หน้าหลัก / รักโบราณ / บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์ / บทที่ 3 แยกออกหรือไม่ว่าผู้ชายที่กอดเจ้าเป็นใคร?

แชร์

บทที่ 3 แยกออกหรือไม่ว่าผู้ชายที่กอดเจ้าเป็นใคร?

ผู้เขียน: เซี่ยวชิงขวาง
กู้อวิ๋นซีรู้ว่าจวินเย่เสวียนกับจวินฉู่หลีหน้าตาเหมือนกันมาก

แต่เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าทั้งสองคนจะเหมือนกันมากขนาดนี้!

เขาค่อยๆ สาวเท้าลงบันไดมา เงาร่างสูงใหญ่ แผ่กระจายไอเย็นเยียบราวกับเป็นก้อนน้ำแข็งเดินได้

ทั้งแข็งกระด้าง เผด็จการ และเย็นชา!

เป็นคนที่แค่ได้มองแว๊บแรก ก็ต้องรีบละสายตาไม่กล้ามองอีกเป็นครั้งที่สอง

ทั้งตัวเขามีรัศมีความเป็นราชนิกูลผู้สูงส่งมาแต่กำเนิด มีความน่าเกรงขาม ที่แค่เข้าใกล้ก็สามารถกดดันให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก

อย่างที่คิด เขาช่างเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างจากสามีของเธอโดยสิ้นเชิง

เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา กู้อวิ๋นซีก็รีบถวายความเคารพอย่างรวดเร็ว "คารวะองค์ชายสี่"

คนที่เดินมาไม่ได้มีปฏิกริยาตอบรับอะไร

จวินเย่เสวียนเดินผ่านตัวของเธอไป ราวกับตัวเธอเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไม่มีตัวตนในสายตาเขา

เขาเดินขึ้นรถม้าไป ม่านที่ปิดลงช่วยบดบังความเย็นชาจากตัวเขาไปได้บ้าง

กู้อวิ๋นซีถอนหายออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะได้ยินองค์รักษ์เยียนเป่ยพูดว่า "พระชายา รถม้าของพระชายาเกิดปัญหานิดหน่อย ไม่สามารถใช้การได้พ่ะย่ะค่ะ"

"เหลือเวลาไม่มากแล้ว สามารถซ่อมได้หรือไม่?" กู้อวิ๋นซีถามออกไปอย่างร้อนใจ

วันที่สองหลังจากแต่งงาน หากว่าไม่รีบเข้าวังไปคารวะผู้ใหญ่ จะถือเป็นการผิดธรรมเนียมอย่างร้ายแรง

เยียนเป่ยกล่าวตอบว่า "ซ่อมได้พ่ะย่ะค่ะ แต่อาจจะไม่ทันกาล ท่านอ๋องมีรับสั่งเชิญให้พระชายาร่วมนั่งรถม้าคันเดียวกับพระองค์เข้าวังพ่ะย่ะค่ะ"

นั่งไปกับองค์ชายสี่อย่างนั้นหรือ

เมื่อเธอมองไปที่รถม้าที่ทั้งใหญ่โตและน่าเกรงขามคันนั้น กู้อวิ๋นซีก็แอบรู้สึกต่อต้านอยู่ในใจ

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกหวาดกลัวเสวียนอ๋องคนนี้นัก

เมื่อเยียนเป่ยเห็นว่าเธอไม่มีการตอบสนองใดๆ ก็ได้กล่าวเร่งขึ้นอีกครั้ง "นี่ก็สายมากแล้ว พระชายาเชิญเสด็จเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"

ด้วยเหตุนี้กู้อวิ๋นซีจึงต้องเข้าไปนั่งบนรถม้าคันเดียวกันกับจวินเย่เสวียน

พื้นที่ภายในรถม้าใหญ่โตกว้างขวาง จวินเย่เสวียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวตรงตำแหน่งกลาง ส่วนกู้อวิ๋นซีก็นั่งก้มหน้าหลบมุมอยู่อีกฝั่ง

ตั้งแต่เธอขึ้นมาบนรถ เธอก็รู้สึกว่าสายตาขององค์ชายสี่มักจะคอยจับจ้องอยู่ที่เธอตลอดเวลา

กู้อวิ๋นซีรู้สึกเหมือนมีแรงกดดันมหาศาลทับตัวเธอไว้อยู่ จนเธอแทบจะหายใจไม่ออก

"อะ องค์ชายสี่ บนหน้าของหม่อมฉันมีอะไรติดอยู่อย่างนั้นหรือเพคะ"

เขาเอาแต่จ้องที่ใบหน้าของเธอ ต่อให้กู้อวิ๋นซีไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง เธอก็รู้สึกได้อยู่ดี

จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอตลอดเวลา

"องค์ชายสี่มีอะไรอยากจะแนะนำหม่อมฉันหรือไม่เพคะ" กู้อวิ๋นซีถามขึ้นอีกครั้ง

ทั้งสองคนนั่งอยู่บนรถม้าคันเดียวกัน เขาไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่จ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

บรรยากาศตอนนี้มันช่างน่าอึดอัดยิ่งนัก

จวินเย่เสวียนเม้มริมฝีปากเบาๆ แต่ก็ยังคงไม่ยอมเอ่ยอะไร สายตาที่มองเธอเหมือนจะแฝงประกายความร้อนแรงบางอย่างไว้อย่างบอกไม่ถูก

ราวกับเขาอยากจะถอดเสื้อของเธอลงเสียตรงนั้น

กู้อวิ๋นซีรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะกระโดดลงจากบนรถม้าซะเดี๋ยวนั้น

เขาเป็นพี่ชายของสามีเธอ การที่เขามองเธอด้วยสายตาแบบนั้น มันจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า

"องค์ชายสี่..."

คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ จวินเย่เสวียนก็จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ว่า "ถ้าหากที่หางตาของข้าก็มีไฝเสน่ห์เม็ดหนึ่ง เจ้ายังจะแยกได้หรือไม่ว่าผู้ชายที่หลับนอนกับเจ้ายามค่ำคืนเป็นใคร"

กู้อวิ๋นซีได้ฟังแล้วก็ตกใจจนแทบจะตกจากเก้าอี้เสียเดี๋ยวนั้น

เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าองค์ชายสี่จะกล้าพูดจาแบบนี้กับเธอ!

ตอนนี้ในหัวของเธอปรากฎเป็นภาพเมื่อคืนที่ชายหนุ่มจับเธอกดไว้กับเสาแล้วกอดรัดฟัดเหวี่ยงเธออย่างบ้าคลั่งจากด้านหลัง

เธอหน้าแดงจัด แอบจิกชายเสื้อของตัวเองไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว

"เจ้าแสดงทีท่าเขินอายต่อหน้าข้าเช่นนี้ หรือเจ้ากำลังให้ท่าข้าอยู่" จวินเย่เสวียนพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

กู้อวิ๋นซีรีบกล่าวปฏิเสธทันที "องค์ชายสี่เข้าพระทัยผิดแล้ว! หากว่าองค์ชายสี่ไม่พอพระทัย หม่อมฉันจะลงไปจากรถม้าเดี๋ยวนี้เพคะ"

และในจังหวะนี้เอง จู่ๆ รถม้าก็เร่งความเร็วขึ้นมาอย่างกระทันหัน ทำให้กู้อวิ๋นซีที่เพิ่งสะดุ้งจนลุกขึ้นมาไม่ทันตั้งตัว กลิ้งหลุนๆ ลงไปกับพื้น

เธอก้มหน้าอยู่ก็เห็นว่ามือของตัวเองกำลังคว้าจับอะไรบางอย่าง เมื่อดูอีกที ก็รู้ว่าเป็นเสื้อคลุมของผู้ชาย

เธอรีบเงยหน้าขึ้นมามอง จังหวะนั้นก็ดันประสานเข้ากับสายตานุ่มลึกสุดหยั่งของจวินเย่เสวียนพอดี

เขาก้มหน้ามามองที่เธอ ราวกับผู้ใหญ่มองผู้น้อย ไม่แสดงอารมณ์โกรธแต่ก็ดูน่าเกรงขาม

กู้อวิ๋นซีเพิ่งจะรู้ตัว ว่าตอนที่เธอล้ม ดันล้มกลิ้งมาอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา

ตำแหน่งที่เธอเงยหน้าขึ้น จึงเป็นตำแหน่งอ่อนไหวของผู้ชายพอดิบพอดี!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 335 ขอโทษ

    "ท่านอ๋อง ข้าต้องการยาเล็กน้อย อีกทั้งเหล้ากาหนึ่ง" กู้หรูชิวกล่าวจวินเย่เสวียนโบกมือหนึ่งที ความจริงเยียนเป่ยไม่ยินยอม แต่สุดท้ายเขาก็ไปเตรียมของมาให้กู้หรูชิวอย่างรวดเร็วกู้หรูชิวเดินไปอยู่ตรงหน้าของหลานโจว พูดอย่างอ่อนโยนว่า "คุณชายท่านนี้ ขออภัยด้วย"ที่ขมับของหลานโจวมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเยี่ยนอีกำมือแน่น แต่ก็ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเยียนเป่ยร้อนใจ "ท่านอ๋อง หลานโจวติดตามข้างกายท่านมาสิบกว่า สิบกว่าปี เขา..."จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองด้วยสายตาเย็นชากู้หรูชิวบดยาหลายชนิดให้กลายเป็นผงแล้วใส่ลงไปในเหล้าหลานโจวรู้ว่านั่นเป็นยาที่ทำให้เขาขาดสติ โดยส่วนมากไว้ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อลดความเจ็บปวดของร่างกายเขาไม่รู้เลยว่ายาพวกนี้เมื่อเอามาผสมกับเหล้าแรงจะสามารถดึงวิญญาณของคนๆ หนึ่งได้แต่เมื่อทั้งสองชนิดผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถทำให้คนๆ หนึ่งมีสติเลือนลาน ช้าเชือนได้จริงๆ!เมื่อเห็นว่ากู้หรูชิวผสมยากับเหล้าเข้ากันดีแล้ว เดินถือมาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง หลานโจวก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างสงบว่า "ท่านอ๋อง เป็นกระหม่อมที่เอายาพิษรุนแรง

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 334 ได้ยินว่าเจ้ารู้วิชาดึงวิญญาณ

    ไม่รอให้หลานโจวได้เอ่ยปาก หมอคนนั้นก็พูดขึ้นว่า "จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร? ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มยาพิษอะไรเข้าไป ซึ่งเป็นการทำร้ายเด็กในท้องตั้งนานแล้ว"เมื่อหมอคิดไปถึงสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นในตอนนั้น ก็อดที่จะสงสารไม่ได้"ผู้หญิงคนนั้นจะต้องรักลูกในท้องของนางมากแน่ ข้าน้อยแนะนำให้นางรีบตัดสินใจ อะ เอาเด็กออก..."เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเสวียนอ๋อง ที่จู่ๆ ก็เย็นเยียบขึ้นมา หมอคนนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ฉับพลันไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปหรือไม่แต่ก็เป็นจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา "พูดต่อ!"หมอคนนั้นถึงได้พูดต่อไปอย่างกลัวๆ กล้าๆ "ข้าน้อยคิดเพื่อร่างกายของผู้หญิงคนนั้นเองถึงได้แนะนำให้ดื่มยาขับเลือด แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม ข้าน้อยรู้ว่านางยังแอบมีความหวังอยู่"สายตาของจวินเย่เสวียนมองไปยังร่างของหลานโจวหลานโจวรู้สึกสิ้นหวังมากเขารู้อยู่แล้วว่าสักวัน วันนี้ก็จะต้องมาถึงแต่แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" ในที่สุดเยียนเป่ยก็ทนไม่ไหวเขาเชื่อใจหลานโจวขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้ หลานโจว...ดูเหมือนว่าหลานโจวกำลังปกปิดอะไรไว้อยู่จริงๆ

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 333 เขายังจะยกโทษให้นางไหม

    "เสวียนเออร์ เจ้า...เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? ข้าจะไปทำอะไรนางได้? นางอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าตลอดเวลานะ!"พระสนมหรงรู้สึกละอายใจ แต่ก็พยายามรักษาจิตใจให้สงบนิ่งนางปล่อยมือที่จับชายเสื้อของจวินเย่เสวียนเอาไว้ แล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวลูกชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาอย่างประหลาด"เสวียนเออร์ เจ้าลืมความเจ็บปวดของเจ้าได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ? นางเป็นคนฆ่า...ของเจ้าเองกับมือเพื่อช่วยหลีเออร์นะ...""ลูก" คำนี้พระสนมหรงไม่กล้าที่จะพูดมันออกไปรอบข้างมีทั้งขันทีและนางกำนัลมากมายแต่นางรู้ดีว่าลูกชายของนางเข้าใจจริงดังนั้น ประโยคนี้ทำให้จวินเย่เสวียนกำหมัดแน่นทีเดียวเขาไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้!โชคดีที่หลังจากกลับมา นางได้พบกับมู่อันหนิงแล้ว และได้คุยกับเรื่องคำที่จะพูดแล้วมู่อันหนิงช่างรู้งานจริงๆ!หากว่าไม่มีมู่อันหนิง พระสนมหรงเองคนเดียวคงไม่อาจจัดการเรื่องให้ดีได้เช่นนี้"เสวียนเออร์ แม่ก็แค่สงสารเจ้า หรือว่าเจ้าไม่คิดแค้นนาง...""นางช่วยลูกชายสุดที่รักของท่านไว้ แต่ท่านกลับ แค้นนาง?"จวินเย่เสวียนหรี่ตาลง ฉับพลันก็เดินขึ้นไปข้างหน้าพระสนมหรงตกใจจ

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 332 ท่านทำอะไรไว้กับนางกันแน่

    "เจ้า..."พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีจะกล้ายอมรับออกมาจริงๆ!นางทำไปเพื่อแก้แค้นนางจริงๆ!แถมนางยังคิดจะให้ลูกชายทั้งสองคนของนางกลายเป็นศัตรู ฆ่ากันเอง!พระสนมหรงโมโหจนตัวสั่น แต่กู้อวิ๋นซีกลับใช้ดวงตาคู่โตชุ่มชื้นนั้นมองมาที่นางด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาอย่างเดิมรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนจะอ่อนโยน แต่คำพูดที่ออกมากลับเย็นชาสุดขีด"เสด็จแม่ ข้าเกือบจะถูกท่านฆ่าตายแล้ว หากว่าข้าไม่ทำให้ลูกชายทั้งสองของท่านตายไปบ้าง ข้าจะทำใจเรื่องความแค้นนี้ได้อย่างไร?""นังแพศยา เจ้ากล้า!"พระสนมหรงโมโหจนเสียสติ ยกมือขึ้นมาอย่างเร็ว และกำลังจะตบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงที่น่าแปลกก็คือ การต้องเผชิญกับฝ่ามือของตัวเอง กู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่คิดหลบ แต่ยังกลับยิ้มออกมาอย่างสะใจพระสนมหรงตกใจ จู่ๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอกแล้ว!แต่แรงตบที่นางอ้างออกไปมันไม่สามารถเก็บกลับได้ทันแล้ว ฝ่ามือนี้ในที่สุดก็จบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงเพราะว่าแรงมาก กู้อวิ๋นซีถึงได้ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นทันทีตาลายไปหมด ลุกขึ้นมาไม่ได้เลย"ซีเออร์!" เงาของสองร่างปรากฎออกมาในทันทีตอนที่จวินฉู่หลีช่

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 331 ลองทายดูว่าจะสนุกมากหรือไม่

    ความจริงแล้วพระสนมหรงไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่กลับมาจะยังเจอหน้าผู้หญิงคนนี้อีกตอนนั้นที่นางจากมา กู้อวิ๋นซีนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียง ปากก็กระอักเลือดสีดำ ลมหายใจรวยรินถึงแม้นางจะมีความสงสารอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงว่าลูกชายของตัวเองทังสองคนจะต้องผิดใจกันเพราะผู้หญิงคนนี้ นางก็ใจแข็งได้อีกครั้งวันนั้นที่ออกคำสั่งไม่ให้มีใครมา จริงๆ แล้วไม่ใช่ความปรารถนาของมู่อันหนิงแค่คนเดียวแต่เป็นความอนุญาตกลายๆ ของพระสนมหรงอีกด้วยเพียงแค่มู่อันหนิงนับว่ายังดีอยู่บ้างที่รับจบเรื่องนี้เอาไว้เอง ไม่ได้ทำให้ลูกชายทั้งสองของนางเกลียดนางด้วยเรื่องนี้ ทำให้ท่าทีที่พระสนมหรงมีต่อมู่อันหนิงก็ยิ่งดีขึ้นอีกเดิมคิดว่าหลังจากสามเดือนผ่านไป ตอนที่กลับมากู้อวิ๋นซีก็คงจะตายไปนานแล้ว และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ลูกชายทั้งสองของนางก็คงทำใจเรื่องผู้หญิงคนนี้ไปได้แล้วถึงตอนนั้น หลีเออร์ก็จะมีชีวิตใหม่ ส่วนเสวียนเออร์ นางเองก็ชอบมู่อันหนิงถ้าจะให้มู่อันหนิงมาเป็นพระชายาของเสวียนอ๋อง นางก็พอใจอย่างมากสรุปก็คือมันจะต้องเป็นการจบเรื่องที่สมบูรณ์แบบแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังกล้าท

  • บันทึกรัก : สามีข้ามีไฝเสน่ห์   บทที่ 330 ไม่เจอกันนาน

    สองวันต่อจากนั้น กู้อวิ๋นซีก็พักอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาตลอดสองวันนี้จวินฉู่หลียุ่งมากด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการก่อสร้างจวนหลีอ๋อง อีกด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการย้ายไปประจำการที่เมืองฝานกู้อวิ๋นซีได้พักผ่อนอยู่สองวัน พอถึงเช้าตรู่วันที่สาม ในที่สุดก็ได้รับข่าวดี"คนในจวนแม่ทัพออกนอกเมืองไปแล้วเหรอ?"ข่าวนี้ทำให้นางอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกไปทั้งวัน"เจ้ากังวลว่าเสวียนอ๋องจะมาขัดขวางเหรอ?" ขนาดมู่เฟยหย่ายังดูออกเลยว่านางเบาใจไปมากกู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบคำถามนี้ความคิดของจวินเย่เสวียน ใครจะเดาออกกัน?สามวันก่อนหน้านี้เขาถูกนางทำให้โกรธจนกลับออกไป เสวียนอ๋องเป็นคนอารมณ์แปรปรวณ อีกทั้งยังรู้ว่านางตั้งใจจะให้คนในจวนแม่ทัพออกห่างจากความวุ่นวายนี้ดังนั้นการที่เขาจะขวางก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษากับอาหลีแล้ว อาหลีเองก็เคยคิดวิธีรับมือ หากว่าเสวียนอ๋องตั้งใจจะขวาง อาหลีก็จะทำตามที่ข้าบอก"การที่จวินเย่เสวียนเก็บตัวเงียบแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหนือการคาดหมายไปเหมือนกัน"วันนี้เจ้าช่วยข้าออกไปตามหาคุณชายมู่อีกครั้งเถอะ" จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็พูดขึ้นมา"หามาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้ข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status