Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-01-18 03:05:23

บทที่4

ดวงตาสวยเหลือบมองไปยังสองแม่ลูกนั่น นางอยากแก้แค้นทั้งสองให้ตายไปเสียเดียวนี้ แต่หากทำเช่นนั้นการย้อนกลับมาครั้งนี้ก็คงเสียเปล่า นางจะต้องค่อย ๆ แก้ไปทีละจุดเพื่อให้ทุกคนที่เคยทำไม่ดีกับนางได้รับผลของตัวเองให้มากที่สุด

ทุกคนมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาด้วยสายตาไม่ต้อนรับแต่คนที่มองหญิงสาวด้วยสายตาอาฆาตมากที่สุดคงเป็นฮูหยินตระกูลเยว่ในตอนนี้ หากเยว่เหลียนไม่เอ่ยวาจาเช่นนั้นต่อหน้าธารกำนัล ตอนนี้นางคงถูกส่งกลับไปยังตระกูลของมารดานางแล้ว

มาเพื่อจะเป็นฮูหยินตระกูลตงนั่นรึ ทั้ง ๆ ที่ถ้าไม่มีนางสักคนคุณชายตระกูลตงนั่นก็จะต้องเป็นของเม่ยเอ๋อร์ลูกของนางแท้ ๆ น่ารำคาญพอ ๆ กับมารดาของมันเลย

“ทุกคนดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ข้ามาช้าไปหรือเจ้าคะ พวกท่านคงไม่ตำหนิข้าที่มาช้านั่นก็เพราะฝนตกหนทางมาเมืองหลวงนั้นลำบากยิ่งนัก” เยว่เหลียนตั้งใจจะบอกทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น แต่นางทำก็เพื่อดูอาการของแต่ละคนก็เท่านั้น

“ปลอดภัยมาก็ดีแล้ว” คำที่เอ่ยออกมาส่ง ๆ ด้วยความไม่เต็มใจก่อนจะเงียบสนิทนั้นก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างชัดเจน

“ว่าแต่ที่บ้านนอกเขาไม่สอนเรื่องของฝากหรืออย่างไร”

เยว่เหลียนรู้ว่าแม่เลี้ยงของนางจะต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำสั่งที่ให้แม่นมพานางไปซื้อของฝากก็คงมาจากอีกคน ตอนนี้ก็คงจะพูดเพื่อเปิดเรื่องให้นางโดนด่าสินะ

“แน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้วเจ้าค่ะ หลาน...” หญิงสาวจงใจไม่เรียกตนว่าลูกเพราะไม่อยากยุ่งกับบิดาที่ดูแลมารดาของนางเอาไว้ไม่ได้ และก็ไม่อยากจะรับแม่เลี้ยงเป็นแม่ของนางด้วยซ้ำ

“อาจื่อเอาห่อภาพวาดมาให้ข้าหน่อย” เยว่เหลียนหันไปบอกสาวใช้ “แม้จะไม่มากอะไร แต่ก็ใช้เงินเก็บไปมากโขหวังว่าท่านย่าท่านพ่อจะชอบ”

บิดาของเยว่เหลียนสนใจในภาพที่ถูกนำเข้ามาเขาเดินเข้าไปเปิดออกในทันที นั่นก็เพราะภาพวาดเป็นสิ่งที่คนมีอายุชอบ

“งดงาม งดงามยิ่งนัก”

เยว่เหลียนได้ยินเสียงบิดาก็ทั้งพอใจทั้งสมเพชอีกฝ่าย

“การลงน้ำหนักพู่กันมีอารมณ์อยู่ในนั้น คล้ายกับการเขียนของโจวผิงเลยเจ้าว่าไหม” ย่าของเยว่เหลียนหันไปถามลูกชาย

“ใช่ขอรับ ภาพนี้ช่างเหมือนกับภาพที่เหล่าบัณฑิตกล่าวถึงแต่มิเคยมีใครได้เห็น”

เยว่เหลียนพอใจที่ภาพของนางกลายเป็นประเด็นให้ท่านย่าและท่านพ่อพูดคุยจนลืมสองแม่ลูกนั่น และบางทีก็อาจจะลืมแม้กระทั่งนาง

“ก็คงเป็นเพียงแค่ภาพเลียนแบบนั่นแหละมิเห็นลงนามเอาไว้เลย ช่างไม่เหมือนภาพอื่น ๆ ของโจวผิง”

คนเป็นบิดาขี้เกียจจะอธิบายกับภรรยาและลูก ว่านี่อาจจะเป็นภาพที่หายากมากของศิลปินโจวผิง ช่างเถอะ...

“จะจริงหรือไม่ข้ามิรู้หรอกเจ้าค่ะ ในเมื่อข้าเต็มใจมอบให้และพวกท่านชอบนั่นก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้วนี่เจ้าคะ” เมื่อได้ของที่ทำให้พอใจบิดาของเยว่เหลียนจึงไม่เอ่ยสิ่งใด

ส่วนย่าของเยว่เหลียนเห็นท่าทางหมางเมินของทุกคนที่แสดงต่อหลานของนางก็เริ่มรู้สึกสงสาร เพราะเอาเข้าจริงเยว่เหลียนก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย

“งั้นก็ไปกินข้าวกันเถอะ เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง เจ้าเองก็เดินทางมาเหนื่อย ๆ กินกันก่อนแล้วจะได้ไปพัก”

เยว่เหลียนเห็นบิดาของตนให้คนนำภาพไปเก็บให้เรียบร้อยหญิงสาวก็รู้สึกพอใจมาก ๆ และยิ่งหันไปเจอกับท่าทางไม่พอใจของสองแม่ลูกนั่นก็ยิ่งรู้สึกดี แม้นี่จะเทียบกันไม่ได้เลยกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำกับนาง แต่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะนางไร้กำลังไม่มีพวกจึงต้องเริ่มเช่นนี้

บนโต๊ะอาหารนี่ก็อีกทุกคนนั่งนิ่งรอดูเรื่องตลก บ้านของท่านตาเยว่เหลียนไม่ได้เลี้ยงมาแบบต้องมีพิธีรีตองอะไร ถึงเวลากินก็กิน อาหารวางทุกคนก็ตักอาหารของตน มิได้ต้องระมัดระวังท่าทางการกินไม่ให้เร็วหรือช้าจนเกินไป มิต้องรอคนที่อายุมากกว่าเริ่มกินก่อนเหมือนที่นี่

คราก่อนนางก็แค่ทำอย่างเคยกลับถูกตำหนิว่าเป็นคนบ้านป่าตอนแรกนางนึกว่ากินเร็วไม่ดีจึงกินให้ช้าก็ยังผิดอีก มันก็แค่พิธีแบบผู้ดีเขาทำกันก็เท่านั้น และเพราะเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นแต่มันทำให้นางต้องมานั่งคุกเข่าอยู่หน้าศาลบรรพชนเพราะถูกลงโทษตั้งแต่วันแรกที่เข้าจวน

ที่จริงมันไม่ใช่เพราะการกระทำของนางหรอก เรื่องแค่นั้นสั่งสอนเอาก็ได้ แต่มันเป็นเพราะแม่เลี้ยงนางและน้องสาวต่างหาก

“ท่านย่าทานอันนี้สิเจ้าคะ” เยว่เหลียนตักซุปใส่ถ้วยเล็กให้คนเป็นย่าก่อนจะตักอีกถ้วยส่งให้บิดา คนทั้งสองทำเพียงแค่พยักหน้าด้วยความพอใจ

เพราะดูเหมือนการเลี้ยงดูของตระกูลมารดาของหญิงสาวจะไม่แย่อย่างที่คิด และยังแตกต่างจากหญิงสาวในเมืองอย่างเยว่เม่ยอย่างเห็นได้ชัด

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา และกลิ่นถุงหอมที่ไม่ได้หอมจัดแต่กลับอบอวลราวกับทุ่งดอกไม้ในป่า และด้วยเหตุนั้นการใช้ชีวิตอยู่ในจวนตระกูลเยว่ของเยว่เหลียนจึงเปลี่ยนไปทั้งหมด ชื่อของนาง เหลียน ที่หมายถึงดอกบัว ภพเดิมในสายตาผู้อื่นนางเป็นดั่งดอกบัวขาวแต่ก็พ่วงท้ายอักษรคำว่าโง่งมเอาไว้ด้วย

ในเวลานี้นางมั่นใจเกือบสิบส่วนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ภาพฝัน ความเจ็บปวดและความคลั่งแค้นยามที่มองสองแม่ลูกนั่นยิ้มระรื่นกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ท่ามกลางกองเพลิงความร้อนจากเปลวไฟ กลิ่นของผิวหนังที่ไหม้เกรียมยังติดอยู่เพียงปลายจมูก เยว่เหลียนคนเดิมได้ตายไปแล้วในกองเพลิงนั่น ตอนนี้นางเป็นเยว่เหลียนคนใหม่ มิใช่ดอกบัวขาวอีกต่อไปแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่31

    บทที่31“ที่ช่วงนี้พระชายาทรงรู้สึกเพลีย ๆ มิได้เป็นเพราะพระองค์ทรงงานหนักไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกำลังทรงตั้งครรภ์ต่างหาก” ใบหน้าของเยว่เหลียนแดงซ่าน นางเพิ่งคลอดอาฉีออกมาได้ไม่นานนัก เหตุใดจึงตั้งครรภ์อีกแล้วเล่า “เช่นนี้เองที่เขาบอกว่าหัวปีท้ายปี จริงไหมตาเฒ่าหงเฉิน” คนเป็นตาทั้งสองที่ตอนแรกเป็นห่วงรีบมาเยี่ยมหลานและหลานสะใภ้ที่หมดสติ กลายเป็นว่านี่คือเรื่องมงคลจะต้องกลับไปฉลองกันเสียแล้ว“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลังจากทุกคนออกไปจากห้องตงห่าวก็เอ่ยถามชายาของตน “มิใช่ไม่ดีใจ แต่ข้าอาย” เยว่เหลียนไม่เคยรู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกไปได้ไม่นานแท้ ๆ“อายทำไมกันเล่า เรื่องธรรมชาติ ใครก็เป็นเช่นนี้กันได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก อาฉีจะได้มีน้องอายุไล่ ๆ กัน ถ้าคนนี้เป็นชายก็ดีนะสิ ตระกูลหงของท่านตาก็จะได้มีคนสืบต่อ”และทั้ง ๆ ที่สองคนหมายมั่นเอาไว้เช่นนั้นแต่ท้องที่สองกลับกลายเป็นธิดาไปเสียได้ มิใช่มิยินดี แน่นอนว่าเด็กหญิงก็น่ารักไปอีกแบบ และครานี้ตงชี่จวิ้นก็หลงรักหลานตัวน้อยของเขาเอามาก ๆ ถึงขนาดมาอยู่เมืองฉีนานนับปีจนคนเป็นตงฮูหยินต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน เพรา

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่30

    บทที่30ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากช่วยเลี้ยงหลานอยู่นานนับเดือน ตงชี่จวิ้นก็กลับไปเมืองหลวงพร้อมกับฮูหยินของตน เพราะได้ข่าวว่าอนุ ต้องบอกว่ายามนี้นางเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองตงเนี่ยนเจินก็กำลังจะคลอดลูกไม่ต่างกัน และเพราะคำนั้นทำให้เยว่เหลียนแกล้งเอ่ยถามกับสามีของนางเกี่ยวกับเยว่เม่ย“ข้าขอโทษที่ปิดบังเจ้า แต่สถานการณ์ของตระกูลเยว่ไม่ดีนัก”ทั้ง ๆ ที่ตงห่าวกังวลกลัวว่าพระชายาของตนจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับข่าวของตระกูลทางบิดา แต่ก็เปล่าใบหน้าของเยว่เหลียนนิ่งสนิท “หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนที่สูงส่งขนาดจะไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายมารดาหรอกเพคะ”ตงห่าวดึงพระชายาตนเข้ามากอด “ใช้คำพวกนี้อีกแล้ว ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร” เยว่เหลียนมองพระสวามีของนางที่ตอนนี้รับตำแหน่งแทนท่านตาเรียบร้อยแล้ว“เรื่องบางเรื่องก็ควรทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่หากพระองค์อยากได้ยินหม่อมฉันคุยกับท่านอ๋องเช่นพระองค์เหมือนแต่ก่อน คงต้องรอยามที่อยู่กันสองต่อสองแล้ว” ตงห่าวมองคนรักของเขาที่นับวันก็ดูคล้ายจะยั่วยวนมากขึ้นทุกขณะ“ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะเรื่องตระกูลเยว่”เยว่เหลียนพยักหน้า “หากพระองค์จะช่วยอะไรก็ทำแต่พอดีเถอะเพคะ แต่

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่29

    บทที่29หลังจากคำนั้นของสามีเยว่เหลียนก็ต้องปลอบใจคนตัวใหญ่ใจเล็กอยู่นาน อีกฝ่ายทั้งอายุมากกว่า ทั้งเก่งกาจ ทำทุกอย่างได้ดีไปหมดจนบางครั้งหญิงสาวก็ลืมไปว่าบางอย่างก็ต้องพูดกันตรง ๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษ เพราะเป็นฝ่ายที่ถูกท่านรักจนเคยชินจึงลืมที่จะเอ่ยความในใจออกไป ข้ารักท่านมานานมากแล้ว งานมงคลของเราก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ ท่านพี่อย่ากังวลใจไปนะเจ้าคะ” มือเรียวประคองใบหน้าของผู้เป็นสามีเข้ามาจุมพิตเบา ๆ หลังจากรับรู้ความรู้สึกของตงห่าวในวันนี้ เยว่เหลียนต้องยอมรับเลยว่าทุกสิ่งมันทำให้นางมองตงห่าวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่มิใช่ในทางที่ไม่ดี นางกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มนั้นดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น มิได้เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง"ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่เคยต้องกังวลใจเพราะใครมาก่อนนอกจากคนในครอบครัวเช่นนั้นแล้วหากมีเรื่องอะไร ท่านพี่สามารถพูดกับข้าได้เลยนะเจ้าคะ อย่างไรเราก็เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยคำว่ารักออกไปชั่วชีวิตนี้ท่านพี่ก็จะอยู่ไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจนี่หรือ เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต้องคุยนะเจ้าคะ” เยว่เหลียนจำต้องเอ่ยต่อว่าสามีของนางไ

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่28

    บทที่28วันเวลาผ่านไปท้องของเยว่เหลียนก็โตขึ้นทุกที อาการของท่านตาก็ดีขึ้นที่จริงก็ต้องบอกว่าท่านตาทั้งสอง เพราะตอนนี้ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันเกือบทุกวันชีวิตของเยว่เหลียนดีแตกต่างจากทางตระกูลเยว่ของนางยิ่งนัก และก็ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในตระกูลเยว่ให้หญิงสาวได้ฟัง นั่นก็เพราะตงห่าวห้ามเอาไว้ เขากลัวภรรยาจะรู้สึกไม่ดีหากได้รับรู้ข่าวที่น่าอดสูหลาย ๆ เรื่องจากตระกูลของบิดา“ท้องเจ้าใหญ่มากหรือจะมิได้มีคนเดียว” คำพูดของสามีทำให้เยว่เหลียนกังวลไม่ใช่น้อย เพราะนางเคยได้ยินหญิงสาวที่ในหนึ่งท้องมีบุตรสองคน ได้ข่าวมาว่าอันตรายยิ่งนัก ทั้งยังคลอดยาก“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัว ค่อย ๆ ท้องค่อย ๆ คลอดทีละคนดีกว่า” ตงห่าวยิ้มมือแกร่งก็ลูบไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา “พูดเช่นนี้เจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ตามที่เจ้าขอหรือ” เมื่อเข้าใจความของคำพูดสามีใบหน้าสวยก็แดงซ่าน แม้จะอยู่ด้วยกันมานาน แต่เยว่เหลียนก็ยังเขินอายการได้อยู่กับตงห่าวมันทำให้เยว่เหลียนรู้แล้วว่าสิ่งที่นางรู้สึกกับตงเนี่ยนเจินในชาติก่อนนั้นมันไม่ใช่ความรักเลยแม้แต่นิด กับตงห่าวสิถึงจะเรียกว่าความรักได้ยามนี้หญิงสาว

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่27

    บทที่27ข่าวการตั้งครรภ์ของเยว่เหลียนที่มาถึงตระกูลเยว่ยิ่งทำให้เยว่เม่ยที่เพิ่งได้รับหนังสือหย่าจากสามีมาหมาด ๆ เกิดความริษยา ที่ของเยว่เหลียนควรจะเป็นของนางตั้งแต่แรก ชีวิตของนางไม่ควรจะต้องมาติดอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างตงเนี่ยนเจิน ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องกับตงห่าวแต่ทำไมก็ไม่รู้นิสัยถึงไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่นิดหญิงสาวนั่งอยู่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ของนาง ไม่มีใครสนใจที่จะนำป้ายวิญญาณของท่านแม่ไปร่วมกับศาลบรรพชนของตระกูล นางเองที่กลับมาอยู่ในจวนหลังจากหย่าร้างกับตงเนี่ยนเจินก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง นางไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครอีกแล้ว ท่านพ่อไม่สนใจนางตั้งแต่สงสัยเรื่องท่านแม่ฆ่าฮูหยินเอก แม้ท่านแม่จะบอกกับท่านพ่อว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ความสงสัยเมื่อเกิดแล้วก็ไม่สามารถจะทำให้มันหายไปได้ ที่จริงนางรู้เรื่องทั้งหมด ท่านแม่เคยเล่าให้ฟัง หากฮูหยินยังอยู่ แม่ของนางที่เป็นเพียงอนุก็ไม่มีทางที่จะมีที่ยืนในตระกูลเยว่แห่งนี้ ในตอนที่มารดาของนางตั้งครรภ์ท่านจึงลงมือฆ่าอดีตตงฮูหยิน แสร้งทำเป็นอุบัติเหตุ มันได้ผล ได้ผลเท่าอายุของนางจนถึงวันที่ท่านแม่จากไป เยว่เม่ยคิดอย่างเศร้าใจ มารดาของน

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่25

    บทที่25หลังจากกินอาหารและอาบน้ำกันเรียบร้อยทั้งสองก็มานอน เยว่เหลียนนอนไม่หลับ เฉกเช่นเดียวกันกับตงห่าว คนหนึ่งไม่หลับเพราะเป็นห่วงท่านตาของตน แต่อีกคนเป็นห่วงภรรยา และแน่นอนท่านตาของภรรยา“ท่านพี่ถาวกู่นั่น...” เยว่เหลียนกำลังจะบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของที่ตงเนี่ยนเจินให้เอาไว้ดูต่างหน้านะ แต่ก็เป็นตงห่าวที่พูดออกมาเสียก่อน “ถาวกู่ที่ข้าซ่อมให้เจ้าน่ะหรือ” เยว่เหลียนพยักหน้า“มีสิ่งใดหรือ” เยว่เหลียนที่ได้ยินคำถามก็ตัดสินใจอยู่นานนางกับสามีไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกัน นางก็ไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องเช่นนี้ “ที่ข้าเก็บเอาไว้เพราะลืมทิ้งนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับตงเนี่ยนเจินจริง ๆ ” ตงห่าวยิ้ม ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ แม้จะมีเรื่องไม่สบายของท่านตา แต่ปกติเยว่เหลียนไม่ค่อยเปิดเผยความในใจ ตอนนี้นางกลับดูกระวนกระวายเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด“ที่จริงข้าเองก็มีความจริงจะบอกเจ้า แล้วก็ดีแล้วที่เจ้าไม่ทิ้งมันไป เพราะถาวกู่อันนั้นข้าเป็นคนให้เจ้าเอง ที่จริงตงเนี่ยนเจินไม่เคยส่งอะไรมาให้เจ้า ขนมหรือของฝากก็ล้วนเป็นข้าทั้งสิ้น หลัง ๆ ข้าไม่อยากโกหกเจ้าแล้วเลยบอกว่าเป็นของฝากข้าเอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status