ตอนที่ 2 ปกปิดเป็นความลับ
มหาวิทยาลัยคิงแอ๊คตั้นล็อค “ สุขสันต์วันเกิดนะไอ้คิน “ (คิรัน) “ เออสุขสันต์วันเกิดเว้ยเพื่อน เมื่อคืนมึงหายไปไหนมาวะไม่ได้ออกมาฉลองกับพวกกู “ (คิริว) “ เออนั่นดิ “ (ชีวิน) “ โทรไปก็เสือกไม่รับสายอีก “ (โรม) เสียงเหล่าบรรดาเพื่อนๆในกลุ่มของภาคินเอ่ยหลังจากที่เขาเพิ่งจะขับรถมาถึงมหาวิทยาลัย ก็เมื่อวานเป็นวันเกิดของเพื่อนพวกเขาแต่นอกจากภาคินจะไม่ออกมาฉลองแล้วยังเอาแต่เก็บตัวที่ไหนไม่รู้สักที่ หนำซ้ำโทรไปก็ไม่รับมันจึงทำให้พวกเขารู้สึกสงสัย เพราะมันผิดแปลกไปจากภาคินคนเก่าคนเดิม ภาคิน ชีวิน คิริว คิรัน โรม หนุ่มหล่อทั้ง 5 เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยประถม จบมาพวกเขาก็ยังคงมาเรียนที่เดียวกัน โดยพวกเขาทั้ง 5 ตั้งใจจะสานต่อธุรกิจของครอบครัว มันจึงเป็นที่มาที่ทำให้พวกเขาต้องเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้และเลือกสาขาเป็นคณะบริหาร และนั่นก็ทำให้คนตัวโตถึงกับมีอาการ ‘ เลิ่กลั่ก ’ เพราะเมื่อคืนนี้นอกจากเขาจะไม่ได้ออกไปกับเพื่อนๆแล้วเขายังไปขลุกอยู่ที่ห้องของเพื่อนสาวอีกคน ก่อนที่จะสร้างวีรกรรมเอาไว้อย่างใหญ่หลวง ซึ่งเขาคิดว่าข้อนี้เขาจะต้องไม่ปริปากพูดให้ใครฟังอย่างเด็ดขาด เพราะกลัวว่าเพื่อนสาวอีกคนที่เขาแอบชอบจะรู้ เอาไงดีวะผมควรจะพูดออกไปยังไงดีผมควรจะตอบยังไงดี ผมจะไม่มีทางให้ไอ้พวกห่านี่รู้เด็ดขาดว่าเมื่อคืนผมไปไหนมา ผมจะไม่มีทางให้ใครรู้ว่าเมื่อคืนผมนอนค้างที่ห้องเฌอเบลล์ เพราะถ้าพวกแม่งรู้มีหวังคาราเมลก็ต้องรู้เป็นแน่ แล้วแบบนี้ผมควรจะต้องทำยังไงดี ผมควรจะทำยังไง “ อะ เอ่อ กู กู อ๋อ กูไม่ค่อยสบายกูก็เลยเผลอแดกยาแล้วก็หลับยาวตื่นมาอีกทีก็ตี 2 แล้ว กูเลยไม่ได้ออกไปไหนถือซะว่าปีนี้กูพักผ่อนไปในตัวก็แล้วกัน “ “ เยสเข้ คนอย่างมึงมีป่วยด้วยหรอวะ “ (คิริว) “ เออนั่นดิตั้งแต่รู้จักกันมากูยังไม่เคยเห็นมึงป่วย “ (ชีวิน) “ ป่วยการเมืองเปล่าครับเพื่อน ไปแอบกกสาวที่ไหนมาหรือเปล่า “ (โรม) คำพูดที่ภาคินพูดมันทำให้เพื่อนๆทั้ง 4 รู้สึกสงสัย เพราะโดยปกติต่อให้เพื่อนของเขาจะป่วยแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะพักผ่อนอยู่ห้องแน่นอน ยิ่งเป็นวันเกิดด้วยแล้วล่ะก็ยิ่งไม่มีทางอย่างเด็ดขาด 2 คิ้วหนาของเพื่อนทั้ง 4 จ้องมองมาที่ภาคินคนเก่าคนเดิมก่อนที่จะจ้องมองลึกเข้าไปยังดวงตา พวกเขาอยากจับพิรุธดูว่าเพื่อนชายพูดความจริงหรือโกหกกันแน่ และนั่นก็ทำให้ภาคินถึงกลับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เขาไม่เคยต้องมานั่งเสียอาการกับอะไรแบบนี้มาก่อน ไอ้พวกเหี้ยนี่แม่งชอบเสือกดีจริงๆว่ะ คนอุตส่าห์โกหกแล้วเชียวหรือเป็นเพราะว่าผมยังทำได้ไม่เนียนพอ แปลกตรงไหนที่คนอย่างผมป่วยไม่สบายแล้วกินยานอนพักผ่อน คนบ้าอะไรมันจะหอบสังขารไปแดกเหล้าทั้งๆที่ตัวเองก็แทบจะตาย หรือเป็นเพราะว่าที่ผ่านมาผมทำอย่างนั้นจริงๆพวกแม่งถึงได้ดูเหมือนไม่เชื่อกันเลย “ พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกันนักหนาจ้องจะจับผิดกูอยู่ได้ ทำอย่างกับกูไปฆ่าใครตายอย่างนั้นแหละกูพูดความจริงไม่เชื่อก็เรื่องของพวกมึง “ สุดท้ายคนตัวโตก็ทำหน้าเข้มขึงขังตามแบบฉบับของเขาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาพูดจริง เพราะยังไงเขาก็จะไม่มีทางให้เพื่อนๆจับได้อย่างแน่นอนว่าเขา ‘ โกหก ’ และในขณะนั้นเองที่เพื่อนทั้ง 4 กำลังพินิจพิจารณากับคำพูดของภาคินอยู่ๆแก๊งสาวๆก็เดินเข้ามา หลังจากที่พวกเธอไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเมื่อเช้า และหนึ่งในนั้นก็มีคาราเมลเพื่อนสาวที่ภาคินแอบชอบด้วยรวมไปถึงผู้หญิงอีกคนที่เขาเพิ่งจะไปนอนมาด้วยเมื่อคืน “ คุยอะไรกันจ๊ะหนุ่มๆ อ่ะนี่ภาคินฉันให้ของนายสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะ “ เป็นเสียงของคาราเมลเอ่ยพูดเพราะเธอได้เตรียมของขวัญมาให้ภาคินแล้ว หลังจากที่เมื่อวานเธอไม่ได้ไปฉลองกับเขาอันเนื่องมาจากว่าเธออยู่กับแฟนของเธอ คาราเมลสาวสวยสุดเซ็กซี่เป็นเดอะแก๊งของกลุ่ม พ่วงด้วยเพื่อนๆของเธออีก 2 คนนั่นก็คือ ข้าวหอม และเฌอเบลล์ พวกเธอมักจะมารวมตัวที่นี่กันอยู่เป็นประจำเพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบของแก๊งพวกเขาทั้ง 8 คน และนั่นก็ทำให้ภาคินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความชอบใจเขาลืมเรื่องที่เธอไปอยู่กับแฟนของเธอจนหมดสิ้น เพราะอะไรที่เป็นของคาราเมลเขารู้สึกชอบมันทั้งหมด ก่อนที่ทุกๆสายตาจะจับจ้องมองมาที่ตัวเขากันเพียงคนเดียว รวมไปถึงหญิงสาวนางหนึ่งผู้ซึ่งเป็นคนที่เขาอยู่ด้วยเมื่อคืน “ ขอบใจนะเมล กูก็นึกว่ามึงลืมกูไปแล้ว “ “ น้อยๆหน่อยเถอะมึงไอ้คินยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูฮิเอ้ยไม่ใช่รู้หูแล้วมั้ง “ (ชีวิน) เป็นเสียงของชีวินที่เอ่ยแซวเพราะเขารู้สึกหมั่นไส้ในความดีอกดีใจของเพื่อนเหลือเกิน พวกเขาทั้ง 4 รู้ว่าภาคินคิดยังไงกับคาราเมลแต่ก็นั่นแหละไม่เห็นจะต้องออกนอกหน้านอกตาถึงขนาดนี้ ยิ่งดูพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ “ เสือกพวกมึงอ่ะ “ “ มึงก็ไปแซวมันไอ้วิน “ (โรม) “ ก็ดูแม่งดิยิ้มไม่หุบเลยลืมไปแล้วมั้งว่าไม่ได้มีแค่คาราเมลคนเดียวที่เป็นเพื่อน “ (ชีวิน) “ 55555 “ (คิริว/คิรัน) และทุกคนก็หัวเราะกันออกมากับการเสียอาการของภาคินที่ดูยังไงก็รู้ว่าเขากำลังมีความสุขที่ได้รับของขวัญวันเกิดจากคาราเมล ทั้งๆที่เขาก็ได้รับมันทุกปีหนำซ้ำตอนนี้ก็ไม่ได้มีแค่คาราเมลคนเดียวที่มีของขวัญตอนนี้ข้าวหอมกับเฌอเบลล์ก็มีด้วย “ นี่พอเลิกแซวกันได้แล้วฉันไม่ได้มีของขวัญมาให้ภาคินคนเดียวซะเมื่อไหร่ โน่นยัยข้าวหอมกับยัยเฌอเบลก็มีเหมือนกัน” “ ใช่อย่าลืมสิว่านายไม่ได้มีแค่คาราเมลเป็นเพื่อนนะภาคิน อะนี่ของฉันสวยกว่ากล่องใหญ่กว่าด้วยนะ “ (ข้าวหอม) และนี่ก็เป็นเสียงของข้าวหอมเพราะเธอรู้สึกหมั่นไส้กับเพื่อนอย่างภาคินเหลือเกิน ไม่ใช่คาราเมลคนเดียวที่มีของขวัญให้เขาซะเมื่อไหร่ตัวเธอและเพื่อนสาวอย่างเฌอเบลก็มีด้วยเหมือนกัน แถมดูไปดูมาของเธอทั้งสวยกว่ากล่องใหญ่กว่าตั้งเยอะ ก่อนที่ภาคินจะรับมาด้วยความเต็มใจเพราะยังไงพวกเธอก็มีของขวัญมาให้เขาทุกปี แต่เหตุที่เขาดีใจกับของขวัญของคาราเมลมากไปหน่อยเป็นเพราะเธอคือคนพิเศษเธอคือคนที่เขาแอบชอบ และการกระทำของคนทั้งคู่นั้นก็ทำให้ใครอีกคนรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ เขารู้สึกว่าข้าวหอมจะดูกระดี๊กระด๊ามากเป็นพิเศษ “ เออขอบใจเว้ย กี่ปีกี่ปีก็กล่องใหญ่เหมือนเดิมเลยมึงอะ “ (ภาคิน) “ หึ กล่องใหญ่จริงแต่ข้างในเล็กเท่ามดอะดิไม่ว่า “ (โรม) ยังไม่ทันที่ข้าวหอมจะได้โต้ตอบอะไรกับภาคินอยู่ๆก็มีเสียงใครอีกคนเข้ามาครั่นกลาง และเขาคนนั้นก็คือ ‘ โรม ’ เขารู้สึกไม่ค่อยชอบใจที่ข้าวหอมดูจะใส่ใจเลือกของขวัญให้กับภาคิน มากถึงขนาดนี้ ก่อนที่เพื่อนๆทุกคนจะส่ายหน้ากันไปมาแบบเอื้อมระอาเหลือเกิน เพราะสองคนนี้เรียกได้ว่าเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำเพราะทั้งโรมและข้าวหอมเป็นเพื่อนสมัยประถมด้วยกันมาก่อน แถมยังเป็นเพื่อนข้างบ้านกันมาอย่างยาวนานอีกด้วย “ มึงนี่ก็ยังไงนะไอ้โรมชอบหาเรื่องข้าวหอมอยู่ตลอด พวกมึงสองคนนี่ตกลงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมจริงเปล่าวะกูเห็นกี่รอบๆก็กัดกันทุกที “ (คิริว) “ เออนั่นดิมึงอิจฉากูหรอไอ้โรม มึงไม่ได้แบบกูอ่ะดิ “ (ภาคิน) “ ควายใครอิจฉากูเนี่ยนะจะอิจฉา เชอะ ดูดบุหรี่ดีกว่าเบื่อพวกมึง “ (โรม) ว่าจบโรมก็จัดการสาวเท้าไปหาที่โล่งแจ้งดูดบุหรี่ของเขาทันทีเพราะเขาเบื่อสายตาของพวกเพื่อนๆที่จ้องจะจับผิด เขาไม่ได้คิดที่จะอิจฉาภาคินแต่เป็นเพราะเขารู้สึกหมั่นไส้ข้าวหอมต่างหาก หรือที่เรียกง่ายๆก็คือเขารู้สึกไม่พอใจที่เห็นข้าวหอมเอาของขวัญให้เพื่อนชายของเขา “ ช่างเถอะอย่าไปสนใจเลย พวกอยากมีบทบาทก็แบบนั้นแหละ นี่เฌอเบลล์เอาของขวัญมาให้ภาคินสิ “ เป็นเสียงของข้าวหอมเอ่ยพูดหลังจากที่โรมเดินหายออกไปไกลแล้ว เธอไม่ได้สนใจอะไรมากมายเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาคนนั้นชอบพูดจาหาเรื่องเธออยู่เป็นประจำ ซึ่งเธอก็รู้สึกชินมันไปตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะบอกให้เพื่อนสาวอีกคนอย่างเฌอเบลล์เอาของขวัญออกมา เพราะเธอเป็นคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้ให้เลย และนั่นก็ทำให้ภาคินที่ได้ยินชื่อนี้ถึงกับทำตัวไม่ถูก เพราะตั้งแต่เมื่อเช้าที่เขาเดินออกมาจากห้องของเธอเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลย ภาพเลือดสาวบริสุทธิ์ที่เปรอะเปื้อนอยู่บนที่นอนมันยังติดตาต้องใจของเขาอยู่เลย “ อะ เอ่อ อะนี่สุขสันต์วันเกิดนะคิน “ “ อะ อืม ขอบใจนะเบล “ 🌷คุย🌷ทุกคนมีใครหมั่นไส้อีพี่คินบ้าง อยากตบให้คว่ำเลยอะทำตัวกระดี๊กระด๊าเกิน“ เออนี่พวกแกอยู่ๆฉันก็รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำเดี๋ยวมานะสงสัยว่าเมื่อเช้าจะกินข้าวเยอะไปหน่อยเหมือนจะท้องเสีย “ (คาราเมล)“ อ้าวจริงหรองั้นรีบไปเถอะ “ (เฌอเบลล์)“ ดูท่าคงจะหนักน่าดูเลยยัยเมลเอ้ย เอางี้ดีกว่าแกไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวฉันไปขอยากับคุณแม่ให้ ส่วนแกเฌอเบลล์นั่งอยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะฉันไปเอายาให้ยัยเมลก่อน เกิดถ้าไม่หายต้องไปโรงพยาบาลทีนี้ละงานเข้าเลย “ สองสาวทำการแบ่งหน้าที่กันเป็นอย่างดีหลังจากที่ได้รับข้อความคาราเมลทำทีเป็นแกล้งปวดท้องเพื่อที่เธอจะได้ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนข้าวหอมก็ทำทีเป็นว่าไปเอายาให้เพื่อนสาวเพื่อที่จะได้หายปวด ตอนนี้พวกเธอต้องการให้เฌอเบลล์อยู่คนเดียว“ ให้เราไปด้วยไหม ““ ไม่เป็นไรแกนั่งพักผ่อนไปเถอะยังไม่ค่อยหายดีไม่อยากให้เดินเยอะ ไปยัยเมลรีบไปเข้าห้องน้ำซะเดี๋ยวขี้จะแตกซะก่อน “ และสองสาวก็เดินหายเข้าไปในบ้านทิ้งให้เฌอเบลล์นั่งอยู่ที่ริมศาลาคนเดียว ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสดชื่นลมพัดสบาย ก่อนที่จะมีใครอีกคนย่างก้าวเข้ามา “ ทำไมไปไวจังเลยล่ะข้าว… คะ คิน “ และใช่คนที่เดินเข้ามาใหม่ไม่ใช่ข้าวหอมอย่างที่เฌอเบลล์เข้าใจเพราะเขาคนนั้นก็คือภาคิน ทุกสิ่งทุกอย่างม
เช้าวันใหม่ เช้าบรรยากาศที่สดชื่นแจ่มใสวันนี้ภาคินตื่นแต่เช้าเพื่อไปร้านดอกไม้เขาอยากไปซื้อดอกไม้ให้เฌอเบลล์หลังจากที่นอนคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไงจะง้อเธอยังไง ซึ่งข้างกายก็มีอีก 4 หนุ่มหล่อตามไปด้วย “ ไอ้เหี้ยคินมึงจะลากพวกกูมาทำเหี้ยอะไรแต่เช้าวะเนี่ย ง่วงก็ง่วงชิบหาย “ (ชีวิน) “ เออนั่นดิแม่ง กูยังไม่หายง่วงเลยเมื่อคืนกว่าจะได้นอนพอแปลกที่เข้าหน่อยกูก็นอนไม่หลับ “ (โรม) เสียงสองหนุ่มชีวินและโรมเอ่ยพูดในขณะที่มือก็ยังคงยี้หูยี้ตาเพราะตอนนี้ถือได้ว่ามันเช้ามากๆและพวกเขาก็ยังง่วงอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนชายอย่างภาคินลากพวกเขามาตลาดแบบนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้ไปเรียนทั้งๆที่ว่ามาพักผ่อนแต่นอกจากจะไม่ได้นอนหลับแบบสบายแล้วยังต้องมาระหกระเหินท่ามกลางผู้คนมากมายอีก ต่างจากพี่น้องฝาแฝดคิริวคิรันที่มักจะตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติ “ ไอ้เหี้ยพวกนี้นี่แม่ง มึงไม่เคยได้ยินหรอคนเดียวหัวหาย 2 คนเพื่อตาย 4 คนรอดสบาย เพราะฉะนั้นกูไปไหนพวกมึงก็ต้องไปด้วย เกิดถ้ากูเจอพี่ชายเฌอเบลล์ขึ้นมาแล้วมันทำร้ายกูอีกรอบทีนี้กูตายจริงๆแน่ “ “ ควาย แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องลากพวกกูมาเลยนี่ ไอ้ริวไอ้รันมันก็ตื่นเช
“ ยัยเบลฉันขอโทษนะสำหรับเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันไม่รู้ว่าแกชอบภาคินถ้าฉันรู้ฉันคงม่เอ่ยปากว่าจะคบกับนายนั่นแบบนี้ “ (คาราเมล)เสียงคาราเมลเอ่ยขอโทษเฌอเบลล์ในขณะที่พวกเธอกำลังเตรียมตัวนอน ก็หลังจากที่พวกหนุ่มๆพาภาคินไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วพวกเธอก็อยู่ที่บ้านของเพื่อนสาวต่อเพราะพวกเธอมีเรื่องอยากจะคุยกับเพื่อนอีกมากมาย เธอรู้สึกผิดรู้สึกผิดจริงๆที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถ้าเธอรู้ว่าเพื่อนคนนี้ชอบภาคินเธอก็คงจะไม่คิดแผนมั่วซั่วเธอก็แค่อยากทำให้ภากรหึงโดยการไปคบกับน้องชายของเขานั่นก็คือภาคิน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นการทำร้ายจิตใจของเพื่อนเธอแบบนี้ พอนึกมาถึงตรงนี้แล้วมันก็ทำให้เธอรู้สึกผิดขึ้นมาอีก “ อย่าโทษตัวเองสิเมลมันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย ทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดและลิขิตเอาไว้หมดแล้ว คนไม่ใช่คู่กันต่อให้พยายามยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ซึ่ง ณ ตอนนี้เราไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว “ เฌอเบลล์พูดด้วยความแน่วแน่เธอไม่ได้คิดถือโทษและโกรธอะไรคาราเมลเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนสาวไม่ได้ชอบภาคินตั้งแต่ทีแรก คนที่เพื่อนชอบนั่นก็คือภากรพี่ชายของภาคินอีกทีแต่เหตุที่คาราเ
ตอนที่ 33 ไม่เปลี่ยนใจ “ พ่อคะแม่คะเบลขอโทษนะคะ คุณป้าที่เพทายเบลขอโทษนะคะที่ทำให้เรื่องทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ “ เสียงเฌอเบลล์เอ่ยขอโทษผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเธอหรือแม้แต่พ่อแม่ของเพทาย เธอรู้สึกเกรงใจที่อยู่ๆก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ภายในจิตใจมันรู้สึกเริ่มที่จะไม่โอเค “ ไม่เป็นไรหรอกลูกพ่อกับแม่ไม่ได้โกรธเรื่องมันแล้วก็ให้แล้วกันไป ปัจจุบันมาเริ่มต้นใหม่ก็พอ “ (มาริสา) “ พ่อไม่คิดโกรธลูกเลยนะเฌอเบลล์ ที่สำคัญพ่อได้ซัดหน้ามันไปแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว “ (บุรินทร์) “ ใช่ลูกอย่าไปคิดอะไรมากเลยนะ เอาล่ะเรามาคุยเรื่องงานกันต่อดีกว่านะ “(พัชรี) จบประโยคของผู้เป็นพ่อเป็นแม่เฌอเบลล์ก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยพวกท่านไม่ได้คิดถือโทษและโกรธอะไรเธอเลย หนำซ้ำพ่อของเธอยังปกป้องเธอได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งมาถึงคำพูดของพัชรีผู้เป็นแม่ของเพทายและมีศักดิ์เป็นป้าของเธอ ความรู้สึกตอนนี้เธอละอายแก่ใจมากเหลือเกินแค่ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเกรงใจนี่ยังมาเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อกี้นี้อีก “ อะ เอ่อ คือว่าเบล “ “ มีอะไรหรือเปล่าลูก “ (พัชรี) “ คุณป้าคะ เบล เบลคิดว่าเบลไม่คู่ควรกับพี่เพทาย
“ พูดจบแล้วใช่ไหม ถ้าพูดจบแล้วคินก็กลับไปเถอะ “ “ หมายความว่าไง “ “ ก็หมายความว่าคินกลับไปเถอะเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาเบลลืมมันไปหมดแล้ว มันหายออกไปจากความทรงจำของเบลตั้งนานแล้ว “ “ รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเราด้วยงั้นหรอ “ “ ใช่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเบลก็ลืมมันไปหมดแล้ว จะเหลือไว้ก็แต่ความทรงจำระหว่างเพื่อน “ หญิงสาวพูดอย่างตัดบทเพราะเธออยากแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่เหลือเยื่อใยอะไรอะไรอีกแล้ว ก่อนหน้านี้เขายังไม่คิดถนอมน้ำใจเธอเลยแล้วทำไมเธอจะต้องแคร์เขาด้วยและประโยคนั้นก็ทำให้ภาคินน้ำตาตกในจากที่ตอนแรกร่างกายก็บอบช้ำจนทำให้ยืนแทบไม่อยู่ แต่ ณ บัดนี้เขาแทบจะทรุดลงไปกับพื้น เมื่อเธอบอกว่าลืมมันไปหมดแล้วทั้งๆที่เธอรักเขาทั้งๆที่เธอบอกว่าเธอรักเขาแล้วทำไมเธอถึงตัดความสัมพันธ์กับเขาแบบนี้“ เพื่อนเหรอ ทั้งๆที่กูกับมึงเป็นมากกว่าเพื่อนเนี่ยนะ “ “ เรื่องบางเรื่องอะไรที่ควรลืมได้ก็ควรจะลืมถ้าเรื่องนั้นมันทำให้เราเจ็บ ที่ผ่านมาเบลคิดว่าเบลเจ็บมามากพอสมควรแล้วและมันก็ควรจะจบสักที หลังจากนี้เบลก็อยากจะมีความสุขกับคนที่รักเบลบ้างก็เท่านั้น “ “ นี่ไงกูรักมึงไงเฌอเบลล์ได้ยินไหมว่าก
“ นะ นี่มัน หยุด พี่บาสเบลบอกให้หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ “ (เฌอเบลล์) “ เกิดอะไรกันขึ้นลูกๆ ว้ายตายแล้ว นี่มันอะไรกัน หยุดหยุดเดี๋ยวนี้ ตาบาสแม่บอกให้หยุด “ เสียงอันทรงพลังของผู้เป็นมารดาที่แวดใส่คนเป็นลูกชายจนทำให้บาสได้สติ ก่อนที่เขาจะหยุดทุกการกระทำต่างฝ่ายต่างแยกออกจากกัน “ นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันตาบาสจะบอกแม่ได้หรือยัง “ (มาริสา) “ ก็ไอ้นี่ไง ไอ้เหี้ยนี่ที่มันทำร้ายยัยเบลไง มันมาบุกบ้านเราถึงที่จะไม่ให้ผมชกมันได้ยังไง กล้าทำน้องสาวกูแล้วยังจะมีหน้ามาเหยียบถึงถิ่นกูอีก “ (บาส) “ สวัสดีครับคุณน้าที่ผมมาผมตั้งใจจะมาขอโทษเฌอเบลล์ไม่ได้มีเจตนาไปเป็นอย่างอื่น ผมกราบขอโทษคุณน้าคุณอาที่กระทำแบบนั้นกับเฌอเบลล์ผมขอโทษจากใจจริงๆ “ ภาคินไม่ได้สนใจในคำพูดของบาสว่าเขาจะฟ้องแม่เช่นไรสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาตั้งใจจะมาขอโทษเฌอเบลล์และคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเธอ เขารู้ดีว่าพวกท่านรักลูกสาวมากแค่ไหนการที่เขามากระทำแบบนี้เป็นใครก็ต้องโกรธ ซึ่งพอมาริสาได้ยินเธอก็น้อมรับด้วยความเต็มใจถึงแม้จะโกรธแต่ก็ไม่ถึงกับเกลียด กลับกันชายสูงวัยผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพ่อนอกจากเขาจะไม่พอใจแล้วเขายังจะเกลียดขี้หน้าอีก