"ทานข้าวเสร็จเฮียจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ"มีนถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่แวะมาทานข้าวด้วยกัน
"ว่าจะไปดูของใช้หน่อย มีนอยากได้อะไรไหม"
"เอาเป็นครีมทาผิวแล้วกันครับซื้อมาเยอะหน่อยก็ได้เห็นมีโปรโมชั่นอยู่"มีนเป็นชายที่ค่อนข้างเจ้าสำอางเขาไม่ยอมให้ภาพลักษณ์ภายนอกเขาออกมาดูแย่ เพราะนั้นอาจหมายถึงการลดทอนความน่าเชื่อถือของเขาแก่ลูกค้า
"ได้เลยครับ เดี๋ยวเฮียซื้อมาให้"โฮปลูบหัวคนรัก
“ผมโอนตังค์ให้” มีนกำลังจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ถูกห้ามไว้..
“ไม่เป็นไรเฮียมีตังค์”
“เกรงใจครับ”
“ช่วยเฮียใช้หน่อย อยากตังค์หมดบัญชี” ว่าไปตั้งแต่คบกันมามีนก็ไม่เคยขออะไรเขาเลย ขนาดซื้อให้ยังไม่กล้ารับแถมจะโอนเงินค่าของคืนให้เขาอีกต่างหาก (อาจจะเพราะอีกฝ่ายไม่ต้องการเอาเปรียบเขา...แม้มันจะเรื่องเล็กน้อยที่เขาก็ไม่ใส่ใจ)
“อย่ามาบ่นทีหลังนะครับ”
“ซื้อของให้แฟนแค่นี้สบายมากครับ” หลังจากทานข้าวเสร็จโฮปก็ออกไปซื้อของที่ห้างตามที่คุยกัน ส่วนมีนยังดูแลลูกค้าที่ร้านต่อ
โฮปเดินเลือกซื้อของใช้จนเป็นที่พอใจก่อนจะเดินผ่านร้านขนมของโปรดมีนที่คราวก่อนพากันมาเดินเที่ยวแต่ร้านก็ดันปิด ทำเอามีนบ่นไปหลายวันว่าอุตส่าห์ว่างมาเดินห้างทั้งทีแต่ก็ยังอดกินขนมร้านโปรดโฮปจึงตั้งใจจะซื้อไปฝาก
"ปึก!!โอ๊ะ...ขอโทษค่ะ"ไหล่กระทบกันจนทั้งสองเซไปคนละทาง
"ขอโทษครับ เป็นอะไรไหมครับ... อ้าว..พราว"โฮปที่ตั้งหลักได้ก่อนรีบเอ่ยปากขอโทษและหันหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่คุ้นตา
"พี่โฮป..ใช่ไหมคะ"เธอก็เหมือนจะจำอีกฝ่ายได้เช่นกัน เธอเบิกตาโตพร้อมมองสำรวจชายหนุ่มขึ้นลง
"ใช่ครับ พราวมาทำอะไรแถวนี้เหรอ"พราวถือเป็นอดีตของโฮปที่ครั้งหนึ่งเคยแอบชอบมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทำให้ความรักครั้งนั้นมันไม่สมหวัง แต่มันกับติดค้างในใจเขา พราวเป็นผู้หญิงที่เก่ง สวยและดูเพียบพร้อมทำให้เธอเป็นที่นิยมและดึงดูดใครหลายๆ คนรวมถึงเขา
"พอดีพราวพึ่งมาซื้อคอนโดโครงการใหม่หลังห้างนี้ค่ะ ย้ายมาอยู่ได้ประมาณสองเดือนแล้วค่ะ"เธอยกมือขึ้นทัดเส้นผม
"บังเอิญจังที่ได้เจอที่นี่"
"พี่มาทำอะไรเหรอคะ"
"มาซื้อของครับ"โฮปขยับแขนชูของในมือขึ้นเล็กน้อยให้เธอเห็น
"พี่โฮปชอบขนมยี่ห้อนี้เหมือนกันเหรอคะ"เธอเหลือบเห็นขนมร้านดังที่เธอชอบกินและจะชื้อทุกครั้งถ้าเห็น
"ครับ " โฮปหันไปมองที่ร้านขนม
"พี่โฮปรีบไปไหนไหมคะ"
"ไม่นะ พราวมีอะไรหรือเปล่า"
"ไปกินข้าวกันไหมคะ กำลังหาเพื่อนกินข้าวด้วยพอดี"
“- “โฮปยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาที่ข้อมือ เขาช่างใจเล็กน้อยเพราะปกติจะกลับไปกินข้าวที่คอนโดกับมีนทุกวัน
"หรือพี่โฮปมีธุระก็ไม่เป็นอะไรนะคะ"เธอเห็นอีกฝ่ายเงียบเลยคิดว่าน่าจะไม่สะดวก
"ไม่มีครับ ไปได้พี่แค่ดูเวลากลัวรถติดเฉยๆ"เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ได้ทานอาหารร่วมกันสักมื้อก็คงจะดี เขารู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้ใช้เวลาตรงนี้เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหมครั้งนี้ถือว่าเป็นความบังเอิญ
"ดีจังค่ะ งั้นพราวให้พี่โฮปเลือกร้านเลย"แล้วทั้งสองคนก็เลือกเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่ดูท่าทางจะถูกปากไม่น้อย
"พราวเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมไม่ได้เจอกันนานเลย"โฮปตักแซลมอนย่างพริกไทยดำวางลงบนจานของหญิงสาว
"สบายดีค่ะ เราไม่ได้เจอกันมากี่ปีนะคะ"เธอก้มหัวขอบคุณที่อีกฝ่ายตักอาหารให้ทั้งตอบคำถามไปด้วย
"เกือบหกปีได้มั้ง"เขาพูดอย่างคิดถึง
"นานมากจริงๆ ด้วย"
"ก็จำได้ว่าตอนนั้นพราวบอกว่าไปเรียนต่อ"เขากับพราวขาดการติดต่อกันไป จนกระทั่งวันนี้โลกกลมๆ ใบเดิมพาเราสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง
"ใช่ค่ะ ไปเรียนต่อกลับมาก็ช่วยงานที่บ้าน พึ่งจะมีเวลาเป็นของตัวเองได้ปีหลังๆ นี่เองค่ะ"
"ทำไมมาซื้อคอนโดอยู่แถวนี้ล่ะ"เธอก็ลูกคนมีตังค์บ้านช่องก็ออกจะใหญ่โต
"มันใกล้บริษัทค่ะ ถ้าให้พราวนอนบ้านแล้วขับรถไปกลับทุกวันคงไม่ไหว"เธอบอกเหตุผลออกมา
"เป็นผู้หญิงมาอยู่คนเดียวก็ดูแลตัวเองดีๆ"อยู่ๆ โฮปก็รู้สึกไม่สบายใจที่รู้ว่าเธอออกมาอยู่คนเดียว
"ถ้าพี่โฮปพูดแบบนี้จะเหมาว่าพี่เป็นห่วงพราวนะคะ"เธอพูดเขินๆ ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม
"ก็เป็นห่วง"เขายิ้มบางๆ ให้กับเธอพูดออกมาอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
"ใจดีเหมือนเดิมเลยนะคะ" หญิงสาวส่งยิ้มหวานกลับมา
"พราวขอช่องทางติดต่อของพี่ไว้ได้ไหมคะ" เธอยื่นโทรศัพท์ให้กับชายหนุ่ม แก้มของเธอขึ้นสีอย่างน่ามอง
"ได้สิครับ"โฮปรับมากดบนหน้าจอสักพักแล้วส่งกลับไปให้เจ้าของ
"ไว้ครั้งหน้าพราวขอเลี้ยงนะคะ"
“ได้เลยครับ”
"ถ้าอย่างนั้นพราวกลับก่อนนะคะเอาไว้เจอกัน"
"ครับ ขับรถกลับดีๆ"
"พี่โฮปก็ด้วยนะคะ"ทั้งสองร่ำลากัน หญิงสาวกำลังจะลุกเดินออกจากเก้าอี้ไป แต่ถูกเรียกไว้..
"พราว"
"คะ??"
"ถึงคอนโดแล้วส่งข้อความบอกพี่หน่อยนะ พี่เป็นห่วง"
"ได้ค่ะ" ทั้งสองแยกกันที่ลานจอดรถ ก่อนที่โฮปจะเห็นว่ามีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับจากมีนแสดงขึ้นที่หน้าจอ
ครืน!!ครืน!
"เฮียติดธุระเหรอครับผมโทรหาหลายสายแล้วไม่เห็นรับ"มีนถามใจอดจะรู้สึกเป็นห่วงและร้อนรนไม่ได้ปกติโฮปไม่เคยไม่รับสายเขาเกินสามหน อย่างน้อยถ้าติดธุระมักจะรีบพิมพ์มาบอกเขา
"เปล่าครับพอดีลืมเปิดเสียง มีนมีอะไรเหรอ"
"จะโทรมาบอกว่ากำลังจะกลับแล้วเฮียอยากกินอะไรไหม จะซื้อไปให้"
"มีนซื้อเข้ามาทานได้เลย"เขาเดินเข้าไปเปิดประตูรถตัวเอง
"อ้าว ทำไมเหรอครับ"
"พอดีพี่หิวเลยแวะกินแล้ว โทษทีครับ"เขาไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงออกไป ถึงยังไงเรื่องนี้ก็แค่เรื่องเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องรายงานขนาดนั้นก็ได้
"ไม่เป็นไรครับ คงแวะหาอะไรกินง่ายๆ ข้างทาง"
"โอเคครับ เฮียขับรถก่อนนะ"
"ไว้เจอกันที่ห้องนะครับ"มีนก็วางสายไป
จนเวลาผ่านเป็นเกือบสองชั่วโมงทั้งสองก็กลับมาถึงคอนโดของโฮป
"เหนื่อยจังเลยครับ"โฮปล้มตัวลงนอนที่ตักของมีนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
"เหนื่อยอะไรครับ"มือนุ่มลูบกลุ่มผมเบาๆ ด้วยความอ่อนโยนและทะนุถนอม
"รถติด ฝนตก กว่าจะคลานมาถึงคอนโดแทบแย่"เขาเงยหน้าขึ้นมองคนรักผ่านปลายคางมนขึ้นไป
"น่าสงสารจัง"มีนหลุบตามองต่ำสบตาคมนั้นกลับด้วยแววตาอ่อนโยน
"มีนกลับมาถึงนานแล้วเหรอครับ"
"สักพักแล้วครับ กำลังว่าจะอาบน้ำแต่อยากรอเฮียก่อน"ปกติเฮียชอบให้เขารออาบน้ำพร้อมกัน เมื่อก่อนก็เขินๆ แต่พอบ่อยครั้งเข้าเขาก็เริ่มจะชิน
"มีนไปอาบก่อนได้เลยเฮียขอนั่งพักสักหน่อย"
"เฮียไม่อาบด้วยกันเหรอครับ"
"ไม่เป็นไรครับ มีนเองก็ดูแลร้านมาเหนื่อยๆ จะได้รีบพักผ่อน"
"อย่างนั้นก็ได้ครับ เฮียก็นั่งพักไปก่อนนะมีนไปอาบน้ำก่อน" คนอายุน้อยกว่าเดินคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป หลังจากประตูห้องน้ำปิดลง โฮปก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งข้อความหาใครบางที่พึ่งแยกจากกันไม่กี่ชั่วโมงมานี้
ไลน์!!
โฮป— (พราวถึงคอนโดหรือยังครับ)
พราว— (ถึงสักพักใหญ่แล้วค่ะ เพราะอยู่ไม่ไกล รถติดไหมคะ)
โฮป--- (ติดมากครับพี่พึ่งถึง)
พราว--- (ปกติพี่โฮปนอนเร็วไหมคะ)
โฮป--- (พี่นอนไม่ค่อยเป็นเวลา บางคืนก็ออกไปดูแลผับ)
พราว— (เอาไว้ว่างๆ พราวจะไปเที่ยวผับของพี่โฮปนะคะ)
โฮป--- (ได้เลยครับเดี๋ยวทำส่วนลดให้พิเศษเลย)
“เฮ้อ!!” โฮปมองไปที่ประตูห้องน้ำก่อนจะกดปิดหน้าจอลงเพราะตอนนี้เขามีมีนอยู่มันก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ถ้าหากจะไปรู้สึกกับใครคนอื่น แต่เพราะพราวก็ดันเป็นอดีตที่เขาเคยรู้สึกดีด้วยมาก่อน แล้วจู่ๆ วันนี้ก็ได้กลับมาเจอกันพูดตามตรงเขาอดรู้สึกอยากไขว่คว้าช่วงเวลานี้ไว้ไม่ได้ มันเลยเกิดเป็นความลำบากใจลึกๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกอะไรและควรจัดการมันยังไง
3 เดือนต่อมา"อรุณสวัสดิ์ครับมีน"โฮปที่มารออยู่หน้าร้านที่เดิมเหมือนเป็นที่ประจำไปแล้ว"มาแต่เช้าอีกแล้วนะครับ"มีนส่ายหน้าให้กับความตื๊อในครั้งนี้กับอีกฝ่าย"อยากมาเจอมีน ว่าแต่วันนี้ไม่ไล่เฮียเหรอ"ปกติเห็นเขาประโยคแรกที่มักจะได้ยินประจำคือมาทำอะไร กลับไปได้แล้ว อย่ามาก่อกวน (แต่วันนี้มาแปลก) หรืออาจจะขี้เกียจไล่เขาแล้ว"เหนื่อยจะไล่แล้วครับ ถึงผมไล่คุณก็ไม่ยอมไปอยู่ดี""มีน"โฮปเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบา"ครับ""มีนรู้ใช่ไหมว่าทำไมเฮียถึงทำแบบนี้"หวังว่ามีนจะให้โอกาสยอมให้เขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง"ทำอะไรเหรอครับ แล้วผมจะไปรู้กับคุณได้ไง"มีนแสร้งไม่เข้าใจเขาอยากให้โฮปพูดออกมาตรงๆ ว่าต้องการอะไรกันแน่ตนจะได้ไม่เผลอคิดไปเองคนเดียว"ที่เฮียมาป้วนเปี้ยน แวะเวียนมาหามีนอยู่ทุกวันนี่ไง""คุณก็คงแค่ว่างไม่มีอะไรทำ ใช่ไหมครับ"มีนทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรต่อ“คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ"ไม่รู้อะไรเลยสินะ (ใจร้ายสุดๆ) ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าชัดเจนมากแล้วแท้ๆ ไหนไอ้คิงบอกว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดไง"คุณมีอะไรอีกหรือเปล่าครับผมจะไปทำงานแล้ว"มีนเอ่ยอย่างเร่งเร้า"มีนให้โอกาสเฮียได้ไหม เรากลับมาคบกันได้ไหมมีน"
5 วันต่อมาหลังจบทริปโฮปก็ตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะลองเดินหน้าง้อขอคืนดีกับมีนดูอีกสักครั้ง เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว อย่างน้อยมีนเองก็โสดและเขาก็ยังเชื่อว่าลึกๆ มีนก็คงมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลือให้เขาอยู่บ้าง (หรือเขาคิดไปเอง) ขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแล้วกันเพื่อเรียกความมั่นใจ"ร้านนี้มีเมนูแนะนำไหมครับ"โฮปเอ่ยขึ้นมาลอยเมื่อเจ้าของร้านเดินก้มหน้าก้มตาดูออเดอร์ในมือและกำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป"คุณ.."มีนเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อได้ยินเสียงลูกค้า แต่เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่เขารู้จักดี"สั่งอาหารหน่อยครับ"โฮปพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ได้ครับเดี๋ยวผมให้เด็กเอาเมนูมาให้""ขอบคุณครับ มีนนั่งกินด้วยกันไหม"เขาเอ่ยชวนถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลายุ่งๆ แบบนี้อีกฝ่ายมักจะไม่ได้ทานทั้งข้าว ถึงทานก็ไม่ค่อยได้กินเป็นเวลา"ไม่เป็นไรครับ ผมทำงานอยู่ เชิญตามสบายเลย"พูดเสร็จมีนก็เดินหนีเข้ามาหลังร้าน"ช่วงนี้คุณโฮปเขามาบ่อยนะครับ"พนักงานรับกระดาษเมนูอาหารของลูกค้าจากมีนมาถือไว้"ถ้าไม่ได้มาสร้างความวุ่นวายอะไรก็ปล่อยเขาไป เหมือนเป็นลูกค้า" มีนหันไปบอกพนักงาน"ครับ""ผมฝากด้วยแล้วกันนะ""ไม่มีปั
"ไงมึง คืบหน้าบ้างไหม" ปราบกับคิง ถือเครื่องดื่มออกมาจากด้านในแล้วจัดวางจนเต็มโต๊ะ"นี่กะเมากันแต่หัววันเลยหรือไง ไหนมึงบอกกูทริปทำบุญ"โฮปไม่ได้สนใจประโยคคำถามจากพวกมัน แต่แซะเพื่อนทั้งสองกลับแทน บอกจะมาทำบุญเขาก็คิดว่าจะเพลาๆ เรื่องแบบนี้ที่ไหนได้มาทำบุญแต่ยังคงสันดานเดิม"ทำบุญก็ส่วนทำบุญ ทำจบแล้วก็เป็นเรื่องของการพักผ่อนแล้วไหมวะ"ปราบเหลือบตามองเพื่อนพร้อมหยักไหล่ให้ไปทีหนึ่ง"กูว่าจุดประสงค์หลักของมึงสองคนไม่ได้กะจะมาวัดแน่ๆ"โฮปเบ้ปากส่ายหน้า"ใครบอกมึงว่ากูสองคนอยากมาไหว้พระ""นั่นดิ นู้นเรื่องไหว้พระความคิดฟาร์มัน"คิงบุ้ยปากไปหาแฟนตัวเองที่นั่งอยู่กลับกลุ่มเพื่อน อยู่ๆ แฟนเขาก็ชวนมาทำบุญ"ใช่พวกกูก็แค่มาเป็นเพื่อน แล้วก็มาเปลี่ยนบรรยากาศหาที่กินเหล้าแค่นั้นเอง เบื่อจะไปผับมึงแล้ว เสียงดัง หูจะแตก""กูกะไว้แล้วแหละว่าหน้าอย่างพวกมึงเนี่ยนะจะคิดเข้าวัดทำบุญ โลกแตกพอดี""ว่าแต่พวกกู ที่มึงตกลงมาเที่ยวรอบนี้ก็ไม่ได้อยากจะไหว้พระเหมือนกันนั่นแหละ" ปราบบอกอย่างรู้ทัน แต่ก็เอาเถอะปล่อยให้มันจัดการชีวิตมันเองที่ผ่านเขาก็เห็นมันโทษตัวเองมาตลอดและไม่ยอมมีใครเลยตั้งแต่เลิกกับมีนไป (คงรู้สึ
3 วันต่อมาโฮปเข้ามาดูแลผับเหมือนปกติแต่ที่ไม่ปกติคิดจิตใจของเขานี่แหละที่พอได้ยินเรื่องราวของมีนกับผู้ชายคนนั้น อยากไปหาอยากไปดูว่าเป็นยังไงบ้างแต่ต้องข่มใจไว้เพราะไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของทั้งสอง ตอนนี้เขาก็กลายเป็นคนอื่นสำหรับมีนไปแล้ว แต่สำหรับเขามีนก็ยังเป็นคนที่เขารักเสมอมาครืน!!!“ไอ้โฮปมึงสะดวกคุยไหม” คิงเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง“อืม ว่ามา”"ฟาร์กับโซนจะชวนไปทำบุญเสาร์ อาทิตย์นี้ค้างคืนหนึ่งเหมารถตู้ไป""พวกมึงไปกันเลย ช่วงนี้งานกูเยอะ ไหนจะผับ ไหนจะร้านชาบูอีก ไม่ว่างไปวะ""แต่มีนไปด้วยนะ" เมื่อได้ยินว่าใครคนนั้นไปด้วย โฮปถึงกับตาเบิกกว้างใจมันเต้นแรงจนเหมือนจะกระเด็นออกมา มีเหรอว่าเขาจะพลาดทริปนี้.."กูนึกขึ้นได้ว่าเคลียร์งานเสร็จแล้ว ไปวันไหน กี่โมง"โฮปตอบอย่างร้อนรน ไม่ว่างก็ต้องว่างแล้วแหละ เดี๋ยวกลับมาเคลียร์ทีหลัง"ว่างทันทีเลยนะ"เสียงหัวเราะเล็ดลอดเข้ามาในสาย"แค่คิดว่าไปทำบุญบ้างน่าจะดี"แก้ตัวน้ำขุ่นๆ นี่แหละกู ถึงจะพูดยังไงมันก็รู้ทันอยู่แล้ว"ไม่เนียนค้าบบเพื่อน""เออน่า เอาเป็นว่ากูไปด้วย วันเสาร์นี้ใช่ไหม""ใช่ แต่กูบอกมึงไว้ก่อนนะ ถึงมีนจะเลิกกับแฟนแล้ว แต่
"พี่ไทเลอร์ รอนานไหมครับ"มีนที่มาถึงร้านเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน เขากังวลมาหลายวันเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย"ไม่นานครับ นั่งก่อนสิ เหงื่อเต็มเลย"ไทเลอร์มองหน้าคนอายุน้อยกว่าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อไหล่ซึมเต็มกรอบหน้า"มีนรีบมา กลัวพี่จะรอ"มีนเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้น มีนอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลยนะ แต่พี่สั่งให้ไปบางอย่างแล้ว อาหารที่มีนชอบ"ไทเลอร์มีท่าทีปกติสบายๆ แตกต่างจากอีกคนที่ดูร้อนรนและกังวลเอามากๆ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูป""เดี๋ยวค่อยคุยกัน กินข้าวก่อนครับ""ครับ"มีนจำใจต้องหยุดเรื่องนั้นไปก่อน เหมือนไทเลอร์ยังไม่ต้องการที่จะพูดถึงตอนนี้ทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารกันไปเงียบๆ โดยที่ไม่ได้มีการชวนพูดคุยเหมือนเมื่อก่อน จนกระทั่งพนักงานในร้านมาเก็บจานอาหารบนโต๊ะออกไปพร้อมกับนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูปถ่ายขอโทษจริงๆ นะครับ มีนไม่ได้ตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้""แต่มีนก็ไม่ได้อยากทำลายมันใช่ไหมครับ"เขาถามกลับพร้อมมองตาคนตรงหน้า คิดแล้วก็แปลกพอเขาตัดสินใจที่จะยอมแพ้ ใจเขากับโล่งสบายๆ กว่าที่เขาคิด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นพยายามยื้อความสั
"อารมณ์แบบนี้มึงยังชวนพวกกูมานั่งกินชาบูได้อีกเหรอวะไอ้มีน"ฟาร์ที่คีบหมูเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยทั้งเอ่ยถามเพื่อนไปด้วย"กูเครียดไม่รู้จะทำไง ชาบูมันเยียวยาได้นิหว่า""ข้ออ้างสุดๆ แล้วเป็นไงติดต่อพี่เขาได้หรือยัง" โซนเอ่ยถาม"ยังเลย ที่กูมานั่งเครียดไม่ใช่แค่เรื่องพี่ไทเลอร์อย่างเดียวหรอกนะ"มีนที่เริ่มเผยออกมาทีละนิด"มึงเครียดเรื่องอะไรอีก"แค่เรื่องเดียวยังเคลียร์ไม่ได้ มีเรื่องอื่นมาแทรกอีกเหรอวะ กูซักจะปวดหัวแทนมึงแล้วไอ้มีน"วันนี้กูไปเจอเฮียโฮปมา""ไอ้มีน!!ไอ้เวร!!มึงพึ่งทะเลาะกับพี่ไทเลอร์เรื่องรูปเฮียโฮปไป วันนี้มึงยังมีน่าไปนัดเจอเขาอีกเหรอ ไหนว่าไม่ได้ติดต่อกันแล้วไง" โซนโวยวายขึ้นมาทันที"มึงใจเย็นๆ ก่อนไอ้โซนกูไม่ได้ไปนัดเจอ เราแค่บังเอิญเจอกันเฉยๆ" คนหันมามองกันหมดแล้วเนี่ย (จะพูดเสียงดังเพื่อ)"บังเอิญ? กูจะเชื่อดีไหม""จริงๆ ไม่ได้โกหก กูไปหาพี่ไทเลอร์ปกตินั่นแหละไม่รู้จะไปตามหาเขาที่ไหนเลยแวะไปนั่งพักริมแม่น้ำใต้สะพานแล้วเขาก็อยู่ที่นั่นพอดี""ยังไงต่อ"ฟาร์กอดอกถาม"ก็ไม่ยังไง เราแค่คุยกันนิดหน่อย""ถ้าแค่คุยกันนิดหน่อยทำไมมึงถึงต้องเครียด"ฟาร์ถามต่อ ไม่กงไม่กินมันแล้วชาบู