Share

ฉันเข้ามาอยู่ในนิยายเหรอเนี่ย 1.2

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-07-21 15:35:45

ขณะที่กลุ่มชมรมคนขี้นินทากำลังพูดกันอย่างสนุกปากอยู่นั้น ย่าหลี่ก็เดินผ่านมากับลูกสะใภ้ซึ่งก็คือแม่ของหลี่ชิงเหยา ย่าหลี่พอได้ยินว่ามีคนนินทาหลานสาวในทางไม่ดีก็รู้สึกโกรธขึ้นมา

‘ด่ากันไปก็เหนื่อยเปล่า แต่ถ้าจะเอาให้สาแก่ใจนั้น ต้องทำให้พวกนี้หุบปากให้ได้’ ย่าหลี่คิดในใจ จากนั้นจึงแหงนมองหาอะไรบางอย่าง พอเห็นเป้าหมายแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะกระซิบกับฟางเหนียงลูกสะใภ้ตัวเองเบา ๆ

ฟางเหนียงได้ยินก็เบิกตากว้าง เธอไม่คิดว่าแม่สามีจะมีความคิดแบบนี้ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเอาด้วย เพราะไม่ชอบชาวบ้านกลุ่มนี้สักเท่าไร ที่ชอบพูดถึงลูกสาวเธอในทางเสียหาย

แม่สามีกับลูกสะใภ้รีบมาหลบหลังต้นไม้ โดยที่สายตามองหาสิ่งของเหมาะมือมาถือไว้คนละอันสองอัน หลังจากหาที่ซ่อนได้แล้ว จึงหยิบก้อนหินขนาดพอเหมาะมือขึ้นมา จากนั้นก็เล็งไปที่รังมดแดงตรงต้นไม้ที่กลุ่มชาวบ้านพวกนั้นนั่งอยู่ แล้วปาก้อนหินออกไป และย่าหลี่ก็ปาแม่นซะด้วยสิ

“โอ๊ย!! นี่มันมดแดงนี่นา ตกลงมาได้ยังไงกันเนี่ย”

หลังจากก้อนหินโดนรังมดแดง เสียงร้องโวยวายของชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ดังขึ้น พร้อมกับปัดมดแดงที่หล่นลงมาใส่ตัวออก

สองแม่สามีกับลูกสะใภ้ยังไม่รามือแค่นั้น ทั้งสองยังคงหาก้อนหินเขวี้ยงใส่รังมดแดงไม่หยุด หวังให้รังมดแดงรังนี้หล่นลงมาใส่หัวคนที่ชอบนินทา 

จนเมื่อเห็นว่าภารกิจสมหวังแล้ว ก็รีบออกมาจากตรงนั้นทันทีด้วยความสะใจ

ฝ่ายหลี่ชิงเหยา

เมื่อหญิงสาวตั้งสติได้แล้ว ก็ลุกออกมาจากห้องเพื่อสำรวจบ้านหลังนี้ ซึ่งบ้านหลี่เป็นบ้านชั้นเดียวตามแบบเดิม แต่ก็สร้างด้วยอิฐและมุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ดูแล้วคงใช้เงินไม่น้อย

‘ดีจัง แม้ว่าฐานะบ้านหลี่ไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ไม่ได้ลำบาก ถือว่าพออยู่พอกิน แบบนี้ฉันก็ไม่ลำบากน่ะสิ” หลี่ชิงเหยาพูดออกมาเบา ๆ

จากความทรงจำ ตอนนี้หลี่หยวนและหลี่เหวินยังคงทำงานในทุ่ง เพราะยังไม่มีการเลิกคอมมูน แต่ก็ไม่ได้บังคับเหมือนเมื่อก่อน เวลานี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน

ส่วนแม่กับย่าของเธอก็จะผักป่ามาทำกับข้าว หรือหากวันไหนได้มาเยอะหน่อย ก็จะเอาไปขายที่ตลาดนัดในหมู่บ้านถัดไป

“ความเป็นอยู่ก็สงบดีนะ บ้านนี้รักกันดี” หลี่ชิงเหยาพูดออกมาเบา ๆ หลังจากคิดทบทวนความจำแล้ว “แต่ชีวิตจริงมันจะเดินเรื่องเหมือนในนิยายหรือเปล่านะ และที่สำคัญ ฉันดันอ่านไม่จบเสียนี่ เฮ้อ...” เธอพูดจบก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ

“แม้ว่ายุคนี้จะมีให้ชาวบ้านทำการค้าบ้างแล้ว แต่สินค้าบางอย่างยังจำกัดและยังต้องใช้คูปองในการซื้อที่สหกรณ์อยู่สินะ ว่าแต่ทำไมฉันถึงไม่มีมิติเหมือนคนอื่นในนิยายที่เคยอ่านบ้างนะ แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย” เธอยังคงพูดกับตัวเองวนไปวนมาในตอนที่เดินสำรวจบ้าน

ขณะเดียวกันนั้นย่าหลี่และฟางเหนียงก็กลับมาถึงบ้านพอดี เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงเหยาตื่นแล้ว ก็รีบเดินมาหาด้วยความดีใจ

“หลานย่าปลอดภัยแล้ว ย่าดีใจเหลือเกิน” หญิงชราเข้ามากอดและลูบศีรษะของหลานสาวด้วยความดีใจ ส่วนหญิงสาวเองก็กอดกลับไปเหมือนกัน

“ตื่นมาก็ดีแล้ว ชิงเหยาหิวหรือยัง เดี๋ยวแม่ไปทำอะไรให้กิน” ฟางเหนียงถามลูกสาวอย่างอ่อนโยน เธอตั้งใจจะไปทำอาหารให้ลูกสาวก่อน แต่โดนหลี่ชิงเหยาห้ามไว้

“ฉันยังไม่หิวค่ะแม่ เดี๋ยวค่อยกินมื้อเย็นพร้อมพ่อกับพี่ใหญ่ก็ได้ค่ะ แล้วนี่แม่กับย่าไปไหนกันมาคะ” หญิงสาวที่รับรู้ชะตากรรมว่าจะต้องมาอยู่ในร่างนี้จริงๆ ก็พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด จึงถามออกไปอย่างสนิทสนม

แม่สามีกับลูกสะใภ้สบตากันเป็นเชิงปรึกษาว่าจะบอกยังไงดี เพราะไม่อยากบอกเรื่องที่ทั้งสองไปทำกันมา สุดท้ายฟางเหนียงจึงพูดเรื่องเบี่ยงเบนไปทางอื่น

“แม่กับย่าก็ไปเดินเล่นแถวนี้แล้วน่ะ ว่าแต่นี่ลูกหายดีแล้วเหรอ ถึงได้ออกมาเดินเล่นข้างนอกแบบนี้ แม่ว่าลูกเข้าไปนอนพักอีกสักหน่อยดีกว่าไหม” เธอพูดออกมาอย่างอ่อนโยนและจะจูงมือลูกสาวเข้าไปในบ้าน

“ฉันนอนจนมึนหัวไปหมดแล้วค่ะแม่ ออกมาเดินเล่นข้างนอกสมองจะได้สดชื่นบ้าง” หญิงสาวตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม ในใจนั้นคิดว่า ‘ทั้งสองคนคงไปหาเรื่องใครอีกหรือเปล่านะ เพราะท่าทางของทั้งสองบ่งบอกว่าคงไม่ใช่เรื่องดี’

“แล้วนี่หลานไม่คิดจะไปเอาเรื่องกับคนบ้านโจวเหรอ ย่าคิดว่าหลานไม่ได้ตกน้ำเองหรอกใช่ไหม จะต้องมีคนรังแกหลานสาวของย่าแน่นอน” จังหวะนั้น อยู่ ๆ ย่าหลี่ก็พูดขึ้นมา นางยังต้องการจะไปสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจากคนบ้านโจว แต่ถูกหลานชายและลูกชายห้ามไว้เสียก่อน ตอนนี้ก็สบโอกาสที่จะเอาคืนบ้านนั้นแล้ว จึงถามหลานสาวขึ้นมา

“ฉันเอาคืนแน่คะ แต่การเอาคืนของฉัน ฉันจะไม่เดินเข้าไปด่า หรือหาเรื่องฝ่ายนั้นเหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดคนพวกนั้นด้วย ที่ผ่านมาฉันถูกเพื่อนรักคนนี้จูงจมูกมามากพอแล้ว แต่ต่อไปนี้จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นแล้วค่ะ หลี่ชิงเหยาที่เคยโง่ในอดีต ไม่มีอีกแล้วค่ะย่า ย่ากับแม่สบายใจได้เลย”

ท่าทางของหญิงสาวที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ รวมถึงสายตาที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวนั้น ทำให้ผู้เป็นแม่และย่ายิ้มออกมาด้วยความดีใจ แม้ว่าหลานสาวคนนี้จะดื้อในบางครั้ง หรืออาจจะนิสัยไม่ดีกับคนอื่นบ้าง  แต่เธอก็เป็นลูกและหลานที่รักของคนบ้านหลี่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไปแล้ว 1.2

    พูดถึงเรื่องหาปลา หลี่ชิงเหยาก็คิดได้ว่าเมื่อชาติก่อนเธอเคยเล่นละครเป็นสาวชนบท เรื่องหาปลาเลยพอจะรู้วิธีการแทงปลามาบ้าง คิดได้อย่างนั้นจึงยิ้มออกมา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ดูสนุกสนาน “ดีเลยค่ะ ฉันไปด้วยได้ไหมคะ จะได้ไปหาปลากลับบ้านด้วย”หญิงสาวรู้ดีว่าบ้านหลี่ไม่ค่อยมีเงินสักเท่าไร แต่ก็ไม่เดือดร้อนถึงขั้นต้องหยิบยืมคนอื่น จะว่าไปร่างนี้ก็ล้างผลาญเงินของที่บ้านไม่ใช่เล่น เนื่องจากเคยขโมยอาหารดี ๆ ของบ้านหลี่ เพื่อนำไปให้กับอี้หยางตง!!‘ยิ่งคิดยิ่งอยากจะทุบร่างนี้เสียจริง ๆ แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะฉันคงต้องเจ็บด้วยน่ะสิ’ หญิงสาวคิดอย่างโมโหเจ้าของร่างที่สิ้นคิดทำอย่างนั้นลงไป“มันจะดีเหรอ เธอเพิ่งจะจมน้ำมา ไม่กลัวหรือไง” หลินเฟยถามออกไปอย่างกังวลใจเล็กน้อยเรื่องที่หลี่ชิงเหยาจมน้ำนั้นมีใครบ้างไม่รู้ บางคนจมน้ำแล้วเกิดความกลัวน้ำไปเลยก็มี นางเลยไม่คิดว่าหญิงสาวตรงหน้าจะขอตามไปที่ลำธารด้วย“ไม่กลัวหรอกค่ะ ให้ฉันไปด้วยนะ ป้าหยางจะได้ไม่ต้องไปหาปลาคนเดียว ฉันหาปลาเก่งนะ ว่าแต่ป้ามีมีดพร้ามาด้วยหรือเปล่า ฉันจะไปตัดไม้แทงปลาน่ะ เราต้องมีอุปกรณ์จับปลาด้วยค่ะ”หญิงสาวตอบกลับไปอย่า

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไปแล้ว 1.1

    บทที่ 4 หลี่ชิงเหยาเปลี่ยนไปแล้วหลี่เหวินหลังจากที่ถูกย่าไล่ให้ออกมาจากบ้าน เขาจึงตัดสินใจเข้าเมืองเพื่อมาหางานทำ เลยพบกับหยางเฟยหลงที่มาหางานทำเหมือนกัน ทั้งสองพบกันที่ตลาดมืดของเมือง“วันนี้มีงานเยอะไหมครับพี่เฟยหลง” หลี่เหวินทักทายออกไปอย่างเป็นกันเอง ทั้งสองอยู่หมู่บ้านเดียวกัน จึงมีความสนิทสนมกันมากกว่าคนขายแรงงานคนอื่น“วันนี้พอมีคนมาจ้างบ้าง อย่างที่รู้นั่นแหละ เดี๋ยวนี้หางานได้น้อยกว่าเมื่อก่อนมาก” หยางเฟยหลงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจเล็กน้อย เพราะถ้างานมีน้อยก็เท่ากับว่ารายได้ก็น้อยตามไปด้วยตั้งแต่การค้าเปิดเสรี ก็ทำให้คนมาซื้อของในตลาดมืดน้อยลง แต่ตลาดมืดก็ยังเป็นความต้องการของคนหลายกลุ่มที่ยังมาหาซื้อของ เนื่องจากบางอย่างยังจำกัดปริมาณการซื้อขาย นั่นเอง และของบางอย่างก็ยังห้ามขายอย่างเสรีอยู่ แต่ที่นี่ยังมีสินค้าต้องห้ามพวกนั้นขายอยู่“แล้ววันนี้ทำไมเพิ่งมาล่ะ” เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหลี่เหวินเพิ่งมาเลยแปลกใจจึงถามขึ้นมา เพราะทุกครั้งทั้งสองจะมาพร้อมกัน และมีบางครั้งที่มาคนละเวลา แต่ไม่เคยมาสายขนาดนี้“ที่บ้านเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ” หลี่เหวินไม่อยากพูดอะไรมากจึงตอบไปเพีย

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    อยู่ดี ๆ เรื่องก็มาหา 1.2

    หลี่ชิงเหยาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างสบายใจ เธอไม่คิดเลยว่า บรรยากาศของหมู่บ้านนี้จะร่มรื่นมากขนาดนี้ หญิงสาวเดินมาเรื่อย ก็พบกับชาวบ้านจับกลุ่มนั่งพูดคุยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของเธอ“หายดีแล้วเหรอชิงเหยา” เสียงของนางจริงถามขึ้นมาเมื่อเห็นหลี่ชิงเหยาเดินผ่านมา แต่ก็เป็นเพียงคำถามลอย ๆ เท่านั้น“ดีขึ้นแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไปเพียงเท่านี้ก็จะเดินต่อ แต่ไม่คิดว่าจะมีเสียงของใครบางคนตะโกนต่อว่ากลับมา“ผู้ใหญ่ถามทำไมไม่ตอบดี ๆ หน่อยล่ะ ทำแบบนี้ไร้มารยาทเสียจริง”นั่นทำให้หญิงสาวหยุดชะงักทันที ‘ต่อให้ไม่อยากจะมีเรื่อง แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องจะมาหาถึงที่แบบนี้’ คิดได้แค่นั้นเธอก็หมุนตัวหันกลับมาทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ฉันตอบไม่ดีตรงไหน ในเมื่อถามว่าหายดีแล้วเหรอ ฉันก็ตอบว่าดีขึ้นแล้วค่ะ มีคำไหนไม่ดี ไม่สุภาพ หรือว่ามีคำไหนที่ไร้มารยาทเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นคนที่สุภาพ ช่วยบอกหน่อยว่าฉันต้องตอบกลับอย่างไร” ระหว่างพูดออกมา หญิงสาวก็ปรายตามองทุกคนอย่างไร้เดียงสา แต่ในใจนั้นคิดว่า ‘หึ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในนิยาย น่าเบื่อจริงๆ แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อร่างนี

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    อยู่ดี ๆ เรื่องก็มาหา 1.1

    บทที่ 3 อยู่ดี ๆ เรื่องก็มาหาขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โจวเม่ยเม่ยก็เดินเข้ามาในบ้านหลี่พอดี เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงเหยาฟื้นแล้ว ใบหน้าก็ชะงักค้างเล็กน้อย แต่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นก็กลับมาเป็นปกติแต่แม้จะมีเวลาเพียงเสี้ยววินาที หลี่ชิงเหยาก็เห็นใบหน้าที่ประหลาดใจของอีกฝ่ายพอดี จึงแสยะยิ้มมุมปากพร้อมกับคิดในใจ ‘คงจะมาเล่นละครอะไรอีกล่ะสิ คราวนี้สนุกแน่เพราะฉันจะเล่นกับเธอด้วย’“ชิงเหยา เธอฟื้นแล้วเหรอ ฉันดีใจจังเลย” ใบหน้าของโจวเม่ยเม่ยยังคงยิ้มแย้มในตอนที่ถามไถ่ บ่งบอกให้เห็นว่าเธอนั้นดีใจที่เพื่อนฟื้นแล้ว“อืม ฉันเพิ่งฟื้นน่ะ ว่าแต่เธอมีอะไรหรือเปล่าถึงได้มาหาฉัน” น้ำเสียงที่หญิงสาวถามออกไปนั้นราบเรียบและเย็นชาสิ้นดี คล้ายกับไม่อยากจะเสวนากับเพื่อนคนนี้สักเท่าไร“ฉันมาเพราะเป็นห่วงเธอน่ะสิ ดีแค่ไหนแล้วที่พี่หลี่เหวินช่วยเธอเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นแล้ว...” เธอพูดออกมายังไม่จบประโยคก็ต้องหยุดลง เพราะหลี่ชิงเหยาพูดแทรกขึ้นมา“ไม่อย่างนั้นแล้ว พรานป่าท้ายหมู่บ้านคงจะมาช่วยฉันไว้ แล้วชาวบ้านก็มาเห็นว่าฉันอยู่กับเขาในสภาพไม่เรียบร้อย จนฉันต้องแต่งงานกับเขาใช่ไหม”หญิงสาวพูดสวนกล

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    ฉันเข้ามาอยู่ในนิยายเหรอเนี่ย 1.2

    ขณะที่กลุ่มชมรมคนขี้นินทากำลังพูดกันอย่างสนุกปากอยู่นั้น ย่าหลี่ก็เดินผ่านมากับลูกสะใภ้ซึ่งก็คือแม่ของหลี่ชิงเหยา ย่าหลี่พอได้ยินว่ามีคนนินทาหลานสาวในทางไม่ดีก็รู้สึกโกรธขึ้นมา‘ด่ากันไปก็เหนื่อยเปล่า แต่ถ้าจะเอาให้สาแก่ใจนั้น ต้องทำให้พวกนี้หุบปากให้ได้’ ย่าหลี่คิดในใจ จากนั้นจึงแหงนมองหาอะไรบางอย่าง พอเห็นเป้าหมายแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะกระซิบกับฟางเหนียงลูกสะใภ้ตัวเองเบา ๆฟางเหนียงได้ยินก็เบิกตากว้าง เธอไม่คิดว่าแม่สามีจะมีความคิดแบบนี้ แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเอาด้วย เพราะไม่ชอบชาวบ้านกลุ่มนี้สักเท่าไร ที่ชอบพูดถึงลูกสาวเธอในทางเสียหายแม่สามีกับลูกสะใภ้รีบมาหลบหลังต้นไม้ โดยที่สายตามองหาสิ่งของเหมาะมือมาถือไว้คนละอันสองอัน หลังจากหาที่ซ่อนได้แล้ว จึงหยิบก้อนหินขนาดพอเหมาะมือขึ้นมา จากนั้นก็เล็งไปที่รังมดแดงตรงต้นไม้ที่กลุ่มชาวบ้านพวกนั้นนั่งอยู่ แล้วปาก้อนหินออกไป และย่าหลี่ก็ปาแม่นซะด้วยสิ“โอ๊ย!! นี่มันมดแดงนี่นา ตกลงมาได้ยังไงกันเนี่ย”หลังจากก้อนหินโดนรังมดแดง เสียงร้องโวยวายของชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ดังขึ้น พร้อมกับปัดมดแดงที่หล่นลงมาใส่ตัวออกสองแม่สามีกับลูกสะใภ้ยังไม่รามือ

  • นิยายเล่มนี้ไม่มีแล้วนางร้ายที่โง่เขลา 80s    ฉันเข้ามาอยู่ในนิยายเหรอเนี่ย 1.1

    บทที่ 2 ฉันเข้ามาอยู่ในนิยายเหรอเนี่ย“ฮือ ๆ ชิงเหยาของย่า หลานย่ารีบฟื้นเถอะนะ ทำยังไงถึงได้ตกน้ำแบบนี้ล่ะ” ย่าหลี่ร้องไห้ฟูมฟายเสียใจอย่างหนัก ที่หลานสาวสุดที่รักตกน้ำจนสลบไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น“ย่าอย่าเพิ่งฟูมฟายไปเลยครับ หมอก็บอกแล้วว่าชิงเหยาไม่ได้เป็นอะไร” หลี่เหวินพี่ชายของหลี่ชิงเหยาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ที่ย่าแสดงอาการเศร้าโศกเกินจริงอีกแล้ว“ไม่ต้องพูดดีเลย แกมันไม่รักน้อง เห็นน้องถูกรังแกจนสลบไปยังไม่ฟื้นแบบนี้ แทนที่จะไปแก้แค้นให้น้อง กลับมาบ่นย่าเสียอย่างนั้น แกจะไปไหนก็ไปเลย ฉันเบื่อหน้าแกแล้ว” ย่าหลี่พูดออกมาอย่างรำคาญหลานชายอย่างมาก จึงได้โบกมือไล่เขาให้ไปไกล ๆ“พ่อกับแม่ดูสิครับ บ้านอื่นรักลูกหลานที่เป็นผู้ชายกันทั้งนั้น แล้วทำไมบ้านหลี่ของเราถึงผิดแปลกไปละครับ รักแต่หลานสาว จนหลานชายอย่างผมเป็นหมาหัวเน่าแล้วเนี่ย ผมงงไปหมดแล้วนะ” ชายหนุ่มถามพ่อแม่ออกไป เขาสงสัยมาตั้งแต่น้องสาวเกิดแล้วว่า ทำไมย่าของตนไม่เหมือนบ้านอื่น ที่รักหลานชายมากกว่าหลานสาว ส่วนบ้านหลี่นั้นย่ารักหลานสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก“พ่อว่าลูกน่าจะชินได้แล้วนะ ตั้งแต่ชิงเหยาเกิดมา ย่าก็เป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status