LOGINชายหนุ่มเข้ามานั่งรอปาลินที่โซฟาพร้อมกับดูซีรีส์ที่ปาลินเปิดทิ้งไว้ เป็นการฆ่าเวลารอเจ้าของห้องทำกับข้าวให้เขากิน
“ใกล้เสร็จยัง”
“รออยู่เงียบ ๆ อย่าถามมากได้ป้ะ!” ปาลินดุคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
นอกจากไม่ช่วยแล้วยังมาเร่งอีก กินก็กินฟรี เดี๋ยวแม่ก็โยนไก่ดิบให้กินเสียหรอก
คนที่โดนดุถึงกับหน้ามุ่ย ก่อนจะหันกลับไปดูหนังตามเดิม เขาเองก็ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงไปมากกว่านี้ เพราะไม่อย่างนั้นคงได้อดกินแน่ ๆ
ผู้หญิงอะไรวะ ดุชะมัด!!
เวลาผ่านไปไม่นานนัก อาหารที่ปาลินทำก็เสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่จึงพากันมานั่งรับประทานอาหารด้วยกัน
ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาตักแกงเขียวหวานไก่เข้าปากตัวเองทันที
“วันนี้แกงเขียวหวานรู้สึกจะเค็มไปหน่อยนะ” ซีนายวิจารณ์รสชาติแกงเขียวหวานที่ปาลินทำ
“กินกับข้าวมันก็พอดีป้ะ?” ปาลินตอบพร้อมกับตักแกงเข้าปาก แล้วยังเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนเป็นการบอกว่า สิ่งที่เธอพูดมันคือความจริง
คนที่ได้ฟังถึงกับมุมปากกระตุก รสชาติเค็มไปก็กินกับข้าวงั้นเหรอ? ไอ้ความคิดนี้ไปเอามาจากไหน?! เค็มก็คือเค็มเถอะ!
ถามว่าเขาทำตามไหม? พอกินพร้อมกับข้าวก็พอดีอย่างที่ปาลินพูดจริง ๆ แหละ
เพราะแบบนี้ซีนายเลยต้องได้กินแกงเขียวหวานพร้อมข้าวทุกคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขืนเขาบ่นมากไป คงได้โดนดีแน่ ๆ
ในระหว่างที่เขากำลังกินข้าวแบบเงียบ ๆ อยู่นั้น สายตาของซีนายก็ได้เหลือบไปเห็นบางอย่าง ทำเอาชายหนุ่มถึงกับสำลักอาหาร
แค่ก แค่ก แค่ก ซีนายทุบอกตัวเองแล้วรีบหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาดื่มทันที
“เป็นอะไร ไก่ติดคอเหรอ?” ปาลินเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา “เปล่า”
“จู่ ๆ ก็สำลัก สงสัยคิดเรื่องลามกอยู่แน่ ๆ”
ซีนายได้ยินแบบนั้นถึงกับอิ่มกินต่อไม่ไหว ที่ปาลินพูดมันไม่ผิดไปเสียทีเดียว เพราะที่เขาสำลักไม่ใช่อะไร
ปาลินไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน!!
“แกนั่นแหละใส่เสื้ออะไรเนี่ย!!” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม
เขาเพิ่งสังเกตเห็นการแต่งตัวของปาลิน เธอใส่เสื้อยืดคอกว้าง แล้วมันไม่ได้กว้างธรรมดา เวลาที่เธอก้มตักกับข้าว มันกว้างจนเขาเห็นไปถึงไหนต่อไหน เห็นขนาดนั้นไม่สำลักก็บ้าแล้ว ยังมีหน้ามาหาว่าเขาคิดเรื่องลามกอีก
“เสื้อยืดไง? แกเห็นเป็นเสื้ออะไรยะ?” ปาลินพูดอย่างหน้าตาเฉย
เห็นทั้งเห็นว่าเธอใส่เสื้อยืดยังจะถามอีก แปลกคนเสียจริง...
แต่เหมือนปาลินจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เธอก้มมองคอเสื้อตัวเอง แล้วรีบเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดไว้ทันที
“กรี๊ดดดด อินาย อิคนลามก! แกแอบดูนมฉันเหรอ? ฮะ!!”
เธอไม่ได้ตั้งใจใส่ชุดแบบนี้นะ มันเป็นความเคยชินต่างหาก เพราะปกติเวลาเธออยู่ห้องคนเดียวก็แต่งตัวแบบนี้อยู่แล้ว อีกอย่างตอนที่ซีนายมาที่ห้อง เธอกำลังวุ่นวายกับทำอาหาร เลยไม่ได้นึกถึงเสื้อที่ตัวเองใส่ว่ามันดูไม่ดีเท่าใดนัก
“โอ๊ยยย แกจะร้องทำไมฮะ!!! แกนั่นแหละ คนบ้าอะไรไม่ใส่เสื้อใน แล้วคิดได้ยังไงว่าฉันจะพิศวาสแกอะ แบนขนาดนั้นต่อให้แกถอดฉันก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก บอกให้รู้ไว้ด้วย! แค่เห็นก็รู้สึกอุจาดตาแล้ว” ซีนายเอ่ยเตือนสติคนที่กำลังโวยวาย
ทั้งที่ตัวเองเป็นคนใส่เสื้อแบบนี้และไม่ระมัดระวังตัวเอง กลับมาหาว่าเขาเป็นพวกโรคจิตเสียอย่างนั้น แล้วคิดได้ยังไงว่าเขาจะพิศวาสตัวเอง
ให้ตายสิ ถ้าพวกเขาเกิดมีซัมติงกัน ฟ้าคงผ่าแน่ ๆ แค่คิดเขาก็สยองแล้ว
ปาลินได้ยินอย่างนั้นถึงกับมุมปากกระตุก เธอยืนขึ้นแล้วเอื้อมมือไปบีบจมูกของอีกฝั่งทันที
“ใครบอกว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อใน ฉันใส่ที่แปะจุกเอาไว้ ตาแกมองยังไงถึงเห็นว่าฉันไม่ใส่เสื้อในฮะ!”
“โอ๊ย ๆ ๆ เจ็บ ๆ ๆ เอามือออก จะบีบเพื่อ!!!” ซีนายปัดมือปาลินออกไปให้ห่างจากจมูกตัวเอง
เขาลูบจมูกไปมาเพราะรู้สึกเจ็บตรงที่ถูกบีบ แรงที่ปาลินบีบนั้นไม่เบาเลย นี่โชคดีแค่ไหนที่จมูกเขามันของจริง ถ้าเสริมมีหวังจมูกเขาเคลื่อนแน่ ๆ
ปาลินไม่หยุดแค่นั้น เธอยังเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่เหนือชั้นกว่า
“อ๋อ... ที่ฉันกล้าแต่งตัวแบบนี้ เพราะฉันรู้ว่าแกน่ะไม่มีอารมณ์ลามกกับใครหรอก ไม่ใช่ไม่อยากลามก แต่ลามกไม่ได้ เพราะแกมันเสื่อมหมดแล้ว”
ปาลินไม่ได้ปรี๊ดแตกเรื่องที่ซีนายบอกไม่ได้พิศวาสตัวเธอ เพราะเรื่องนั้นเธอรู้อยู่แล้ว แต่เรื่องที่ทำให้เธอปรี๊ดแตกคือมาหาว่าเธอแบนต่างหาก
กล้าดียังไงมาว่าเธอแบน คัพซีสามสิบหกมันแบนตรงไหนกัน?
ด้านคนได้ยินถึงกับเจ็บจี๊ดที่หัวใจ ซีนายรู้สึกว่าตัวเองถูกรถสิบล้อทับครั้งแล้วครั้งเล่า โดยคนที่ขับรถสิบล้อก็คือปาลินเพื่อนสาวตัวดีของเขาเอง
“ถามหน่อยเถอะ ถ้าตรงนี้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นผู้ชายคนอื่น แกกล้าแต่งตัวแบบนี้เหรอ?”
ที่ซีนายเอ่ยถามไม่ใช่อะไร เพราะเขาอยากให้ปาลินระมัดระวังตัวเองมากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยเลยตามเลย เพราะถึงยังไงเขาก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชาย
ปาลินได้ยินอย่างนั้นเธอถึงกับโวยวายเสียงดังทันที “จะบ้าเหรอ!!! ใครมันจะไปแต่งตัวแบบนี้ให้คนอื่นดูง่าย ๆ”
“แล้วแกไว้ใจฉันหรือไง?”
ปาลินเงยหน้ามองดูอีกฝั่งก็เห็นว่าทางนั้นกำลังจ้องตาเธออยู่เช่นกัน หญิงสาวจึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ทำไม? แกจะข่มขืนฉันหรือไง?”
คำถามของปาลินทำเอาอีกฝ่ายถึงกับสำลัก
แค่ก แค่ก แค่ก “จะบ้าเหรอ!!” ซีนายพูดพร้อมกับเช็ดปากตัวเองไปด้วย
“ก็ใช่ไง เพราะฉันรู้ว่าแกไม่ทำแบบนั้นกับฉัน ถ้าทำแกคงทำไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นเพื่อนกันมากว่าสิบปีเหรอ”
ซีนายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริง”
พวกเธอสองคนมีโอกาสที่จะทำเรื่องอย่างว่าหลายต่อหลายครั้ง แต่ซีนายไม่เคยทำแบบนั้นกับเธอเลย อาจเพราะเป็นเพื่อนกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว เลยทำให้มองข้ามเรื่องนั้นไป
อีกอย่างต่างคนต่างไม่ใช่สเปคของกันและกัน ผู้หญิงแบบที่ซีนายชอบส่วนมากจะเป็นเด็กรุ่นน้องเสียมากกว่า ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ แล้วยิ่งนมแบบเบิ้ม ๆ ยิ่งถูกรสนิยมเขาแหละ
“แต่ก็ไม่แน่หรอก ฉันสวยขึ้นกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะ แกอาจจะพิศวาสฉันขึ้นมาบ้างก็ได้” ปาลินไม่พูดเปล่า เธอยังทำท่าสะบัดบ๊อบใส่เพื่อนชายอีกด้วย
ซีนายเห็นท่าทางสะบัดบ๊อบของเพื่อนสาวตัวเองแล้ว ชายหนุ่มถึงกับเอื้อมมือไปผลักหัวของเธอด้วยความหมั่นไส้
“เพ้อเจ้อ!!”
“เอ้า! ก็จริงหนิ ฉันไม่สวยขึ้นตรงไหนยะ”
ซีนายได้ยินอย่างนั้นเขาถึงกับส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมา “มันต่างจากเดิมตรงไหนวะ? ก็เห็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”
เขาพอได้ยินมาบ้าง มีคนพูดว่าปาลินดูดีหรือว่าสวยกว่าแต่ก่อนมาก แต่เขาไม่เห็นว่าปาลินจะต่างไปจากเดิมเลย ดูยังไงก็เหมือนเดิม
“จิ๊” ปาลินถึงกับไม่สบอารมณ์
เธอจะเหมือนเดิมได้ยังไงกัน เธอดูแลตัวเองอย่างดีมาตั้งนมนาน หมดค่าครีมค่าเครื่องสำอางไปตั้งเท่าไหร่ จะมาบอกว่าเธอเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ยังไม่ได้ทาครีมอะนะ? ฝันไปเถอะ!!!
อย่างว่าแหละเธอเองก็ไม่ได้คาดหวังกับคำตอบของซีนายมากเท่าใดนัก เพราะรู้ดีว่าเพื่อนตัวดีของเธอต้องตอบแบบนี้
บทสรุปของคืนนี้ แน่นอนว่าซีนายสู้ปาลินไม่ได้ นอกจากจะสู้ไม่ได้ ยังทำให้ปาลินโกรธจัดเพราะไปหาว่าเธอแบน เลยทำให้เขาต้องได้ล้างจานเพียงคนเดียวลำพัง
ซีนายได้แต่โอดครวญในใจว่า ไม่น่าเลย...
ด้านปาลิน พอเห็นซีนายยืนต่อยกำแพงเธอก็รีบเดินเข้าไปห้ามทันที“นายหยุด!”แม้น้ำเสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความดุดัน แต่ซีนายก็ไม่ยอมฟังแม้แต่น้อย เขายังคงต่อยเข้าไปที่กำแพงอยู่อย่างนั้น“อย่ามาห้าม...” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความรู้สึกผิดขณะที่ซีนายกำลังระบายอารมณ์กับกำแพงอยู่นั้นก็ต้องหยุดการกระทำ เพราะปาลินได้โอบกอดเขาจากด้านหลัง“พอเถอะที่รัก... พอได้แล้ว” น้ำเสียงแปรเปลี่ยนจากดุดันเป็นเสียงสั่นเครือที่เธอเสียงสั่นไม่ใช่เพราะกลัว แต่เธอสงสารซีนายที่ต้องมาเลือดตกยางออกโดยสาเหตุมาจากตัวเธอ“เฮอะ! กูก็ว่าใครที่พาพวกมากระทืบกูจนเข้าโรงพยาบาล ที่แท้ก็มึงนี่เองไอ้นาย ถุย!” ลีโอบ้วนเลือดในปากลงพื้นดิน สภาพลีโอตอนนี้ค่อนข้างสะบักสะบอมพอสมควร โดยมีเพื่อน ๆ ของเขาคอยพยุงตัวชายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล“กูคิดไว้ไม่มีผิดว่าพวกมึงสองคนต้องมีซัมติงกัน ไม่น่าล่ะ ถึงได้ปกป้องกันนัก อ๋อ... สุดท้ายแม่งแดกกันเอง หึหึ” น้ำเสียงลีโอเต็มไปด้วยความดูถูก“ไอ้สัตว์มึงอะเงียบปากไปก่อน” เพื่อนของลีโอเอ่ยเตือน“เหอะ! คิดว่ากูกลัวเหรอ? มันเป็นใครใหญ่มาจากไหนกูถึงต้องกลัวมัน สันดานตบตีคนไปทั่วแบบนี้ก็แค่กุ๊ยข้า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเธอต่างพาเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันไม่พัก เพราะซีนายชอบมาตามติดและคอยกวนประสาทอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยน แม้ว่าเธอจะไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มก็ยังทำเหมือนอย่างเดิม จนคนที่เป็นฝ่ายทำใจคือเธอเองนั่นแหละหญิงสาวหันหน้าไปมองชายตาตี๋ที่จ้องมองเธอ ด้วยใบหน้าคลี่ยิ้มเพราะรู้สึกชื่นชมในตัวชายหนุ่มที่อดทนได้เก่งขนาดนี้ ทำเอาคนที่หน้าบึ้งตึงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มตามจนตาหยี ยังไม่พอเท่านั้น เขายังส่งจูจุ๊บให้เธออีกด้วยปาลินถึงกับหุบยิ้มทันที แล้วหันกลับมาหาเพื่อนตัวเองเหมือนดังเดิม ขืนเธอยังยิ้มหรือมองซีนายอยู่แบบนี้ มีหวังเขาคงส่งจูจุ๊บให้ทั้งคืนไม่ยอมเลิกแน่นอนแต่ละคนนั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ จนแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ปาลินจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ร่างเพรียวบางก็เดินกลับโต๊ะของตัวเอง ในระหว่างนั้นเธอก็ถูกใครบางคนฉุดรั้งแขนเอาไว้“ไง...”“ลีโอ...?”ปาลินเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ถูกลีโอขวางทางเอาไว้“จะรีบไปไหน?” น้ำเสียงเอ่ยถามอย่างกรุ้มกริ่มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์“หลีก-ไป” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความแข็งกร้าวเธอไม่ได้อยากเสว
ผลสุดท้ายคนที่ต้องต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ซีนายก็ไม่พ้นปาลินเหมือนเคย ขืนยังให้ซีนายต้มเองต่อไปมีหวังครัวของเธอพังแน่นอนมือเรียวบางยกถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มเสร็จเรียบร้อยแล้วมาให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างระมัดระวัง“ขอบคุณค้าบ~ ที่รัก~” ชายหนุ่มยิ้มหวานอย่างดีใจ จากนั้นก็ลงมือกินอาหารที่ปาลินทำมาให้อย่างเอร็ดอร่อยไม่มีบ่นแม้แต่น้อยนับตั้งแต่ที่พวกเธอตกลงสานสัมพันธ์ครั้งใหม่นั้น ซีนายก็ได้เปลี่ยนคำพูดและคำสรรพนามกับเธอ โดยเรียกเธอว่าที่รัก และแทนตัวเองว่าเค้า ซึ่งเธอได้บอกให้ซีนายเรียกแบบเดิมเพราะรู้สึกแปลก ๆ หูแต่คิดว่าคนอย่างซีนายจะยอมฟังคำคนง่าย ๆ เหรอ? คนอย่างซีนายยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เธอจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เอาที่สบายใจ ยังถือว่าโชคดีที่ซีนายทำตามเรื่องที่ตกลงกันตอนนั้นว่าทำหรือทำอะไรไม่ได้บ้าง ส่วนตัวเธอขอพูดแบบเดิมดีกว่าเพราะมันยังไม่ชินปากและไม่ได้เปลี่ยนแต่คำเรียกขานเท่านั้น ซีนายยังตามติดเธอตลอดทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทุกเย็นจะแวะมาหาเธอที่ห้องเสมอ บางทีก็ซื้อของเข้ามากินด้วยกันและอยู่ด้วยจนกว่าปาลินจะบอกให้กลับ หรือบางครั้งก็พากันออกไปกินข้าวข้างนอกเมื่อมีโอกาส ชี
“แล้วอะไรอีก?” เสียงหวานเอ่ยถาม“ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม... จะอธิบายยังไงดีล่ะ เพราะมันก็คล้าย ๆ กันกับที่เล่าไปก่อนหน้านั้น ว่าไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน คนอื่นอาจจะเฉย ๆ แต่กับแกไม่ได้ ฉันเฉยไม่ได้ ไม่เชื่อไปถามเฮียดูก็ได้ เพราะฉันเอาเรื่องของแกไปปรึกษาเฮียตลอด”“มีอีกไหม?”ซีนายทำหน้าครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่มีแล้ว รู้แค่ว่าอยากอยู่ด้วย อยากอยู่ใกล้ อยากได้เป็นแฟน ส่วนอนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที หรือแกอยากข้ามไปขั้นตอนแต่งงานเลยก็ได้นะ ฉันไม่ติด”“ตลกละ” มุมปากปาลินถึงกับกระตุก ให้ข้ามขั้นไปแต่งงานกันทั้งที่ยังไม่ได้เป็นแฟนเนี่ยนะ“ก็ครบสามข้อหนิ”“งั้นก็คบได้ดิ” น้ำเสียงซีนายเจือปนไปด้วยความดีใจ“ได้ แต่มีข้อแม้”ซีนายถูมือไปมาราวกับเด็กน้อยที่รอรับของเล่นจากผู้ใหญ่ “ได้สิ ว่ามาเลย”“หนึ่งปี”“หนึ่งปีเราค่อยแต่งงานกันใช่ไหม?” ซีนายไม่คิดมาก่อนว่าปาลินจะเป็นคนใจร้อนขนาดนี้ ช่างเถอะ... ยังไงเขาก็พร้อมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา จะแต่งเร็วกว่านี้ยังได้เลยทว่าความฝันของซีนายต้องดับลงเมื่อได้ยินคำพูดต่อจากนี้“หนึ่งปีค่อยมาเป็นแฟนกัน”“ทำไมล่ะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้
ทางด้านปาลินตอนนี้เธอเองก็ตื่นนอนแล้วเช่นกัน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็เก็บของที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย จากนั้นก็ทักแชตหาคนที่บอกว่ามีเรื่องต้องการคุยกับเธอ ว่าตอนนี้ว่างแล้วพร้อมจะคุยด้วยแล้วยอมรับว่าเมื่อคืนเธอค่อนข้างตกใจที่ได้เจอหน้าซีนาย เพราะเธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสักนิด แต่พอเห็นสภาพของซีนายแล้ว เธอก็หลบหน้าเขาไม่ลง ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกันซีนายไปทำอะไรมา ถึงได้มีสภาพต่างไม่จากโจรป่าขนาดนั้นเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งห้องของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวลุกไปเปิดประตู ก็เห็นเป็นซีนายที่มาในสภาพแบบใหม่ที่ต่างจากเมื่อคืน“ไปตัดผมมาใหม่เหรอ?”“อือ ดูดีขึ้นป้ะ?” คนถูกทักเอ่ยถามด้วยความดีใจ เพราะไม่คิดว่าปาลินจะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา“ก็ดีกว่าเมื่อคืนอะ” พูดจบปาลินก็หันหลังเดินเข้าห้องตัวเองแล้วไปนั่งตรงโซฟาเพื่อดูซีรีส์ต่อ โดยไม่ได้สังเกตดูซีนายแม้แต่น้อยว่าถืออะไรไว้ข้างหลัง“ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยเหรอ?” ปาลินเอ่ยถามเข้าประเด็น โดยสายตาของเธอไม่ได้ละจากซีรีส์เรื่องโปรดแม้แต่น้อย“ลิน...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียก“อะไร
“ก็นั่นแหละ ก็ให้นึกกลับกันว่าจู่ ๆ มีคนมาบอกว่าชอบแก โดยที่ยังไม่รู้จักหรือยังไม่ได้ทำอะไรเลย แกจะรู้สึกยังไง?”นั่นสินะ... ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผู้หญิงมาสารภาพชอบเขานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยรู้สึกตอบกลับความรู้สึกนั้นกับใครสักคน เพราะพวกเธอไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกชอบ แต่กลับปาลินไม่ใช่แบบนั้น หรือเป็นเพราะปาลินที่ต่าง...“แล้วถ้าเฮียทำแล้วมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนั้นไม่รับรักเฮียล่ะ เฮียจะทำยังไง?”“มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจ คนทำย่อมคาดหวังให้มันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้อยู่แล้ว ทั้งลงทุนลงแรงเต็มที่เพื่อเป้าหมายนั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะสำเร็จตามที่เราคาดหวังหรือเปล่า? เพราะผลลัพธ์มันก็มีแค่สองทางคือสำเร็จกับไม่...แล้วสมมติแผนธุรกิจนั้นไม่สำเร็จ แกจะล้มเลิกหรือตั้งใจทำให้มากกว่าเดิมล่ะ?”ซีนายได้ยินแบบนั้นถึงกับยกมือขึ้นมาป้องปากตัวเองด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ“สุดยอดไปเลยเฮีย!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปลื้มปีติเขาไม่คิดมาก่อนว่าวันนี้พี่ชายสุดแสนเคารพรักจะให้คำปรึกษาเขาได้มากขนาดนี้ เพราะปกติเขาจะโดนพศวัฒน์เมินตลอด สมแล้วที่เขามาปรึกษาคราวนี้เป็นพศวัฒน์ที่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย







