Home / วาย / นิยายรักสองภาพ / ปลอมตัวซ่อนรัก

Share

ปลอมตัวซ่อนรัก

last update Last Updated: 2024-11-17 17:12:17

           บ่ายนี้อีกฉากหนึ่งซึ่งจะมีเลิฟซีนระหว่างนิวกับมีน จึงทำให้กัสตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าจะได้ใกล้ชิดพีคแบบถึงเนื้อโดนตัว

            นิวนั่งรอการมาของมีนในห้องเพียงลำพัง เพราะวินได้กลับบ้านไปในช่วงวันหยุดทีแรกนิวไม่อยากให้มีนมา แต่โดยลูกตื้อของมีนไม่ไหวเขาจึงจำใจให้มีนเข้ามาในห้องของเขา เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายมีนได้มาถึงไม่ขาดไม่เกินเวลาพอดีประจวบเหมาะ

            “รอนานไหม”สายตาดุจพญาเสือของมีนพุ่งมุ่งไปยังร่างของนิว พร้อมยืนองอาจอยู่หน้าของนิว ซึ่งในขณะนี้นิวนั่งอยู่บนเก้าพลาสติกสีขาว

            “ไม่รู้นะ เพราะว่าเราอยู่ในห้องเป็นปกติ”นิวหลบตาต่ำมองพื้นห้องด้วยแพ้สายตาของมีน

            “อือ เราว่านิวจัดห้องได้สวยมากเลยนะ แล้วเพื่อนของนิวไปไหนล่ะ เราก็กะว่าจะได้มาเจอกันที่นี่”

            “กลับบ้านมาน่าจะมาพรุ่งนี้”

            “ดีเลย”รอยยิ้มของมีนจัดจ้านดั่งพริกหลายสิบเม็ด

            “ดีอะไร”แววตาของนิวเคลือบแคลงสงสัยในคำพูดของมีน

            “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่จะไม่ชวนให้เรานั่งซักหน่อยเหรอ”

            “นั่งสิ เดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้”นิวลุกขึ้นยืนพร้อมก้าวเท้าไปยังตู้เย็น

            “เดี๋ยวก่อน”มีนเอื่อมมือจับแขนของนิวไว้แน่นพอสมควร

            “อะไร”สายตาของนิวมีท่าทีสงสัย และคิดไว้ในส่วนลึกว่ามีนต้องมีแผนในใจอย่างแน่นอน

            “เปลื่ยนเป็นอยากกินนิวได้ไหม”สายตาอันกรุ่มกริ่มมือที่เหนียวและกำลังแขนที่แข็งแกร่งได้ดึงร่างของนิวมานั่งอยู่บนตัก

            “นายจะทำอะไร”

            “ทำอย่างที่คนเขารักกันทำไง”

            “เราพึ่งรู้จักกันนะ”

            “เวลาไม่ใช่ปัญหาขอเพียงใจเราตรงกันแค่นั้นเป็นพอ เรื่องอื่นเราอย่าไปสนมันเลย”

            “คือ”นิวมีท่าทีลังเล

            “ไม่ต้องลังเลอะไรอีกต่อไป”

            นิวรู้สึกตื่นเต้นและหวั่นไหวกับคำพูดของมีน ที่ป้อนมาแต่ละคำทำให้ใจของนิวสุดจะต้านทานแรงรักของมีนได้ นิวจึงทำได้แต่เพียงนั่งนิ่งๆอมยิ้มนิดๆด้วยใจละลายในชั่วเวลานั้น เขารู้สึกถึงสัมผัสจากริมฝีปากของมีน ที่จับใบหน้าของเขาให้โน้มต่ำลงมาชนกับริมฝีปาก เพียงแค่สัมผัสนิดหน่อยใจของนิวนั้นล่วงหล่นหายไปในทันที

            “คัท น้องกัส พีคเก่งมากๆ”เจนนี่ผู้กำกับสาวกำมือชูขึ้นนิดหน่อยและดันลงด้วยความดีใจ

            “สาววายอย่างฉันเลือดกำเดาไหลหมดตัวแล้ว”เกรซแอคติ้งโค้ชที่ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ในวันนี้เท่าไร เพราะพีคและกัสแสดงได้อย่างถึงอามรณ์

            กัสรู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก เขาจึงยังนั่งบนตักของพีคอยู่เหมือนเดิม เหตุหนึ่งที่กัสยังไม่ลุกขึ้นจากตักของพีค เพราะพีคยังไม่ได้คลายกอดนิวเช่นเดียวกัน

            “พีค มันจบแล้ว เลิกกอดนิวได้ไหม”เกรซเอ่ยขึ้น

            “โทษทีลืมตัว”พีคอมยิ้มนิดๆพร้อมคลายกอดนิวที่เกร็งร่างไปทั้งตัว

            เมื่อพีคคลายกอด กัสจึงรีบลุกจากตักของพีค แล้วก้มหน้าต่ำด้วยความเขินอายที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

            “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ พรุ่งนี้เป็นฉากสำคัญ เป็นการซ้อมครั้งแรกฉากสามคนนะ กัสเตรียมตัวไว้ด้วย เพราะจะเป็นฉากพีคของเรื่องและดราม่าหนักมาก”

            “ครับ ถ้างั้นผมกลับก่อนนะครับ”นิวยกมือไหว้ทุกคนรวมทั้งพีคด้วย

            “วันนี้ไม่ไปส่งน้องกัสเหรอนั่งเงียบเลย”เจนนี่เอ่ยขึ้น

            “ไปสิ”พีคลุกขึ้นยืนทันที แล้วเดินไปยังนิวที่กำลังเดินออกจากห้องชมรมละครเวที

            กัสเดินตัวเกร็งเคียงคู่พีคที่มีสีหน้านิ่งเฉย แต่นิวไม่ได้สนใจใบหน้าและท่าทางของพีคแต่อย่างใด เขาได้แต่ก้มหน้าเดินไปเรื่อยๆ จนถึงรถของพีคที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก เมื่อถึงทั้งคู่ขึ้นเข้าไปยังในรถ หลังจากนั้นพีคก็ขับรถแล่นออกไปในทันที

            “พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่ากัสจะมีมุมหวานๆด้วย”คำพูดของพีคดูเหมือนชม แต่สายตาของเขาไม่ได้บ่งบอกเหมือนอย่างที่พูด

            “ก็ไม่หวานขนาดนั้นหรอกครับ”

            “คนเก่ง มักจะถ่อมตัวอย่างนี้แหละ”

            “ก็ไม่ได้เก่งอะไรนะครับ”

            “ขนาดนี้ไม่เก่งจะให้เรียกว่าอะไรอีกล่ะ”

            “เรียกอะไรก็ได้”กัสเขินอายจนถึงกับจับนิ้วตัวเองเล่น

            “เรียกอะไรก็ได้ ถ้างั้นก็เรียกแบบนี้ดีกว่า น้องนิวน้องรัก”พีคหันมายิ้มให้กัสพร้อมกับเม้มปากพยักหน้าเล็กน้อย

            “อย่างงั้นก็ได้ครับ”

            ด้วยความเขินอายจึงทำให้นิวไม่ได้ฟังความหมายเป็นนัย ในสิ่งที่พีคพูดขึ้นมาอย่างตั้งใจ กัสจึงได้แต่คิดไปเพียงว่าพีคอาจเริ่มมีใจให้เขาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย

            “ยิ้มอะไรเหรอ ดูสิยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”พีคเห็นอากัปกิริยาของกัส เขาก็อมยิ้มตามนิวด้วยความเอ็นดู

            “ไม่มีอะไรหรอกครับพี่พีค”

            นิวไม่สามารถที่จะโต้ตอบหรือพูดจาต่อกับพีคได้ เพราะช่วงเวลานี้เขายังรู้สึกเขินอยู่ จนไม่อยากมองหน้าพีคที่กำลังขับรถมาส่งเขายังห้องเช่า ซึ่งก็ใช้เวลานานสมควรกว่าจะมาถึง

            “พรุ่งนี้เจอกันนะ”พีคยิ้มเต็มทั้งใบหน้า

            “ครับ”กัสยิ้มตอบอย่างขวยเขินและก้มหน้านิดนึงก่อนลงจากรถ

            เมื่อกัสมาถึงบนห้องของเขา กัสจึงไม่รอช้าเปิดโน๊คบุ๊คทันที เขาพร้อมที่จะเขียนนิยายอย่างมีความสุขอีกครั้ง

            ยิวได้สลัดความเศร้านั้นทิ้งไปตามคำแนะนำหัวหน้าขบวน และยิวก็ได้สิ่งของคืนทุกอย่างตั้งแต่แหวนและเครื่องรางของขลังในย่าม พร้อมมีดพกขนาดเล็กที่นำติดตัวไปด้วย ก่อนที่จะเข้าไปในเมืองศิลานคร ยิวได้ขอผ้าโพกศรีษะจากหัวหน้าขบวน โดยที่ยิวรับปากไว้ว่าถ้าถึงในเมืองแล้วให้หัวหน้าขบวนได้พาลูกชายไปหาเขาได้เลย ซึ่งยิวก็ได้ทำความรู้จักลูกชายหัวหน้าขบวนไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอายุนั้นน้อยกว่ายิวสามถึงสี่ปี เพราะยิวพึ่งจะย่างเข้ายี่สิบเอ็ด ลูกชายของหัวหน้าขบวนอายุราวๆสิบหกชื่อจอม ซึ่งรูปร่างสูงใหญ่กว่ายิวอย่างมาก

            ร่างกายผอมบางของยิวได้ยืนต่อคิวเพื่อเข้าเมืองศิลานคร ซึ่งยิวได้ต่อคิวไม่นานก็ขึ้นช่วงเวลาของเขาที่ต้องตอบคำถามของทหารเฝ้ายามประตูเมือง

            “เดี๋ยวก่อน”ทหารยามนายหนึ่งเรียกยิวให้ออกจากผู้คนที่ต่อแถว

            “ชื่ออะไร”ทหารนายนั้นถามห้วนๆ

            “ชื่อโสพล”

            “ผู้หญิงอะไรชื่อโสพล”

            เมื่อยิวได้ยินเช่นนี้ก็เป็นตามแผนการณ์ที่เขาวางไว้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาเป็นอิสตรี ยิวจึงต้องเปลื่ยนชื่อกะทันหัน เมื่อเขาลองแกล้งบอกชื่อโสพลไป และเหล่าทหารคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง

            “ข้าชื่อโสภี”ยิวพยายามปิดบังใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันผมของยิวเริ่มยาวถึงบ่าจึงทำให้ดูเหมือนหญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม

            “หน้าตาสะสวยดี อย่างนี้ต้องคัดเข้าไปทำงานในวัง”

            “คือ ข้าคงไปไม่ได้หรอก”

            “เอ็งคิดจะขัดขืนเหรอ”ทหารคนเดิมเสียงห้วนขึ้น พร้อมจ้องมองยิวอย่างเขม็ง

            “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก คือข้าเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒ”

            “เอ็งเอาอะไรมาพูด ท่านแม่ทัพไม่เคยมีเมีย”

            “ข้าจะโกหกทำไม โกหกไปก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด เพราะความจริงถ้าข้าไม่ใช่ เมื่อท่านแม่ทัพเห็นข้าถ้าไม่ใช่ ก็คงโดนท่านแม่ทัพสังหารเป็นแน่”ยิวพยายามใช้คำพูดให้ดูเข้ากับยุคสมัยให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งพูดเขากับยิ่งงงพูดวกวนจนทหารต้องทบทวนคำพูดของยิว ก่อนจะโต้ตอบกลับมาอีกครั้ง

            “มันจะใช่อย่างที่เอ็งว่ารึ”

            “ก็ได้ ท่านคิดว่าแต่ไม่ใช่ ถ้าเกิดท่านแม่ทัพรู้ทีหลังพวกท่านอาจเดือดร้อนก็ได้ อ่อ ข้ายังรู้จักทหารคนสนิทของท่านแม่ทัพด้วยที่ชื่อทัน”

            เมื่อทหารคนเดิมได้ยินยิวพูดจาหนักแน่นและย้ำหลายรอบ เขาจึงเริ่มเชื่อคำของยิวบ้างแต่ยังไม่ไว้ใจซะทีเดียว ทหารคนนั้นจึงตัดสินใจส่งตัวยิวไปเรือนท่านแม่ทัพ แทนนำตัวเข้าไปเป็นข้าทาสในวัง เพราะอย่างน้อยถ้าเป็นเมียท่านแม่ทัพจริง อาจได้ความดีความชอบและมีรางวัลให้ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแค่ส่งเข้าไปในวังตามความคิดเดิม

            “ข้าจะให้นายทหารพาเอ็งไป แต่อย่ามีลูกไม้ใดๆรู้ไว้ด้วย มิเช่นนั้นคออาจจะไม่ได้อยู่บนบ่า”

            “ข้าจะมีลูกไม้อะไร เพราะถ้าข้าไปแล้วไม่ใช่เมียท่านแม่ทัพ คิดเหรอท่านแม่ทัพจะไว้ชีวิตข้า”

            “ท่านแม่ทัพไม่ทำอย่างนั้นหรอก เขาก็จะส่งเอ็งไปในวังเหมือนเดิม”

            ยิวไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากปลอมตัวเป็นหญิงเข้าไปเรือนท่านแม่ทัพ จากคำพูดและพูดจาของทหารคนนี้ทำให้ยิวแน่ใจมากยิ่งขึ้น ว่าท่านแม่ทัพวิศรุฒยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้โดนฆ่าตายอย่างคำบอกเหล่าของเสือเข้ม

            “เอ็งไปได้แล้ว”

            ยิวยังไม่ได้ทันตั้งตัวเตรียมใจแต่อย่างใด ทหารคนใหม่ก็เดินมาหาเขาและพาตัวเขาเดินเข้าไปในเมืองศิลานคร ก่อนเดินเข้าไปลึกขึ้น ยิวได้เห็นหัวหน้าขบวนกับลูกชายยิ้มให้อย่างยินดี ยิวจึงทำได้แค่ยิ้มตอบรับอย่างอ่อนๆ แล้วหันมาคุยกับทหารคนใหม่ที่กำลังจะพาเขาไปยังเรือนท่านแม่ทัพวิศรุฒ

            “ท่านเรือนแม่ทัพวิศรุฒอยู่อีกไกลไหม”

            “ไม่ไกลหรอก หรือว่าเอ็งจะกลัวขึ้นมาแล้ว ถ้ากลัวกลับใจตอนนี้ยังไม่สายนะ”

            “ทำไมข้าจะต้องกลัวด้วย”

            “ถ้าไม่กลัวก็ตามข้ามาและไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ”

            สายตาของยิวมองค้อนทหารคนใหม่ตอนทีเผลอ เพราะไม่กล้าแสดงออกมาตรงๆ ยิวจึงได้แค่เดินตามทหารคนใหม่อย่างเงียบๆจนมาถึงเรือนท่านแม่ทัพวิศรุฒ ยิวจึงรีบมองเข้าไปข้างในทันที ซึ่งเป็นเรือนไม้หลังใหญ่มีอาณาบริเวณกว้างขวางสุดลูกตา ยิ่งยิวมองไปรอบๆแล้วอดคิดไม่ได้ว่าเหมือนเรือนเหล่าอำมาตย์ ในละครจักรๆวงศ์ๆอีกมิติหนึ่งที่เขาจากมา

            “ยืนเหม่ออะไรหรือว่ากลัว”ทหารคนใหม่มองด้วยสายตาปรามาส

            “กลัวอะไรซะที่ไหน ทำไมต้องกลัวเพื่อ”

            “เอ็งนี่พูดจาแปลกประหลาด ไม่รู้ท่านแม่ทัพเอาเป็นเมียได้ไง”

            “พูดกับเมียท่านแม่ทัพดีๆนะไม่งั้นคอจะไม่อยู่บนบ่า”

            ด้วยความกลัวว่ายิวจะเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒจริงๆ ทหารที่พายิวมาจึงไม่พูดอะไรต่ออีกเลย ได้แต่เดินนำหน้ายิวมายังเรือนท่านแม่ทัพจึงถึงตีนบันได โดยทหารคนเดิมเดินขึ้นไปบันได้ขั้นสองขั้นสาม พอจะขึ้นขั้นสี่ทหารคนนั้นหยุดมองยิว แล้วใช้สายตาบ่งบอกให้ขึ้นตามมา ยิวจึงรีบขึ้นตามไปด้วยใจที่ระทึกจนถึงบนเรือนชาน และสิ่งที่พบเห็นมีหญิงสาวสูงวัยนั่งพับเพียบกินหมากพลู อยู่กับหญิงสาววัยอ่อนกว่าหลายคนกำลังนั่งพัดวีให้คลายร้อน

            “นั่งลง”ทหารคนเดิมกระซิบเบาๆให้ยิวได้นั่งลง

            ตอนแรกยิวได้นั่งขัดสมาธิตามทหาร แต่โดนสายตาของเหล่าหญิงสาวตรงหน้ามองอย่างใคร่สงสัย เขาจึงเปลื่ยนมานั่งพับเพียบเรียบร้อยอย่างกับในละคร

            “เอ็งพาใครมารึ”หญิงสาวสูงวัยเอ่ยขึ้นกับทหารและมองมายังยิวที่ก้มหน้าก้มตา

            “หญิงสาวผู้นี้ได้บอกข้าว่าเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒ”

            “ฮ่ะ วิศรุฒลูกข้าไปเมียมีตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่กลับมาจากเมืองโสรยาก็ไม่เห็นพูดเรื่องเช่นนี้ให้ข้าได้ฟังเลย”

            หญิงสาวสูงวัยอายุสี่สิบกลางๆมองยิวอย่างใคร่สงสัย และแปลกใจไปในตัวว่าบุตรของเขาแอบไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไร โดยที่เธอไม่ได้รับรู้มาก่อนเลย

           

           

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status