1 อาทิตย์ผ่านไป
โชคดีว่าหลายวันมานี้ฉันไม่เจอกับผู้ชายคนนั้นเลย คู่หมั้นของพี่สาวฉัน ไม่เห็นเขามาที่บ้านไม่มาหาพี่มารีเลย มาแค่วันนั้นแล้วก็หายหน้าไป ที่บอกแบบนี้ไม่ได้แปลว่าฉันคิดถึงเขานะ ไม่อยากจะเจอเลยต่างหาก แต่ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้สินะ...— ห้างสรรพสินค้า
วันนี้สายธารขอให้ฉันพามาซื้อของที่ห้าง ไปลากฉันจากที่บ้าน มาตั้งแต่เช้านี่ก็จะเที่ยงแล้วยังไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง “แกจะเดินดูอีกนานไหมฉันปวดขาจะแย่แล้วนะ” ฉันบ่นสายธาร เธอเอาแต่เดินดูของไม่ยอมซื้อสักที “เดี๋ยวสิแก ของแบบนี้มันก็ต้องเลือกดูหลาย ๆ ร้านไหม” “แต่เล่นเข้าออกเป็นสิบ ๆ ร้านแล้วไม่ซื้อมันก็เหนื่อยนะ ปวดขาด้วย” “บ่นเป็นคนแก่ไปได้” “แกไปเดินซื้อคนเดียวเลย ฉันไม่ไปกับแกด้วยแล้ว” ฉันถอนหายใจออกมา เบา ๆ ก่อนจะนั่งลงตรงที่เอาไว้นั่งพักภายในห้าง “ยัยพริ้ง !!! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ” สายธารยืนท้าวเอวมองค้อนฉัน “เหนื่อย...” ในขณะที่ฉันกำลังคุยกับสายธารอยู่สายตาของฉันก็ดันเหลือบไปเห็นใครบางคน คนที่ฉันไม่อยากจะเจอหน้าเขาที่สุด คู่หมั้นของพี่มารี นั่นเขากำลังเดินอยู่กับใคร ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก “พริ้ง!! แกมองอะไรของแกได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย พาฉันไปซื้อของหน่อย สัญญาจะไม่เลือกเยอะแล้ว” เสียงของสายธารบอกฉัน แต่ตอนนี้สมองกับสายตาของฉันมันกำลังจดจ่ออยู่กับคู่หมั้นของพี่มารีที่กำลังเดินอยู่กับผู้หญิง ไม่ใช่ว่าเขามีแฟนแล้วหรอกนะ เอ๊ะ! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันกันล่ะเฮือก...!!
ฉันรีบก้มหน้าลงทันทีเมื่อผู้ชายคนนั้นหันหน้ามาทางฉันที่กำลังนั่งมองอยู่ ไม่รู้ว่าเขาเห็นฉันหรือเปล่า แต่การที่ฉันนั่งอยู่ตรงนี้มันเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้วแหละ “แก เรากลับกันเถอะพรุ่งนี้ค่อยมาซื้อ” “ไม่ได้พรุ่งนี้ฉันต้องไปที่สวนกับเฮีย มาแล้วก็ซื้อวันนี้สิ” คือบ้านของสายธารมีสวนองุ่น ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียวนะ “ฉันอยากกลับบ้านแล้ว จริง ๆ นะ” “อะไรกันทำไม จู่ ๆ ถึงอยากจะกลับ?” “มะ มันเหนื่อยไง” ฉันเหลือบตาขึ้นมองดูว่าคู่หมั้นของพี่สาวของฉันไปหรือยัง แต่!!! เขากลับยังไม่ไปไหน แถมยังทำท่าเหมือนจะเดินมาทางฉันด้วย ไม่ดี แบบนี้ไม่ดีแน่ ๆ พรึบ! ฉันลุกขึ้นยืนเต็มตัวก่อนจะคว้ามือไปจับมือสารธารของก็รีบพาเดินออกมาจากห้างทันที สายธารก็โวยวายยกใหญ่ว่าฉันจะรีบไปไหน แต่ฉันก็บอกอะไรไม่ได้ “พริ้ง!! แกเป็นอะไรเนี่ย” “กะ ก็ค่อยมาพรุ่งนี้ไง” “ไม่ใช่ล่ะ แกเห็นใคร?” สายธารมองหน้าฉันอย่างจับผิด ฉันรีบก้มหน้าลงหลบสายตาที่มีพิรุธของตัวเองทันที “ปะ เปล่า” “แกโกหก นี่เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีทำไมฉันจะดูไม่ออก” “ไม่มีอะไรหรอก กลับกันเถอะไว้ค่อยมาวันหลังนะ” สายธารถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พอเห็นว่าฉันไม่ยอมพูดอะไรเธอก็ไม่ได้ถามอะไรฉันต่อให้ยืดยาวอีก เราทั้งคู่นั่งรถกลับมาบ้านด้วยกันเป็นรถของสารธารเธอมาส่งฉันที่บ้านก่อนจะขับรถกลับไปที่บ้านของตัวเอง พอมาถึงบ้านฉันก็รีบขึ้นไปในห้องนอนของตัวเอง— ภายในห้อง
ฉันเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับถอนหายใจออกมา ยาว ๆ ยอมรับว่าฉันคิดมากเรื่องคู่หมั้นของพี่สาวฉัน ผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นอยู่ใกล้ก็จะมีแต่ทำให้ร้อนรุ่มใจ เฮ้อ... แต่เขากับพี่สาวฉันถูกผู้ใหญ่จับให้หมั้นกันหนิติ่ง~ เสียงแชทโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะคิดว่าเป็นสายธารที่ทักมาบอกว่าถึงบ้านแล้ว แต่พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมพร้อมกับใจที่เริ่มเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ “เอาไลน์ฉันมาจากไหนกัน...” ฉันพูดออกมา เบา ๆ แชทที่ทักมาโปรไฟล์มันขึ้นตระหง่านอยู่ชัดเจนว่าเขาคือผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นกับพี่สาวฉัน คนที่ฉันเคยพลาดไปมีอะไรด้วย...(มาหาฉันที่คอนโด)
เขาพิมพ์มา สั้น ๆ พร้อมกับส่งโลเคชั่นมาให้ฉันด้วย ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวง น้อย ๆ มันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ จริง ๆ ตอนนี้ ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ จะให้ฉันไปหางั้นเหรอ ไปทำไมกัน อีกไม่กี่วันเขาก็จะหมั้นกับพี่สาวฉันแล้วนะ ถ้าวันนี้เราไม่เจอกันเขาคงไม่ทักมาแบบนี้แน่ เฮ้อ... (ฉันมีให้เวลาเธอ 30 นาที ถ้ายังมาไม่ถึงรู้ใช่ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้น) ข้อความที่ส่งมาทิ้งท้ายทำเอาฉันต้องรีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋ามาสะพายแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที คำขู่ของเขามันได้ผล มันทำให้ฉันกลัว จริง ๆ“จะไปไหนเพิ่งจะกลับมาบ้านเองไม่ใช่เหรอ”
ฉันชะงักเมื่อเดินลงไปชั้นล่างของบ้านแล้วเจอกับพี่มารีที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดมาพอดี “อะ เอ่อ ไป ไป...” ฉันอยากจะเอาหัวตัวเองโขกกำแพงแรง ๆ จริง ๆ ทำไมถึงได้เป็นคนขี้กลัวแบบนี้กันนะ “สรุปจะไปไหน พูดติด ๆ ขัด ๆ อยู่นั่นแหละ” “ปะ ไปบ้านสายธารค่ะ ^_^” “แล้วจะกลับกี่โมง อย่าลืมนะว่าต้องเก็บของอีกไม่กี่วันก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านคู่หมั้นฉันแล้ว” “ค่ะ เดี๋ยวกลับมาพริ้งจะรีบเก็บ” ที่เราต้องรีบเก็บของมันไม่ใช่เพราะต้องย้ายไปที่อื่นหรอก มันเป็นเพราะบ้านหลังนี้กำลังจะถูกยึดไปต่างหาก มันเศร้านะถ้าพูดถึงเรื่องนี้ “อื้อ รีบไปรีบกลับแล้วกันอย่าแอบไปเที่ยวที่ไหนล่ะ” พี่มารีพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป พี่มารีจะเป็นคนพูด ห้วน ๆ หน่อย แต่จริง ๆ แล้วพี่มารีก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร— คอนโดหรูใจกลางเมือง
ฉันขอโกรธพี่คนขับแท็กซี่ได้ไหม พี่เขาขับรถเร็วเกินไปฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลยก็มาถึงแล้ว แถมตอนนี้ฉันก็กำลังยืนอยู่หน้าห้องตามที่คู่หมั้นของพี่สาวฉันได้บอกเอาไว้แล้วด้วยแกร็ก! (เสียงเปิดประตูห้อง)
“เธอมาช้าไป 10 นาทีนะ รู้ไหม?” ทันทีที่ประตูเปิดออกเจ้าของใบหน้าหล่อคมคายก็พูดทักทายฉันอย่างอารมณ์ดี “ระ รถติดค่ะ” ฉัน ค่อย ๆ ก้าวขาเดินเข้าไปในห้องด้วยความประหม่า อยากจะกลับบ้านแต่มันก็ไม่ทันแล้ว พรึบ! ร่างของฉันถูกคนตัวโตคว้าไปกอดหลังจากที่ประตูห้องปิดสนิท “เอาตรงไหนดี โซฟา ห้องครัว ห้องน้ำ ระเบียง หรือ ห้องนอน?” พี่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ฉันแล้วกระซิบถาม “อะ เอาอะไรคะ...” “ก็เอากันไง หึ...!!”— Talk Singhaหึ!! คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเมียตัวเองแอบหนีไปเที่ยว เธอคงไม่รู้ว่าผมให้ลูกน้องคอยตามดูเธอเอาไว้ ว่าแล้ว ไล่ผมมาจัง กลับไปเจอดีแน่ ๆที่เธอไม่กล้าบอกผมก็เพราะรู้ว่าบอกผมยังไงผมก็ไม่ให้ไป ผมหวง ถ้าจะไปผมต้องไปด้วย ดูท่าเพื่อนของเธอคงจะเป็นต้นคิดแน่ ๆโชคดีที่งานอีกงานที่ผมต้องไปพรุ่งนี้ถูกยกเลิก ผมเลยคิดว่าจะบินกลับไทยไปตอนนี้เลยจริง ๆ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย ผมแค่ไม่ชอบให้พริ้งไปเที่ยว เพราะเวลาเธอเมามันเหมือนคนอื่นเขาซะที่ไหนกันล่ะ แต่วันนี้ลูกน้องผมบอกว่าเธอดื่มน้ำเปล่า ค่อยโล่งใจหน่อย ถ้าผมรู้ว่าเธอดื่มเหล้าคงจะหัวเสียมากกว่านี้หลังจากที่ผมแน่ใจว่าเมียผมหลับไปแล้ว ผมก็กดวางสายก่อนจะนั่งรถไปขึ้นเครื่องกลับไทยจริง ๆ ผมไม่ชอบมางานสังคมแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่เพราะพ่อเป็นคนขอให้ผมมา จะเอาเมียมาด้วยก็ไม่ยอมมา คงเพราะมีแผน อุตส่าห์ซื้อของขวัญไว้ให้ เตรียมจะเซอร์ไพรส์ รู้แบบนี้มันน่าให้ไหมวะ เมียผมแม่งดื้อ !!!#ประเทศไทยมาถึงผมก็สั่งให้ลูกน้องเอาของที่ผมจะให้เมียมาที่คอนโด เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เมื่อคุยกับลูกน้องเสร็จผมก็รีบเดินขึ้นไปที่ห้อง รอเวลาเ
หนีเที่ยว พรุ่งนี้พี่สิงห์จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไปด้วยไม่ได้เพราะต้องเรียน วันนี้เขาก็เลยจะงอแงเป็นพิเศษ แถมจะเอาฉันไปด้วยให้ได้เลย “ไปแค่สองวันเอง ไม่ได้รึไง?” พี่สิงห์ยกหัวขึ้นมานอนบนหน้าตักของฉันแล้วทำหน้าอ้อน ตอนนี้เราอยู่กันในห้อง พี่สิงห์เพิ่งจะไปรับฉันกลับมาจากมหาวิทยาลัย “ก็นั่นสิคะ แค่สองวันเองนะ” ฉันย้อนคำพูดของพี่สิงห์ทันที“เดี๋ยวนี้รู้จักเถียง” พี่สิงห์มองฉันตาดุ ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาหยิกแก้มของฉัน “อื้อ พี่สิงห์ ก็พริ้งบอกว่าพริ้งมีเรียนไง” ฉันจับมือพี่สิงห์ออกจากแก้มแล้วก็อธิบายเหตุผลเดิม ๆ ที่ฉันพูดไปเป็นร้อยครั้งแล้ว ให้พี่สิงห์ฟัง “ไม่อยากห่างเธอ” พี่สิงห์พูดเสียงจริงจัง“เราก็วิดีโอคอลคุยกันไงคะ ^_^”“มันเหมือนกันไหมล่ะ คอลคุยแล้วฉันได้กอดเธอไหมล่ะ” นั่นไง งอแงอีกแล้ว คนแก่นี่จริง ๆ เลยนะ “ยังไงก็ไปไม่ได้ค่ะ พี่สิงห์เข้าใจพริ้งหน่อย”“เธอใจร้ายชะมัด”“แล้วนี่เก็บกระเป๋ายังคะ?”“นี่อยากให้ฉันไปมากว่างั้น เธอมีพิรุธ !!” พูดจบพี่สิงห์ก็ลุกขึ้นมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง เขามองฉันด้วยสายตาที่กำลังจ้องจะจับผิดฉันอยู่“เปล่า พริ้งแค่จะเก็บกระเป๋าให้ไ
ทะเล...ที่พี่สิงห์บอกว่าจะพาฉันมาเที่ยวทะเลน่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าทะเลที่ไทย แต่ที่ไหนได้เขาพาฉันไปเที่ยวทะเลที่ต่างประเทศ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของคุณพ่อพี่สิงห์มา และแน่นอนว่ารวยระดับพี่สิงห์ต้องเป็นเกาะส่วนตัวนี่เดี๋ยวกลับไปจากเที่ยวก็ต้องไปงานแต่งของพี่มารีต่อด้วย เรามากันแค่สองวันหนึ่งคืนเท่านั้น เพราะมีเวลาแค่นี้จริง ๆ “ไปใส่ชุดนี้หน่อย”ในขณะที่ฉันกำลังนั่งมองบรรยากาศยามเช้าที่ชิงช้าริมหาดพี่สิงห์ก็ยื่นถุงอะไรบางอย่างมาให้ฉัน แถมเขายังทำหน้าอ้อนฉันอีกด้วย “อะไรคะ?” ฉันรับถุงมาจากพี่สิงห์ก่อนจะปิดดูข้างใน เมื่อเห็นว่าของข้างในนั้นมันมีสีแดงสดฉันก็รีบปิดถุงทันที มันคือบิกินี่ที่พี่สิงห์ซื้อให้ฉัน “บะ บ้า ก็พริ้งบอกว่าไม่ใส่ไง”พี่สิงห์นี่จริง ๆ เลยนะ ฉันอุตส่าห์ตั้งใจแล้วแท้ ๆ ที่จะไม่หยิบบิกินี่มา ไม่รู้ว่าพี่สิงห์แอบเอาใส่กระเป๋ามาด้วยตั้งแต่เท่าไหร่ “อุตส่าห์ซื้อมาตั้งแพง” พี่สิงห์บ่น แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขาซื้อให้เลยนะ พี่สิงห์น่ะอยากจะซื้อเองต่างหาก “ก็พริ้งบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อ”“ก็อยากให้เมียใส่ ที่นี่มีแค่ผัวเธอนะ เธอจะอายทำไม”“ก็พริ้งอายนี่นา...” ฉันทำหน้ามุ่ยตอบพี่สิงห์
เชื่อไหมคะถ้าฉันจะบอกว่าตอนนี้ฉันถูกพี่สิงห์ลากตัวมาที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อที่จะมาเลือกซื้อชุดบิกินี่ตามที่เขาได้พูดเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่อยากจะใส่มันเลยสักนิด“พี่สิงห์ไม่เอา พริ้งบอกแล้วไงว่าไม่อยากใส่” ฉันปัดมือพี่สิงห์ออก เพราะเขาเอาบิกินี่สีแดงสดมาทาบลงบนตัวของฉัน“เซ็กซี่ดี เอาอันนี้ แล้วสีไหนอีกดี” รับบทเป็นคนหูหนวกไปแล้วค่ะแฟนฉันตอนนี้ ฉันถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จะทำยังไงกับเขาดีเนี่ยพูดไม่ฟังเลยพี่สิงห์หยิบชุดบิกินี่มาประมาณสามชุดได้แต่ละชุดควไม่ต้องให้พูดถึงความโป๊ของมันนะ ถ้าแบบนี้ให้ฉันแก้ผ้าเลยยังจะดีกว่า“ยิ้มหน่อยสิ ดูทำหน้าเข้า” พี่สิงห์บอกฉันหลังจากที่จ่ายเงินค่าชุดเดินออกมาจากร้านเรียบร้อยแล้ว“พี่สิงห์น่ะ บอกไม่ฟังเลย”“หิว กินอะไรดี เธออยากกินอะไร?” ค่ะ!! สุดท้ายพี่สิงห์ก็คือพี่สิงห์ ฉันควรชินได้แล้วจริง ๆ“อะไรก็ได้ค่ะ”“อะไรก็ได้ มันไม่มีขายหรอกนะ”“กวน... เหรอคะ” ฉันพูดเว้นคำมันก็แล้วแต่พี่สิงห์จะไปเติมคำในช่องว่าง“นั่นปากใช่ไหม ใครให้พูดกับคนที่อายุเยอะกว่าแบบนี้ อีกอย่างใครใช้ให้พูดกับผัวแบบนี้ ฮะ” พี่สิงห์มองฉันสายตาเกรี้ยวกราดเขายกมือขึ้นมาเท้าเอว
ภายในห้อง... เมื่อมาถึงพี่สิงห์ก็ยังงอนตุ๊บป่องอยู่ แต่ฉันต้องไปให้อาหารแมวก่อน ดูสิพอเห็นคนเดินเข้ามาในห้องนางร้องใหญ่เลย อึเอาไว้หลายกองด้วยนะ“ค้าบบ แม่กำลังจะเอาอาหารให้กินอยู่นี่ไงสิงห์” ฉันปรามแมวน้อยเพราะเอาแต่ร้องแล้วก็จะปีนกรงท่าเดียว“เหมี๊ยว เหมี๊ยว ~” ดูมันทำท่าเข้าสิน่ารักซะไม่มีหลังจากเอาอาหารให้แมวเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องมาง้อแฟน เฮ้อ!! เป็นฉันนี่มันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ“พี่สิงห์ งอนอะไรพริ้งอีก” ฉันถามเขาแต่พี่สิงห์ก็เอาแต่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงไม่สนใจฉันเลย“ทำไมคนแก่ชอบขี้งอนจัง ไม่กลัวพริ้งเบื่อเหรอคะ”“กล้าเบื่อฉันก็ลองดู !!” พี่สิงห์ละสายตาออกจากหน้าจอโทรศัพท์ เขาจ้องฉันตาเขม่งเลยตอนนี้“พริ้งแค่คุ้นหน้าผู้ชายคนนั้น เขาน่าจะแอบกิ๊ก ๆ กันกับยัยสารธาร”“อื้ม” พี่สิงห์พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจ เขามองโทรศัพท์ในมือต่อ แต่ฉันดูออกว่าแบบนี้น่ะยังไม่หายงอนหรอกฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็คลานเข่าขึ้นไปบนเตียง นั่งคร่อมตรงช่วงสะโพกของพี่สิงห์แล้วก็มุดหน้าลงไประหว่างแขนสองข้างของพี่สิงห์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่“พี่สิงห์ทำไมขี้งอนขนาดนี้เนี่ย” ฉันบนพึมพำบนแผงอกก
เช้าวันใหม่... ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเพราะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนฉันแช่ชุดนักศึกษาเอาไว้แล้วยังไม่ได้เอาไปตากเลยเพราะเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนที่พี่สิงห์อาบน้ำอยู่เมื่อเดินเข้าไปดูในห้องน้ำฉันก็ไม่เห็นชุดนักศึกษาของตัวเองแล้ว หายไปไหนกัน“พี่สิงห์ พี่สิงห์เห็นชุดที่พริ้งแช่เอาไว้เมื่อคืนไหม” ฉันเดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถามพี่สิงห์ที่กำลังนอนหลับอยู่พี่สิงห์ปรือตาขึ้นมามองฉันแต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นที่เขามองหน้า สายตาของพี่สิงห์ค่อย ๆ เลื่อนมองตรงระดับหน้าอกของฉันอย่างหื่นกามแป๊ะ!! ฉันฟาดไปที่ไหล่กว้างของพี่สิงห์แรง ๆ เพราะเขาเอาแต่บ้ากามไม่สนใจคำถามของฉันเลย“โอ้ย! เธอตีแรงไปไหมวะพริ้ง” พี่สิงห์จ้องหน้าฉันสายตาดุ ๆ เขายกมือขึ้นไปลูบตรงที่เพิ่งโดนฉันฟาดไปเมื่อกี๊“พริ้งถามน่ะ ไม่ได้ยินเหรอคะ”“เอาไปตากให้แล้ว” พี่สิงห์ตอบก่อนที่เขาจะเอาหัวของตัวเองมาวางไว้บนหน้าตักของฉัน จะว่าไปพี่สิงห์ก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยมีตากผ้าให้ด้วย“ขอบคุณนะคะ ^_^”“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็น...”“ไม่ค่ะ หยุดบ้ากามก่อนจะได้ไหม พริ้งอยากกลับห้องแล้ว แมวพริ้งไม่มีอาหารกิน”“แมวกับผัวอะไรสำคัญกว่า