Share

บทที่ 6

Author: ชวินเป่ยอี๋
หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ท่านหัวหน้า ข้าแบ่งปลาให้ท่านได้ไม่มีปัญหา และข้านั้นจะแบ่งหนี้สี่สิบกว้านของข้าให้ท่านด้วย! ถ้าหากท่านไม่อยากใช้หนี้ ก็แบ่งที่ดินสองร้อยแปดสิบหมู่ของบ้านท่านให้ข้าสักสิบหมู่ ที่ดินของบ้านข้าติดจำนองอยู่"

“ไอเด็กเจ้าเล่ห์!”

หวังปี่จงเดินจากไปอย่างหงุดหงิด

ข้าแค่อยากได้ปลาเจ้าตัวเดียว เจ้าจะให้ข้าแบกหนี้ไปด้วย และยังให้ข้าแบ่งที่ให้อีกหลายสิบหมู่อีก

ไอคนเสเพลพรรค์นั้น ยังมีหน้าพูดออกมาได้อีก

“ท่านหัวหน้า อย่างเพิ่งไปสิ ข้าแค่ล้อท่านเล่นเท่านั้น อย่าโมโหไปเลย!”

หวังหยวนตะโกนไล่หลังมา

จับปลาได้มากมาย หากมีใครขอแค่สักตัวสองตัว เขาย่อมให้ได้อยู่แล้ว

แต่นี่มาใช้ศีลธรรมบีบบังคับเขาให้แบ่งปลาให้คนทั้งหมู่บ้าน แล้วตัวเองได้ความดีความชอบไป แบบนี้มันไม่ได้

หวังปี่จงโมโหกระฟัดกระเฟียดไม่หันกลับมา

เมื่อเห็นแผนการของหวังหยวนแล้ว ชาวบ้านต่างโห่ร้องและหัวเราะออกมา

เจ้าอยากได้ของของข้า ข้าก็อยากได้ของของเจ้า เจ้าไม่ให้ข้า ข้าจะให้เจ้าไปทำไม

หวังหยวนยกมือแสดงความคารวะ "พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอาทุกท่าน ตอนนี้ทุกคนต่างรู้เรื่องของข้า ปลาเหล่านี้ต้องนำไปขายเพื่อใช้หนี้ ดังนั้นวันนี้ข้าจึงต้องเสียมารยาทกับพวกท่านแล้ว หลังจากอุปสรรคในครั้งนี้จบลง ทุกบ้านจะได้ปลาด้วย"

ชาวบ้านยิ้มแย้มและแยกย้ายกันไป

แม้ว่าชีวิตของทุกคนจะไม่ดี แต่ก็ยังดีกว่าหวังหยวนที่เป็นหนี้ถึงสี่สิบกว้าน

ยกเว้นคนใจดำไปถึงแก่น ที่เอาเปรียบเขาได้ในเวลานี้

หวังหานซานพยักหน้าข้าง ๆ เขา

ความสัมพันธ์กับหัวหน้าเป็นเรื่องสำคัญมาก และหวังหยวนจัดการมันได้ดีมาก ไม่มีการแบ่งปลา และไม่ได้ระรานใคร

หวังหยวนพาพวกเขาทั้งสี่กลับบ้าน

"ปลาเยอะมาก!"

มองไปที่ถังปลาหลายสิบถัง หลี่ซื่อหานตกใจ และหันไปมองหวังหยวนด้วยแววตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา

เคล็ดลับจับปลาที่สามีบอกเป็นความจริง และเขาสามารถใช้หนี้ได้จริง

“เด็กโง่ ร้องไห้ทำไม!”

หวังหยวนเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของนาง และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเบา ๆ ว่า “ไปเตรียมเซาปิ่งเถอะ คืนนี้พวกเรามีปลากินกัน”

“อื้อ!”

หลี่ซื่อหานพูดรับคำเสียงเบาเหมือนยุง ด้วยใบหน้าร้อนผ่าว และรีบวิ่งไปที่ห้องครัวทันที

ต้าหู่ เอ้อหู่ และหวังซื่อไห่มองด้วยสีหน้าอิจฉา ในเมืองฝู ภรรยาของหวังหยวนนั้นงดงามที่สุด ภรรยาบ้านอื่นก็สู้ไม่ได้

“เสี่ยวหยวน เมื่อเช้าเรากินข้าวบ้านเจ้าแล้ว เย็นนี้คงกินข้าวที่นี่ไม่ได้แล้ว!”

หวังหานซานเทปลาลงในถังน้ำ และกวักมือเรียกลูกชายทั้งสองของเขา

แม้ว่าต้าหู่ เอ้อหู่ อยากจะกินปลา แต่พวกเขาก็กลับไปอย่างไม่ลังเล

เมื่อเช้ากินข้าวไปมื้อหนึ่งแล้ว พวกเขาก็พอใจแล้ว

อย่าโลภมาก!

“ใช่ ไม่กินแล้ว จะกลับบ้านไปกินข้าว!”

หวังซื่อไห่กลืนน้ำลาย ทั้งสามคนจะไปแล้ว เขาอยู่ต่อก็คงเสียมารยาท

หวังหยวนเรียกหยุดพวกเขาทั้งสี่ไว้ "อย่าเพิ่งไป นอกจากกินแล้ว ยังมีงานอื่นอีก!"

หวังหานซานหยุดฝีเท้า "งานอะไรรึ?"

หวังหยวนเดินไปที่ถังปลาของเมื่อวาน "มัดปลาแบบนี้!"

เมื่อมองไปที่ถังปลา ทั้งสี่คนต่างก็ตกใจ

ในถังปลา มีปลาที่ถูกมัดหัวและหางจนตัวโค้งงอเหมือนคันธนู และเหงือกปลาก็อยู่ในถังน้ำ

แล้วปลาทั้งหมดก็ยังมีชีวิตอยู่

ปลาเมื่อนำขึ้นจากแม่น้ำ หากไม่เก็บให้ดี อยู่ได้ไม่กี่ชั่วยามก็ตายแล้ว

หวังหยวนจับมัดไว้แบบนี้ ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ปลาก็ยังมีชีวิตอยู่

หลี่ซื่อหานที่อยู่ในครัวก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน

”หวังหยวนจึงอธิบายว่า "นี่คือ ‘เทคนิคมัดปลาแบบคันธนู’ ผูกหัวและหางของปลา เพื่อให้เหงือกของปลาสามารถหายใจเอาออกซิเจนได้มากขึ้น ตราบใดที่มีน้ำเพียงเล็กน้อย ปลาจะไม่ตายเพราะขาดออกซิเจนในน้ำ!"

"ออกซิเจน? ขาดออกซิเจน?"

ถึงทั้งสี่คนจะงุนงง แต่ก็มีความดีใจมากเช่นกัน

พวกเขาไม่เข้าใจว่าออกซิเจนคืออะไร แต่พวกเขารู้ว่าปลาที่ยังเป็น และปลาตายแล้วมีสองราคา

หวังหานซานกวักมือ "งั้นมามัดมันกันเถอะ ทำงานกันสักพัก แล้วค่อยกินอะไรกัน!"

หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "การมัดปลาแบบคันธนูต้องมัดสองครั้ง หนึ่งต้องมัดหางปลา หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม สิ่งสกปรกในตัวปลาจะถูกขับออกทางรูทวาร จากนั้นก็คลายที่หางออกและมัดอีกรอบ ปลาที่มัดด้วยวิธีนี้ ปลาจะสดและเนื้อนุ่มขึ้นด้วย"

ทั้งสี่คนมองไปที่หางปลา มีรอยผูกมัดอยู่สองรอยจริง ๆด้วย

ใบหน้าของเอ้อหู่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส “พี่หยวน ท่านทำไมถึงรู้เคล็ดลับตกปลาได้ มัดปลาแบบคันธนูอีก ท่านรู้เยอะมาก!”

"ยังต้องถามอีกรึ?”

หวังซื่อไห่ทำสีหน้าเหมือนมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง "หวังหยวนเป็นบัณฑิตที่ผ่านการสอบถงเซิง เขาน่าจะได้เรียนรู้เคล็ดลับการตกปลา และมัดปลาแบบคันธนูจากหนังสือ ถูกต้องไหม หวังหยวน!"

”หวังหยวนยิ้มและยกนิ้วโป้งขึ้น "เจ้าฉลาดจริง ๆ!"

“แหะ แหะ!”

หวังซื่อไห่หัวเราะอย่างเฝื่อน ๆ บัณฑิตถงเซินชมเขาว่าฉลาด

เมื่อผูกปลาเสร็จแล้ว อาหารก็พร้อมแล้ว

เซาปิ่งร้อน ๆ และปลาที่ทอดด้วยน้ำมันหมูได้ยกมาวางไว้ที่ห้องโถง

หลี่ซื่อหานไปหลบที่ห้องครัว ในยุคนี้ผู้หญิงไม่ร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน!

ยุ่งมาทั้งวัน ทั้งห้าคนต่างกินอย่างตะกละตะกลาม

หวังหานซาน ต้าหู่ และเอ้อหู่กินปลาสามมื้อ ทั้งสองวันแบบมีอันจะกิน!

หวังซื่อไห่ที่หิวโหยมาสองวันแล้ว คว้าเซาปิ่งด้วยมือข้างหนึ่ง และคีบปลาด้วยตะเกียบอีกข้างหนึ่ง เขานั่งกินไปตัวสั่นสะอื้นร้องไห้น้ำตาอาบแก้มออกมา

“พี่หยวน ไม่เป็นไร!”

เอ้อหู่ยิ้มและพูดว่า "เมื่อวานข้า พี่ชาย และพ่อกับแม่กินปลา ตอนที่เรากิน เราร้องไห้ออกมาด้วย นานมากแล้วที่พวกเราไม่ได้กินเนื้อ"

หวังหานซานถลึงตามอง

เอ้อหู่รีบก้มหน้าหุบปากเงียบกินปลา

"ข้าคิดถึงพ่อแม่!"

หวังซื่อไห่เช็ดน้ำตา "ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ข้าถามพวกเขาว่าต้องการอะไรอีกไหม พวกเขาบอกว่าอยากกินเนื้อ พวกเขาไม่เคยกินเนื้อดี ๆ เลยสักครั้งในชีวิต พวกเขาอยากรู้ว่าการกินเนื้อจนอิ่มมันเป็นอย่างไร! ข้าคิดว่าจนตาย ข้าก็คงเป็นเหมือนพ่อแม่ ไม่มีโอกาสได้กินเนื้อดี ๆ สักมื้อ ไม่คิดว่าจะได้กินวันนี้...ฮือ ๆ!"

เขากัดเซาปิ่งคำโต แล้วเคี้ยวเนื้อปลาเต็มปาก เขากินไปร้องไห้ไปเหมือนคนบ้าไม่มีผิด

หวังหานซานและลูกสองคนไม่มีใครหัวเราะเยาะ แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย

ชาวบ้านมีที่ดินไม่มาก เก็บภาษีก็หนัก ไม่ต้องพูดถึงการกินเนื้อที่กินจนอิ่มได้เลย ชาวบ้านมากมายไม่เคยได้กินอิ่มตั้งแต่เกิดจนตาย

แต่ด้วยเคล็ดลับการตกปลานี้ ชะตากรรมของพวกเขาได้เปลี่ยนไปจากวันนี้เป็นต้นไป

"เกือบจะชั่วยามหนึ่งแล้ว ข้าจะมัดปลาอีกครั้ง!"

หวังหานซานไปผูกปลา และต้าหู่ก็ตามไปอย่างเงียบ ๆ

“ขายหน้าแล้ว!”

หวังซื่อไห่ล้างจานทั้งน้ำตา และเอ้อหู่ก็ช่วยล้างด้วย

เมื่อมองไปที่คนสี่คนที่กำลังยุ่งอยู่ หวังหยวนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก

ในยุคนี้ นี่คือกลุ่มคนที่ขยันขันแข็งที่สุด แต่ก็เป็นกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดด้วยเช่นกัน พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำงานหนักที่สุดในโลก แต่พวกเขายังทำไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยสี่ในการมีชีวิตได้ แม้แต่สิ่งพื้นฐานที่สุดก็ตาม!

ทั้งสี่คนแยกย้ายกลับไปแล้ว

หวังซื่อไห่ไปเคาะประตูบ้านพี่สาม

พี่สะใภ้สามเปิดประตูพร้อมไม้กวาดในมือ "เจ้าคนเลี้ยงเสียข้าวสุก เจ้าขโมยไข่ของแม่แล้วยังกล้ากลับ...อา!"

“หึ!”

หวังซื่อไห่ที่ไม่เคยเงยหน้าขึ้นได้เสมอพี่สะใภ้ ตอนนี้ได้เงยหน้าขึ้น และโยนปลาตัวเล็กทั้งสองตัวออกไป!

แปะ ๆ! ปลาเป็นสองตัว แต่ละตัวหนักเกือบหนึ่งกิโลกำลังดิ้นอยู่บนพื้น

พี่สะใภ้สามเปลี่ยนสีหน้า และรีบคว้าปลาขึ้นมาทันที “อาซื่อไห่ ทำไมกลับดึกจัง กินข้าวรึยัง พี่สะใภ้จะให้เซาปิ่งเจ้านะ”

“ไม่กินแล้ว เพิ่งกินเนื้ออิ่มมา!”

หวังซื่อไห่เอามือไพล่หลังเดินไปที่คอกวัว และพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจนว่า “เอาเสื้อและรองเท้าใหม่ของพี่ให้ข้าด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปเมือง จากนี้ไป ข้า หวังซื่อไห่ จะอยู่บ้านสักวันหนึ่ง ครอบครัวเราจะได้อยู่เย็นเป็นสุข มีเนื้อกินไม่มีขาด"

"อะไรนะ?”

พี่สะใภ้สามตกใจ ตานี่พูดเหลวไหลอะไร มีเนื้อกินไม่ขาด ขนาดเจ้าเมืองยังกินเนื้อทุกวันไม่ได้เลย

เขานอนอยู่ในคอกวัวห่มผ้านวมขาด ๆ มองดูดวงดาวบนท้องฟ้า และวัวแก่กำลังเคี้ยวเอื้องอยู่ข้าง ๆ หวังซื่อไห่หลับตาและพูดพึมพำ "พ่อแม่ ลูกชายของท่านจะยืนหยัดขึ้นแล้ว และจะประสบความสำเร็จให้พวกท่านที่อยู่บนสวรรค์ได้เห็น ตรุษจีนลูกจะเซ่นหัวหมูให้พวกท่าน!"

หลังจากล้างหน้าเช็ดตัวแล้ว หวังหยวนและหลี่ซื่อหานก็เข้านอนอยู่ใต้ผ้านวมทั้งสองผืน

หวังหยวนนอนไม่หลับ คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย และเหม่อมองเพดานสีดำ

หลี่ซื่อหานพูดอย่างระมัดระวัง "ท่านพี่ไม่สบายใจหรือ?"

“นิดหน่อย!”

หวังหยวนหรี่ตาลง "ซื่อหาน เจ้าคิดว่าโลกนี้จะกลายเป็นสถานที่ที่ทุกคนมีอาหารกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ และไม่ต้องอดอยากเนื้อสัตว์อีกต่อไป เด็ก ๆ ได้เรียนหนังสือและคนชราไม่สบายหาหมอได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องราววุ่นวายแบบนี้อีก!"

"...คงไม่ได้!”

หลี่ซื่อหานเงียบไปครู่หนึ่ง "ท่านพี่กำลังพูดถึงสังคมอุดมคติตามความเชื่อของลัทธิขงจื๊อของโลกใบนี้ ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นจริงในทุกยุคของราชวงศ์!"

หวังหยวนยิ้มอย่างขมขื่น “ก็ใช่ ยุคนี้ไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มกำลังการผลิต แล้วจะเกิดสังคมนิยมได้อย่างไร!”

“เทคโนโลยี?”

หลี่ซื่อหานรู้สึกงงงวย นางอึ้งไปชั่วขณะ และพูดเสียงเบา "ท่านพี่ ดูเหมือนท่านจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!"

หวังหยวนตกใจในผ้าห่ม “เปลี่ยนที่ไหน?”

หลี่ซื่อหานพูดเสียงเบา "เมื่อก่อนท่านไม่เคยสนใจกลุ่มพี่น้องอย่างลุงหานซาน ต้าหู่ เอ้อหู่ และซื่อไห่ แต่ตอนนี้ท่านปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี ขนาดอย่างหลิวโหย่วไฉ่ท่านยังดูถูกเลย แต่ในใจท่านก็กลัวพวกเขาเหมือนกัน ตอนนี้ไม่เห็นของพวกนี้สักนิดในแววตาท่าน เหมือนที่ตำราว่าไว้ เมตตากับคนดี ร้ายกับคนชั่ว และหลอกลวงคนเจ้าเล่ห์

จิตใจละเอียดอ่อนจริง ๆ หวังหยวนถามอย่างเลื่อนลอย “เปลี่ยนเป็นแบบนี้เจ้าชอบไหม?”

"อืม!"

“มาที่เตียงข้าสิ!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status