ฉันที่ได้ยินคำตอบของคนด้านหลังถึงกับสะดุ้งเฮือก ขะ เขาคือคุณบทร้าย คุณบทร้ายที่ดุๆ ที่แม่เคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอ
" หึ! ทำไม เงียบทำไม " เขาถามฉันขึ้นมาด้วยท่าทางพออกพอใจที่เห็นฉันตอนนี้หน้าซีดเผือดอย่างกับคนไม่มีเลือดสูบฉีดเข้าร่างกาย " คุณลักพาตัวหนูมาทำไมคะ " ฉันที่ตอนนี้น้ำเสียงเริ่มแผ่วเบาด้วยความกลัว เรี่ยวแรงที่จะพูดจะถามเขาก็แทบจะไม่มีเหลือแล้ว " หึ! ลักพาตัว กล้าดียังไงมาว่าฉันลักพาตัวเธอ ฮ่ะ!!!! " เขาตะคอกฉันเสียงดังลั่นรถ น้ำเสียงของเขาตอนนี้เหมือนเสือ เสือที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อและกัด ฉีก เนื้อของเหยื่อออกมาเป็นชิ้นๆ ให้ทรมาน ฉันที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดด้วยความกลัว ฉันกลัวมากเลย และฉันก็หมดสติไปในที่สุด @เพนท์เฮ้าส์ ฉันที่ตอนนี้รู้สึกเย็นๆเปียกๆก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา ก็พบว่าฉันโดนเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สาดน้ำลงมาใส่ใบหน้าของฉันจนเปียกชุ่ม ดีนะที่วันนี้ฉันใส่ชุดกีฬาของโรงเรียนมาเลยไม่โป๊มาก ถ้าเป็นชุดนักเรียนที่เคยใส่เป็นประจำกับเสื้อสีขาวๆ ถ้าเขาสาดน้ำลงมามันก็คงโป๊เปลือยไปหมดเลย " ตื่น!! " เขาตะคอกน้ำเสียงใส่ฉัน จนฉันที่ได้ยินถึงกับสะดุ้งอย่างตกใจ และฉันกลัวเขาจนสั่นไปหมด ทำไมเขาถึงดูดุร้ายมากขนาดนี้กัน ฉันเป็นแค่เด็ก ม.5 คนหนึ่งเองนะ " คุณปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูกราบคุณก็ได้ " ฉันยกมือขึ้นและกราบไปแทบเท้าของเขาที่ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ ฉันที่ตอนนี้ตัวสั่นเพราะความหนาวจากน้ำที่เขาสาดมาระคนกับความกลัวที่ฉันมีต่อเขา ทำให้ร่างกายฉันสั่น ปากสั่นระริก " ปล่อยงั้นเหรอเด็กโง่! พ่อเลี้ยงของเธอส่งเธอมาขัดดอกให้ฉัน 2 ปี คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปอย่างงั้นเหรอ!! " เขาตะคอกด่าฉันและจับกุมที่ผมของฉันที่เปียกไปด้วยน้ำจากฝีมือเขา พร้อมกับดึงฉันขึ้นมาประชันหน้าเขาอย่างไร้ความปรานี เขาจ้องหน้าฉันพร้อมกับยกยิ้มมุมปากร้ายๆเหมือนพอใจในผลงานของตัวเองที่ตอนนี้ทำเอาฉันหวาดกลัวไม่น้อย " ถะ ถ้าครบ 2 ปีแล้ว คุณจะปล่อยหนูไปใช่ไหมคะ " ฉันเงยหน้าขึ้นมาถามเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ โดนที่มือของเขายังขยุ้มมาที่ผมของฉันไม่ยอมปล่อย ฉันเจ็บมากเลย เจ็บจนน้ำตาไหลออกมาไม่ยอมหยุด " คนไร้ค่าแบบเธอ ฉันจะทนอยู่กับเธอให้ครบ 2 ปีแล้วกัน! " เขาปล่อยมือจากผมของฉัน และฉันก็ล้มลงฟุบกับพื้นทันที " หนูขอคุณ 2 เรื่องได้ไหมคะ " ฉันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยันตัวเองลุกขึ้นนั่งอีกครั้งอย่างไร้เรี่ยวแรง กับคำขอที่ฉันคิดว่ามันไม่น่ายากสำหรับเขาเลย เพราะยังไงเขาก็เกลียดฉันเข้ากระดูกดำของเขาอยู่แล้ว " ยังมีหน้ามาต่อรองกับฉันอีกเหรอ ว่ามา! " เขาก้มหน้าลงมารอฟังคำขอของฉันใกล้ๆ " หนูขอเรียนต่อจนจบได้ไหมคะ เรื่องค่าเทอมไม่ต้องห่วงเลยค่ะ หนูได้ทุนเรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย " ฉันบอกเขาไป เพราะฉันเป็นคนที่เรียนเก่งอยู่แล้ว ไม่ยากที่ฉันจะขอทุนการศึกษาให้กับตัวเอง อีกอย่างครอบครัวฉันก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ฉันเลยต้องหาพึ่งตัวเองด้วยความสามารถของตัวเองล้วนๆ " อืม แล้วข้อสองล่ะ " เขาตอบฉันพร้อมกับยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย " หนูขอให้คุณอย่าข่มขืนหนูเลย ได้ไหมคะ " ข้อนี้ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยท่าทางอ้อนวอนขอความเมตตาจากเขา " ถุ้ย! " เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นอย่างหยาบคาย " เธอก็ช่างหน้าด้านกล้าขอฉัน! ฉันไม่พิศวาสเด็กไร้น้ำยาอย่างเธอหรอก " เขาลุกขึ้นพร้อมกับเตะเก้าอี้ที่เขานั่งไปจนพังแตกเป็นเสี่ยงๆ " อายุ 17 ปี ฉันไม่แตะตัวเธอหรอก เด็กอ่อนหัด! " เขาโน้มหน้าลงมากบอกฉันใกล้ๆ พร้อมกับจับคางมนของฉันบีบมันแรงๆจนฉันรู้สึกเจ็บ พอเขาพูดจบก็สะบัดมือออกอย่างแรงจนหน้าของฉันหันขวับไปอีกข้าง " ขอบคุณค่ะ " ฉันยกมือไหว้ขอบคุณเขาอีกครั้ง อย่างน้อยสิ่งที่ฉันขอเขาไป เขาก็ตอบตกลงแล้ว ถึงเขาจะใช้งานฉันหนักขนาดไหนเพื่อใช้หนี้แทนพ่อเลี้ยงฉันได้ ฉันก็ยอม . . . ถ้าครบกำหนด 2 ปีเมื่อไหร่ ฉันจะไปจากคุณทันที!โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังถูกจัดไว้สำหรับการคลอดโดยเฉพาะ บทร้ายไม่ยอมห่างจากห้องคลอดแม้แต่ก้าวเดียวเขานั่งกุมมือเจ้าหญิงแน่นตลอดทุกวินาทีของความเจ็บปวด“พี่…มันเจ็บ หนูไม่ไหวแล้ว…” เจ้าหญิงเหงื่อซึม หน้าซีด“ไหวสิเมียพี่ต้องไหว หนูเก่งที่สุดแล้วนะครับ…” บทร้ายแนบริมฝีปากกับหน้าผากเมียน้ำตาคลอ“แค่คลอดลูกของเราออกมา พี่ขอร้อง…”เสียงร้องไห้ของทารกตัวน้อยดังขึ้นในห้อง บทร้ายถึงกับทรุดนั่งร้องไห้เงียบๆข้างเตียงราวกับหัวใจถูกปลดปล่อยจากความกลัวทั้งปวง“ได้ลูกสาวค่ะ แข็งแรงมากเลย”“ลูกพ่อ… หนูของพ่อ… ขอบคุณที่มาเกิดเป็นลูกพ่อแม่นะครับ”...ลูกสาวของบทร้ายและเจ้าหญิงถูกตั้งชื่อว่า “น้องเจ้าขา”เด็กหญิงผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตเหมือนแม่ รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนพ่อเมื่ออายุครบ 1 ขวบเธอเริ่มหัดเดิน เริ่มพูดคำว่า “ปะป๊า” และ “หม่ามี๊” ได้บทร้ายนั่งคุกเข่ารอรับลูกที่กำลังเกาะโซฟาแล้วค่อยๆยืนขึ้นเจ้าขาก้าวขาเล็กๆเดินมาหาพ่อก่อนจะโผเข้ากอดอกบึ้กๆของบทร้ายแน่น“เก่งมากลูก… ลูกของพ่อเดินได้แล้ว!” บทร้าย หัวเราะแล้วร้องไห้ในเวลาเดียวกัน“เจ้าขาเก่งที่สุดเลยลูก หนูเก่งเหมือนแม่เลยใช่ไห
มหาวิทยาลัยเจ้าหญิงกำลังนั่งเรียนทุกคนตกใจเมื่อเห็น “เจ้าของมหาวิทยาลัย” เดินตรงมาที่หน้าห้องเรียน ใส่สูทสีดำ ขรึมเยือกเย็น ดวงตาแดงก่ำอาจารย์ถึงกับชะงักบทร้ายเปิดประตูโดยไม่พูดอะไร ก่อนพูดเพียงคำเดียว“ออกมาเดี๋ยวนี้” บทร้ายพูดเสียงเข้มเจ้าหญิงหน้าเสียหยิบของแล้วรีบลุกเสียงซุบซิบในห้องดังกระหึ่ม “บทร้ายดุโหดมาก” “โอ้ย เมียโดนแน่”ในรถพอขึ้นรถเท่านั้นแหละประตูปิดเสียงดัง “ปัง!” ก่อนที่บทร้ายจะพูดด้วยน้ำเสียงกดอารมณ์“ทำไมไม่บอกพี่?” บทร้ายเสียงสั่น“หนูแค่อยากเรียน… หนูไม่อยากเป็นภาระ” เจ้าหญิงก้มหน้าตอบน้ำเสียงเบาๆ“ไม่อยากเป็นภาระจนไม่รักตัวเองรึไง!?! หนูเพิ่งฟื้น รู้ไหมว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะ…” บทร้ายเผลอตะคอกใส่เจ้าหญิงด้วยความโกรธเขากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธปนเสียใจ เจ้าหญิงน้ำตาซึมพยายามยื่นมือไปแตะแขนบทร้าย“พี่… หนูขอโทษ…”“อย่าทำแบบนี้อีกนะครับหนู พี่ขอโทษที่ดุ แต่พี่กลัว… พี่กลัวจะเสียหนูไปอีก…” บทร้ายเสียงแผ่วลงเมื่อรู้ตัวว่าเผลอตะคอกเมียเพนท์เฮ้าส์บทร้ายอุ้มเมียขึ้นห้องไม่พูดไม่จาแต่พอวางเมียบนเตียงเท่านั้นก็ซบหน้าลงที่หน้าท้องเธอน้ำตาหยด
มหาวิทยาลัยเช้าวันรุ่งขึ้น: วันพรีเซนต์เจ้าหญิงสวมชุดนักศึกษาสะอาดเรียบ ผูกผม เรียบร้อย แต่หน้าซีดมาก เธอยืนหน้าห้องประชุมพร้อมทีม หัวใจเต้นแรงเพราะความเครียด ตอนที่เดินขึ้นเวที…เธอกลั้นหายใจและเริ่มพูด30 นาทีผ่านไป…...พรีเซนต์เสร็จ...ภาพเริ่มเบลอ เสียงในห้องเบาๆลง มือสั่น หน้าเย็นเฉียบ เจ้าหญิงเซ ทรงตัวไม่อยู่ ร่างบางล้มลงต่อหน้าอาจารย์และเพื่อนทั้งห้อง“เจ้าหญิง!!”🚑 โรงพยาบาลบทร้ายได้ยินข่าวจากพยาบาลที่ติดต่อมา บทร้ายมาถึงด้วยความเร็วสูงสุดที่รถของเขาจะพาไปได้ เขาเปิดประตูห้องฉุกเฉินด้วยหัวใจที่แทบหลุดออกมามองเห็นเมียนอนบนเตียง ให้น้ำเกลือ ขอบตาแดงเพราะน้ำตา“พี่ขอโทษ…พี่ไม่น่าปล่อยให้หนูทำทุกอย่างคนเดียวแบบนั้นเลย”“พี่ควรอยู่ตรงนั้น พี่ควรกอดหนู พี่ควรห้ามหนูตั้งแต่แรก…”เขาคุกเข่าข้างเตียง จับมือเมียไว้แน่น ริมฝีปากสั่น น้ำตาไหลเงียบๆ ในห้องเงียบสงัดมีแค่เสียงเครื่องวัดชีพจรและเสียงใจเขาเต้นระรัว...เจ้าหญิงลืมตาช้าๆเห็นหน้าผัวฟุบอยู่ข้างเตียงมืออุ่นๆของเขาจับมือเธอไว้ตลอดไม่ปล่อยเลยแม้แต่วินาทีเดียว“พี่…” เจ้าหญิงเรียกบทร้ายเสียงเบาและแหบพร่า“หนู…หนูตื่นแล้วใช่ไหมคะ
ฮันนีมูนสุดหรูหนึ่งวันหลังแต่งงานบทร้ายจองเกาะส่วนตัวที่มัลดีฟส์ มีแค่เขาและเธอ…ในรีสอร์ทกลางทะเลเสียงคลื่นเบาๆ บรรยากาศโรแมนติกจนต้องรักกันทุกเช้า เย็น และกลางคืน“บนเตียงก็ผัว บนเรือก็ผัว ในน้ำก็ผัว…หนูหนีผัวไม่พ้นหรอกเมียพี่”ปี 4เช้าวันเปิดเรียนเช้านั้น…เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ทันดัง บทร้ายก็ตื่นขึ้นมามองใบหน้าหวานของภรรยาสุดที่รัก เจ้าหญิงนอนกอดแขนเขาแน่นเสื้อยืดตัวใหญ่ที่ใส่นอนเมื่อคืนเลิกขึ้นมานิดๆเผยให้เห็นผิวขาวนวลจนคนเป็นผัวอยากจะให้เมียโดดเรียน…เอ้ย ไม่ใช่บทร้ายก้มจูบหน้าผากเจ้าหญิงเบาๆ“เมียพี่จะเป็นนักศึกษาปี 4 ที่สวยที่สุดในโลก”พอเจ้าหญิงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ บทร้ายยืนยันจะขับรถไปส่งเมียเอง ไม่ยอมให้อัคคีขับเหมือนทุกครั้ง“ขอโทษนะคะ ผัวขับรถไปรอหน้าคณะทุกวันแบบนี้ เพื่อนจะไม่สงสัยเหรอคะ?” เจ้าหญิงพูดแซว“ก็ไม่ต้องสนใจสิคะคุณเมีย เขารู้ก็ดี จะได้รู้ว่าเมียใครอย่าแตะ” บทร้ายตอบยียวนกวนประสาทกลับมหาวิทยาลัยคณะนิเทศศาสตร์ทุกสายตาหันมามอง…เจ้าหญิงเปิดประตูลงจากรถสุดหรูพร้อมเสียงกระซิบของเพื่อนๆในคณะ“นั่นผัวเจ้าหญิงเหรอ?”“โอ๊ย ทำไมหล่อโหดขนาดนี้”“มีผัวดีชีวิตดีจริงๆ…”“แล
บทร้ายวางแหวนวงเดิมไว้ในกล่องกำมะหยี่เขาคุกเข่าอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะผิด แต่เพราะรัก“หนู…พี่ไม่รู้ว่ามีสิทธิ์ไหม แต่ขอพี่ได้ใส่แหวนวงนี้ให้อีกครั้ง ไม่ใช่แค่ในฐานะผัว แต่ในฐานะผู้ชายที่ไม่มีใครรักเท่าหนูอีกแล้ว…”เจ้าหญิงยื่นมือไปทั้งน้ำตาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูเขา“ใส่ให้แน่น ๆ เลยนะคะพี่…เพราะรอบนี้ หนูจะไม่มีวันถอดมันออกอีกแล้ว…”...ห้องสวีทชั้นบนสุดของโรงแรม 7 ดาวในกรุงเทพมหานครคือสถานที่ที่บทร้ายจัดไว้สำหรับการ “เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่” เขาไม่พูดพร่ำ ไม่อธิบายซ้ำ เขาแค่จ้องเจ้าหญิงด้วยแววตาที่ลึกกว่าทะเล…และเร่าร้อนกว่ากองไฟบทร้ายปิดประตูห้องเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเจ้าหญิงช้าๆเหมือนนักล่าที่รอคอยเหยื่อของเขากลับมาอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง“คืนนี้…ผัวจะรักเมียให้สมกับที่เกือบเสียเมียไป…” บทร้ายดึงเจ้าหญิงเข้าไปจูบอย่างรุนแรงลิ้นของเขาดุนดันสอดแทรกและตักตวงรสหวานจากริมฝีปากที่เขาโหยหา มือเขากอบกุมเอวบางแน่นจนเจ้าหญิงต้องจับไหล่เขาไว้“พะ-พี่…เดี๋ยวก่อน…”“ไม่รอแล้ว…เมียพี่ทั้งคน ผัวห้ามใจไม่ไหวแล้ว…”บทร้ายยกตัวเข้าหญิงขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวก่อนพาไปวางลงบนเตียงใหญ่ ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล
เพนท์เฮ้าส์ทุกคืน…บทร้ายนอนกอด iPad เปิดรูปคู่ที่ถ่ายตอนขอแต่งงานและวิดีโอที่เขาแอบอัดเอาไว้เองเสียงเจ้าหญิงพูดว่า “รักผัวนะคะ” ยังอยู่ในคลิป แต่ยิ่งฟังยิ่งเจ็บ เพราะรู้ว่า…เขาทำลายมันด้วยมือของตัวเอง“พี่แม่ง…เลวชิบหาย…” บทร้ายกัดปากจนเลือดซึม โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระจกที่แขวนไว้ถูกเขาเขวี้ยงแตกเป็นเสี่ยงๆในไลน์กลุ่มรวมนักศึกษาโดยบทร้ายมีแอ็คอวตารเข้าไปอยู่ด้วยในกลุ่ม...มีคนโพสต์รูประหว่างเจ้าหญิงกับเพื่อนใหม่มีเสียงเชียร์ว่า “เปิดใจเถอะเจ้าหญิง” แต่ทุกข้อความ…เหมือนมีดปักที่กลางอกบทร้าย...โต๊ะกินข้าวที่เคยมีเจ้าหญิงคอยตักให้วันนี้มันว่างเปล่า บทร้ายนั่งมองข้าวเย็นจนแข็ง แล้วเอาไปเททิ้งทั้งน้ำตา“ไม่มีหนู…อะไรมันก็ไม่มีรสชาติอีกเลย…”วันถัดไปธันวามาหาเพื่อนสนิทที่เพนท์เฮ้าส์ ธันวาแอบไปซุ่มดูเจ้าหญิงห่างๆ เขาอัดวิดีโอที่ตอนเจ้าหญิงพูดกับแม่วันดีไว้ เขานำมาเปิดให้บทร้ายดูในวันหนึ่งที่เขาหมดแรงจะลุกขึ้นจากเตียง “แม่…หนูไม่ได้อยากหย่า หนูแค่เสียใจ หนูแค่รู้สึกว่าพี่เขาไม่รักหนูจริง…”คำว่า “ไม่ได้อยากหย่า” กลายเป็นไฟสุดท้ายที่ยังจุดในหัวใจบทร้ายบทร้ายเงยหน้าขึ้น…น้ำตาไหลพร