ฉันที่ตอนนี้นั่งซาฟารีมาลงด้านหน้าตรงบานรั้วประตูใหญ่สีดำของเพ้นเฮ้าท์ และเดินออกมานอกรั้วแล้วหยุดยืนนิ่งอยู่ซักพักหนึ่งฉันก็เดินออกไปทางด้านซ้ายมือตามที่คุณบทร้ายได้บอกเอาไว้เมื่อคืนนี้ ฉันเดินประมาณราวๆ 2 นาทีก็ถึงป้ายรถเมล์ที่คุณบทร้ายได้บอกฉันเอาไว้ ฉันยืนรอรถเมล์ได้สักพักรถเมล์ก็มาจอดอยู่ที่หน้าป้าย ข้อดีอีกอย่างคือรถเมล์เกือบทุกสายที่ป้ายนี้ จะวิ่งผ่านหน้าโรงเรียนของฉันทุกสาย โดยที่ฉันไม่ต้องลงมาป้ายอื่นเพื่อต่อรถไปโรงเรียนอีกครั้งเหมือนตอนที่ยังอยู่ที่บ้าน ฉันนั่งรถเมล์เดินทางประมาณ 30 นาทีรถเมล์ก็จอดตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนของฉัน
พอฉันก้าวขาลงมาจากรถเมล์ก็พบกับเถวะที่กำลังยืนรอฉันอยู่เฉียดเช่นประจำเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ " เจ้าหญิง " เถวะโบกไม้โบกมือให้ฉันที่ตอนนี้ฉันกำลังก้าวขาลงจากรถเมล์ ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบลงจากรถเมล์และเดินเข้าไปหาเถวะทันที " เถวะ มารอนานหรือยัง " ฉันดินเข้าไปหาเถวะพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เพื่อนชายคนเดียวของฉัน " ไม่นานหรอก ถึงนานกว่านี้ก็รอเจ้าหญิงได้เสมอแหล่ะ " เถวะตอบทีเล่นทีจริงพร้อมกับหัวเราะออกมาจนตาตี๋ๆของเขาแทบมองไม่เห็นลูกตาสีดำอยู่แล้ว " เราได้ยินมาว่าพ่อเลี้ยงเจ้าหญิงส่งเจ้าหญิงไปขัดดอกกับคุณบทร้ายเหรอ " เถวะกับฉันที่กำลังเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนก็ถามฉันขึ้นมา ฉันที่ได้ยินดังนั้นจึงหยุดชะงักทันที " ถะ เถวะ รู้ได้ยังไง " ฉันที่ได้ยินเถวะถามอย่างนั้นดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที พร้อมกับกำสายกระเป๋าเป้สีขาวของฉันเอาไว้แน่น " เราได้ยินคุณพ่อพูดกับคุณแม่ แต่เราสาบานเลยนะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด " เถวะตอบฉันพร้อมกับชูนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อบ่งบอกเป็นสัญญานว่าเขาจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด! " อ่อ ไม่เป็นไรหรอก " ฉันที่ได้คำตอบจากเถวะแล้วก็เดินเข้าไปในโรงเรียนอีกครั้ง ฉันไม่ได้สนใจว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ เพราะที่แน่ๆคนแถวบ้านฉันรู้หมดแล้วแน่ๆ และลูกๆหลานๆของพวกเขาก็คงจะเอามาป่าวประกาศที่โรงเรียนให้เพื่อนๆได้รับรู้กันอยู่ดี ฉันที่เดินเข้ามาในรั้วของโรงเรียนก็พบสายตาของทั้งนักเรียนและคุณครูบางท่านจ้องมองมาทางฉันตาเป็นมัน " มองอะไรวะ! " เถวะที่เดินอยู่ข้างๆหันไปถามพวกนั้นอย่าหาเรื่องทันที " ถ้าพวกมึงยังมองอีกกูจะให้พ่อกูมาจัดการพวกมึงทุกตัวเลย! " เถวะชี้นิ้วพูดขู่คนอื่นๆ จนทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เดินออกไปเพราะกลัวคำขู่ของเถวะกันใหญ่ คุณพ่อของเถวะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทุกคนกราบไหว้นับถือกัน เพราะท่านมีศักดิ์เป็นถึงคุณชายน่ะสิ ก็ถือได้ว่าตระกูลที่บ้านของเถวะก็ร่ำรวยไม่แพ้ใครๆ และฉันกับเถวะก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.1 แล้ว และครอบครัวของเถวะก็รักและเอ็นดูฉันเหมือนกับลูกสาวคนหนึ่งเช่นกัน คุณพ่อของเถวะบอกว่าจะใช้หนี้ให้พ่อของฉัน แม่ของฉันก็ยอมนะเพราะว่าติดหนี้พ่อของเถวะยังดีกว่าติดหนี้ของมาเฟียที่ชื่อบทร้าย! แต่คุณบทร้ายดันไม่ต้องการเงินซะนี่! พ่อกับแม่ของฉันก็ งง เหมือนกัน เอาเงินมาให้ก็ไม่เอา ยื่นข้อเสนออะไรมาให้ก็ไม่ยอม จนพ่อเลี้ยงเผลอหลุดปากพูดว่าจะยกลูกสาวให้ไปขัดดอก ให้ 2 ปี เขาดันยอมเอาซะอย่างงั้น!!ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับเถวะ ฉันเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับหมวย ส่วนเถวะเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะกันกับต่อ ที่นั่งโต๊ะอยู่ด้านหลังของฉันนั่นเอง" สวัสดีจ๊ะ หมวย " ฉันเอ่ยทักทายหมวยเพื่อนสาว สาวอวบอิ่ม ขาว ตาตี๋ที่น่ารักน่าหยิก ^^" สวัสดีจ๊ะ เจ้าหญิง " หมวยเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้มหมวย เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉันมาตั้งแต่ ม.4 หมวยจะแตกต่างไปจากคนอื่นๆ ที่ตอนนี้คนอื่นๆมองฉันเหมือนเป็นตัวน่าแขยะแขยงไปหมด ส่วนหมวยจะเป็นเพื่อนที่น่ารักและเข้าใจฉันเสมอ เพราะทางบ้านของหมวยเองก็มีฐานะไม่ต่างจากฉันมากเท่าไหร่นักก็เลยพอจะเข้าอกเข้าใจคนหัวอกเดียวกันเป็นอย่างดี แตกต่างจากเถวะที่บ้านเป็นตระกูลผู้ดีแต่เขายังมาเกือกกลั้วอยู่เป็นเพื่อนกับฉันมาตั้งแต่ที่ฉันอยู่ ม.1 ส่วน ต่อ เป็นเพื่อนชายของเถวะ หล่อ คม เข้ม ผิวสีแทน ซึ่งลุคดูแตกต่างจากเถวะ แต่นิสัยดันเหมือนกันสุดขั้ว ต่อที่ฐานะทางบ้านดีพอๆกันกับเถวะ ฉัน หมวย เถวะ และต่อ ก็เลยเป็นเพื่อนเล่น เพื่อนเรียนกันมาตลอด และจะเป็นพวกเพื่อนทั้ง 3 คนของฉันเสมอที่คอยปกป้องและดูแลฉันมาตลอด " เจ้าหญิงเลือกคณะที่ตัวเองอยากเข้าเรียนหรือยัง เทอมหน้าพวกเราก็ขึ้น ม.6 แล้วนะ
" ท่าทางดูเหมือนคุณจะเหนื่อย กินขนมปังหน่อยไหมคะ " ฉันที่หยิบขนมปังออกมาจากกระเป๋านักเรียนและได้ยื่นมันไปให้เขาทันทีเขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับหันหน้ามาทางฉันเล็กน้อย" ไม่กิน! " เขาตอบกลับฉันแต่มือของเขาดันหยิบขนมปังในมือของฉันออกและโยนมันเอาไปไว้เบาะด้านหลังรถทันทีและก็หันกลับไปนั่งและเอาหัวพิงเบาะและหลับตาลงต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรฉันนัก" ไม่กินก็ไม่ต้องกันซี่ โยนของหนูทิ้งทำไม " ฉันบ่นพึมพำของฉันเบาๆอยู่คนเดียวหลังจากที่รถขับมาได้เกือบหนึ่งชั่วโมง ก็มาจอดที่โรงจอดรถแห่งหนึ่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน" ถึงแล้วครับท่าน " ลูกน้องที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันหน้ามาบอกคุณบทร้าย" อืม " เขาลืมตาขึ้นมาพร้อมกับตอบกลับไปสั้นๆ หลังจากที่พวกเขาได้ยินคำตอบของผู้เป็นนายแล้วเขาก็ลงจากรถตู้ทันทีฉันที่เดินตามหลังของคุณบทร้ายมาก็พบว่าสถานที่ที่ฉันมาเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่ พร้อมกับเขาที่เดินเข้ามาที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งคล้ายๆเหมือนกับเป็นโต๊ะอาหาร ฉันที่เดินตามเขาเข้าไปพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเขา ซึ่งเขานั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร" เรามาทำอะไรกันเหรอคะ " ฉันหันหน้าไปถามเขาอย่างสงสัย" กินข้าว " เขา
พอถึงโรงเรียนเจ้าหญิงก็เดินเข้าไปในโรงเรียนตามปกติ พร้อมกับเถวะที่มายืนรอรับเจ้าหญิงหน้าป้ายรถเมล์อย่างเช่นทุกครั้ง" ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ " เถวะหันหน้าไปชวนเพื่อนสาวที่สนิทสุดๆของตัวเอง" เรากินมาแล้ว " เจ้าหญิงตอบกลับเถวะไปพร้อมกับรอยยิ้มแสนน่ารัก จนทำให้รอยยิ้มที่เจ้าหญิงยิ้มส่งมาให้เถวะ ทำให้เถวะหัวใจหล่นวูบทันที แอบรักเพื่อนสนิทตัวเองมันเป็นแบบนี้นี่เอง เถวะได้แต่คิดในใจ" แต่เราหิวนี่น๊าาา " เถวะพูดพลางลูบท้องของเขาไปมา" งั้นเจ้าหญิงพาเถวะไปกินที่โรงอาหารนะ " เจ้าหญิงบอกกับเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของเขาทันที เพื่อนรักทั้งสองคนเดินไปที่โรงอาหาร เจ้าหญิงก็นั่งรอเถวะกินข้าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่คุณบทร้ายซื้อให้ออกมากดเล่น" เจ้าหญิงเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่เหรอ " เถวะถามเจ้าหญิง เพราะปกติเจ้าหญิงจะไม่เปลี่ยนโทรศัพท์บ่อยๆ และเจ้าหญิงก็คงไม่ซื้อโทรศัพท์ที่ราคาแพงเกือบแสนแบบนี้" คุณบทร้ายซื้อให้เจ้าหญิงไว้โทรหาเขาตอนฉุกเฉิน คุณบทร้ายบอกว่าราคาไม่แพงมากนัก " เจ้าหญิงที่แสนไร้เดียงสาตอบกลับเถวะไป" เปลี่ยนเบอร์โทรด้วยเหรอ เมื่อคืนเราโทรหาเจ้าหญิงไม่ติดเลย เราว่าจะถามเรื่องการบ้าน
1 เดือนต่อมาในทุกๆ วันศุกร์ของคาบโฮมรูมเจ้าหญิงกับเถวะก็จะแอบออกไปพบแม่ของเธอที่ร้านอาหารตามสั่งทุกวันตามปกติ และคุณบทร้ายก็ไม่ได้รับรู้ถึงการกระทำของเด็กน้อยของเขาเลย เพราะเขาไว้ใจเธอและคิดว่าเธอก็คงเป็นเด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งที่ไม่กล้าต่อกรอะไรกับเขามากนักเขาก็เลยไม่ได้สั่งให้คนไปเฝ้าตามติดและคอยดูเธอเอาไว้ แค่ให้เฝ้ารอรับเธอที่หน้าประตูโรงเรียนในทุกๆ วันวันนี้เป็นวันสอบไฟนอลเพื่อจะจบปีการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เจ้าหญิงกับเพื่อนๆ ของเขาอีก 3 คนตั้งใจเรียนและพากันติวหนังสืออย่างหนักเพื่อการสอบในครั้งนี้" เป็นยังไงบ้าง ทำได้ไหมเจ้าหญิง " พอทุกคนเดินออกจากห้องสอบหมวยเพื่อนสาวคนเดียวของเจ้าหญิงก็ถามขึ้น" พอได้จ๊ะ ^^ " เจ้าหญิงตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้มสดใสเฉียดเช่นทุกครั้ง" ระดับเจ้าหญิงไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว " เถวะพูดขึ้นมาบ้าง" งั้นไปกินข้าวกันไหมเจ้าหญิง ฉลองสอบเสร็จ " หมวยเอ่ยถามเจ้าหญิง พร้อมกับเพื่อนๆทุกคนก็เดินอยู่ถึงกับหยุดนิ่งยืนรอคำตอบของเจ้าหญิง เพราะทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าหญิงไปที่ไหนไม่ค่อยได้ถ้าคุณบทร้ายไม่ได้อนุญาต " เอ่อ...คือ " เจ้าหญิงอ้ำๆอึ้งๆ ใจหนึ่งก็อยากจะไ
หลังจากที่วางสายคุณบทร้ายไปแล้ว เจ้าหญิงก็เดินกลับมาหาเพื่อนๆด้วยท่าทางหน้าสลดลง เจ้าหญิงทำหน้าทำตาเหมือนคุณบทร้ายไม่อนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆ เจ้าหญิงคิดจะแกล้งเพื่อนของเธอเล่นสักหน่อย ^^" เป็นไงบ้างเจ้าหญิง " ต่อถามเจ้าหญิงขึ้นมาทันทีหลังจากที่เจ้าหญิงได้เดินเข้ามาหาเพื่อนๆแล้ว พร้อมกับที่เพื่อนๆทุกคนจ้องมองหน้าเจ้าหญิงเพื่อรอเอาคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ" ไม่เป็นไรนะเจ้าหญิง " หมวยยื่นมือของเธอมากุมมือของเจ้าหญิงไว้ เพราะเห็นสีหน้าท่าทางของเจ้าหญิงเพื่อนของเธอแบบนี้แล้ว คุณบทร้ายไม่น่าจะอนุญาตให้ไปเลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับพวกเธอเป็นแน่" ถ้าเจ้าหญิงไม่ไปเราก็ไม่มีอารมณ์จะไปหรอก " เถวะพูดขึ้นพลางยกมือขึ้นกอดอกอย่างไม่พอใจนัก เพราะถ้าไปที่ไหนแล้วไม่มีเจ้าหญิงไปด้วยเถวะก็ไม่อยากจะไปมากนักหรอก " เอ่อ...คุณบทร้าย " เจ้าหญิงทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ เพื่อแกล้งเพื่อนของเธอเล่นต่อไป" คุณบทร้าย อนุญาต!! " เจ้าหญิงร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกับกระโดดโลดเต้นและปรบมืออย่างดีอกดีใจ " เจ้าหญิงแกล้งพวกเราเหรอ นี่แหนะ! " หมวยพูดขึ้นพลางยื่นมือไปจี้เอวของเจ้าหญิงเพื่อลงโทษฐานที่โกหกพวกเธอ " ฮ่าๆๆๆ อย่าจี
เพนท์เฮ้าน์หลังจากที่เจ้าหญิงได้เลี้ยงฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเจ้าหญิงก็บอกให้พี่อัคคีขับรถไปส่งเพื่อนๆของเธอที่บ้านกันทีละคน พร้อมกับขับรถไปส่งเถวะที่หน้าโรงเรียนอีกครั้ง ก็เพราะว่าเถวะขับรถส่วนตัวไปโรงเรียนทุกวัน เถวะเลยต้องกลับเข้าไปเอารถที่จอดเอาไว้แถวๆด้านหน้าของโรงเรียนพอเจ้าหญิงมาถึงบ้านหลังเล็กสีขาว เจ้าหญิงก็อาบน้ำชำระร่างกายของตัวเอง และในการกระทำของเธอทุกๆฝีก้าวก็อยู่ในสายตาของคนที่ชื่อบทร้ายตลอดเวลา เขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มที่สดใส เพราะเธอได้ออกไปสนุกกับเพื่อนๆ และเขาเห็นแม้กระทั่งเจ้าหญิงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ และเธอก็เดินกลับออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูสีขาวพันรอบอกตัวเดียว" อึก! " สัดส่วนโค้งเว้าของเธอที่ดูโตกว่าเด็กสาวทั่วๆไป ทำให้คนที่จดจ่ออยู่หน้าจอกล้องวงจรปิดถึงกับแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เจ้าหญิงอีกเพียง 1 เดือนเธอก็อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว เธอจะถึงกำหนดอายุเร็วหน่อยก็เพราะเธอดันเกิดต้นเดือนน่ะสิ วันทีี 1 เดือน 1 แต่เจ้าหญิงมีเพียงอายุแค่นี้ แต่สัดส่วนในร่างกายของเธอดันโตเร็วกว่าเด็กสาวปกติทั่วไป แม้ตัวเธอจะ
" คุณบทร้ายเรียกเจ้าหญิงเข้ามาเพื่อจะตีเจ้าหญิงใช่หรือเปล่าคะ " เจ้าหญิงที่นึกขึ้นได้แบบนั้นก็ถามเขากลับไปพร้อมกับก้มหน้าก้มตาลงอย่างหวาดระแวง" หึ! " ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆจากคุณบทร้าย นอกจากเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของเขา" ตามมา " เขาสั่งเธอเสียงเข้มพร้อมกับเดินหันหลังไปขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ทันที " อย่าให้ต้องเรียกเป็นครั้งที่สอง " หลังจากที่เขารู้ว่าเด็กน้อยยังไม่เดินตามหลังเขามา เขาก็สั่งเธอด้วยน้ำเสียงดุดันและจริงจังอีกครั้ง เพื่อเป็นการข่มขวัญให้เด็กน้อยกลัว และมันก็ได้ผล เจ้าหญิงที่มีร่างกายผอมบางรีบวิ่งแจ้นขึ้นไปบนบันไดตามแผ่นหลังแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย" จะไปไหนเหรอคะ ห้องเชือดที่โดนทำโทษอยู่ข้างๆบ้านหลังใหญ่ไม่ใช่เหรอคะ " เจ้าหญิงที่เดินตามแผ่นหลังแกร่งเอ่ยถามเขาขึ้นอย่างนึกสงสัย" วันนี้เธอต้องมาทำหน้าที่เป็นเด็กขัดดอกให้ฉัน " เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องห้องหนึ่งเขาก็หยุดเดินและหันหน้ากลับมาพูดกับเจ้าหญิงอีกครั้ง" ทำหน้าที่ขัดดอกเหรอคะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยอย่างนึกสงสัยว่าเขาจะให้เจ้าหญิงทำหน้าที่แบบไหนกันนะถึงได้พามาที่บ้านหลังใหญ่ที่เขาหวงนักหวงหนาแบบนี้การกระทำของเจ้
" คณะนิเทศศาสตร์ ? "เขาเลิกคิ้วถามเจ้าหญิงด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบที่แฝงไปด้วยแววตาดุดันอย่างไม่ชอบใจนักกับคณะที่เด็กสาวจะเลือกเรียนต่อ" คะ ? " เจ้าหญิงเอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับมองจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่แฝงไปด้วยความดุดันในแววตาของเขาอย่างเห็นได้ชัด" ไปเลือกคณะที่เธออยากเรียนมาใหม่ คณะนี้ฉันไม่อนุญาตให้เธอเรียน " เขาเปล่งน้ำเสียงจริงจังบอกกับคนร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าต่อตาของเขาอย่างน่ารักน่าเอ็นดู" ทำไมเหรอคะ คณะนี้ไม่ดียังไงเหรอคะ " เจ้าหญิงเอ่ยถามเขาไปด้วยความสงสัย เพราะที่เธอได้ยินมาจากหมวยเพื่อนสาวของเธอ คณะนี้มันก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรนี่น๊า แถมใช้ความสามารถในการแสดงของเธอหาเงินได้อีกตั้งเยอะแยะเลย แถมยังได้แต่งตัวสวยๆ มีคนชื่นชอบมากมายอีกด้วย" ไม่ต้องถาม ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เรียนก็คือไม่อนุญาต " เขาบอกสาวน้อยร่างบางพร้อมกับยกขาขึ้นนั่งไขว้กัน พร้อมกับเอนตัวลงพิงพนักพิงโซฟาอย่างไม่ได้สนใจเจ้าหญิงที่ทำท่าทางงุนงงกับคำพูดของเขา" งั้นเดี๋ยวเจ้าหญิงขอกลับไปคิดก่อนนะคะว่าจะเรียนคณะอะไร " เจ้าหญิงตอบกลับเขาไปอย่างไร้เดียงสา เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่ได้คิดเลยว่าตัวเองจะเรียนคณ
“ หนูขอเวลาได้ไหมคะ ? ” “ ครับ ” บทร้ายทำหน้าหงอยอีกรอบเมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้จากปากของคนที่เขารักและหวงแหนเป็นที่สุด“ หนูขอเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนค่ะ ขอเวลาให้หมดสัญญาขัดดอกก่อน ” บทร้ายอึ้งหนัก เขาจ้องหน้าเจ้าหญิงพร้อมกับแววตาที่เศร้าหมอง เธอต้องการจะสื่ออะไร หมดสัญญาแล้วเธอจะไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ“ ทะ ทำไมคะ ” บทร้ายถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาพยายามกลั้นความรู้สึกที่อ่อนแอของเขาให้ถึงที่สุด เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ความรู้สึกที่จะต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักมากเป็นครั้งที่สาม“ ตอนนี้หนูอยู่กับคุณในฐานะเด็กขัดดอกใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยง หนูไม่กล้าที่จะอาจเอื้อมคบกับคุณเป็นแฟนหรอกนะคะ ถ้าวันนึงเกิดมีคนรู้เรื่องนี้ขึ้นมาเยอะขึ้นหนูว่าหนูจะต้องเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ๆเลยค่ะ อ่ะ อีกอย่างหนูเรียนคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่อยากจะเป็นนักแสดง ตะ แต่ถ้าวันไหนมีคนเกิดรู้เรื่องหนี้เข้าล่ะก็... ” เจ้าหญิงอธิบายเหตุผลของเธอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นเดียวกัน เห็นเธอสดใส ร่าเริง ยิ้มแย้มตลอดเวลา เธอก็แอบคิดถึงเรื่องนี้เป็นประจำ ถ้ามีคนรู้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แบบนี้เธอจะสามารถทำอาชีพที่เธออยากทำแ
“ คิดถึงจัง ” บทร้ายพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเจ้าหญิงอย่างน่ารักพร้อมกับที่เขาเอนหัวพิงไหล่เล็กของเจ้้าหญิงเบาๆ“ อะ อะไรนะคะ 0.0 ” เจ้าหญิงเบิกตาโพลงโตกับคำพูดที่เธอได้ยินเมื่อครู่นี้ ในส่วนของธันวาก็ยังตกใจกับคำพูดของเพื่อนสนิทของเขา เพราะเขาไม่คิดว่าการแสดงของบทร้ายจะเนียนมากขนาดนี้ และการแกล้งเมาทำให้เขาใจกล้าเพื่อที่จะพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจของเขาออกมาจนหมด“ คิดถึงครับ ตั้งแต่หนูเริ่มโตเป็นสาว เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว มีเพื่อนฝูง คนรู้จักหนูเพิ่มขึ้นเยอะแยะ หนูก็ลืมพี่ไปแล้ว ” บทร้ายที่ยังเอนหัวพิงไหล่เล็กของเจ้าหญิงเขาได้พูดออกมาหมดในสิ่งที่เขาอัดอั้นในใจมานาน จนเจ้าหญิงกับธันวามองหน้ากันด้วยความตกอกตกใจจริงๆ “ เอ่อ..หนูไม่ค่อยมีเวลาก็จริงค่ะ แต่หนูก็ไม่เคยลืมคุณเลยนะคะ ” เจ้าหญิงพยายามอธิบายและเอามือน้อยๆของเธอลูบไปที่ไหล่กว้างเบาๆเพื่อปลอบโยนคนเมาแล้วมีอาการงอแงณ ตอนนี้เจ้าหญิงคิดว่าคุณเขาเมาหนักมากๆแล้วอาจจะพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเพราะอาการเมา อาจจะมีบางคำพูดที่เขาพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ“ พี่พูดความจริงนะ ถึงพี่จะเมาพี่ก็มีสติ ” บทร้ายพูดออกมาอีกครั้งเหมือนเขาได้ยินความในใจของเจ้าหญิง
เพนท์เฮ้าสน์ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มเกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว เจ้าหญิงพึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จด้วยชุดนอนผ้าลื่นสายเดี่ยวสีแดงสดขับกับสีผิวที่ขาวของเธอพร้อมกับปล่อยผมยาวสีทองที่พึ่งไปย้อมมาใหม่จนถึงก้นงอน เพื่อใช้ประกวดดาว-เดือนโดยเฉพาะ เพราะช่วงนี้เธอซ้อมประกวดดาว-เดือน อย่างหนักเพราะสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มแข่งขันแล้ว เพราะการประกวดดาว-เดือน จะซ้อมได้แค่หลังเลิกเรียนและวันหยุดเพียงเท่านั้น เพราะเวลาปกติ 08.30 - 16.30 น. เป็นในเวลาการเรียน “ คุณนอนหรือยังนะ ทักไลน์ไปถามดีกว่า ” เจ้าหญิงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือเข้าแอพไลน์และทักหาเขาในทันทีBR ชื่อไลน์เมื่อเจ้าหญิงเลื่อนเจอชื่อไลน์ของบุคคลที่เธอจะทักหาเธอก็เข้าแชทเขาอย่างไม่รีรอ แต่ทว่า...ไลน์ เสียงข้อความไลน์ของเธอดันดังมาซะก่อน พอเธออ่านรายชื่อบุคคลที่ทักหาเธอ มันก็คือบุคคลเดียวกันที่เธอกำลังจะทักหาอยู่พอดี BR ส่งรูปภาพเจ้าหญิงกดเข้าไปดูรูปภาพที่บุคคลดังกล่าวส่งมาเธอถึงกับตกใจตาโพลงโต 0.0“ คุณ เป็นอะไรคะเนี่ย! ” เจ้าหญิงพูดพึมพำคนเดียวก่อนจะพิมพ์แชทถามกลับไป“ ใครเป็นคนเล่นโทรศัพท์มือถือคุณคะ คุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ ” เจ้าห
ซ่าาาาาาาาา เสียงฝนตก บนรถ ในขณะที่หมวยและกันต์ก้าวขาขึ้นรถเก๋งคันสีขาว ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในรถยนต์ที่ขับฝ่าสายฝนไปตามถนนเงียบสงบ เสียงปัดน้ำฝนดังเป็นจังหวะเนิบๆ ” อุ้ยฝนตก ขอบคุณมากนะคะพี่กันต์ ” หมวยพูดขึ้นในที่สุดเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบตึงกันเกินไป เพราะจะทำให้คนสองคนภายในรถพลอยอึดอัดกันไปด้วย หมวยยกมือไหว้กันต์ เพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่เบาะข้างๆคนขับ ดีนะที่มีพี่กันต์ไปส่งที่หอพัก ไม่อย่างงั้นเธอคงเปียกปอนแน่นอนเลย เพราะเวลาเธอเรียกรถให้มารับบนแอพในโทรศัพท์มือถือเธอจะเรียกพี่คนขับเป็นมอเตอร์ไซค์ตลอด “ ครับ ” กันต์บุคคลที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยกเว้นกับนายท่านของเขา ตอบได้แค่ ครับ คำเดียว เพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย ยกเว้นกับนายท่าน และบรรดาเหล่าลูกน้อง พนักงาน บอดี้การ์ด ในเครือของบทร้าย และส่วนมากก็มีแต่การพูดคุย เจรจากันในเรื่องงานเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าการสนทนาแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน “ เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยด้านหน้านี้เลยค่ะ ” หมวยชี้นิ้วบอกทางไปหอพักเธอกับกันต์ ส่วนกันต์ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เขาเพียงแต่ใช้ความเงียบแทนคำตอบ ( แก๊งค์มาเฟียขี้เก๊กทุกคนห
มหาวิทยาลัย หลังจากที่เจ้าหญิงฝึกซ้อมดาว-เดือน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปาเข้าไปเป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว ส่วนด้านต่อในตอนนี้เขาก็ได้กลับบ้านไปก่อนเพื่อนแล้ว เพราะต่อต้องมีเอกสารกิจกรรมที่จะต้องทำเยอะแยะไปหมด ก็คนเขาได้เป็นประธานรุ่นอ่ะเนาะ ทำไงได้ ฮ่าๆๆๆๆ “ เหนื่อยไหม ” เถวะรีบลุกขึ้นยืนจากอัศจรรย์อีกด้านทันทีเมื่อเขาเห็นเจ้าหญิงเดินมาทางนี้ เจ้าหญิงในชุดนักศึกษา แต่ครั้งนี้เจ้าหญิงใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นแต่พอเข่าจึงทำให้แปลกหูแปลกตาไปบ้าง “ หวานซ่อนเปรี้ยวจริงๆ เพื่อนสาวคนสวยของหมวย ” หมวยเอ่ยชมเพื่อนสาวคนสนิททันทีเมื่อเธอเดินมาถึง “ ชมกันเกินไปน๊าาาา ” เจ้าหญิงตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเขินๆ “ แล้วกลับยังไง ” เถวะที่เก็บสัมภาระของเจ้าหญิงใส่ลงในกระเป๋าเป้ให้เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าปล่อยให้กลับเองคนเดียวมีหวังคงเป็นอันตรายเป็นแน่ “ ก็ต้องคุณบทร้ายให้เอารถมารับ มาส่ง เหมือนเดิมสิ ” หมวยตอบแทน แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่เห็นรถตู้คันสีดำคันเดิมที่มารอรับเจ้าหญิงเลยสักคัน “ เอ๋ แล้วพี่อัคคีไปไหนนะ ทำไมไม่มารอเจ้าหญิง ” เจ้าหญิงพึมพำเบาๆ แต่เพื่อนสนิททั
เพนท์เฮ้าส์“ เป็นยังไงบ้างคะ ไปมหาวิทยาลัยครั้งแรก ” บทร้ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามถามเจ้าหญิงขึ้นพร้อมกับหั่นสเต๊กเนื้อราคาแพงในมือ“ ก็โอเคดีนะคะ เพื่อนๆพี่ๆ ใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ” เจ้าหญิงตอบพร้อมกับหั่นสเต๊กในมือเช่นเดียวกัน หลังจากเลิกเรียนในวันแรก อัคคีก็ขับรถตู้คันสีดำมาจอดรอเจ้าหญิงหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่จะไปรับเจ้าหญิงเหมือนที่เคยขับรถไปรับไปส่งเจ้าหญิงที่โรงเรียนเช่นเคย พอถึงเพนท์เฮ้าส์เจ้าหญิงก็ไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านหลังเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่กับคุณบทร้าย“ ดีแล้วค่ะ ” บทร้ายหั่นสเต๊กเข้าปาก“ คุณดูเครียดๆนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เจ้าหญิงมองเขาออกตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่แล้ว สีหน้าและแววตาของเขาดูเครียดๆ ไม่สดใสเอาเสียเลย“ เครียดเรื่องธุรกิจนิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ” บทร้ายตอบเจ้าหญิงอย่างไม่ปิดบังและเขาก็ส่งยิ้มกลับไปให้เธอ เพราะกลัวเธอจะเป็นกังวล “ อย่าเครียดเลยนะคะ บนโลกใบนี้เจ้าหญิงเชื่อว่าประตูมี 2 ด้านค่ะ ก็เหมือนกับมนุษย์เราที่มีนิสัย 2 ด้าน ” เจ้าหญิงพยายามที่จะพูดให้กำลังใจคุณบทร้าย “ หึๆ ” บทร้ายหัวเราะออกมาในลำ
“ ขั้นตอนต่อไปเราจะตามหาประธานรุ่นกันนะคะ ประธานเอาจริงๆไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมายนักหรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่จะสุ่มจับขึ้นมาด้านหน้าตรงนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ” พี่นิดพูดไปขำไป คณะนิเทศศาสตร์แตกต่างไปจากที่คิดเอามากๆ รุ่นพี่ทุกคนใจดี ไม่เครียด เป็นกันเอง ชิวๆ แบบโคตรชิว เพราะหันไปมองรุ่นพี่แต่ละคนที่ยืนรายล้อมน้องๆอยู่ก็มีแต่รอยยิ้มให้กับน้องๆทุกคนเลย มันไม่แปลกไปใช่ไหม หรือมันปกติ “ รบกวนพี่เคประธานรุ่นปี3 กับพี่ใหม่ประธานรุ่นปี4 เดินสุ่มจับน้องมาสัก 4 คนหน่อยค่า เชิญค่าาา ” สิ้นคำสั่งจากพี่นิดประธานรุ่นปี2 พี่เคกับพี่ใหม่ก็เดินเลือกน้องๆมองดูและเดินไปเช็คดูในแต่ละแถวและจับสุ่มออกมา“ น้องคนนี้ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่เดินไปที่แถวของต่อกับเถวะ และพี่ใหม่ก็บอกให้ต่อลุกขึ้นไปยืนหน้าแถว ต่อทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย “ ดูเท่ห์ว่ะ :) ” ต่อพูดก่อนจะลุกขึ้นไปยืนด้านหน้าแถวของตัวเอง “ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคบอกเพื่อนผู้ชายที่ยกมือถามคำถามพี่ฝนก่อนหน้านี้ “ ลุกขึ้นค่ะ ” พี่ใหม่จับเพื่อนผู้หญิงอีกคน“ ลุกขึ้นครับ ” พี่เคจับเพื่อนผู้ชายอีกคนให้ลุกขึ้นเป็นคนสุดท้าย “ ตอนนี้เราได้ว่าที่ประธานรุ่นของคณะนิเทศศาสตร์ของพ
มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งวันนี้เป็นเปิดเรียนวันแรกของภาคการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ปี1 เทอม1 เจ้าหญิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถตู้เธอก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้คนที่ขับรถไปรับไผส่งเธอเป็นประจำในทุกๆวัน“ สวัสดีค่ะพี่อัคคี เจ้าหญิงไปเรียนก่อนนะคะ ” เจ้าหญิงยกมือไหว้อัคคีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะอัคคีเปรียบดั่งเสมือนพี่ชายของเธอเลย เธออยู่กับเขาเธอรู้สึกอบอุ่น และรู้สึกถึงความเป็นพี่ชายจากตัวเขาเป็นอย่างมาก “ ครับ ตั้งใจเรียนนะครับ ” อัคคีหันไปยิ้มให้กับเด็กสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเหมือนกัน เขารู้สึกรักและเอ็นดูเจ้าหญิงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยก็ว่าได้ “ เป็นยังไงบ้าง ” บทร้ายที่ค้างสายอยู่ตลอดเวลากับอัคคีถามเขา“ ลงจากรถไปแล้วครับ ” บทร้ายวันนี้ติดประชุมด่วนเลยไปส่งเจ้าหญิงที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะค้างสายเพื่อเช็คเธอจากอัคคีตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเพื่อความปลอดภัย หรือหวงกันแน่ 😂“ อืม ” บทร้ายตอบและตัดสายโทรศัพท์ไปหลายปีก่อนหน้า“ พ่อครับ พ่ออย่าทิ้งผมไปเลยนะครับ ” อัคคีในวัยเพียงไม่กี่ขวบวิ่งไปกอดขาพ่อของเขาเอาไว้แน่น“ ออกไป! ไปซะ! ” พ่อของอัคคีไล่เขาด้วยน้ำเสียงแข
“ เกาะไว้แน่นๆนะคะ ” บทร้ายที่อุ้มเจ้าหญิงด้วยท่าลิงอุ้มแตงบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เสียงแหบของเขามันดูเซ็กซี่จัง -////-“ อ๊ะ จะ เจ็บ ” เจ้าหญิงสะดุ้งโหยงเมื่อเธอรู้สึกถึงท่อนเอ็นแข็งๆที่มีขนาดใหญ่มากๆเข้ามาทิ่มแทงไปที่โพลงกลีบกุหลาบของเธอ “ อ๊าาาาาาาาา ” บทร้ายร้องครางออกมาด้วยความสุขสม แม้มันจะเข้าไปได้แค่ปลายหัวถอกของเขาเท่านั้น “ ฟิตจังค่ะ ที่รัก ” บทร้ายพูดพลางอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียว ดูเหมือนเขาไม่หนักเลย เขาอุ้มเจ้าหญิงด้วยแขนข้างเดียวอย่างง่ายดาย แต่แขนอีกข้างหนึ่งของเขากลับอ้อมแขนล้วงไปที่ใต้ระหว่างขาของเด็กสาว เขาจับท่อนเอ็นที่ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยถอดออกมาจากโพลงกลีบกุหลาบของเธอ พร้อมกับที่เขาจับท่อนเอ็นแข็งถูไปถูมาจนเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมาเล็กน้อย“ แฉะ แล้วนะคะ ” “ ทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว ” บทร้ายพูดพลางแอบยัดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเข้าไปในโพลงกลีบกุหลาบโดยที่เด็กสาวยังไม่ทันได้ตั้งตัว “ กรี๊ดดดด อ๊ายยยย ” เจ้าหญิงร้องออกมาเสียงหลงด้วยอาการที่เจ็บแสบไปรอบๆโพลงเล็กๆของเธอ มันเจ็บจัง TT“ อ๊าาา เสียววววสัสๆ ” บทร้ายเผลอพูดสบถคำหยาบออกมาอย่างสุขสมอา