Share

วันประหาร

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-05 18:46:53

ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี

“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด

“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก

“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”

“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”

“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”

“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”

“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”

“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”

“อืม”

“กระหม่อมทูลลา”

ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่นกลัวไปไม่ทันการณ์ เพราะในตอนนี้เขาได้เข้าใจความรู้สึกตัวเอง และได้รู้ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างจากปากเสือเข้ม จึงทำให้อยากกลับไปในทันทีทันใดให้ทันเวลา เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจไปเมืองศิลานครในเวลานี้ เพราะอย่างน้อยต้องเดินทางสามวันสามคืนกว่าจะถึง ซึ่งเมื่อไปถึงเมืองศิลานครเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับวันประหารองค์ชายเมธี

ในความมืดมิดที่ยิวได้อาศัยอยู่ด้วยความลำบากในห้องแคบๆ คืนแล้วคืนเล่าผ่านมาผ่านไป ซึ่งเขาไม่รู้วันเวลานั้นเลย เพราะในห้องนี้มีแต่ความมืดกลิ่นสาปความสกปรกปกคลุมทั่วห้อง จนในที่สุดวันที่ได้พ้นจากห้องอันแสนทรมานนี้มาถึง ด้วยทหารนายหนึ่งเปิดประตูเข้ามา จึงได้มีแสงสว่างสาดส่งทั่วห้องอีกครา

“ถึงเวลาที่องค์ชายต้องไปลานประหารแล้วนะพระเจ้าค่ะ” ทหารนายนั้นมองยิวด้วยท่าทีนิ่งเฉย

“เหรอ” ยิวนั่งหงอยทันที

“ถ้าองค์ชายไม่ได้ฆ่าองค์ชายศิธา เหตุการณ์เช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นกับพระองค์หรอกพระเจ้าค่ะ”

“อืม”

“พระองค์ไปกับกระหม่อมแต่โดยดี ถึงอย่างไรพระองค์ก็หนีไม่พ้นหรอกพระเจ้าค่ะ”

ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา ยิวได้ทำใจได้บ้างพอสมควร จึงไม่ค่อยตื่นตระหนกเท่าไร แต่เขาก็ยังมีความกลัวอยู่ไม่คลาย ถึงจะไม่มากแต่ก่อนก็ตามที ยิวจึงได้แต่เดินตามเหล่าบรรดาทหารนั้นไปยังลานประหาร ที่จัดสถานที่รอไว้อยู่แล้วตั้งวันวาน และในวันนี้ได้มีราชาศิลามาคุมการประหารเอง พร้อมพระโอรสองค์รองและองค์สุดท้องนั่งขนาบข้าง เพื่อมาดูพิธีการต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้

เพียงแค่ยิวเดินออกมาจากประตูเมือง ก็ต้องพบกับเสียงโห่ร้องขับไล่ สาปแช่งชักหักกระดูก พร้อมมีสิ่งของและผลไม้ปาใส่ร่างกาย ซึ่งเขาไม่สามารถหลบไปทางไหนได้เลย เพราะมีแต่ทหารและราษฎรเมืองศิลานคร ที่มาดูพิธีการประหารตัวเขาเองในวันนี้

ยิวจำทนจำยอมเดินมาจนถึงจุดประหาร โดยมีเสาขนาดสั้นตั้งอยู่ ซึ่งยิวคาดว่าน่าจะให้เขาได้นั่งตรงนี้อย่างแน่นอน

“องค์ชายนั่งลงพระเจ้าค่ะ” ยิวทำตามอย่างว่าง่ายเขานั่งลงทันใด หลังจากนั้นนายทหารได้มัดมือของยิวติดกับเสานั้นอย่างแน่น มีเพียงคอเท่านั้นที่อยู่เหนือเสาในแดนประหาร

สายตาของยิวมองไปรอบๆ บริเวณที่มีผู้คนมากมายรายล้อม และมีสามคนที่นั่งสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งยิวขาดการณ์ไว้ว่าเป็นราชาศิธากับบรรดาพระโอรสอย่างเป็นแน่

“องค์ชายเมธาเอ็งได้ทำความผิดใหญ่หลวง เพราะเอ็งได้ลอบปลงพระชนม์องค์ชายศิธา ซึ่งเป็นรัชทายาทแห่งศิลานคร ด้วยความผิดของเอ็งโดนตัดคอสิบรอบก็ไม่สาสม กับความผิดของเอ็งที่ได้ก่อไว้ในครั้งนี้” สายตาของราชาศิลาแฝงไว้ด้วยความอาฆาต

“เอาล่ะ ถึงเวลาที่เอ็งต้องลาจากโลกนี้ไปแล้ว”

“เสด็จพ่อถ้าเราทำแบบนี้ เอ่อ แม่ทัพวิศรุฒ ไม่ใช่สิ ราชาวิศรุฒจะไม่ว่ากะไรหรือ” องค์ชายรองเอ่ยขึ้นด้วยความวิตกกังวล ด้วยกลัวราชาวิศรุฒโกรธ จนมาทำศึกสงครามกับศิลานคร และไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะรบชนะ ถ้าเป็นเช่นนั้นตำแหน่งรัชทายาทที่เขาเฝ้ารออาจสั่นคลอน

“จะเป็นไรเล่า ก็องค์ชายเมธีนั่นถึงกับฆ่าพระเชษฐาของเอ็งเลยนะ” ราชาศิลาหันมาจ้องตาองค์ชายรองอย่างดุดัน

“ทั้งสองเขามีศักดิ์เป็นพี่น้องกันนะพระเจ้าค่ะ”

“ใช่ เราจึงต้องรีบจัดการก่อนราชาวิศรุฒจะมาไง เพราะมันฆ่าพระเชษฐาของเองเชียวนะ เราต้องรีบจัดการจะได้มีข้ออ้างได้ว่าไม่รู้”

“พระเจ้าค่ะ” องค์ชายรองเงียบลงตามเดิม เพราะขืนพูดไปก็ไม่ส่งผลดีแต่ตัวเขา

ราชาศิลามองยิวอย่างเคืองแค้น อยากจะฆ่าด้วยน้ำมือตัวเอง แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะโทษนี้ใหญ่ยิ่งนัก จึงจำเป็นต้องฆ่าให้ราษฎรรับรู้ เพื่อเป็นการตักเตือนกลายๆ

“ประหาร” ราชาศิลาออกคำสั่งอย่างดุดันและมีสายตาที่โหดเหี้ยมมองไม่กระพริบ

ยิวนั้นใจไม่สามารถที่จะนิ่งได้อีกต่อไป เพราะเวลาอันเลวร้ายได้มาถึงอย่างที่คาดคิดไว้ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลานี้ทำได้เพียงหลับตา ด้วยไม่สามารถทำใจให้เห็นเพชฌฆาตเงื้อมดาบฟันคอได้ ถึงแม้เปลือกตาจะปิดสนิท แต่น้ำตาก็ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ในห้วงคำนึงมีแต่ใบหน้าและเรือนร่างของแม่ทัพวิศรุฒ เพราะเขาเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ยิวอยู่ได้ถึงทุกวันนี้

เพียงคมดาบมาถึงต้นคอ ดวงตาที่หลับปรือได้ลืมขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ตกใจสุดขีดไม่ทันตั้งรับ ร้องสุดเสียงที่จะตะโกนได้ แต่ไร้ผลคมดาบนั้นที่มาด้วยความแรงได้เข้าไปภายในเนื้ออย่างรวดเร็วไม่ทันได้รู้สึกใดๆ

จังหวะเดียวกันนั้นราชาวิศรุฒได้ขี่ม้ามายังลานประหาร พร้อมจอมคนสนิทได้ตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด ถึงแม้เสียงตะโกนจะดังลั่นปานใดที่ออกมาจากใจและลำคอ แต่ไม่ทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอีกต่อไป เพราะศีรษะนั้นได้ล่วงหล่นลงกับพื้น พร้อมเลือดสาดพุ่งกระจายและไหลลงพื้น

“อย่า หยุดก่อน”

แม่ทัพวิศรุฒนั่งบนม้าอ้าปากค้างตาโตปานจะทะลักออกมา ใจนั้นหวิวดิ่งสุดขั้วเต้นระรัว ร่างกายเกร็งนิ่งดุจดั่งสิ่งไร้ชีวิต ดวงตาเริ่มหรี่ลงอย่างแต่เดิม พร้อมกับน้ำใสๆ ออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว ด้วยภาพตรงหน้าเป็นร่างชายหนุ่มมัดติดกับเสา แต่ศีรษะนั้นแยกออกอยู่ข้างกาย ในขณะดวงตายังไม่ปิดสนิท

“พระองค์จะทำเช่นใดต่อไปพระเจ้าค่ะ” จอมขยับเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกระซิบเบาๆ ด้วยใจอันราวร้าน

“สิ่งสุดท้ายที่ข้าจะทำให้องค์ชายเมธีได้ นำร่างไปยังเมืองเมฆาบุรี หลังจากนั้นตัดขาดจากเมืองศิลานคร ข้าจะกลับไปเรือนของพ่อข้าก่อน เอ็งอยู่ทางนี้จัดการพระศพองค์ชายเมธีด้วย”

“พระเจ้าค่ะ” จอมรับคำ

ราชาวิศรุฒไม่สามารถทำใจได้ เขาจึงบังคับม้าให้หันหลังกลับไป และไม่เหลียวหลังมาอีกเลย จนร่างหายลับจากลานประหาร

ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งมองเจดีย์บรรจุกระดูกร่างของยิวอยู่ภายใน หลังจากองค์ชายเมธีสิ้นชีพ ราชาวิศรุฒได้ทำการเผาศพที่เมืองศิลานคร แล้วเก็บกระดูกเอามาฝังยังเมืองเมฆาบุรี โดยที่ราชาศิลาไม่กล้าขัดขวางแต่อย่างใด ถึงแม้จะไม่มีการฆ่าล้างแค้นแต่ก็ตัดขาดจากกันโดยสิ้นเชิง เหตุที่ทำเช่นนี้ เพราะราชาวิศรุฒได้เห็นแก่ท่านอำมาตย์ที่เลี้ยงดูมา ถ้าทำอะไรรุนแรงเรื่องราวจะบานปลาย จึงตัดจบความสัมพันธ์เป็นการดีที่สุด

“ข้าขอโทษเอ็งด้วยนะโสภณ ข้าไม่รู้ว่าเอ็งเป็นใครมาจากไหน แต่วันแรกที่ข้าได้รู้จักเอ็ง มันทำให้ข้ามีชีวิตชีวา ได้รับรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้พบเห็นและได้ยิน ข้าต้องขอบใจเอ็งทุกๆ อย่างที่มอบให้ข้า ขอให้เอ็งไปสู่สุขคติถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เอ็งเกิดเป็นหญิงข้าเป็นชายได้พบเจอกันอีกครั้ง สำหรับชาตินี้คงจบกันเพียงเท่านี้”

เมื่อแม่ทัพวิศรุฒพูดจบก็นำดอกไม้ที่ถือไว้ ไปวางที่แท่นแล้วยืนนิ่งชั่วครู่ ก่อนตัดสินใจหันหลังกลับแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ ด้วยใบหน้านิ่งเฉยดวงตาฉ่ำไปด้วยความเศร้า และดวงใจอันแตกสลายกลายเป็นความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงตลอดเวลา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status