหวานๆบนเวทีเลย
พลอยไพลินถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง หญิงสาวเอามือออกจากคาง ขยับนั่งตัวตรง แล้วส่งยิ้มบางให้คนที่อุตส่าห์มารับเธอออกจากบริษัททันทีที่เธอโทรหา
“เพลงเพราะมากค่ะพี่กร เครื่องดื่มก็รสชาติดี แต่เต็นกำลังหนักใจเรื่องงานที่พี่ต่ายมอบหมายให้ไปทำอาทิตย์หน้าค่ะ”
เมื่อได้รับการส่งสัญญาณว่าป๋าฟ้าหลับแล้ว เขาก็ค่อยย่องขึ้นบ้านแอบเข้าไปหาเธอ หรือบางคืนเธอก็แอบลงไปหาเขา กระต่ายน้อยรู้ว่าพ่อตาคงระแคะระคายเรื่องนี้อยู่ แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไร เขาเองก็ตีเนียนทำเป็นไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะหากมันจะทำให้เขาได้มาเจอเธอทุกครั้งที่มีเวลาว่างจากงานหนักรัดตัว โดยที่ไม่ถูกพ่อตาไล่ตะเพิดกลับไป จะให้เขาซุกหัวนอนตรงไหนเขาก็ยอมเมื่อเข้าไปอยู่ในห้องกับเมียตามลำพัง เขาก็คว้าร่างอวบอิ่มที่ยืนหันหลังให้มากอดไว้แนบอก กระต่ายน้อยวางมือลงบนหน้าท้องนูนป่องของภรรยา เขาลูบเบาๆ แล้วถอนหายใจอย่างเป็นสุข“ลูกดื้อไหม”หนูจ๋าหัวเราะคิกกับคำถามของเขา“ไม่ค่ะ ไม่ดื้อ”“อย่าดื้อให้มากนักนะตัวยุ่ง แม่ยิ่งตัวเล็กๆอยู่” กระต่ายน้อยบอกลูก ทั้งลูบมือไปทั่วหน้าท้องเมียรัก ดูเหมือนว่าตัวยุ่งของเขาจะรับรู้สิ่งที่เขาบอก หน้าท้องนูนใหญ่ของคุณแม่ขยับยุกยิกคล้ายๆกับว่าหนูน้อยในท้องกำลังประท้วงคนเป็นพ่อ ที่บังอาจกล่าวหาว่าดื้อด้วยการทั้งเตะทั้งถีบจนหน้าท้องของคนเป็นแม่บิดเบี้ยวหนูจ๋าเงยหน้าขึ้น หันกลับไปมองสบตา
กระต่ายน้อยฝังใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่น เขาเองก็แทบคลั่ง เมื่อน้องทั้งเอาใจ ทั้งออดอ้อนน่ารัก ชายหนุ่มขยับโยกหนักแน่นรัวเร็ว เร่งแรงผลักดัน เพื่อนำพาน้องและตัวเองไปยังปลายทางบทเพลงรัก เสียงครางแว่วหวานและเสียงครางทุ้มต่ำดังขึ้นต่อเนื่อง จังหวะสอดประสานเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆกระต่ายน้อยกอดรัดร่างนุ่มเต็มอ้อมแขน หนูจ๋าจิกท่อนแขนที่รัดรึงเธออยู่ไว้แน่น สองร่างโยกคลอนไปพร้อมกัน กระทั่งความหวามไหวโอบล้อมสองกาย ปลายทางความสุขสมอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า กระต่ายน้อยเร่งกระชั้นกายเข้าหา โถมถั่งกลางซอกสาว กระแทกความรู้สึกน้องให้แตกกระจาย หนูจ๋ากรีดร้องระงม ครวญครางเสียงสั่นพร่า ร่างสาวสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง วาบหวามแปลบปลาบ ซาบซ่านจนแทบขาดใจหลังจากส่งน้องไปยังปลายทางสุขสมแล้ว กระต่ายน้อยเร่งผลักดันระรัวเร็ว ตัวตนแห่งชายโจนจ้วงเร่งเร้าไม่หยุดหย่อน กระทั่งถึงจุดสิ้นสุดความอดกลั้น กระต่ายน้อยฝังใบหน้าลงกับซอกคอน้อง เขาดูดเนื้อนุ่มบริเวณลำคอสุดแรง วงแขนแข็งแรงกอดร่างน้องแนบอก ฝากฝังความแข็งแกร่งสลักลึกแน่นิ่ง ก่อนพร่างพรมหยาดน้ำในซอกอุ่นนุ่มรัดรึง ให้เธอรีดเค้นจนเขาสำลักความสุขแสนอ
หนูจ๋าระบายลมหายใจออกแผ่วเบา หญิงสาวเลื่อนสองแขนลงกอดลำตัวเขาแนบกาย ก่อนเผยอฝีปากออก ยอมรับจูบจากเขา จูบที่เธอเองก็เฝ้ารอมาเนิ่นนาน จูบที่เธอเองก็โหยหามันไม่ต่างจากคนที่กำลังมอบจูบหวานๆให้เธออยู่เลยคนป่วยกำมะลอล่อหลอกน้องด้วยจูบแสนหวาน ขณะมือซุกซนปลดเปลื้องชุดนอนออกจากร่างสาวอย่างรีบเร่ง แล้วค่อยประคองน้องเอนกายลงนอนบนเตียงนุ่ม กระต่ายน้อยผู้อดอยากปากแห้งหิวโซมานานรีบผละออกไปยืนข้างเตียง เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างว่องไว แถมสะบัดเท้าถีบส่งอย่างไม่ไยดีร่างสูงเซ็กซี่ปราศจากไขมัน กล้ามเนื้อทุกส่วนสัดสวยงามน่าลูบไล้ทำให้หนูจ๋ามองตาปรอย เธอรู้ดีว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่ง และเร้าใจแค่ไหน เพียงแค่มอง เธอก็น้ำลายสอ ซอกส่วนความเป็นหญิงบีบรัดเรียกร้องรุนแรง“พี่กระต่าย...” หนูจ๋าเอ่ยเรียกเขาเสียงแหบพร่าและอัดแน่นไปด้วยแรงอารมณ์ หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเขาทาบกายลงมาหา เธอกางแขนอ้ารับ และกกกอดเขาไว้เต็มวงแขนทันทีที่สองกายแนบสัมผัสกัน แม้จะอายอยู่เล็กน้อย แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธความต้องการอันรุนแรงที่ปะทุอยู่ภายในได้ เธอโทษฮอร์โมนการตั้งครรภ์แล้วกัน ที่มีส่วนทำให
“พี่ใส่ชุดครบแล้วทั้งท่อนบนท่อนล่างครับ ถ้าหนูจ๋าจะกรุณาคนป่วย ก็ช่วยเดินไปหยิบยาที่อยู่บนโต๊ะมาให้พี่กินหน่อยครับ”หนูจ๋าหันกลับไปมองคนบนเตียงช้าๆ เธอหลับตาข้างหนึ่งด้วยแต่พอเห็นว่าเขาสวมชุดครบอย่างที่ว่าจริงๆ เธอจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วสะบัดค้อนวงน้อยๆให้คนขี้แกล้งไปหนึ่งครั้ง ก่อนเดินไปหยิบยาที่โต๊ะพร้อมกับรินน้ำใส่แก้วมาให้เขาเพชรนิลรับยาจากน้องมากิน เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า เขาปวดเมื่อยไปทั้งตัว อาการปวดหัวก็ยังคงอยู่ แต่เพราะมีกำลังใจดี ก็เลยมีแรงฮึดสู้หนูจ๋านำแก้วน้ำไปเก็บ แล้วเดินกลับมาที่เตียง เมื่อเห็นพี่กระต่ายกำลังจะเตรียมตัวลงนอน เธอก็ รีบเดินเข้าไปช่วยประคองเขาให้เอนตัวลงนอนบนเตียง แล้วบริการดึงผ้าห่มมาคลุมให้“พี่กระต่ายนอนพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้หนูจะมาเยี่ยมอีก” หนูจ๋าว่าแล้วเตรียมหมุนตัวจะเดินออกจากบ้านหลังเล็กไป ทว่าข้อมือบางก็ถูกจับไว้เสียก่อน หญิงสาวหันกลับมามองคนที่นอนทำหน้าตาเศร้าสร้อยน่าสงสารบนเตียง“พี่จะรอหนูจ๋ามาเยี่ยมอีกนะครับ” กระต่ายน้อยบอกน้อง แล้วดึงมือน้องมาแนบแก้มที่ร้อนผ่าวเพราะฤทธิ์ไข้“อยากกอด อยากจูบ แต
“เอ่อ...พี่กระต่ายถอดเสื้อออกก่อนนะคะ ไม่งั้นมันเช็ดไม่สะดวกค่ะ” หนูจ๋าบอกเสียงเบา หลบตาเขินอาย เธอเป็นคนบอกเขาถอดเสื้อ แต่เธอก็ต้องกลายเป็นคนหน้าแดงเสียเอง หนูจ๋าก้มหน้ามองผ้าในมือ ขณะรอให้คนป่วยถอดเสื้อ“พี่ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลยครับ ไม่มีแรงยกแขนเลย หนูจ๋าช่วยถอดเสื้อให้พี่หน่อยได้ไหมครับ” พ่อคนได้ที อ้อนน้องเสียงอ่อนเสียงเบาน่าสงสารหนูจ๋าเงยหน้าสบตาเขา หญิงสาวทำปากยื่นบ่นอุบอิบ แต่ก็ยอมทำตามที่เขาขอร้อง“ก็ได้ค่ะ ยกแขนขึ้นสิคะ”กระต่ายน้อยยกแขนขึ้น อำนวยความสะดวกให้น้องถอดเสื้อยืดสีขาวด้วยความเต็มใจ เขาเป็นผู้ป่วยนิสียดี ให้ความร่วมมือกับน้องทุกอย่างหนูจ๋าก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือ ระหว่างเช็ดตัวให้เขาหนูจ๋าไม่กล้ามองสบตาด้วย แม้ยามถูกรุมเร้าไปด้วยพิษไข้ แต่สายตาคมปลาบของเขาก็ยังคงทำให้เธอเขินสะเทิ้นอายได้เหมือนเดิมหนูจ๋าเช็ดหน้าอก หลัง และแขนเรียบร้อย หญิงสาวจึงลุกขึ้นยืนถือกะละมังขึ้น เพื่อจะเอาไปเก็บในห้องน้ำ แต่คนป่วยก็รีบคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน“หนูจ๋ายังเช็ดไม่เสร็จเลย” กระต่ายน้อยว่าแล้วหลุบตามองท่อนล่างของตน พยาบา
“คงไม่เป็นไรหรอก ดูท่าทางแล้วแข็งแรงอยู่ คงออกกำลังกายประจำ ดูๆไปก่อนถ้าพี่เขาไม่ไหวจริงๆค่อยบอกให้มานั่งพัก” เจ้าดินบอกให้น้องๆสบายใจ เพราะพอเจ้าไฟบอกว่าคุณแม่จะจัดการขั้นเด็ดขาด สีหน้าของน้องๆอีกสองคนก็เปลี่ยนไปทันที มีความหวาดกลัวฉาบฉายอยู่บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ก็อย่างที่รู้ๆกัน แม้คุณป๋าผู้สั่งการให้พวกเขานั่งเฝ้าพี่เขยทำงานจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่เหนือคุณป๋าก็ยังมีคุณแม่ที่คอยกำกับดูแล และเป็นใหญ่ที่สุดในบ้านเพชรนิลต้องขุดดินตากแดดตลอดทั้งวัน ขนาดช่วงพักเที่ยงเขายังไม่ได้กลับบ้าน ป๋าฟ้าสั่งให้คนงานเอาข้าวกลางวันมาให้เขาและเหล่าสี่กุมารถึงท้ายไร่ ความหวังว่าจะเห็นหน้าเมียสักแป๊บหนึ่งเพื่อเป็นกำลังใจก่อนจะทำงานต่อภาคบ่ายเป็นอันต้องพับเก็บไปได้เลย จะบ่นมาก จะโวยวาย จะประท้วงก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่าหากทำอะไรให้เป็นที่ไม่พอใจของพ่อตาแล้ว ท่านจะไล่เขากลับบ้าน แล้วยกเอาเหตุผลที่เขาทำงานได้ไม่ตลอดรอดฝั่งทั้งวันมาเป็นข้ออ้างได้ว่า งานแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาดูแลลูกสาวท่านได้กระทั่งตะวันตกดิน เจ้าสี่กุมารขับซาเล้งพาเขากลับบ้าน เพชรนิลสู้อุตส่าห์รีบอาบน้ำเ