“ไม่ได้ค่ะ...ห้ามทำรุ่มร่ามที่บริษัท”
“ก็ทีหนุงหนิงยัง...” นิชาชี้หน้าสามีด้วยแววตาดุ ทำให้พีรพลหยุดพูดต่อ
“พีรู้ใช่ไหมว่าหนุงหนิงทำเพราะอะไร” สามีหนุ่มพยักหน้ารับทราบ แววตาเศร้าๆ
“ห้องทำงานคือห้องทำงานค่ะ ไว้คืนนี้หนุงหนิงจะต่อภาคสองให้นะ” ประโยคสุดท้ายนิชากระซิบข้างหูสามีเบาๆ คนได้ยินยิ้มกว้าง กดจมูกฝังที่แก้มเนียนแรงๆ นิชาตีแขนที่โอบเอวเธออยู่เบาๆ
“งั้นไปกินข้าวกันเถอะ” นิชาพาตัวเองลงจากตักสามี พีรพลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วคว้ามือเล็กมากุมไว้
“พีว่าจะต่อเติมห้องทำงานเดิมของพีเป็นห้องพักผ่อนสำหรับเราดีกว่าเนอะ เผื่อช่วงไหนเรามีงานเยอะ จะได้ค้างที่นี่เลย” นิชาหันกลับมามองหน้าสามีอย่างรู้ทัน พีรพลยักคิ้วให้อย่างท้าทาย
“ก็ห้องทำงานคือห้องทำงาน ห้องพักผ่อนก็คือห้องพักผ่อนไง จริงๆนะ”
“นี่ยายพิมพ์ยังไม่กลับมาจากโรงพยาบาลหรือ เย็นมากแล้วนะ เห็นว่ามีนัดไปงานเลี้ยงกับพ่อปลัดไม่ใช่เหรอ” ย่าพรเอ่ยขึ้นลอยๆ ชะเง้อคอมองไปประตูรั้วทางเข้าบ้าน
“เอ่อ...เห็นไอ้ลั่นมันขับรถคุณพิมพ์กลับมาเอาของเมื่อตอนบ่าย แล้วก็ขับออกจากบ้านไ
“เดี๋ยวนี้ใช้ภาษาวัยรุ่นนะย่า”“อ้าว...โลกหมุนเร็ว ย่าต้องหมุนตามให้ทัน ถึงหมุนตามแล้วจะเวียนหัวก็จะทนเอา” ย่าและหลานสาวสบตาหัวเราะขึ้นพร้อมกัน“ป้าสมใจรบกวนยกเอกสารบนโต๊ะไปที่รถให้พิมพ์หน่อยนะคะ คืนนี้คงต้องเอากลับไปเคลียร์ที่บ้าน”“จ้ะ...คุณพิมพ์” นางสมใจนั่งดูย่ากับหลานคุยกันอยู่รับคำ แล้วลุกไปเก็บเอกสาร ไปไว้ที่รถตามที่พิมพ์รพีพรสั่ง“เอ่อ...คุณพิมพ์คะ” นางสมใจยืนรอส่งพิมพ์รพีพรที่รถ กระซิบกระซาบเรียกหญิงสาว“มีอะไรหรือเปล่าคะ ป้าสมใจ” นางสมใจเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้อีกนิด“ป้าจะบอกว่า ถ้าผัวงอนเราต้องง้อนะ ถ้าไม่ง้อระวังมอคอปอดอนะคะ”พิมพ์รพีพรขมวดคิ้วงง“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคุณพิมพ์ คุณพิมพ์รู้ไหมสัดส่วนของผู้หญิงในโลกนี้มันมีเยอะกว่าผู้ชายมาก ถ้าเราไม่เอาใจผัวให้ดี ป้ารับรองเลยว่าจะมีคนเสนอตัวมาเอาใจแทนเราแน่ ยิ่งพ่อปลัดของคุณพิมพ์นะ หน้าที่การงานก็ดี รูปก็หล่อ พ่อก็รวย สาวๆทั้งอำเภอต่อคิวรอเสียบแทนคุณพิมพ์เป็นร้อย”“ค่ะ” คือพิมพ์รพีพรไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกไป จึงได้แต่ยืนนิ่งฟังสิ่งที่
“พิมพ์ขอโทษนะคะ เดี๋ยวพิมพ์จะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไถ่โทษที่ผิดนัดก็แล้วกันนะ” พิมพ์รพีพรคลานลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ ปลัดเมฆาหรี่ตามองตามร่างเล็กสมส่วนแล้วอมยิ้มพิมพ์รพีพรออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกะละมังใบเล็ก ผ้าขนหนูและน้ำอุ่นอยู่ในนั้น แล้ววางมันไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง คนที่นอนหลับตารอการทำความสะอาดจากเมีย ใจเต้นโครมคราม เขาอยากจะกระโดดลงจากเตียงแล้วดึงเธอเข้ามากอดตั้งแต่ตอนที่เห็นว่า พิมพ์รพีพรอยู่ในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่นั้นแล้ว แต่ก็อยากจะดูว่าหญิงสาวจะทำยังกับตนเองคนตัวเล็กนั่งมองร่างของคนตัวโตที่เหยียดยาว แล้วถอนหายใจแรงก่อนที่จะค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เขาจนหมดแถว แล้วแยกสาบเสื้อออกจากกัน หน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม อย่างคนสุขภาพดีที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้พิมพ์รพีพรใจเต้นแรง ถึงจะเคยสัมผัสแนบชิดกันมาแล้ว แต่เธอไม่เคยได้มองเขาอย่างเต็มตาอย่างนี้ มือเล็กดึงชายเสื้อออกจากกางเกง แล้วพิมพ์รพีพรก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง“จะถอดยังไงล่ะเนี่ย ตัวใหญ่ยังกะยักษ์” ปากเล็กจิ้มลิ้มบ่นอุบอิบ เธอค่อยๆปลดเข็มขัด แกะกระดุมแล้วรูดซิปกางเกงลง ปฏิบัติการแ
“ทำให้ขนาดนี้รักกันสักนิดหรือเปล่า” เสียงรำพึงเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากบาง พูดจบเธอก็เลือกที่จะหันหลังทันที จึงไม่ได้เห็นว่าคนที่ได้ยินคำถามขมวดคิ้วแล้วคลายออกอย่างรวดเร็ว พิมพ์รพีพรปิดไฟทุกดวงในห้องก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียง ความรู้สึกอ่อนยวบเล็กน้อยข้างกายทำให้ปลัดเมฆานอนยิ้มอย่างย่ามใจคนตัวเล็กในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่ สอดตัวเองลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกันกับคนนอนโป๊อยู่ โดยลืมคิดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความที่คิดว่าอีกคนเมาหลับเป็นตายไปแล้ว เธอคงไม่ต้องระวังตัวอะไร พิมพ์รพีพรนอนตะแคงมองหน้าคมเข้มในความมืดสลัว มือเล็กยกขึ้นสัมผัสเบาๆไปตามใบหน้าหล่อเหลา“เราแต่งงานกันเพราะอะไรนะ พี่เมฆแค่อยากเอาชนะพิมพ์ใช่ไหม รักพิมพ์สักนิดหรือเปล่า” เสียงหวานฟังแล้วเศร้า จนคนได้ยินอยากจะชกปากตัวเอง นี่เขายังไม่เคยบอกรักเมียตัวเองนี่นา ที่พิมพ์รพีพรไม่ยอมให้เขาทำอะไรตามใจ เพราะเธอยังไม่มั่นใจในตัวเขาเองหรอกหรือ ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม ลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัด“เพราะพี่รักพิมพ์”มือเล็กถูกเจ้าของดึงกลับ พิมพ์รพีพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง“พี่เมฆ นี่แกล
มือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไล้เรื่อยมายังทรวงอกอวบหยุ่น หยอกเย้าและเคล้นคลึงทั้งสองข้างอย่างปลุกเร้าอยู่เนิ่นนาน แล้วเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ปลัดเมฆาผละจากริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนของเขาไล้เลียมาตามลำคอระหง ลากผ่านมาจนถึงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของเจ้าของ ปากร้อนร้ายกาจดูดดึงและไล้เลียจากฐานอกอวบ แล้วเข้าครอบครองดูดกลืนตุ่มไตสีหวาน ป่ายปัดรัวเร้าจนร่างบางแอ่นกายเสียวสะท้าน พิมพ์รพีพรสอดมือทั้งสองเข้าไปในกลุ่มผมของปลัดเมฆา กดรั้งศีรษะทุยให้แนบกับร่างของตนเองอย่างลืมตัวท่อนขาแกร่งแทรกลงระหว่างขาเรียว ขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จมูกโด่งถูไถไปตามหน้าท้องแบนราบ มือใหญ่จับต้นขาขาวแยกกว้าง แล้วตั้งชันขึ้น พิมพ์รพีพรรู้สึกวูบไหวในช่องท้อง ร่องดอกไม้กลางกายสาวหลั่งน้ำหวานออกมาจนชุ่ม หญิงสาวหอบหายใจแรงขึ้น“อื้อ...” พิมพ์รพีพรบิดตัวครางสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะติ่งกลางกายสาวแผ่วเบาในครั้งแรก ก่อนจะตวัดรัวเร็วสร้างกระแสความหวามไหวอย่างรุนแรง นิ้วเท้าจิกงองุ้มลงบนที่นอนแน่น สะโพกเต่งตึงยกลอยขึ้นอย่างท้าทาย ลมหายใจขาดเป็นห้วง
“อยากอยู่อย่างนี้นานๆ” ปลัดเมฆาออดอ้อน “พิมพ์หนักค่ะ พี่เมฆตัวใหญ่ยังกะยักษ์” พิมพ์รพีพรประท้วงเบาๆ ปลัดเมฆาถอดถอนกายออกแล้วเคลื่อนตัวลงมานอนเคียงข้างหญิงสาว มือใหญ่รั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอด พิมพ์รพีพรเบียดกายเข้ากับอกกว้าง “สัญญาได้ไหมว่าต่อไปนี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง” ปลัดเมฆาพูดอยู่เหนือศีรษะหอมกรุ่น พิมพ์รพีพร เงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด “ค่ะ...คุยกันทุกเรื่อง” กลีบปากบางคลี่ยิ้มหวานตอบแบบไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่สามีพูด “วันนี้พี่โทรหาไอ้ธีร์ แล้วพี่ก็ได้คุยกับหนูไอด้วย” “หมายความว่า...” “พิมพ์ฟังพี่นะ” พิมพ์รพีพรพยักหน้า แล้วซุกหน้าลงแนบที่อกกว้าง รอฟังในสิ่งที่ปลัดเมฆากำลังจะพูด “เรื่องราวระหว่างเราในตอนแรกอาจจะเกิดขึ้น เพราะความอยากเอาชนะของพี่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว พี่รักพิมพ์ รักผู้หญิงที่พี่ขโมยจูบแรกของเธอมา วันนั้นที่หนูไอโทรมาหาพิมพ์ พี่ยังไม่ได้บอกไอ้ธีร์ว่าเราจะแต่งงานกัน เพราะเห็นว่าหนูไอท้องอ่อนๆอยู่ พี่เลยไม่อยากบอก
“ถ้าอย่างนั้นพิมพ์กลับไปนอนที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า”“ไม่ยอม”“ไม่สน”“ใจร้าย” พิมพ์รพีพรเลิกคิ้วสูง เมื่อโดนข้อกล่าวหาว่าใจร้าย“พิมพ์จะปล่อยให้พี่นอนเหงาคนเดียวเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้ว” ปลัดเมฆาตีหน้าเศร้า“ทีเมื่อก่อนยังมานอนคนเดียวได้บ่อยๆนี่คะ ไม่มีพิมพ์มาด้วยซะหน่อย”“ก็มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นไม่มีพิมพ์ แต่ตอนนี้มีแล้ว มีแล้วก็ขาดไม่ได้” พิมพ์รพีพรอมยิ้มแอบดีใจ“นอนด้วยกันแหละ นะๆ” เสียงทุ้มออดอ้อน“ห้ามรังแกพิมพ์”“อือ...ไม่รังแกเกินสามยก”“พี่เมฆ!” พิมพ์รพีพรเรียกสามีเสียงสูง ปลัดเมฆาหัวเราะชอบใจ“คนลามก” พิมพ์รพีพรบ่นเบาๆ“ยอมรับ...ลามกและหื่นมากๆๆ” ปลัดเมฆายังพูดยั่วคนตัวเล็ก ที่หน้าแดงเรื่อจนเห็นได้ชัด พิมพ์รพีพรอ้าปากจะเถียงต่อ แต่ปลัดเมฆาชิงพูดตัดบทเสียก่อน“ถึงแล้วครับ สงบศึกชั่วคราว” พิมพ์รพีพรทำจมูกย่นไม่พอใจ ปลัดเมฆาบีบจมูกรั้นนั้นเบาๆ“ลงไปได้แล้วครับ คุณภรรยาคนสวย”“แม็กกี้...ทางนี้” หญิงสาวประเภทสองที่รวมกลุ่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนข
“นอนเถอะค่ะ พี่เมฆ พรุ่งนี้ต้องพาพิมพ์ไปช้อปแต่เช้า” ร่างเล็กขยับตัวเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง พิมพ์รพีพรขยับตัวซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นของสามี“รักพิมพ์จังเลย พิมพ์รักพี่บ้างไหม วันนี้ยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลย” มือใหญ่เลื่อนไปวางทาบบนสะโพกเต่งตึง รั้งกระโปรงชุดนอนแสนเซ็กซี่ที่เขาเป็นคนจัดใส่กระเป๋าเองกับมือขึ้น แล้วลูบไล้เบาๆ พิมพ์รพีพรเริ่มหายใจติดขัดกับสัมผัสแผ่วเบานั้น“รักไหม บอกหน่อย”เสียงทุ้มกระซิบถามชิดใบหูเล็ก“ไม่รักจะหึงทำไมล่ะ”เสียงหวานที่ตอบไปนั้นสั่นพร่า ปลัดเมฆาจับพลิกร่างบางขึ้นทาบทับบนร่างตัวเอง“พี่เมฆ! นอนได้แล้ว ขับรถทั้งวันไม่เหนื่อยหรือไง”“ไม่เหนื่อยสักนิด ทำอะไรได้อีกตั้งหลายท่า เอ๊ย!หลายอย่าง” พิมพ์รพีพรทุบอกกว้างของสามี เธอแนบหน้าอยู่ที่อกข้างซ้ายของเขา เสียงหัวใจเต้นแรงเป็นจังหวะ มันอบอุ่นเหลือเกินคนไม่เหนื่อยปรนเปรอคนหึงด้วยบทรักเร่าร้อน เสียงบอกรักกันและกันหวานยิ่งนัก ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจพิมพ์รพีพรพาตัวเองเดินตามกลิ่นหอมของอาหาร
“อื๊อ!...พี่เมฆ” ปลัดเมฆาส่ายศีรษะก้มๆเงยๆอยู่ตรงกลางกายของภรรยา หญิงสาวแหงนเงยหน้าครางเสียงหวานเป็นระยะ หยาดน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาถูกลิ้นสากป่ายตวัดดูดกินลงท้องจนหมดสิ้น ปลายลิ้นรัวเร่งยอดติ่งอ่อนไหวที่ไวต่อสัมผัส ปลัดเมฆารัวลิ้นเร็วเร่งเร้า จนพิมพ์รพีพรเกร็งร่างสะท้านเฮือกอย่างสุขสมปลัดเมฆาเงยหน้ามองใบหน้างามที่แดงระเรื่อ พิมพ์รพีพรหอบใจเร็ว ดวงตาปรือปรอยฉาบไปด้วยความสุขสม ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง เขาจับเท้าเล็กวางห่างกันที่ขอบโต๊ะ แทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง“พิมพ์จ๋า ขอพี่กินอีกครั้งนะ”พิมพ์รพีพรสบสายตาสามียั่วยวนปลัดเมฆายิ้มใส่ดวงตาคู่สวย เขาดึงรั้งกางเกงนอนลง มือใหญ่สองข้างวางทาบลงบนโต๊ะข้างพิมพ์รพีพร หญิงสาวค้ำยันมือไปด้านหลังรอรับแรงของสามีที่จะส่งเข้ามา สะโพกสอบส่ายช้าๆเพื่อบดเบียดตัวตนแข็งแกร่งของตนเข้าในร่องรักนุ่มลื่น“อืม...พิมพ์จ๋าอุ่นจัง พี่รักพิมพ์ที่สุด”“พิมพ์รักพี่เมฆค่ะ” เสียงหวานที่กระเส่าสั่น ทำให้ปลัดเมฆาเพิ่มแรงในการขยับสะโพก ส่งตัวตนเข้าไปจนลึกสุดทาง หัวใจสองดวงเต้นรัวแรงแทบปะทุออกมา เมื่อความเสียวกระสันใกล้จะระเบิ
มือเล็กค่อนข้างสั่นเล็กน้อยขณะที่หยิบสิ่งของที่ต้องการออกจากกระเป๋า เธอเลือกใช้อันที่แกะออกจากซองแล้ว แต่พอหยิบอกมาดูก็เกิดอาการงง แล้วเขาใส่กันยังไง พลิกไปพลิกมาขยี้ขยำจนถุงยางอนามัยคลายตัวออกมา นั่นแหละใบหน้านวลถึงยิ้มออกมาได้เออ...อย่างนี้หน่อย ถึงพอจะคิดออกว่าใส่ยังไงน่านน้ำมองสิ่งของที่ถืออยู่ในมือสลับกับกลางกายของคนที่นอนนิ่งอยู่ หญิงสาวเลือกที่จะหลับตาก่อนจะยื่นมือออกไปเปิดผ้าขนหนู เพื่อเปิดเผยบางสิ่งที่เร้นลับเหลือเกินในความคิดของตัวเอง เกิดมาไม่เคยเจอไม่เคยเห็นมันจะเป็นยังไงหนอ ตาที่ปิดอยู่ค่อยๆหรี่ขึ้นมองช้าๆ“อุ๊ย!” น่านน้ำสะดุ้งสุดตัว เมื่อขณะที่กำลังจะชักมือกลับพร้อมกับลืมตาขึ้นทีละน้อยนั้น มือใหญ่ก็กำข้อมือเล็กของเธอไว้หมับ“ขอกอดหน่อย” อยู่ดีๆภูชิตก็ตวัดวงแขนเกี่ยวเอาร่า
หญิงสาวใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กรองน้ำจากก๊อกน้ำอุ่นที่อ่างล้างหน้า ขณะที่ขยำและพลิกผ้าไปมาเพื่อให้เปียกทั่วทั้งผืน สายตาก็เหลือบไปเห็นกล่องสีดำเล็กๆวางอยู่ในกระจาดเล็กรวมกับของใช้จำพวกแชมพูครีมอาบน้ำในขวดเล็กๆ น่านน้ำโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ เห็นคนตัวโตยังนอนหลับอยู่ที่โซฟาจึงตัดสินใจวางผ้าผืนเล็กลงในอ่างล้างหน้า แล้วหยิบกล่องเล็กนั้นขึ้นพลิกไปพลิกมา ไม่ใช่ไม่รู้ว่ามันคือกล่องถุงยางอนามัย แต่ที่อยากรู้คือมันใช้ยังไง“อยากรู้ก็ต้องเปิดดูสิ” เมื่อบอกตัวเองดังนั้น น่านน้ำจึงจัดแจงแกะพลาสติกที่หุ้มกล่องอยู่ออก แล้วเอากล่องมาจ่อที่จมูก“ไม่มีกลิ่นแฮะ!” มือเล็กเปิดฝากล่องออกแล้วเทของที่อยู่ในกล่องออกมาเทบนเคาเตอร์“ตั้งสามอันแน่ะ เขาใส่กันทีเดียวสามอันเลยเหรอ” คนอยากรู้อยากเห็นจับของที่อยู่ในซองพลิกไปพลิกมาสำรวจทีละอัน ก่อนจะตัดสินใจฉีกซองแล้วจีบมือจับบางสิ่งบางอย่างออกจากซอง บางส
“ไปสิ คุณก็ควรจะพักผ่อนเหมือนกันนะ” ขายาวก้าวนำก่อน ขาเล็กจึงลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเดินตาม หัวใจเต้นโครมคราม สมองกำลังคิดไตร่ตรองว่าสิ่งที่ตัดสินใจถูกแล้วหรือนี่เรากำลังจะเต็มใจสูญเสียพรหมจรรย์ทิ้งไว้ที่นี่เหรอ เอาจริงใช่ไหม ถอยตอนนี้ทันไหม เอายังไงดีในขณะที่สมองทำงานอย่างหนัก น่านน้ำไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าประตูถูกปิดลงแล้ว และเธอก็ถูกจูงมานั่งบนเตียงกว้างกลางห้อง ภูชิตปล่อยมือบางแล้วเอนตัวลงนอนทันที ปล่อยหญิงสาวที่นั่งหลับตาปี๋รอคอยอย่างคาดหวัง เมื่อรอจนนานแล้วยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับร่างกาย ตากลมโตจึงเปิดขึ้น แล้วหันไปมองคนที่นอนหลับตาพริ้ม น่านน้ำไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือโล่งใจดี หญิงสาวหันรีหันขวาง ความเงียบรอบกายและอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้คนที่นอนน้อยตัดสินใจเดินตรงไปที่โซฟาตัวใหญ่ ร่างบางนั่งลงบนโซฟาตัวนุ่มแล้วเอนตัวลงนอน ไม่ถึงห้านาทีน่านน้ำก็เข้าสู่ห้วงนิทรา หลับสนิททันที&nbs
จริงจัง?“ผมหมายความว่ามันดูสมเหตุสมผลที่จะเอาคุณไปอ้าง” น่านน้ำถอนหายใจแรง ใจเต้นกับคำว่าจริงจังนี่สินะพรหมลิขิต เราต่างก็จริงจังต่อกัน“ก็ได้ค่ะคุณภูชิต น้ำถือว่ายังอยู่ในเนื้องาน” จะให้ตอบตกลงใบหน้ายิ้มแป้นก็กระไรอยู่ เป็นผู้หญิงมันต้องมีชั้นเชิง น้ำเสียงที่ใช้จึงค่อนข้างราบเรียบ“ไหน...เรียกใหม่ซิ”“ค่ะ...คุณภูขา” คนถูกเรียกกลั้นยิ้มไว้ภายใต้หน้าตานิ่งเฉย คนที่เอ่ยเรียกใจเต้นโครมคราม เมื่อคิดว่าสิ่งที่หวังใกล้ความจริงไปทุกขณะ“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณภูชิตจะมีคู่หมั้นแล้ว” กำนันช้างผู้
น่านน้ำมองตามแผ่นหลังกว้างหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับประตูห้องน้ำที่ปิดตามมา ประโยคที่เธอได้ยินก่อนที่ประตูห้องน้ำจะปิดสนิท ทำให้หญิงสาวรีบกระโจนลงจากเตียงกว้างทันที“ถ้าจะอาบน้ำพร้อมผมก็ตามเข้ามาได้เลยนะ ประตูไม่ได้ล็อก”ขาเรียวเล็กรีบพาเจ้าของร่างออกจากห้องกว้างทันที ภูชิตยื่นหน้าออกมาจากห้องน้ำ ทันเห็นหลังไวๆออกจากห้องไป เขาส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มกับตัวเอง“คนอะไรเนื้อนุ่มเนียนน่าฟัดไปทั้งตัว หึๆ”เมื่อคืนกว่าน่านน้ำจะข่มตานอนได้ก็ย่างเข้าสู่วันใหม่แล้ว เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง คิดทบทวนเรื่องราวตอนหัวค่ำ ทั้งๆที่แอบปลื้มเจ้านายหนุ่ม แต่ทำไมเมื่อเขารุกประชิดร่าง เธอกลับรู้สึกหวาดกลัว อย่างนี้อาจจะทำให้สิ่งที่เธอหวังไม่สำเร็จ เอาล่ะ...ต่อนี้ไปเธอต้อง
“เอ่อ...น้ำยอมแล้วค่ะ คุณภูชิตลุกขึ้นก่อนนะคะ” เสียงหวานอ้อมแอ้มบอกอย่างยอมจำนน คนที่ได้สัมผัสความนุ่มนิ่มถอนหายใจยาว เขายังไม่อยากลุก กลิ่นกายสาวหอมอ่อนๆทำให้ใจเต้นแรง และรู้สึกดีอย่างประหลาด“ลุกสิคะ” คิ้วเข้มเลิกสูง ไม่เข้าใจว่าเธอจะทำอะไร น่านน้ำเหมือนจะเดาใจออกว่าชายหนุ่มสงสัย“ก็เดี๋ยวน้ำจะถอดชุดออกให้คุณภูชิตตรวจดูไง คุณภูชิตไม่ต้องลำบากมาถอดให้น้ำหรอกน่า” พูดอย่างใจกล้าแต่หัวใจแทบจะวายอยู่แล้ว ภูชิตยิ้มราวกับว่าไม่เชื่อในสิ่งที่หญิงสาวพูด แต่ก็ยอมลุกขึ้นนั่งคุกเข่าอยู่ข้างร่างบาง รอดูว่าคนใจกล้าจะถอดเสื้อผ้าให้เขาตรวจสอบจริงๆไหมน่านน้ำยันกายลุกขึ้นนั่งคุกเข่า แววตาไม่มั่นใจฉายชัด หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกแล้วผ่อนออกช้าๆ อย่างยากลำบาก มือเล็กค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเม็ดแรก ภูชิตมองตามใจเต้นรัว เขาเคยเห็นมาแล้ว และรู้ดีว่าภายใต้เสื้อผ้าที่บดบังร่างกายนี้อยู่
“ทำอะไรอยู่นะ” ภูชิตพูดเบาๆ เดินไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องของคนที่ทำให้เขาหมดอารมณ์ไปต่อกับสาวสวยไฟแรงหุ่นอวบอั๋น มือใหญ่ยกค้าง ชายหนุ่มกำลังชั่งใจว่าจะเคาะประตูดีไหม แต่เนื่องจากสมองยังคิดหาเรื่องราวจะคุยกับคนในห้องไม่ได้ ภูชิตจึงตัดสินใจลดมือลงหันหลังกลับ ไปเปิดประตูห้องของตนแทนเสียงเปิดปิดประตูห้องไม่ได้ทำให้คนที่ยืนอยู่ระเบียงกว้างตกใจ เพราะน่านน้ำไม่ได้ยิน เธอยังคงดื่มด่ำอยู่กับภาพบรรยากาศตรงหน้า ภูชิตจัดการถอดเสื้อผ้าโยนลงตะกร้าเตรียมตัวอาบน้ำทันที ร่างแกร่งกำยำเปลือยเปล่ากำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ หากแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะมุมห้อง“ว่าไงสิน” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์และเสียงทุ้มที่ได้ยินตามมาทีหลัง ทำให้คนที่แอบย่องเข้าห้องนอนอื่นสะดุ้งสุดตัว“คุณภูชิตกลับมาแล้ว เอาไงล่ะทีนี้” น่านน้ำเหลียวซ้ายแลขวา ชะโง
“สวัสดีค่ะคุณศศิพิมล” น่านน้ำยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร หากแต่คนที่ต้องรับไหว้กลับชักสีหน้าไม่พอใจเท่าไร“สวัสดีค่ะคุณน่านน้ำ” ร่างสมส่วนอวบอัดเดินเข้าใกล้ภูชิต มือเรียวจับจองคล้องแขนล่ำอย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ริมฝีปากสีสดแสนเซ็กซี่แย้มยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ภูชิตก้มลงมองแขนเรียวที่คล้องแขนตัวเอง แล้วสบตาเจ้าของมือเรียว ใบหน้านิ่งขรึมไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกใดๆออกมา เขาหันไปสบตาน่านน้ำอยู่ครู่เดียวก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน พร้อมกับร่างเย้ายวนที่พยายามเบียดกระแซะร่างของเขาจนแทบจะสิงกันอยู่แล้วเมื่อประตูห้องทำงานปิดลงหลังจากที่สองคนนั้นออกไปแล้ว น่านน้ำก้มลงมองหน้าอกตัวเอง มือเล็กกอดอกจับสองเต้าตัวเองแล้วถอนหายใจ“จะสู้เขาไหวไหมน่านน้ำ ซะบะละฮึ่มขนาดนั้น” น่านน้ำทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง และเริ่มคิดเป็นจริงเป็นจังว่า หากต้องเพิ่
“พอทานได้ไหมครับ” คำถามจากภูชิต ทำให้น่านน้ำตื่นจากภวังค์ เพิ่งรู้ตัวว่าสายตาของตัวเองจ้องมองอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม หญิงสาวยิ้มแก้เก้อ เพราะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเดินมานั่งอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร“เอ่อ...ได้ค่ะ” ตอบแล้วก็ยิ้มกว้าง ก่อนจะก้มลงรับประทานอาหารตรงหน้าอย่างจริงจัง เพราะหิวหรือเพราะเขินอายที่แอบมองแล้วถูกจับได้ก็ไม่รู้“นายคะ วันนี้ของหวานมีลอดช่องน้ำกะทิ กับบัวลอยไข่หวาน นายจะรับอะไรดีคะ” ภูชิตกับน่านน้ำเงยหน้ามองหญิงสาวในชุดผ้าถุงและเสื้อยืดสีขาวรัดรูปเน้นทรวดทรง ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างโต๊ะอาหารที่ทั้งสองนั่งทานอยู่ ภูชิตพ่นลมหายใจออกเบาๆ นั่นเป็นสิ่งที่น่านน้ำสังเกตเห็นแวบเดียวเท่านั้น“คุณน้ำทานอะไรดีครับ” ภูชิตไม่ตอบคำถามของหญิงสาวที่ยืนยิ้มส่งสายตาวิบวับให้ตนเอง แต่กลับหันมาถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าแทน