หน้าหลัก / วาย / นิยายรักสองภาพ / นิยายรักสองภพ จบ

แชร์

นิยายรักสองภพ จบ

ผู้เขียน: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 18:54:51

ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก

“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่น

มือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด

“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนก

ยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน

“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันที

เมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขียนนิยาย ยิวจึงรีบอ่านทันใดในตอนสุดท้าย เพียงอ่านแค่นี้ยิวก็เข้าใจทุกอย่างจนจบสิ้น จึงไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดที่ต้องอ่านตั้งแต่ต้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่คิดได้ทันใดที่อ่านจบ นั่นคือความรู้สึกผิดและสงสารกัสที่ได้เข้าไปในนิยาย และได้ตายแทนเขาอย่างโหดร้าย ยังมีอยู่อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความทรมานใจเขาอย่างมาก นั่นคือความรักความคิดถึงความผูกพันที่มีต่อแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งนับจากวันนี้เป็นต้นไปคงไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันอีก ยิวยิ่งคิดยิ่งร้าวใจยิ่งนัก จนไม่สามารถจะทำอะไรได้ต่อจากนี้

ยิวหลับตานิ่งและรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น เหนือสิ่งนั้นยังได้เห็นคลิปวีดีโอกัสกับพีคอีก ช่วงเวลานี้เขาสับสนและไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ด้วยเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนรับไว้ไม่ไหว ในระหว่างที่กำลังอยู่ในห้วงดิ่ง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแต่ยิวก็ไม่รับ จนครั้งที่สาม จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เมื่อเห็นเป็นชื่อของพีคเขาจึงรับด้วยความอยากรู้

“ฮัลโหล”

“น้องกัสเป็นไงบ้างดีขึ้นหรือยัง”

“เอ่อ อ่า อะไรครับ” ยิวงงกับคำถามเพราะเขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่พีดเอ่ยถาม

“พี่หมายถึงทำใจได้หรือยังที่เลิกกับเป็ก”

“อ่อ ทำใจได้แล้วครับ” ถึงแม้ยิวจะงงเพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็เอ่อออหอหมกไปกับพีค

“ดีแล้ว ตอนแรกพี่กะว่าจะไปหาอยู่พอดี แต่พี่มีธุระด่วนเอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้ไปเจอกันที่ชมรมละครตอนบ่ายๆ”

“ครับ”

“ถ้าอย่างงั้นแค่นี้ก่อนนะ เพราะพี่มีธุระต้องทำอีกหลาอย่าง เอาไว้ฟังข่าวดีในวันพรุ่งนี้นะ”

“ครับ” ยิวตอบไปด้วยความมึนงง

ถึงแม้ยิวจะยังไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน แต่อย่างน้อยในนิยายได้รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เขาจึงตัดสินใจจะทำอย่างหนึ่งให้กับกัสผู้ล่วงลับ

เช้าตรู่วันใหม่ยิวได้เข้าไปในวัด เพื่อทำสังฆทานแก่ยิวผู้ล่วงลับแทนในร่างของเขา ตอนกรวดน้ำเขาอุทิศบุญกุศลที่ได้ทำให้แก่กัส ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าจะได้รับไหมเพราะกัสได้เสียชีวิตในนิยาย ไม่ใช่ล่วงลับในโลกปัจจุบัน แต่อย่างน้อยเพื่อความสบายใจของตัวเอง เมื่อได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้น ยิวจึงได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อไปเรียน และใช้ชีวิตในร่างของกัสต่อไป

เมื่อยิวได้เข้าไปในมหาวิทยาและเดินไปยังคณะที่เขาได้เรียน สายตาได้มองซ้ายมองขวาและได้เห็นเป็กนั่งเศร้าอยู่เพียงคนเดียว ยิวจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจยิ่งนัก เพราะอย่างน้อยจะได้เจอเพื่อนเก่าตอนหลงเข้ามาในโลกความจริง

“ทำไมมานั่งคนเดียว” ยิวนั่งลงฝั่งตรงข้ามเป็ก

“มาทำไม” เป็กยังหน้าบึ่งอยู่เช่นเดิม

“มาหานายไง”

“เราสองคนมันจบแล้วนิ เราเป็นคนเจ็บแล้วจำ นายไม่ต้องกลัวหรอกเรื่องที่นายให้เราทำ มันสำเร็จไปแล้วนายรอฟังข่าวได้เลย แต่ตอนนี้เราไม่อยากเห็นหน้านาย คนหลายใจคนเฮงซวย ในเมื่อนายรักไอ้พีคก็ไปคบกันมันซะ อย่ามาคบซ้อนมีโลกสองใบ” เป็กเน้นคำเฮงซวยแล้วรีบลุกจากไปในทันที

ยิวเข้าใจทันควันเมื่อได้ยินคำของเป็ก และคลิปวีดีโอที่เขาได้เห็นเมื่อวานนี้ ซึ่งยิวคิดว่าเป็นเรื่องจริง นั่นทำให้เขาหวั่นวิตกเมื่อเจอหน้าพีคจะทำเช่นใด แสดงอาการแบบไหนออกมาในเมื่อเขาไม่ใช่กัส ถึงแม้จะรอดตายจากในนิยายแต่กับต้องมาเจอปัญหาใหญ่ในโลกความจริง จึงทำให้ในใจของยิวคิดเพียงแต่ว่าให้ชีวิตจริงนำพาไปเอง

ช่วงบ่ายๆ ยิวได้ไปตามนัดไว้ในชมรมละครเวที เมื่อไปถึงก็เช่นเดิมเขาจำได้ทันทีเมื่อครั้งก่อนได้เคยมา เขามองไปรอบๆ ต่างเห็นสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสของแต่ละคน เมื่อยิวได้นั่งลงพีคก็เดินมายังหน้านักศึกษาในชมรม

“วันนี้พี่มีข่าวดีจะมาบอกทุกคนนะครับ ซึ่งเป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีทีเดียว เอาเป็นว่าพี่ไม่ขอพูดอะไรมาก แค่อยากบอกว่าตอนนี้ทางชมรมได้บทละครเวทีแล้ว โดยคณะกรรมหานิยายมาให้เราได้แสดงกัน พี่คิดว่าหลายคนในที่นี้คงได้อ่านกันอย่างแน่นอน เพราะว่ากำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้” 

“อุ๊ย บอกซะทีสิพูดมากอยู่ได้” เจนนี่ผู้กำกับสาวเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด

“นั่นนะสิจะอ้อมทวีปไปถึงไหน” เกรซมองค้อนพีคอย่างเอ็นดู

“เอาล่ะ บอกเลยก็แล้วกัน นิยายเรื่องนี้ก็คือ นิยายรักสองภพครับ”

ยิวตกใจหันควับมองหน้าพีค ดวงตาที่เล็กกลับมาเบิกกว้าง ด้วยอุตส่าห์หลุดมาจากนิยายแล้วนี่ ยังต้องมาแสดงในละครเวทีอีก เป็นเรื่องช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนัก

“เอาล่ะเงียบๆ” เจนนี่ผู้กำกับสาวพูดขึ้น เพราะเสียงบรรดานักศึกษาได้คุยกันเสียงดัง

“พวกพี่ได้เขียนบทละครเสร็จแล้วเมื่อกี้ เพราะเริ่มเขียนมาพักหนึ่งพร้อมนิยาย ตอนนี้นิยายจบแล้วและได้กลายมาเป็นบทละคร และเราต้องขอบคุณเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ให้เราได้สร้างละครเรื่องนี้ฟรี ซึ่งพี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ คณะกรรมการคัดเลือกเรื่องนี้มาให้เราได้ทำการแสดง ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว”

“ใช่ อย่างพี่เจนนี่พูดทุกอย่าง ในเมื่อทุกอย่างพร้อมนักแสดงก็เช่นกัน พวกพี่ประชุมกันไว้แล้ว ตัวละครสำคัญเรายังใช้ชุดเดิม มีเพียงเขื่อนเท่านั้นที่ลาออกจากชมรมไป แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เอาล่ะ ตัวละครสำคัญสองตัวละคร คือ แม่ทัพวิศรุฒกับยิว ซึ่งเป็นใครไม่ได้เลยคนที่รับบทยิว เราเห็นตรงกันว่าเป็นกัส ส่วนแม่ทัพวิศรุฒตอนแรกกะจะหาคนหน้าไทยๆ แต่พี่พีคเขาเสนอตัวเอง ตอนแสดงค่อยทาตัวดำๆ ก็แล้วกัน หลังจากนี้พี่พีคของเราต้องเข้าฟิสเนตสร้างกล้ามเนื้อเพราะต้องถอดเสื้อทั้งเรื่อง ในเมื่ออยากเป็นแม่ทัพวิศรุฒต้องเปลื่ยนตัวเองให้ได้” เกรซหันมามองพีคที่ยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ครับ พี่อยากเล่นบทนี้มากเลย เดี๋ยวพี่จะไปอาบแดดให้ตัวดำ” เมื่อพีดพูดจบก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย

ยิวนั่งนิ่งๆ ไม่ยิ้มแม้แต่น้อย ถึงแม้บทละครจะยี่นถึงมือก็ไม่พร้อมเปิดอ่าน เพราะกลัวจะหลุดเข้าไปในนิยายอีกครั้ง

“น้องกัสเป็นอะไรไม่อยากเล่นละครเวทีเรื่องนี้เหรอ ดูทำหน้าเข้าสิ เอ่อ พี่เข้าใจ กัสยังอาจทำใจเรื่องเป็กไม่ได้” พีคนั่งลงข้างๆ ยิวพร้อมยิ้มให้อย่างสดใส เพื่อเอาใจและให้คลายเศร้าอย่างที่เขาคิด

“อ่อ อืม ไม่มีอะไรครับ” ยิวตอบไปด้วยความมึนงงและด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

“เอาล่ะ วันนี้เอาไว้แค่นี้นะ เดี๋ยวพี่นัดอีกทีจะมาซ้อมละครวันไหน” เจนนี่พูดขึ้นและปิดการประชุม หลังจากนั้นบรรดานักศึกษาในชมรมต่างเดินออกจากไปจนเกือบหมด

“กลับกันเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้อง” พีคเอ่ยขึ้น

“ครับ” ยิวยังนิ่งด้วยความอึ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

สองหนุ่มต่างความรู้สึกอยู่ในรถคันหรู อีกคนเป็นฝ่ายขับยิ้มแย้มอารมณ์ดี เพราะเริ่มทำใจได้กลับเรื่องรักร้าวที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันได้มีความรู้สึกดีๆ กับคนนั่งข้างๆ ส่วนอีกคนใบหน้าหม่นหมองตรึงเครียดจากเรื่องราวที่ผ่านมา และยิ่งมาเจอเหตุการณ์ตอกย้ำความรู้สึกเมื่อครู่อีก จึงไม่สามรถทำให้อารมณ์เบิกบานได้ไปกว่านี้

“ไหนบอกว่าทำใจได้แล้วไง ทำไมทำหน้าตาอย่างงั้นล่ะ” พีคหันมามองใบหน้าของกัสด้วยความสงสัยและวิตกกังวล

“ก็ คือละครเวทีเรื่องนิยายสองภพนี่ ถ้ากัสไม่เล่นได้ไหมครับ”

“ทำไมล่ะ”

“คือ เอ่อ”

“เราอุตส่าห์ฝ่าฟันอุปสรรคกันมา กว่าจะได้บทละครเรื่องนี้ พี่อ่านแล้วชอบมากเลย หลายคนก็ชอบไมว่าจะเป็น พี่เกรซ พี่เจนนี่ กัสไม่ชอบเรื่องนี้เหรอหรือว่ายังทำใจเรื่องเป็กไม่ได้”

“ครับ ประมาณนั้น สภาพจิตใจกัสยังไม่พร้อมครับ”

“พี่เข้าใจนะ แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่นี่แหล่ะจะรักษาแผลใจของกัสให้เอง หวังว่ากัสจะให้พี่ไปสมานแผลให้นะ” พีคอมยิ้มอย่างกรุ่มกริ่ม

“เขื่อนล่ะครับ” ยิวถามด้วยสีหน้าสงสัย

“พี่ทำใจได้แล้ว ไม่ต้องห่วงพี่หรอก ว่าแต่กัสนั่นแหละทำใจไวๆ นะพี่รออยู่ แต่เรื่องแสดงละครเวที ถ้ากัสไม่เล่นพี่จะเสียใจมากเลย รวมทั้งพี่ๆ ในชมรมทุกคน แต่พี่ยังสงสัยอยู่ดี ใครกันเอานิยายเรื่องนี้ไปเสนอกับคณะกรรมฝ่ายละครเวทีมหาวิทยาลัย แต่ก็ช่างมันเถอะถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ”

“ขอเวลากัสได้คิดคิดสักหน่อยได้ไหมครับ” ยิวหันไปมองกัสด้วยสายตาเชิงขอร้อง ส่วนความสงสัยของพีคนั้นยิวไม่อยากรับรู้ใดๆ เขาจึงไม่ออกความคิดเห็น

“อืมก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะคุยกับเกรซและเจนนี่นะ พี่สองคนใจดีคงเข้าใจ แต่พี่อยากให้กัสเล่นเรื่องนี้กับพี่ แต่ท้ายที่สุดถ้ากัสไม่อยากเล่นก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นสิทธิของกัส”

“ขอบคุณครับที่พี่พีคเข้าใจนะครับ”

“ถ้าพี่ไม่เข้าใจกัสแล้วใครจะเข้าใจล่ะ” พีคหันหน้ามายิ้มให้กัสอย่างอารมณ์ดี

“ครับ” ยิวอมยิ้มแบบไม่เห็นไรฟัน ส่วนดวงตาไม่ได้ยิ้มด้วยแม้แต่น้อย

หลังจากนี้ทั้งสองไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรจนกระทั่งขับรถมาที่พัก พีคจึงครุ่นคิดบางอย่างชั่วครู่ก่อนพูดออกมา

“ถึงแล้ว อยู่คนเดียวได้ไหม ถ้าไม่ได้ให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนได้นะ” พีคเหล่ดวงตาเล็กน้อยมายังคนนั่งข้างๆ

“ได้ครับ”

“ได้หมายความว่าไง ให้พี่อยู่เป็นเพื่อน หรือว่าอยู่คนเดียวได้”

“อยู่คนเดียวได้ครับ”

“อืม พี่เข้าใจกัสนะ เพราะกัสพึ่งผ่านเรื่องแย่ๆ มา แต่อย่าลืมนะว่ากัสยังมีพี่พีคคนนี้อยู่เคียงข้างเสมอ”

“ครับ กัสเข้าใจ”

ยิวหันมายิ้มให้พีคอีกครั้งก่อนลงจากรถ โดยมีสายตาของพีคมองตามด้วยความใคร่รู้และสงสัยในพฤติกรรมของกัส เขามองจนสุดสายตาหลังจากนั้นกัดฟันเล็กน้อยครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนขับรถออกไปจากหอพักของกัสอย่างมีความหวังเล็กๆ

เมื่อยิวได้มาถึงห้องพักของตัวเองเขาได้นั่งมองโน๊คบุ๊คของกัส ด้วยสายตาอันชวนสงสัยและใคร่รู้ ว่าสิ่งนี้หรือเปล่าที่ทำให้ตัวเองและกัสสลับร่างกันไปมา ใจหนึ่งอยากเปิดอ่านอีกคราอีกใจหนึ่งอยากหยุดเรื่องราวไว้เพียงแค่นี้ สองจิตสองใจใคร่ครวญ แต่ยังมิหาญกล้าเปิดโน๊ตบุ๊คถึงแม้จะคิดถึงแม่ทัพวิศรุฒสักเพียงใด สองตาได้มองจอโน๊ตบุ๊คที่ไร้แสง มีแต่สีดำสนิททึบมืดไม่เห็นภาพ แต่ยิ่งมองกลับเริ่มเห็นความสว่างออกมาทีละน้อยจนเปล่งแสง ยิวเห็นเช่นนั้นเขารีบลุกขึ้นยืนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status