Share

บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน
บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน
Author: เซียงปู้อี๋

บทที่ 1

Author: เซียงปู้อี๋
ภายในโรงแรม สิ่งของกระจัดกระจายเละเทะ

เวินหนี่ตื่นขึ้นมา รู้สึกปวดระบมไปหมดทั้งตัว

เธอขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นก็เหลือบไปเห็นร่างสูงที่นอนอยู่ข้าง ๆ

ใบหน้าหล่อเหลาจนเกินเหตุ หน้าตาที่คมคายและคิ้วเข้ม

ชายหนุ่มยังคงหลับอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

เวินหนี่ลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มหลุดเผยให้เห็นผิวขาว และรอยเล็กน้อยบนไหล่สีขาวเซ็กซี่ของเธอ

ร่างเล็กเดินลงจากเตียง คราบเลือดปรากฏชัดบนผ้าปูที่นอน

เมื่อมองดูเวลา นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาทำงานแล้ว เธอหยิบชุดสูทที่ยับยู่ยี่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่

ถุงน่องถูกเขาฉีกขาดไปแล้ว

เธอหยิบมันขึ้นมาม้วนเป็นลูกบอลก่อนจะโยนลงถังขยะแล้วสวมรองเท้าส้นสูง

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีคนมาเคาะประตู

เวินหนี่แต่งตัวเรียบร้อย และกลับมาสู่ตำแหน่งเลขาที่มากความสามารถ เธอถือกระเป๋าและเดินออกไป

คนที่เข้ามาคือสาวสวยคนหนึ่ง

ที่เธอเป็นคนเรียกมาเอง

เป็นแบบที่เย่หนานโจวชอบ

เวินหนี่พูดขึ้นว่า “เธอแค่นอนอยู่บนเตียงรอจนกว่าประธานเย่จะตื่น แล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”

เธอหันกลับไปมองชายที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงอีกครั้งก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไป

เวินหนี่ไม่ต้องการให้เย่หนานโจวรู้ว่าเมื่อคืนนี้ทั้งสองมีอะไรกัน

พวกเขามีข้อตกลงว่าจะหย่ากันหลังจากสามปี

ระหว่างนี้ห้ามมีอะไรเกิดขึ้น

เธอเป็นเลขาส่วนตัวของเย่หนานโจวมาเจ็ดปี และเป็นภรรยาของเขามาสามปี

หลังจากเรียนจบ เธอก็อยู่ข้างกายเขามาโดยตลอด

และวันนั้นเขาก็กำชับกับเธอว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเป็นเพียงเจ้านายและลูกน้องเท่านั้น

ไม่สามารถข้ามชั้นของตัวตนนี้ไปได้

เวินหนี่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างตรงทางเดิน เธอยังคงคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขากอดเธอบนเตียงพร้อมกับเรียกชื่อ “เซิงเซิง”

หัวใจของเธอกระตุกอย่างหนัก

เซิงเซิงคือรักแรกของเขา

เขาเห็นเธอเป็นตัวแทนของเซิงเซิง

เธอรู้จักเย่หนานโจวดี และเขาก็ไม่มีทางมีอะไรกับเธอ

การแต่งงานที่มีเพียงเธอจริงจังฝ่ายเดียวนี้ควรจบลงเสียที

เรื่องเมื่อคืนถือเสียว่าเป็นการปิดฉากสามปีระหว่างเธอและเขา

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นพาดหัวว่านักร้องดาวรุ่งลู่ม่านเซิงกลับมาประเทศจีนพร้อมคู่หมั้นของเธอ!

เวินหนี่กำโทรศัพท์แน่น รู้สึกเจ็บปวดใจมากขึ้นกว่าเดิมจนแสบจมูก

เธอรู้แล้วว่าทำไมเมื่อคืนนี้เขาถึงดื่มหนัก และทำไมถึงได้ร้องไห้ในอ้อมแขนของตน

ลมเย็นพัดมาบนร่างกายของเธอ เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะเก็บโทรศัพท์ แล้วหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า

เธอจุดบุหรี่และถือมันไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง ควันบุหรี่ลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้ใบหน้าที่สวยงามและโดดเดี่ยวของเธอพร่ามัว

ทันใดนั้น หลี่ถิงก็วิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา “พี่เวินหนี่ ชุดสูทของประธานเย่มาถึงแล้วค่ะ ฉันจะเอาเข้าไปเดี๋ยวนี้”

เวินหนี่สลัดความคิดทิ้งทันใดก่อนจะหันกลับไป

เธอกวาดตามอง “เดี๋ยวก่อน”

หลี่ถิงถิงหยุดฝีเท้า “มีอะไรอีกหรือเปล่าคะพี่เวินหนี่”

“เขาไม่ชอบสีฟ้า ไปเปลี่ยนเป็นสีดำ เนกไทเอาเป็นลายสก็อต อืม แล้วก็รีดอีกครั้ง อย่าให้มีรอยยับ แล้วก็อย่าใส่ในถุงใส เขาไม่ชอบเสียงพลาสติก แขวนบนไม้แขวนแล้วเอาเข้าไปก็พอ” เวินหนี่เป็นเหมือนแม่บ้านส่วนตัวของเย่หนานโจว เธอจำนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาได้ และหลายปีมานี้ก็ไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้งเดียว

หลี่ถิงตกตะลึง ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา แค่การมองหน้าประธานเย่ที่เหมือนเจ้าแห่งนรกก็ทำให้เธอตกใจกลัวมากพออยู่แล้วและวันนี้ก็เกือบจะเกิดเรื่องขึ้นอีก

หลี่ถิงรีบนำชุดกลับไปเปลี่ยนทันที “ขอบคุณมากค่ะพี่เวินหนี่”

ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังมาจากในห้อง “ไสหัวออกไป!”

ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของหญิงสาว

ไม่นานประตูก็เปิดออก

หลี่ถิงคอตก และดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

เธอถูกดุอีกแล้ว

แถมครั้งนี้ ประธานเย่ก็ดูอารมณ์เสียมากด้วย

เธอส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางเวินหนี่ “พี่เวินหนี่ ประธานเย่บอกให้พี่เข้าไปค่ะ”

เวินหนี่มองดูประตูที่เปิดกว้างอยู่ และกลัวว่าเธอเองก็อาจจะรับมือไม่ไหว “เธอลงไปก่อนแล้วกัน”

เธอวางก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องสวีท

เธอมองเห็นความเละเทะภายในห้องตั้งแต่อยู่ที่หน้าประตู และของที่อยู่รอบตัวเย่หนานโจวก็กระจัดกระจาย

โคมไฟตั้งโต๊ะล้มลง และโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกก็ยังคงสั่นอยู่

ผู้หญิงที่เธอหามาตกใจกลัวจนไม่กล้าขยับร่างกายเปลือยเปล่าที่ไม่รู้ว่าควรยืนอยู่ตรงไหน และมีร่องรอยของความหวาดกลัวในดวงตา

เย่หนานโจวนั่งขรึมบนเตียง เขามีรูปร่างสมส่วน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เขามีกล้ามเนื้อที่ชัดเจน อกที่กว้างและกล้ามเนื้อหน้าท้องโดดเด่นที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม

เขาดูเย้ายวนมาก แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขากลับมืดมน และดวงตาของเขาก็ดูน่ากลัวมาก

เวินหนี่ก้าวไปข้างหน้า หยิบโคมไฟขึ้นมา ก่อนจะเทน้ำใส่แก้วแล้ววางลงบนโต๊ะข้างเตียง “ประธานเย่ คุณมีประชุมตอนเก้าโมงครึ่ง ตอนนี้ก็ลุกได้แล้วค่ะ”

ดวงตาของเย่หนานโจวจ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างเย็นชา

ดูเหมือนเหลือเชื่อ

เวินหนี่สังเกตเห็นสิ่งนี้จึงพูดกับเธอว่า “เธอออกไปก่อน”

ผู้หญิงคนนั้นโล่งใจ รีบหยิบเสื้อผ้าแล้วออกไปทันที ไม่กล้าแม้แต่จะหยุดเดินเพียงก้าวเดียว

ทุกอย่างกลับมาสงบอีกครั้ง

เย่หนานโจวเบี่ยงสายตากลับมาที่ใบหน้าของเวินหนี่

เวินหนี่ยื่นน้ำใส่มือให้เขาด้วยความเคยชิน ก่อนจะวางเสื้อไว้ข้างเตียง “ประธานเย่ เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วนะคะ”

ใบหน้าของเย่หนานโจวเคร่งขรึม นัยน์ตาแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เมื่อคืนเธอไปไหน?”

เวินหนี่ตกใจเล็กน้อย นี่เขากำลังโทษเธอว่าไม่ดูแลเขาให้ดีแล้วปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นใช้ประโยชน์จากเขา จนทำให้เขาทำผิดต่อเซิงเซิงอย่างนั้นเหรอ?

ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย “ประธานเย่ คุณนอนกับผู้หญิงเพราะความเมา ทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าใส่ใจมากเกินไปเลยนะคะ”

อารมณ์ของเธอดูไม่แยแสราวกับจะบอกว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้ให้เขา และจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงมาสร้างความวุ่นวายให้กับเขา

เขาจ้องมองเธอ ก่อนที่เส้นเลือดบนหน้าผากจะปูดขึ้น “ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อคืนเธอไปไหน?”

เวินหนี่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย “ช่วงนี้ฉันเหนื่อยกับการจัดการโปรเจ็กต์ ก็เลยเผลอหลับไปที่ออฟฟิศค่ะ”

เมื่อพูดจบก็ได้เสียงสบถของเย่หนานโจว

สีหน้าของเขาเคร่งขรึม เม้มริมฝีปากบางแน่น ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วพันตัวด้วยผ้าเช็ดตัว

เวินหนี่มองแผ่นหลังของเขาด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาจากทางหางตา

เขามักจะปกปิดร่างกายตัวเองต่อหน้าเธอเสมอ ราวกับว่ามันน่าขยะแขยงหากจะให้เธอได้เห็นแม้แต่เพียงครั้งเดียว

เมื่อคืนตอนที่เขาคิดว่าเธอคือเซิงเซิง เขาไม่มีท่าทางแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

พอได้สติกลับมา เย่หนานโจวก็อาบน้ำเสร็จและเดินออกมายืนอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่แล้ว

เวินหนี่เดินเข้าไปติดกระดุมเสื้อให้เขาตามปกติ

เขาสูงมาก ประมาณ 188 ซม. แม้ว่าเธอจะสูงถึง 168 ซม. ก็ตาม แต่ร่างเล็กก็ยังมีความสูงไม่มากพอที่จะผูกเนกไทให้เขา

ดูเหมือนเขาจะยังโกรธกับความสกปรกที่ตัวเองทำลงไปและที่ทำผิดต่อเซิงเซิง ทำให้เขาเย็นชาและหยิ่งเกินกว่าจะก้มลงมา

เธอทำได้เพียงยืนเขย่งเท้าและผูกเนกไทที่คอของเขา

ขณะที่เธอกำลังมุ่งความสนใจไปที่การผูกเนกไท ลมหายใจร้อนของเย่หนานโจวก็รินรดลงมาบนใบหูของเธอ และเสียงที่แหบห้าวของเขาก็ดังขึ้น “เวินหนี่ ผู้หญิงคนเมื่อคืนคือเธอใช่ไหม”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (7)
goodnovel comment avatar
Chalinee
เยี่ยมเยี่ยม
goodnovel comment avatar
วิไลพร พรมตะโก
เขียนได้ดีมากๆค่ะ
goodnovel comment avatar
แม่จ๋า ๓ แมว
เขียนได้สนุกมากค่า ขอบคุณมากๆนะคะ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status