เมื่อไป๋เจิ้นถังและไป๋เฟยเฟยเห็นแท่งไม้ไผ่ดังกล่าวก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีแต่ว่า...นี่คือทางเลือกของบรรพบุรุษ!“เฟยเอ๋อร์ ถึงอย่างนั้น... เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”ไป๋เจิ้นถังพูดจบแล้วหันหลังเดินจากไป...ในขณะนี้เซิ่งฟางสี่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตอนบนพร้อมด้วยกองกำลังทั้งหมดหกหมื่นนาย!ครั้งนี้เขาจะต้องยึดต้าเย่ให้ได้แน่นอน!เซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงที่อยู่ด้านขบวนมีสายตาแน่วแน่แต่เซิ่งตงฉยงยังคงพูดว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้กองทหารของเรากำลังจะจัดการกับต้าเย่แล้ว ตระกูลไป๋... จะคิดว่านี่เป็นโอกาสหรือไม่ขอรับ?”หลังจากได้ฟังเช่นนั้นเซิ่งฟางสี่ก็ยกยิ้มตระกูลไป๋ย่อมคิดเช่นนั้น ต่อให้เป็นคนอื่นก็คงฉวยโอกาสนี้คิดลงมือเช่นกัน!“แน่นอนว่าต้องคิด ไม่ว่าใครก็คงคิดว่านี่เป็นโอกาสดีทั้งนั้น!”“แต่ว่า... เราแค่ต้องปราบปรามพวกเขาเพียงไม่กี่วันเท่านั้นก็พอแล้ว!”เซิ่งฟางสี่แสยะยิ้มก่อนกล่าวเช่นนั้น เซิ่งตงฉยงก็พยักหน้า ทั้งสองนำกองกำลังหกหมื่นนายตรงไปยังบริเวณชายแดนเมืองหลวงแล้วตั้งค่าย!“ไม่มีทหารในเมืองรอบเมืองหลวงเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว จึงรีบถอยกลับไปเฝ้าเมืองหลวง!”เม
อู๋หลิงตะคอกอย่างเย็นชาเซิ่งตงฉยงได้ฟังเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะ“ต่อสู้จนเหลือทหารคนสุดท้ายหรือ? เจ้าคิดว่ามันจะมีประโยชน์หรือ?”“อู๋หลิง ต้าเย่ถึงกาลล่มสลายแล้ว หากเจ้าละทิ้งด้านมืดเข้าสู่ด้านสว่าง ตระกูลเซิ่งของข้าจะให้อนาคตที่ดีแก่เจ้า!”เซิ่งตงฉยงพูดตามจริง แต่อู๋หลิงทรยศได้อย่างไร?ตระกูลนักรบของเขามีความจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน ไม่เคยมีคนคิดคดทรยศมาก่อน!ดังนั้น...ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาจะอยู่และตายไปพร้อมกับเมืองหลวง!“เซิ่งตงฉยง ตระกูลเซิ่งของพวกเจ้ามีความสามารถในการโจมตีต้าเย่ แต่พวกเจ้าไม่กลัวตระกูลไป๋หรือ?”“พวกเขาวางแผนมาหลายปีแล้ว ย่อมไม่มีวันปล่อยต้าเย่ให้กับพวกเจ้าแน่นอน ดังนั้นเมื่อสงครามสงบลง พวกเขาต้องมาบุกเป็นแน่!”“พวกเจ้าอยากตัดชุดแต่งงานให้ตระกูลไป๋จริงหรือ?”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ เซิ่งตงฉยงและเซิ่งฟางสี่ก็หาได้สนใจไม่แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว!“อู๋หลิง เจ้าคงเดาถูก แต่ว่า...เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าตระกูลเซิ่งของเราไม่ได้เตรียมพร้อม?”เซิ่งฟางสี่กล่าวก่อนจะถามว่า “แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถรักษาต้าเย่ของเจ้าไว้ได้หรือ? ให้ข้าบอกเจ้าว่า ..
หวังหยวนมองพวกเขา แล้วรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่!ในสถานการณ์นี้ ตราบใดที่พวกเขาเคลื่อนไหวย่อมกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายอย่างแน่นอน!แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด!“ตอนนี้ตระกูลเซิ่ง, ตระกูลไป๋ และราชสำนักกำลังจะต่อสู้กัน ผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้จะไม่อาจตัดสินได้รวดเร็วนัก!”เมื่อหวังหยวนพูดจบ พวกเขาทั้งหมดก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็เห็นว่าเป็นเรื่องจริง!ศึกครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตัดสินผลลัพธ์!“ทั้งตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋วางแผนกันมานานหลายปีแล้ว เกรงว่ากองกำลังเหล่านี้ที่อยู่เบื้องหน้าจะไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อพวกเขาต่อสู้ก็จะต้องทุ่มกองกำลังเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราเข้าร่วมอาจเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”“และพวกเจ้าอย่าลืมว่าในโลกนี้ไม่ได้มีเพียงต้าเย่ของเราเท่านั้น แต่ยังมีเมืองหวงและหมานอี๋ด้วย!”“หากเรารู้เรื่องศึกครั้งนี้ พวกเขาก็จะรู้ด้วย!”“เมื่อถึงเวลานั้น...พวกเขาย่อมต้องการเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายใช่หรือไม่?”หวังหยวนคิดได้อย่างชัดเจนว่าแม้ตอนนี้เขาจะมีโอกาสควบคุมแผ่นดิน แต่เขาจะมีราคาที่ต้องจ่ายที่หนักหน่วงแน่นอน!
แม้ว่าในต้าเย่จะมีทหารม้าไม่น้อย แต่พวกเขากำลังใช้ต่อสู้กันเอง และไม่ได้สนใจคนนอกเลย!มีเพียงหวังหยวนคนเดียวเท่านั้นที่คิดเรื่องนี้!ขณะนี้มีจดหมายมากมายส่งมาถึงหวังหยวน!“ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว กองทหารสามหมื่นนายของอู๋หลิงพยายามยามต้านทานอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของตระกูลเซิ่งในเมืองหลวงถูกพวกเราสกัดกั้นไว้ แต่ก็ยังมีอีกมากที่ยังคงก่อปัญหา”“แต่... ยังไม่อาจบุกเข้าไปได้หรอกเพราะเมืองหลวงยังเข้มแข็ง!”เขาอ่านรายงานอย่างสบายอารมณ์แล้วกล่าวตามตรงในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อของเกาเล่อมีความสำคัญมาก!“พี่หยวน ถังหม่างนำกองกำลังของเขาไปหาหมานอี๋ มีคนเพียงหนึ่งหมื่นคนแต่มีอาวุธซับซ้อน ซึ่งน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายนั้นล่าช้าไปได้สักพัก!”“สำหรับเมืองหวง ลุงหานซานกับเอ้อหู่นำกองกำลังหนึ่งหมื่นห้าพันคนไปที่นั่น ทั้งยังนำอาวุธที่ซับซ้อนไปด้วย ดังนั้นพวกเขาน่าจะขัดขวางฝ่ายนั้นได้อีกสักพัก!”หลังจากที่เกาเล่อรายงานแล้วหวังหยวนก็พยักหน้า“อืม... ถึงแม้จะมีทหารม้าไม่เยอะนัก แต่ก็น่าจะเพียงพอ”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ความสามารถของพวกเขาไม
หลังจากวางแผนการและพยายามอย่างหนักมาหลายชั่วอายุคน ทั้งตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถเอาชนะต้าเย่ได้ เรื่องนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ!ลองจินตนาการว่าการที่ตระกูลหนึ่งสามารถดำรงอยู่ได้ยืนยาว สิ่งที่สำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้ก็คือความสามารถ! และผู้นำ!ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไป๋หรือตระกูลเซิ่ง ผู้นำของพวกเขาต่างก็มีพลังอำนาจแข็งแกร่งมากทุกรุ่น อย่างน้อยในยุคนี้ผู้นำของพวกเขาก็ล้วนมีพรสวรรค์ระดับแนวหน้า!กว่าจะเป็นเช่นนี้ได้ คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าค่อย ๆ วางแผนกันเพื่อจะมาให้ถึงจุดที่พวกเขาอยู่ในทุกวันนี้!จะบอกว่าพวกเขาไม่มีกำลังคนซ่อนเร้นอยู่งั้นหรือ?ไม่มีทาง!ดังนั้นศึกครั้งนี้อาจจะดุเดือด แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วเช่นกัน!พวกเขาล้วนเป็นคนใจเย็น หากช่วงเวลาวิกฤติมาถึงก็ยังสามารถตั้งรับได้!หวังหยวนเดาว่าการตัดสินผู้ชนะในครั้งนี้คงเป็นเรื่องยาก!แต่แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนแล้ว จึงสามารถยกมาเป็นข้อสรุปได้ล่วงหน้า!ว่าฝ่ายที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาคือต้าเย่!หากไม่ใช่เพราะตระกูลเซิ่งและตระกูลไป๋คิดจะยึดครองมัน ก็เกรงว่าต้าเย่คงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้แล้ว!ในเ
“ฮ่าฮ่าฮ่า หวังหยวนไม่ได้มาด้วยตนเอง พวกเจ้าสองพันคนไม่มีทางหยุดยั้งพวกข้าได้หรอก!”หลังจากที่อากู่ต๋าพูดจบ หวังหานซานก็ไม่กล่าวเรื่องไม่สำคัญอื่นอีก“อ๋องถูหนาน ให้ข้าแสดงอาวุธให้ท่านดูเสียก่อน หลังจากดูแล้ว ท่านจะรู้เองว่าพวกท่านจำเป็นต้องล่าถอยหรือไม่!”พูดจบหวังหานซานก็หยิบระเบิดออกมาขว้างออกไป!สิ้นเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวปรากฏหลุมขนาดใหญ่ที่พื้น!พลังทำลายล้างนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ทำให้สีหน้าของอากู่ต๋าเปลี่ยนไปทันที!“นี่คืออะไร!”เขาตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นอาวุธเช่นนี้มาก่อน!“นี่คืออาวุธที่คุณชายหวังหยวนคิดค้นขึ้น อ๋องถูหนาน ท่านยังต้องการจะเดินทัพต่อไปหรือไม่?”หวังหานซานถามตามตรง ใบหน้าของอากู่ต๋ามืดมนหลังจากได้ฟังเช่นนั้น!แม้ว่าอาวุธดังกล่าวจะทรงพลัง แต่เขาก็ไม่กลัว!“ฮึ่ม! ข้ามีกองทัพถึงหนึ่งแสนนาย แต่เจ้าจะมีอาวุธท้าทายสวรรค์นั่นกี่ชิ้นล่ะ!”“เคลื่อนทัพไปสังหารพวกมันให้ข้า!”อากู่ต๋าพูดทันที ทหารทั้งหมดสองหมื่นนายจึงรีบวิ่งกรูไปหาพวกหวังหานซานทันที!“ยิงได้!”หวังหานซานไม่เสียเวลา สั่งคนให้ดึงหน้าไม้ยักษ์ออกมาโดยตรง หลังจากวางที่ใส่คันธนูแล้ว คนสามสี
ส่วนทางด้านหมานอี๋ เอ้อร์ฮาเดินทัพไปพร้อมกับทหารแปดหมื่นนายก่อนที่จะไปถึงเมืองสู่ พวกเขาเห็นถังหม่างกำลังรออยู่ที่นี่พร้อมกับทหารม้าหนึ่งหมื่นนายใบหน้าของเอ้อร์ฮามืดมนเมื่อเห็นถังหม่างเขามองถังหม่างด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดอย่างดุดัน “ถังหม่างเจ้าบังอาจเพียงใดจึงมาขวางทางพวกข้า?”เอ้อร์ฮาหรี่ตามองกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังถังหม่างอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นความเย้ยหยันก็พลันปรากฏขึ้นใบหน้าของเขา“ถังหม่าง เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามหรือเปล่า เจ้านำกองทหารแค่หนึ่งหมื่นนายมา แต่ยังกล้ายั่วยุข้าหรือ?”ด้านหลังเอ้อร์ฮามีกองกำลังแปดหมื่นนาย!หากให้ทหารของเขาแต่ละคนถุยน้ำลายออกมา มันก็เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มคนที่ถังหม่างพามาจมน้ำลายตายได้แล้วถ้าถังหม่างนั้นรนหาที่ตายจริง ๆ สิ่งเดียวที่รอเขาอยู่มีเพียงความตายเท่านั้นเมื่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งและเย้ยหยันของเอ้อร์ฮา ถังหม่างก็ยกยิ้มเย็นชาแล้วถามประชด “เอ้อร์ฮา เจ้าคิดว่าข้ากล้ามาขวางเจ้าที่นี่โดยไม่เตรียมการใด ๆ เลยหรือ?”“เตรียมการอะไรล่ะ?”ใบหน้าของเอ้อร์ฮาเต็มไปด้วยความดูถูก เขามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เจ้าเตรียมจะคุกเข่าร้อ
“เก่งกาจถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”หมานจิ้งก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ“กระหม่อมจึงกังวลว่าถังหม่างจะมีอาวุธประหลาดเช่นนั้นอยู่ในมือด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่น่าจะมีไม่ใช่หรือ?”หมานจิ้งพูดอย่างลังเล “จะมอบอาวุธทรงอานุภาพเช่นนี้ให้กับผู้อื่นตามอำเภอใจได้หรือ หวังหยวนจะใช้มันเพื่อป้องกันตัวเองอย่างเดียวไม่ใช่หรือ?”“ไม่แน่ใจ...”ทันใดนั้นถังหม่างที่กำลังมองเอ้อร์ฮาด้วยรอยยิ้มก็พูดว่า “จงฟังคำแนะนำของข้า รีบถอยกลับไปโดยเร็วที่สุด”“ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องทุกข์ทรมานมาก”เอ้อร์ฮาได้ฟังดังนั้นก็มีใบหน้ามืดมนทันทีเขาขมวดคิ้วเก็บซ่อนความกลัวไว้ในใจ ก่อนจะสูดจมูกอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “จริงหรือ?”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีไพ่ตาย ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลว!”“ในเมื่อพวกเจ้าไม่เต็มใจจะฟังคำแนะนำของข้า เช่นนั้นข้าก็จะแสดงให้เจ้าเห็นว่าไพ่ตายของข้าคืออะไร”เขาเหลือบมองเอ้อร์ฮาที่อยู่ตรงหน้าอย่างเย็นชา แล้วค่อย ๆ หยิบระเบิดที่เขาเตรียมไว้เมื่อนานมาแล้วออกมา จากนั้นชูขึ้นต่อหน้าถังหม่าง“เอ้อร์ฮา เจ้าคิดว่านี่คืออะไร?”เมื่อเอ้อร์ฮาเห็นชัดเจนว่าถ