LOGINภายในคลับหรูยามค่ำคืน เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ คลออยู่ในอากาศ แสงไฟสีนวลสะท้อนเงาแก้วคริสตัลที่เรียงรายบนชั้นหลังเคาท์เตอร์บาร์อย่างประณีต...
หนุ่มหล่อหน้าตาดียืนอยู่หลังเคาท์เตอร์บาร์ในชุดเชิ้ตสีขาวพอดีตัว แขนเสื้อพับขึ้นถึงข้อศอก เผยให้เห็นท่อนแขนแข็งแรงที่ขยับเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงทุกครั้งที่เขาเขย่าเชคเกอร์เงินสแตนเลสแวววาวสะท้อนกับแสงไฟในจังหวะที่เขาเทเครื่องดื่มลงในแก้วค็อกเทลด้วยท่าทีสุขุมและมืออาชีพ
“โห...พี่กันต์หล่อมากเลยอ่ะแก มีเสน่ห์สุดๆ”
“สมแล้ว ที่เวนิสมันหลงอ่ะ”
“อืม...ใช่...ฉันหลงพี่กันต์มาก ทั้งหล่อ เซ็กซี่ และมีเสน่ห์อย่างที่สุด”
แววตาของกรภัทร์นั้น เต็มไปด้วยแสงแห่งประกายความชื่นชมและลุ่มหลงอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ เธอก็ยอม
“ตกลง พี่สามคน จะนั่งตรงนี้มั้ยครับ ผมจะได้วางเครื่องดื่มครับ”
เสียงของเด็กเสิร์ฟปากแจ๋ว มันทำให้คนทั้งสาม ที่อยู่ในอาการตื่นตะลึงนั้น สะดุดลงทันที!
“แหม...นายนี่...กำลังเคลิ้มเลยเชียว!”
คุณากรเริ่มเดือดอีกครั้ง
“แล้วพี่สรุปกันได้หรือยังครับ ว่าพี่จะนั่งโต๊ะไหน ผมไม่มีเวลากับพวกพี่ทั้งคืนนะครับ”
“ก็โต๊ะนี้แหละ! มันมีว่างแค่โต๊ะเดียว แล้วนายจะถามทำไมไม่ทราบ! มันมีให้พี่เลือกด้วยเหรอ!”
“ใจเย็นๆ เซนต์ แกอย่าพึ่งวีน”
อีกฝั่งหนึ่งของเคาท์เตอร์บาร์...
ไฮโซสาวขาประจำทั้งสองคน นั่งอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์บาร์กำลังจ้องมองหนุ่มหล่อกระชากใจตาแทบไม่กะพริบ แววตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความหลงใหลและความชื่นชมในท่วงท่าของเด็กหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘หมาเด็ก’ ของเธอ“หล่อมากเลย หล่อกว่าดารานายแบบอีกนะ คืนนั้นเธอเมามาก เลยไม่ได้จัดการหมาเด็กของเธอเลยใช่มั้ย อารยา”
อารยายิ้มหวาน สายตาไม่ละไปจากหนุ่มหล่อตรงหน้าเลย แม้แต่วินาทีเดียว
“ใช่...คืนนี้ ฉันจะไม่เมานะ วรางค์”
สายตาของเธอกวาดมองไปที่ร่างสูงใหญ่หุ่นสมบูรณ์แบบทุกกระเบียดนิ้ว กล้ามท้องมีซิกแพคเป็นลอนสวยงามเด่นชัด อกแกร่งไหล่กว้างน่าซบอิงแอบ ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน และที่สำคัญ ริมฝีปากหนาอวบอิ่มนั้นเสริมให้เด็กหนุ่มคนนี้มีความเซ็กซี่ขึ้นไปอีกเท่าตัว
“อารยา...”
“หืม...?”
“ถ้ากินยากมาก เธอก็ใช้ยาเลยดีมั้ย คืนนี้ ฉันมีติดตัวมาด้วยนะ เอาหรือเปล่า?”
วรางค์กระซิบข้างหูเพื่อนสาว ในเมื่อเงินใช้ไม่ได้ ก็คงต้องใช้ทางลัดสินะ
“อุ้ย...เธอพูดอะไร วรางค์...”
ใบหน้าสวยแดงก่ำ ไม่ใช่เพราะความเขินอายแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะฤทธิ์ของค็อลเทลที่เธอดื่มไปสี่แก้วนั่นต่างหาก
“เอามั้ยล่ะ...คืนนี้เลย ฉันคิดว่า เรื่องนี้ ไม่ยากเลยนะ ฉันมีวิธีนะ”
“ยาออกฤทธิ์ภายในกี่นาทีล่ะ ฉันคิดว่า นี่มันก็ยังไม่ดึกนะ แล้วคนอื่นจะรู้มั้ยเธอ...”
“ในร้านนี้ มีห้องวีไอพีส่วนตัว ไว้สำหรับ...”
“อุ้ย! จริงเหรอ? มีแบบนี้ด้วยเหรอ ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยล่ะ”
“เรื่องนี้ คนทั่วไปไม่รู้หรอก จะรู้ก็เฉพาะแขกวีไอพีแบบพรีเมี่ยมเท่านั้นนะ”
“แล้วเธอไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ เธอก็พึ่งมาที่นี่กับฉันเองนะ”
“ฉันรู้จากผู้จัดการร้านน่ะสิ คืนก่อน ฉันก็มาลองจัดกับเด็กที่นี่ไปแล้ว เธอเอ้ย...มันมีครบทุกอย่างเลยนะ ทั้งโซ่ ทั้งแซ่ คอสเพลย์ (cosplay) เพียบเลยนะ”
“ห๊ะ! นี่เธอล้ำไปมากเลยนะวรางค์”
“เอาไง ฉันจัดให้เธอได้นะ อารยา เธอจะได้สมหวังกับหมาเด็กของเธอคนนี้ซะที เอามั้ย...”
“เอาสิ...ว่าแต่ จะใส่ยาเข้าไปยังไงล่ะ ที่นี่มีกฎสำหรับพนักงานนะ ไม่ให้ดื่มร่วมกับแขก นอกจากเด็ก N หมาเด็กของฉันก็ไม่ใช่เด็ก N ซะด้วยสิ”
“แหม...แค่นี้เอง ไม่ใช่ปัญหาหรอก ฉันเคลียร์กับเจ้าของร้านเรียบร้อยแล้ว”
“อุ้ย! เธอนี่เริ่ดจริงๆ เลยนะวรางค์ มาไม่ทันไร ก็จัดการได้ทุกอย่างแล้ว ตอนแรก เจ้าของร้านก็บอกฉันว่า หมาเด็กนี่ ไม่รับงาน N แล้วอยู่ๆ ทำไมถึง...”
“เขาก็พูดไปแบบนั้นแหละ เธอคือตัวแม่*ตัวมัมสายเปย์อันดับหนึ่งของร้านนี้นะ เพราะฉะนั้น เจ้าของร้านเขาก็ต้องเอาใจเธอสิ เงินทั้งนั้นเลยนะ”
“เหรอ...”
“งั้น เธอเติมยาให้ฉันสักหน่อยได้มั้ย มันจะได้ดูคึกคักบ้าง แหม...หุ่นใหญ่กล้ามโตแบบนี้ ฉันคิดว่า จะต้องสนุกสุดเหวี่ยงแน่นอน โดยเฉพาะ...”
สายตาของไฮโซสาวเหลือบไปมองตรงเป้ากางเกง ของหมาเด็กสุดหล่อของเธอ
“ใช่...ฉันคิดว่า เจ้าหมาเด็กของเธอจะต้อง ใหญ่แน่นอน อาจจะยาวด้วยนะ อร๊ายย์! เธอกินแล้ว มาเล่าให้ฉันฟังบ้างนะ”
“แล้วคืนนี้ เธอไม่จัดบ้างเหรอวรางค์ จะนั่งรอฉันแบบนี้น่ะเหรอ มันดูไม่ใช่เธอเลยนะ จัดเลย เดี๋ยวคืนนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง”
“ฉันไม่พลาดเรื่องนี้หรอกย่ะ เด็ก N ขาประจำของฉัน กำลังรอฉันอยู่ โน่นไง เห็นมั้ย มองมาที่ฉันใหญ่เลยอ่ะ คงกลัวว่าฉันจะไม่ไปน่ะสิ”
“งั้น เธอก็รีบจัดการหมาเด็กนี่ให้ฉันก่อนสิ”
“ได้ๆ เอาแบบนี้ล่ะกัน เธอดื่มสักสองแก้ว และแก้วสุดท้ายฉันจะใส่ยาให้เธอนิดหน่อย และเธอก็แกล้งเมา เดินถือแก้ว ไปรอหมาเด็กที่ห้อง จากนั้น ฉันจะส่งหมาเด็กของเธอไปหานะ”
“เริ่ด! เธอใส่ยาให้หมาเด็กฉันเยอะๆ นะ คืนนี้ ฉันจะสนุกให้สุดเหวี่ยงเลยแหละ”
อีกด้านหนึ่ง ‘หมาเด็ก’
สายตาคมเข้มจับจ้องไปยังโต๊ะที่สี่มุมห้อง แววตาของเขาแข็งกร้าวสันกรามขบเข้าหากันแน่น อารมณ์ความโกรธปะทุขึ้นมามาเรื่อยๆ ภาพของเธอที่กำลังนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อนของเธอ และจ้องมองมาที่เขา มันทำให้ ชนกันต์รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
‘อุตส่าห์ปฏิเสธ...แต่เธอก็ยังตามไม่เลิก’ ยิ่งเธอทำแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้ชนกันต์รู้สึกไม่โอเค ‘เขากับเธอ’ ไม่มีวันที่จะคบกันได้ เธอยังไม่เข้าใจอะไรอีก ที่เธอตามตื้อเขาแบบนี้ มันก็เหมือนกับการดูถูกเขาไปด้วย
ชนกันต์ทำงานในสถานที่แบบนี้ คงหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครพูดถึงเขาในทางที่ไม่ดีได้หรอก ถึงแม้เขาจะไม่ยอมขายเนื้อหนัง*มังสาก็ตาม แต่สถานที่*อโคจรแบบนี้ อย่างไร ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
แต่อีกด้านหนึ่ง...
“พี่กันต์มองมาที่แกด้วยแหละ เวนิส”
“หรือว่า พี่เขาจะเริ่มใจอ่อนกับแกแล้วหรือเปล่า”
“นั่นสิ...ฉันก็คิดว่าตัวเองตาฝาดไปนะ แต่พี่กันต์ ก็จ้องฉันตลอดเลยอ่ะ คงจะเริ่มรู้สึกดีกับฉันแล้วมั้ง...”
“งั้น! เรามาดื่มฉลองกันหน่อยสิ เหล้าที่พี่กันต์ชงนี่ อร่อยสุดๆ สั่งอีกๆ ฉันชอบ!”
“โอเค เลย วันนี้ ฉันให้คนขับรถที่บ้านมารอรับ ไม่ต้องกลัวเมานะแก”
“แกพร้อมเสมอเลยนะเซนต์”
“ใช่สิ...เพื่อ เพื่อนฉันจัดให้ได้อยู่แล้วแก!”
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน
1 สัปดาห์ต่อมา... @ประเทศไทย... ภายในรถสปอร์ตคันหรูสีแสบตา เสียงเครื่องยนต์เงียบสนิทราวกับทั้งโลกกำลังหยุดนิ่งอยู่เพียงแค่ในห้องโดยสารนั้น แสงไฟจากโถงลานจอดรถลอดผ่านกระจกหน้ารถเข้ามาสะท้อนประกายบางเบาบนผิวเบาะหนังแท้ราคาแพง... “แกมีอะไรก็รีบพูดมาเลย...และปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!”เอมมิกาออกคำสั่งพร้อมพยายามดิ้นเพื่อต้องการหลุดจากพันธนาการนั้น เธอกำลังนั่งคร่อมอยู่บนตักคุณากร วันนี้เพื่อนของเธอนัดเธอมาเพื่อขอเจรจา แต่ไม่คิดว่า ไอ้เพื่อนบ้าจะกล้าทำอะไรที่ระห่ำขนาดนี้ ใบหน้าเนียนเบือนหนีเล็กน้อย ทั้งที่หัวใจเต้นแรงจนแทบกลบเสียงลมหายใจของตัวเอง“ครบกำหนดตามสัญญาแล้ว...คำตอบแกล่ะ”เสียงทุ้มต่ำของเขาดังอยู่ใกล้หู เขาโอบเอวเธอไว้แน่น มือหนาไล้ช้า ๆ อยู่ตรงแผ่นหลังราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไปไหน“แกจะให้ฉันตอบแกยังไงเซนต์...ปล่อยฉันลงก่อนสิ แกจะทำแบบนี้ทำไม”ความอบอุ่นจากอ้อมแขนเขาแผ่ซ่านมาจนทั่วร่างของเธอ กลิ่นน้ำหอมของเขาลอยคลุ้งในอากาศปะปนกับลมหายใจอุ่นที่กำลังรินรดข้างแก้ม มันทำให้เอมมิการู้สึกแปลกประหลาด เธอยังไม่ชินกับสิ่งที่เพื่อนของเธอกำลังทำ เพื่อนรัก จะกลายมา
ช่วงเวลาหนึ่ง...@โรงแรมหรูห้อง 401... บนเตียงนอนขนาดคิงไซต์... เสียงครวญครางดังลั่นห้อง การร่วมรักอันแสนร้อนแรงถูกบรรเลงขึ้นอย่างหนักหน่วง สองร่างเกี่ยวกวัดรัดตรึง ถาโถมเข้าหากันราวกับพายุฝนคลั่ง“พะ-พี่กันต์...อ๊ะ!”“คะ-ครับ...อึ้มม์”ร่างกำยำโยกโหมแรงกระแทกอย่างดุเดือด จนร่างอรชรสั่นสะท้านสะเทือน มือหนายื่นไปเกาะกุมเต้าใหญ่ก่อนจะบีบขย้ำมันอย่างแรงเพื่อระบายความเสียดเสียว“วะ-เวนิสรักพี่กันต์ค่ะ...อ๊า!” เสียงพร่าครางสั่น“พะ-พี่ก็รักเธอ...เวนิส...โอวว์”มังกรใหญ่กดเด้งเข้าหาร่างบางอย่างไม่ลดละทั้งสองร่างสอดประสานกันอย่างลงตัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องดังระงม ความซาบซ่านอย่างหาที่เปรียบมิได้เล่นงานคนทั้งสองอย่างหนัก และเมื่อ...ความสุขสมนั้น...ได้เดินทางมาจนถึงปลายฝัน ชายหญิงทั้งสองก็จับมือกันทะยานไต่จุดสูงสุดของอารมณ์ขึ้นไปจนถึงฝั่งฝันปรารถนาจนสำเร็จ... “อึ้ม...”เสียงแหบพร่าแผ่วเบาลง เมื่อการร่วมรักอันแสนหนักหน่วงนั้นจบ ใบหน้าคมซุกซบลงตรงซอกคอขาวผ่อง ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจหอบกระเส่าของเขาเท่านั้น “ขะ-ขอบคุณ พี่มีความสุขที่สุด...”เสียงลมหายใจของเขาหอบดังยังไม่คลาย
“ทำไม? นี่เรากำลังอายพี่อยู่ใช่มั้ย” “อ่อ...ไม่ๆ ค่ะพี่กันต์ เวนิส รู้สึกไม่สบายนิดหน่อยค่ะ” “ไม่สบายงั้นเหรอ?”เขาเดินตรงเข้าหาเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแฝงความกังวล ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าของเธอที่แดงจัดอย่างผิดปกติ “เอ่อ...ค่ะ” “หน้าเธอแดงมากจริงๆ”เขาพูดเสียงต่ำ พลางเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของเธอ ^^’ กรภัทร์ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มด้วยความเก้อเขิน ‘แกเป็นเอามากนะเวนิส ทำไมแกต้องตื่นเต้นกับพี่เขาขนาดนี้ด้วย’ “แต่ตัวเธอก็ไม่ร้อน”สายตาเขายังคงจับจ้องไม่ลดละ ความเป็นห่วงฉายชัดในแววตาคมลึกนั้น “เอ่อ...”ทำยังไงกันดีล่ะ กรภัทร์ดันเล่นใหญ่ไปแล้ว “ถ้าไม่สบาย งั้นพี่จะพาไปเธอหาหมอนะ”เสียงของเขาอ่อนลงแต่ยังคงเต็มไปด้วยความจริงจัง “ปะ-เปล่าค่ะพี่กันต์ คือว่า ความจริง เวนิส...”เธอหลุบตาลง หัวใจเต้นแรงเมื่อสัมผัสถึงความอบอุ่นจากน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยนนั้น ความเขินอายที่พยายามปกปิดกลับยิ่งชัดเจนขึ้น “มีอะไร ก็พูดกับพี่ตรงๆ ก็ได้ หรือเรื่องที่เธอจะเคลียร์กับพี่ เป็นเรื่องที่เธออึดอัดใจอยู่ใช่มั้ย เธอกำลังจะ
3 ชั่วโมงต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงต่อสายสนทนา “ฮัลโหล...ว่าไง” “พี่วิชญ์! ฮึ่ม! รับสักที! ทำไมพี่ไม่รับสายเวนิสคะ เวนิสโทรหาพี่เป็นร้อยๆ สายแล้วนะคะ พี่วิชญ์อยู่ที่ไหนคะตอนนี้ แล้ว...” “ใจเย็นๆ เวนิส ถามรัวแบบนี้ พี่จะตอบอะไรเราทัน” “พี่ทำไม ไม่รับสายเวนิสคะ?” “พี่ตื่นสาย...”กรวิชญ์เหลือบมองสาเหตุที่ทำให้เขาตื่นสาย เธอยังคงหลับสนิทข้างกายเขา หลังจากผ่านสมรภูมิรบไปเมื่อครู่ “แล้ว...คุณเลขาพี่ล่ะคะ เธออยู่ไหนคะ พี่กันต์โทรหาพี่สาวเขา ก็ไม่รับสายเหมือนกัน” “อืม...ก็...อยู่แถวนี้แหละ...ทำไม เรามีอะไรกับเลขาพี่” “หืม...?? อยู่แถวนี้? หมายความว่ายังไงคะพี่วิชญ์ เสียงพี่เหมือนคนตื่นนอน อย่าบอกนะคะ ว่าตอนนี้พี่กำลังอยู่บนเตียง แล้วเลขาพี่ก็อยู่ด้วย” “อืม...ถูกต้อง” “ห๊ะ!! อะไรคะ!! พี่วิชญ์อธิบายยาวๆ หน่อยสิคะ เวนิสงงไปหมดแล้วนะคะเนี่ย...”กรภัทร์เหลือบมองคนที่น่าจะร่วมงงไปกับเธอด้วย เขาก็คงเป็นห่วงพี่สาวของตัวเองเหมือนกัน “เออน่า...เราอย่าถามอะไรมากได้มั้ย เรื่องนี้ไม่เกี่ย
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงต่อสายสนทนาดังขึ้น ‘ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากหมายเลขที่ท่านเรียก’ “อะไรกัน! ทำไมพี่วิชญ์ถึงไม่รับสายนะ โทรเป็นสิบๆ ครั้งแล้วเนี่ย ทำอะไรอยู่นะ...พี่กันต์ลองโทรหาพี่สาวพี่ดูสิคะ ทำไมเงียบกันจัง” “พี่โทรแล้ว แต่ พี่เบลล์ก็ไม่รับสายพี่เหมือนกัน” “งั้น เดี๋ยวเวนิส จะให้พนักงานโรงแรมเข้าไปเปิดห้องของพี่วิชญ์ดู ดีมั้ยคะ” “พี่ว่า เราทานข้าวก่อนก็ได้นะ เผื่อว่า เมื่อคืน สองคนนั้นเขาอาจจะดื่มหนัก เลยตื่นสาย” “แต่...วันนี้เราจะต้องออกไปพบลูกค้านะคะ” “นี่เรายังเชื่ออีกเหรอ ว่าพวกเรามาทำงานกันจริงๆ” “หมายความว่ายังไงคะ? ไม่ทำงานเหรอคะ?” “สองอาทิตย์นี้ พี่สาวของพี่บอกว่า ไม่ได้มาทำงาน แต่มาเพื่อ...เราสองคนโดยเฉพาะ” “ห๊ะ! แล้ว ทำไมจะต้องมาไกลขนาดนี้ด้วยคะ เวนิสไม่เห็นจะเข้าใจเลย ถ้าเรื่องเวนิสกับพี่ เราก็คุยกันไปแล้วนี่คะ” “แล้ว...ที่เรากลับไปคิดเมื่อคืน เป็นยังไงบ้าง เธอทบทวนเรื่องของเราไปถึงไหนแล้ว”ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าเนียน แต่ในความสงบนิ่งของเ
จูบของเขาหนักแน่น ริมฝีปากที่แนบชิดนั้นแสดงถึงความรู้สึกที่เก็บกักมานาน มือเขาประคองใบหน้าเนียนขึ้นมารับจูบ ปลายลิ้นของเขาสัมผัสได้กับรสขมปนฝาดของไวน์แดงชั้นดี สิ่งนั้นกระตุ้นความอยากของเรือนร่างกำยำขึ้นมาทันที“อื้อ...” ใบหน้าแดงก่ำพยายามสะบัดออก เพื่อหอบโกยเอาอากาศเข้าปอด เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่อีกหนึ่งสติรับรู้ได้เพียงว่า ความหอมหวานอันเย้ายวนของรสชาติจูบนั้น มันทำให้เธอกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆสีขาวก้อนใหญ่“บะ-เบลล์”น้ำเสียงแหบพร่าสั่นปนกระเส่า เธอกำลังปลุกบางอย่างในตัวเขาขึ้นมา เขาลูบพวงแก้มแดงระเรื่อของเธออย่างนุ่มนวล“คะ? มะ-มีอะไรคะ ท่านประธาน”เสียงหวานพร่าพึมพำตอบกลับ มือของเธอกำลังโน้มลำคอเขาลงมา และงับริมฝีปากของคนด้านบนที่มองลงมาด้วยดวงตาเปี่ยมอารมณ์ ปากหนาเผยอรับยอมให้ลิ้นเล็กรุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของเขา ความเย้ายวนนี้ ยากจะปฏิเสธได้เลยจริงๆ“คุณเมานะ...”เสียงพร่าเอ่ยเตือนสติคนเมา ลิ้นเล็กสอดลึกราวกับจะคว้านให้ทั่วทุกซอกมุม ไล้เลีย ดูดดูน จนทำให้กายกำยำสะท้านปั่นป่วน“ทำไม...ท่านประธาน ไม่กล้าเหรอ หรือว่า...อุ๊บ!!”ริมฝีปากบางถูกปิดในทันใด จูบอันหนักหน่วงและดุเดือดขอ







